ตอน 6 - กรุงธากา-เมืองหลวงแห่งสามล้อ
เราทราบประวัติคร่าว ๆ ของกรุงธากา เมืองหลวงของประเทศบังคลาเทศจากบล๊อคแรก "ก่อนจะเป็นบังคลาเทศ" แล้วนะคะ ....
ปัจจุบันกรุงธากาเป็นเมืองที่กำลังแผ่ขยายไปอย่างควบคุมไม่ได้ จนเป็นเมืองที่หนาแน่นที่สุดเมืองหนึ่งของโลก เป็นเมืองที่ผู้สิ้นหวังจากชนบทหลั่งไหลเข้ามา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ
พศ. 2556 บังคลาเทศมีประชากร 156.6 ล้านคน แต่ในปีพศ. 2558 คาดการณ์ว่ามีประชากรเพิ่มเป็น 160.4 ล้านคน ทำให้เป็นประเทศที่มีพลเมืองมากเป็นอันดับ 8 ของโลก และมีความหนาแน่นอยู่ที่ 1,033 คน ต่อ ตร.กม. เป็นอันดับที่ 12 ของโลก
ส่วนในกรุงธากา ในปี 1971 (พศ. 2514) มีประชากรเพียง 1 ล้านคน แต่ปัจจุบัน มีถึง 14.4 ล้านคน และเฉพาะในตัวเมืองก็มีมากกว่า 7 ล้านคนแล้ว กรุงธากาที่เป็นเมืองหลวง และเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ จึงมีความสับสนอลหม่านทั้งในด้านความเป็นอยู่ และการคมนาคม
รวมภาพกรุงธากา (Old City) พศ. 2557
ท้องถนนกรุงธากา ถ่ายจากชั้น 5 ของโรงแรมที่พักค่ะ
บนท้องถนนกรุงธากาเด็มไปด้วยยวดยานพาหนะทุกอย่าง ทั้งสามล้อถีบ สามล้อเครื่อง รถประจำทาง รถยนตร์ส่วนตัว รถม้า ผู้คน คนค้าคนขายบนถนนอีกด้วย เป็นบรรยากาศที่ทำให้ตื่นตาตื่นใจทีเดียว
แต่ยานพาหนะที่มีมากที่สุด คือ สามล้อ (Rickshaws) ซึ่งได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของบังคลาเทศ โดยเฉพาะรูปแบบและศิลปะ และทำให้กรุงธากาเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครในแบบของตัวเอง ... กรุงธากาจึงไม่ใช่เป็นเมืองหลวงของบังคลาเทศเท่านั้น แต่ยังได้ชื่อว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งสามล้อของโลก" (Dhaka is the rickshaw capital of the world) อีกด้วย เพราะมีสามล้อมากกว่าที่ใด ๆ ในโลก ทั้งยังเป็นสามล้อที่มีสีสันเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย
สามล้อ (Rickshaws)
คำว่า "ricksha/riska/rickshaw" มาจากคำว่า "jin" ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่ามนุษย์ คำว่า "riki" แปลว่า กำลังหรือแรง และ "sha" แปลว่าพาหนะ ซึ่งก็คือ พาหนะที่ใช้แรงคน ในบังคลาเทศ จะเรียกคนถีบสามล้อว่า "richshawala" คำว่า "wala หรือ walla" หมายถึงบุคคลที่ทำกิจกรรมใดหนึ่ง
จาก //www.welovebangladesh.com กล่าวว่าเท่าที่มีข้อมูล สามล้อในบังคลาเทศ มีครั้งแรกที่จิตตะกอง ในปี 1919 เป็นสามล้อที่มาจากเมียนมาร์ แต่สามล้อที่มีทั่วไปในธากาและเมืองอื่น ๆ มาจากโกลกัตตา - อินเดีย ประมาณปี 1938 ... ส่วนการตกแต่งให้มีสีสันเริ่มมีหลัง ปี 1950
ที่เวียตนามจะแบ่งถนน 1 เลน สำหรับรถจักรยานยนตร์ แต่ที่กรุงธากาต้องแบ่งถนน 1 ช่อง สำหรับสามล้อค่ะ
เขายังกล่าวอีกว่า ไม่มีข้อมูลถึงจำนวนที่แน่นอนของสามล้อที่อยู่บนท้องถนนแห่งกรุงธากา แม้ว่าจะได้พยายามเก็บสถิติของสามล้อมาเป็นเวลาหลาย ๆ ปี และจากหลาย ๆ แหล่ง ... ผู้เขียนให้ข้อมูลว่า ในปี 1938 มีสามล้อเพียง 37 คันในธากา ปี 1941 เพิ่มเป็น 181 คัน และ ปี 2012 ข้อมูลล่าสุดที่ได้ อาจมีสามล้อราว ๆ 7 - 8 แสนคัน ... BBC news คาดว่ามีรถสามล้อเป็นล้านคันในประเทศ
ในกรุงธากา ถ้าไม่อยากเดินก็ใช้สามล้อที่มีเต็มท้องถนน และราคาไม่แพง สามล้อที่นี่จะสูงกว่าบ้านเรา (ที่อื่นคงไม่ค่อยมีแล้ว แต่ที่เชียงใหม่ยังพอมีอยู่บ้างค่ะ) เวลาขึ้นจะลำบากนิดหน่อย แล้วที่นั่งก็จะเอียงลง ดังนั้น ต้องนั่งตัวตรง เพื่อไม่ให้ลื่นลงมา แล้วเชิดหน้ารับแดดเข้าไว้ (ที่บังแดดก็ไม่กาง)
Rickshaw-wallahs (drivers - คนขี่สามล้อ) ปกติจะไม่รู้ภาษาอังกฤษ และ หลายครั้ง ๆ ก็ไม่รู้เส้นทางอื่น นอกจากที่เคยวิ่งอยู่ประจำ
สามล้อเป็นเหมือนเครื่องหมายการค้าที่รู้จักกันดี ของกรุงธากาเมืองหลวงของบังคลาเทศ เป็นรูปแบบการขนส่งที่สำคัญที่สุดของประเทศ ผู้คนเป็นล้านใช้สามล้อในการเดินทางทุก ๆ วัน รถเหล่านี้มีชื่อเสียงเนื่องจากสีสัน สว่างสดใส เป็นศิลปะที่สะดุดตา .... รถสามล้อที่สวยงามจะดึงดูดความสนใจมากกว่า
ศิลปะแห่งสามล้อ
ศิลปินผู้วาดภาพบนสามล้อ ต่างตั้งอกตั้งใจที่จะตกแต่งรถสามล้อ ให้เป็นเรื่องราว และมีสีสันสดใสมากเท่าที่จะเป็นได้ ภาพวาดอาจเป็นทั้งแบบธรรมดา หรือแบบเห็นแล้ว .. ใช่เลย ผลงานบนสามล้อนี้เป็น ศิลปะเพื่อคนธรรมดา ๆ .... แต่เป็นธุรกิจการค้า ที่ช่างทำสามล้อต้องใช้เพื่อจะได้ขายให้แก่ malik - เจ้าของอู่สามล้อทั้งหลาย ซึ่งขณะเดียวกันก็ต้องแข่งขันกับ malik เจ้าอื่น ๆ เพื่อจะได้เป็นเจ้าของสามล้อที่มีจินตนาการเป็นเลิศที่สุด
รวมภาพสามล้อจากทั้งที่จิตตะกอง และกรุงธากา
เจ้าของรถสามล้อมักจะเป็นผู้ที่อพยพมาจากชนบท ที่ขาดโอกาสที่จะได้งานอื่น ก็จะพยายามรวมกลุ่มสามล้อของตนเอง เรียกว่า "malik" ผู้ซึ่งจะให้เช่ารถสามล้อจากอู่ของตัวเอง (บางอู่ก็มีไม่กี่คัน บางอู่อาจเป็นหลายร้อยคัน) และปกติก็มักจะมีอาหาร และที่พักให้เป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้างด้วย
ปกติ maliks จะจ้างช่างทำสามล้อ ซึ่งเรียกว่า "mistris" ให้ทำสามล้อและตกแต่งตามที่ตัวเองต้องการ ส่วนศิลปินผู้วาดจะทำงานในร้านของ mistris บางคนเริ่มฝึกงานวาดภาพ ระบายสี ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เริ่มจากชิ้นส่วนเล็ก ๆ ก่อน
หลัก ๆ ของผ้าใบประกอบตัวรถ ทำจากกระป๋องที่แปรรูป (รีไซเคิล) เช่น กระป๋องน้ำมันทำอาหาร ที่เปรียบเสมือนฐานของตัวรถสามล้อ ระบายด้วยสีน้ำมัน ศิลปินอาจตกแต่งที่นั่ง ที่พิง มือจับ .. และที่ไหนก็ได้ที่มีที่ว่าง
กล่าวว่า ความฝันทั้งหลายของคนทำงานจะปรากฏบนรถสามล้อ ทั่ว ๆ ไปด้านหลังจะเป็นภาพหลัก ซึ่งมักจะเป็นภาพชนบทในฝัน ภาพเมืองที่ร่ำรวย ท้องถนนเต็มไปด้วยรถ ภาพอาคารสูงและเครื่องบิน ภาพสภาพแวดล้อมที่ไม่เสียหาย ภาพบ้านในฝันที่มีรถสปอร์ตจอดอยู่หน้าบ้าน ภาพจากหนังอินเดียและบังคลาเทศ (แต่ที่ถ่ายมายังไม่เห็นเลยค่ะ)
หรือภาพแบบอื่น ๆ คือ ภาพสัตว์ที่ทำท่าแบบคน ทำให้ดูตลก ๆ เช่น นกเล่นดนตรี หรือสิงโต เสือ กวาง เต้นรำและร้องเพลงด้วยกัน ในงานแต่งงาน
ในบังคลาเทศอาชีพถีบสามล้ออยู่ในสถานะที่ต่ำมาก นอกจากชาวบังคลาเทศเองแล้ว ยังเป็นอาชีพของผู้อพยพโรฮิงยาจากรัฐยะไข่ของเมียนมาร์ เพราะเป็นงานที่หาง่าย ....มีผู้โดยสารไม่มากที่ให้เเกียรติแก่ผู้ถีบสามล้อ
ผู้เขียนใน //www.weloveourbangladesh เห็นว่าอาชีพถีบสามล้อนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชนบทของประเทศ เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม และยังช่วยลดก๊าซคาร์บอนในอากาศอีกด้วย
แต่เนื่องจากการจราจรที่ติดขัด ความสับสนวุ่นวายของยานพาหนะต่าง ๆ บนท้องถนนในประเทศ รัฐบาลพยายามแก้ปัญหานี้ และส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา คือ ลดจำนวนสามล้อลง โดยไม่ออกทะเบียนใหม่ให้ มีผู้ไม่เห็นด้วยจำนวนมาก
กล่าวว่าส่วนใหญ่การเดินทางในกรุงธากา มักจะเป็นระยะสั้น ๆ 1 - 5 กม. ซึ่งเหมาะสำหรับสามล้อ เพราะไม่ไกลเกินไปสำหรับผู้ขี่ และราคาถูก การใช้สามล้อมีความปลอดภัย เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม และไม่ต้องใช้นำ้มัน
รถสามล้อมีความสำคัญในการค้ำจุนประชากร ไม่แต่เฉพาะผู้ขับขี่หากรวมถึงครอบครัวในชนบท ช่างต่าง ๆ ที่ประกอบรถ รวมทั้งพ่อค้าในท้องถนนที่ขายอาหารให้ ... จากเมื่อเริ่มทำสามล้อจนถึงเสร็จสิ้น จะเกี่ยวข้องกับอาชีพต่าง ๆ ถึง 38 อาชีพด้วยกัน Mr. Syed Saiful Alam เห็นว่าควรจะสนับสนุนสามล้อ ไม่ใช่ลดจำนวนลง ผลกำไรรวมทั้งหมดของสามล้อเฉพาะในธากา (ไม่รวมพาหนะอื่น ๆ ) จะเป็นประมาณ 20 ล้านตากาต่อเดือน .... และในแต่ละปีสามล้อช่วยประเทศประหยัดงบประมาณได้ถึง 100 ล้านตากา ที่ไม่ทำให้สภาพแวดล้อมเสียหาย
บล๊อคหน้าค่อยไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ในกรุงธากานะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก //worldpopulationreview.com/countries/bangladesh-population/
//weloveourbangladesh.blogspot.com/2012/08/rickshaws-of-bangladesh-and-its-history_7522.html
//www.bbc.com/news/magazine-30854038
//www.bangladesh.com/blog/bangladesh-dhaka-land-of-the-rickshaw
http://worldcarfree.wordpress.com/2009/07/15/rickshaws-under-threat-in-dhaka/
Create Date : 21 ตุลาคม 2558 |
Last Update : 11 มกราคม 2559 15:48:52 น. |
|
3 comments
|
Counter : 4043 Pageviews. |
|
|
ที่ว่าเมืองนี้อลหม่านทั้งความเป็นอยู่และการคมนาคมนั้น
เค้าว่าสู้ กทม.ไม่ได้หรอก บ้านเราอลหม่านไปหมดทุกอย่างเลย อิอิ
สามล้อถีบเค้าสีสวยดีเนอะ ถ้าฝนตกเค้าจะเอาที่บังแดดขึ้นมั๊ยหนอ