"สุดยอดส้วม" แห่งปีที่ชุมพร
-----------มาอีกแล้วค่ะ สำหรับเรื่องราวในวันหยุดที่ผ่านมา ที่ทำให้เราต้องประหลาดใจ กับแค่เรื่อง "ส้วม" ที่บอกว่ามันเป็นสุดยอดส้วม ซึ่งอิชั้นฟังแล้วก็แปลกใจไม่น้อย ด้วยความอยากรู้ ขอแวะชมสักหน่อย ... มันจะเป็นอย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่าง "ส้วม" กับ "อิชั้น" จึงเกิดขึ้น เนื่องจากพวกเราจะต้องขับรถกลับกรุงเทพฯ ตั้งตนที่ นครศรีฯ มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ ระหว่างทาง เราเห็นป้าย "สุดยอดส้วม" อีก 20 กม. ตอนแรกตั้งใจว่าจะไม่แวะที่ไหน เพราะอยากให้ถึงกรุงเทพฯ เร็วๆ กลัวรถติด ..... แต่แล้ว ป้ายเหล่านั้นทำให้เราต้องแวะจนได้ ......สุดยอดส้วมนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดชุมพร เป็นจังหวัดเชื่อมต่อระหว่างภาคใต้กับภาคตะวันตก พวกเราจึงแวะเข้าใน "สวนนายดำ" ซึ่งเป็นที่ตั้งของสุดยอดส้วมนี้ล่ะค่ะในความคิดของอิชั้น..."มันก็คงงั้นๆ ล่ะ จะมีไรน่าสนใจ" แต่ผิดแล้ว เมื่อเลี้ยวรถเข้าไป อิชั้นก็ต้องตะลึง เนื่องจากมีคนเยอะมากที่แวะเข้ามาสัมผัสสุดยอดส้วม หุหุหุ สถานที่ถูกตกแต่งสวยงาม น่าเดินเที่ยว เป็นธรรมชาติ สีสันสวยงาม อิชั้นชอบป้ายนี้ค่ะ "เรื่อง ขี้ขี้" มีป้ายบอกทางเพียบ แต่ที่อิชั้นอยากรู้นั้นคือ "สุดยอมส้วม" อยู่ไหน มุ่งหน้าไปเลยค่ะเดินไปตามทางเรื่อยๆ เราจะพบกับป้ายนี้ค่ะ แล้วจะพบกับ "สุดยอดส้วม" แบบส้วมรู ค่ะ ยังไงหรือค่ะ เดินเข้าไปตามทาง ตามช่องเรื่อยๆจะพบห้องน้ำ ที่สะอาด และ กลิ่นหอมอ่อนๆ ห้องน้ำถูกตกแต่งสวยงาม น่านั่ง ให้สบายตูด.ด..ดด..ด.ดด..ด. อีกมุมหนึ่งจะเป็นห้องน้ำสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสูงค่ะ ต้องเงยหน้าขึ้นไปค่ะ เป็น "ห้องน้ำทาร์ซาน" ใครมีแรงปีนขึ้นไป เชิญเลยค่ะส่วนป้าๆอย่างอิชั้นของบ๊ะบายย.ย.ย.ย.ย.. แข้งขาไม่สมบูรณ์น่ะ 5555ชื่นชมกับ ส้วม เสร็จแล้ว ก็กลับออกมาชื่นชมกับธรรมชาติรอบตัวกันบ้าง เนื่องจากเราแวะไม่นานนัก จึงเก็บภาพมาได้ไม่มาก เราก็มุมต่างๆภายในสวนนายดำ ที่น่านั่งอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น มุมกาแฟ มุมอาหาร มุมพักผ่อนกับครอบครัว มุมของฝาก ก็มีของให้เลือกซื้อเพียบ ต้นไม้ก็มีขายด้วย น่าประทับใจจริงๆๆๆ กับ "สุดยอดส้วม" ของที่นี้ ซึ่งได้รับรางวัลการันตี อีกด้วย ใครสนใจแวะชมได้ที่จังหวัดชุมพร เจ้าขาเอ่ย.ย.ยย.ย.ย...ยย. ไปก่อนนะค่ะ bye bye
ชวนไหว้พระวัดริมน้ำ ณ บางกอก
วันนี้นึกอยากไหว้พระยังไงไม่รู้ จัดแจงนัดน้องเรียบร้อย ซื้อดอกไม้พวงมาลัยติดไม้ติดมือไปด้วย ... แต่จริงๆ ที่วัดก็มีค่ะ เริ่มกันตั้งแต่เช้าเลยน่ะค่ะ ตอนที่แดดยังไม่ร้อนนัก....เหงื่อไม่ตก .... จุดสตาร์ทของอิชั้นคือ ท่าพระจันทร์ เพราะจะขึ้นเรือข้ามฟากไปท่าวังหลังศิริราช ข้ามไปแล้วก็แวะหาของกินรองท้องก่อนตอนเช้า สารพัดอาหารการกินให้เลือกกินได้ตามสบาย ค่าเรือข้ามฝากก็คนละ 2 บาท จ่ายเรียบร้อยหาที่นั่งตามใจชอบ เนื่องจากเป็นวันธรรมดา คนไม่เยอะมาก ขึ้นเรือแล้วจับจองที่นั่งกันเลยหลังจากขึ้นเรือข้ามฟากแล้ว อิชั้นก็ซ้อนท้ายมอไซต์ของน้องที่นัดไว้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วและรถไม่ติดด้วย วัดแรกที่จะเริ่มไหว้คือ วัดระฆังโฆษิตาราม บรรยากาศภายในวัดร่มรื่น ติดแม่น้ำ ช่วงเช้าคนยังไม่เยอะมาก ค่อนข้างจะเงียบดี แต่ก็มีคนตะโกนขายโน้นนี้เป็นระยะ แต่ช่างเถอะเรามาทำบุญ ทำใจให้สงบ เริ่มต้นด้วยการไหว้พระประธานทางด้านซ้ายมือหลังจากเดินผ่านประตูเข้าวัดเข้ามา เมื่อไหว้เสร็จแล้วจะออกมาให้อาหารปลาหน้าวัดก็ได้ค่ะ ปลาเพียบเลยค่ะ แถมนกให้ด้วยน่ะ 5555 ใช้เวลาอยู่ที่วัดนี้นานเหมือนกันน่ะ บรรยากาศเค้าดีจังเลย หลังจากไหว้พระที่วัดระฆังฯ เรียบร้อยแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปที่วัดอรุณฯ สำหรับวัดอรุณนั้นจะเก็บค่าชมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศด้วย แต่สำหรับคนไทยก็เดินเข้าไปได้เลย มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม คอยต้อนรับพวกเราให้ประทับใจเราจอดรถไว้ด้านหลังวัดเพราะพาหนะคือ มอไซต์คันเก่งเดินชมสถาปัตยกรรมอยู่พักใหญ่ แล้วก็เคลื่อนย้ายไปวัดกัลยานมิตร วัดอีกแห่งที่ติดแม่น้ำ ด้านในมีพระของจีนหลายองค์ ธูปเทียนสำหรับไหว้ก็เป็นสีแดงน่ะค่ะ เมื่อจุดธูปเทียนไหว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเข้ามาด้านในจะพบกับหลวงพ่อโต หรือ ที่คนจีนเรียกว่า "ซำปอกง"ทางวัดนี้ค่อนข้างจะชัดเจนเรื่องราคา ไม่ว่าจะเป็นธูปเทียน ผ้าไตร มีราคาบอกไว้หมดค่ะ แล้วแต่ศรัทธาของแต่ละคนเสร็จไป 3 วัดก็ตกบ่ายเข้าไปแล้ว หิวมากๆ หาไรรองท้องกันก่อน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง กินง่ายๆ ข้าวมันไก่ คือ จุดหมายของเรา เราข้ามฝั่งจากฝั่งธนฯ มายังฝั่งพระนคร มุ่งหน้าไปร้านข้าวมันไก่ ลั่นฟ้า เป็นข้าวมันไก่เบตง เนื้อนุ่ม น้ำจิ้มรสเด็ด อยู่ใกล้ๆ กับศาลาว่าการ กทม. หาง่ายค่ะ ถ้าอยากไปลองทานกันน่ะค่ะ ..... เสร็จแล้ว....อิ่มแล้ว ก็มุ่งหน้าไปวัดโพธิ์ ค่ะ เรามาถึงวัดที่บ่ายแก่ๆ แล้ว คนเริ่มเยอะ อากาศเริ่มร้อน มองไปรอบๆ พบต่างชาติมากกว่าคนไทย ความสวยงามที่ทำให้เราประทับใจอิชั้นเดินเข้าทางด้านข้างของวัด เห็นภาพนี้แล้ว เป็นอย่างไรค่ะ ถ้าไม่ซุ้มโค้กจอดอยู่ตรงนี้ ภาพนี้จะสวยกว่านี้หรือเปล่า ภายในวัดที่คร่าคร่ำด้วยชาวต่างชาติ วันนี้อิชั้นจบ TRIP เพียงเท่านี้ เพราะงานเข้า ต้องรีบไปเคลียร์งานก่อนค่ะ แล้วจะไปวัดพระริมน้ำอีกน่ะ ถ้ามีโอกาส
@Primo Posto ในฤดูหนาว ถึง ฤดูร้อน@
Primo Posto ~ สถานที่ท่องเที่ยว~ที่ใครก็อยากไปค่ะ เราไปมาแล้ว 2 ครั้ง - ----- ครั้งแรกเมื่อตอนอากาศหนาวปลายปีที่แล้ว - ------ อีกครั้งเมื่ออากาศร้อนมาเยือนในเดือนแห่งความรัก ว๊าว.วว.ว.ว.ว.ว.ว. เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนในเรื่องจำนวนคน ก็แล้วแต่ว่าจะชอบอากาศหนาวแต่คนมากหน่อย หรือ อากาศร้อนแต่คนน้อยนิดนุง......สำหรับความสวยงามไม่ได้เปลี่ยนตามอากาศค่ะ เพราะที่นี้ยังคงสวยงามเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นไอศครีมรสชาติอร่อยๆ ที่หลานอิชั้นติดใจนักหนา แม่ขอกินคำเดียวก็ไม่ให้ แอบกินไปนิดเดียว ร้องไห้เสียงดังลั่น จนต้องพาไปซื้ออีกถ้วย โธ่ เด็กน่ะเด็ก ดอกไม้ ต้นไม้ที่นี้จัดได้ลงตัวดีมาก ดูสบายตา น่านั่งและน่าพักผ่อนเป็นที่สุด แถมด้วยการปลูกต้นองุ่นจนสุดสายตา นั่งชมวิว จิบกาแฟ และ พูดคุยกับคนรู้ใจ ช่างลงตัวอะไรอย่างนี้ ( แต่ตัวอิชั้นไม่มีหรอกคนรู้ใจอ่ะ เห็นภาพชาวบ้านเค้านั่งกันแล้วรู้สึกอิจฉาค่ะ) เค้าบอกว่า ถ้าไปไหนเป็นครั้งแรกแล้ว จะต้องมีครั้งที่ 2 และ ครั้งต่อๆไป จริงมั้ยค่ะ คราวหน้าถ้ามีเวลาจะไปนั่งทานอาหารในร้านได้ข่าวมาว่า เมนูน่าลิ้มลองทั่งน้านเร้ย.ย.ยย.ย.. ลืมบอกไปว่าที่นี้มี 2 ส่วนคือ ส่วนของกาแฟ + ไอศครีม และ อีกด้านเป็นร้านอาหารค่ะ ว่างๆ ก็ไปเที่ยวกันเด้อ ค่ะ เด้อ........เพราะอิชั้นจะหาวันหยุดไปอีกแน่นอนปล. เค้าเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ กับวันหยุดนักขัตฤกษ์น่ะค่ะ อย่าไปวันธรรมดาล่ะ ตัวเองจะไปเก้อ..................
ณ เขาใหญ่...KU55..
จัด Trip อีกแล้วค่ะ.......รอบนี้ไปใกล้ๆ เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนคนที่ไปด้วยเป็นเพื่อนๆสมัยเรียนมหาลัยฯ ก็มีแบบว่าแต่งงานกันแล้ว พกสามีและลูกไปด้วย ( คนไม่มีก็อิจฉากันไป555) -----> ออกจากรุงเทพฯ ก็ประมาณ 9 โมงกว่าๆ ขับรถมุ่งหน้าตามถนนหมาลยเลข 2 แต่ตัดเข้าเลี่ยงเมือง เร็วดีค่ะ ตัดออกไปแถวมวกเหล็กเลยค่ะ เร็วจังแฮะ ..... ( คิดในใจ) ........ไปสักพักก็แวะทานอาหารที่ร้านครูต้อ สั่งอาหารกันตามใจชอบค่ะ แอบหันไปเห็น "งบกุ้ง" อิชั้นก็งงง ค่ะ ว่ามันคืออะไร สรุปว่าก็สั่งมารับทาน ปรากฎว่า หน้าตา+รสชาติคล้ายๆ ห่อหมก เสร็จเรียบร้อยแล้วเช็คบิลเลยค๋า.....แวะซื้อของที่โลตัสปากช่องอีกนิดหน่อย ก็มุ่งหน้าสู่บ้านพัก "แก่นตะวันโฮมสเตย์" บ้านพักน่าอยู่เกินคาดค่ะ สะดวกสบาย เป็นส่วนตัวม๊ากๆ ------>เก็บสัมภาระเสร็จ ก็ไม่รอช้าค่ะ ขับรถไปเขาใหญ่กันเลย.....ทิวทัศน์สวยแปลกตา ด้วยการต้อนรับของต้นไม้ที่มีทั้งเขียวบ้าง น้ำตาลบ้าง เหลืองทองบ้าง แบบนี้ใช่มั้ยที่เรียกว่า "ใบไม้ผลิ" เหลือดอกไม้บนต้นสวยจังเลย อิชั้นพูดคำนี้บ่อยมากๆ "สวยจังเลย" "สวยจังเลย" และ "สวยจังเลย"-----> ที่แรกที่แวะคือ ผาเดียวดายค่ะ ดูจากชื่อแล้วไม่ค่อยอยากไปเลยเนอะ ไม่อยากเดียวดาย อิอิอิเดินไปประมาณ 200 เมตร ก็สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ในภาพกว้าง และเดินเท้ากลับอีกด้านหนึ่ง เบ็ดเสร็จแล้วใช้เวลาเดินประมาณ 400 กว่าเมตร แต่ป้าๆ ก็แอบหอบเล็กน้อย เสร็จแล้วก็ขับรถจะไปดูน้ำตกค่ะ ปรากฎว่ามั่วแต่เพลิดเพลินอยู่กับผาเดียวดาย ปิดค่ะปิด เราไปถึงก็ 5 โมงเย็นแล้ว หันไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ หันกลับมาอีกทีอิชั้นเห็นขโมยค่ะ ขโมยน่ารักดีน่ะ พวกเขามาขโมยมะขามกันค่ะ เรียกพรรคพวกมาเต็มไปหมด หยิบไปคนละฝัก สองฝัก ( มันคือเจ้าลิงน้อยนั้นเอง) ------> ตอนค่ำๆ ทำกับข้าวทานกันเอง เริ่มทำตอนประมาณ 6 โมงเย็นเห็นจะได้ กว่าจะได้รับทานเกือบ 2 ทุ่ม แต่ต้องยกนิ้วให้คนทำกับข้าว อร่อยแบบแม่ช้อยต้องมารำเลยน่ะ ( เวอร์ไปเปล่าว๊า) อิ่มหนำสำราญกันแล้ว พักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ -----> เช้าแล้วจ๊ะ เช้านี้พิเศษมากๆ เพราะว่าพวกเราตื่นมาทำกับข้าวเพื่อไปทำบุญที่วัด ( เช้าวันมาฆบูชา) วัดอยู่แถวที่พัก ได้บุญกันไปถ้วนทั่วทุกคน ชาวบ้านแถวนี้น่ารักดี อัธยาศัยดี ชวนให้พวกเราทานข้าวด้วยกัน ( ขอบคุณค่ะ) ------> สถานที่ต่อไปคือ "Primo Posto" สถานที่ใครๆ กล่าวขวัญถึง ก็โอเคน่ะค่ะ แต่แอบร้อนนิดหนึ่งค่ะ พอได้ อิชั้นสู้ไหวอยู่แล้ว หลังจากนั้นก็เข้าไปทำกิจกรรมที่ฟาร์มโชคชัย ต้องจองน่ะค่ะ เพราะพวกเราไปกันหลายคน ใช้เวลาภายในฟาร์มประมาณ 3 ชั่วโมง เสร็จแล้วก็หิวพอดีเลย ไปเลยค่ะ ร้านแดรี่โฮม คนเยอะใช้ได้ แต่ก็โอเคค่ะ อร่อยดี ( ราคาพอสมควรน่ะ) -------> เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็มุ่งหน้ากลับบ้าน เก็บภาพความประทับใจ รอยยิ้ม และ เสียงหัวเราะเอาไว้ในความทรงจำ และพร้อมเสมอที่จะกลับมาพบกันอีกครั้งในเร็ววันค่ะ
ว๊าว.ว.ว.ว......ประทับใจจัง
เดือนที่แล้ว จัด Trip ไปเที่ยวกับรุ่นพี่ที่ทำงานเก่า ไม่น่าเชื่อคบกันมาแล้วเกือบ 10 ปี ไปเที่ยวมาด้วยกันก็เยอะ แต่รู้สึกว่าครั้งนี้ไม่เหมือนที่แล้วมา.. เตรียมตัวสำหรับก่อนการเดินทางจริงประมาณ 2 สัปดาห์ เกี่ยวกับเส้นทางและสถานที่ท่องเที่ยว >>>>> โจทย์ของเราคือ....unseen แต่ใกล้กรุงเทพฯ <<<<<<< ได้ข้อสรุปแล้วค่ะ "ปากช่อง" ไม่น่าเชื่อว่า ที่นี้ยังมีสถานท่องเที่ยวที่เรามองข้ามไปได้ไง เราขับรถไปประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ ระหว่างทางก็แวะซื้อข้าวโพดหวานข้างทาง อร่อยยกนิ้วค่ะ ก่อนอื่น กองทัพต้องเดินด้วยท้อง 555+ ( เดินด้วยขานั้นค่ะ) แวะรับทานอาหารที่ "เล็กสเต๊ก" ขับรถไปทางโลตัสปากช่องค่ะ สังเกตป้ายร้านอยู่ทางด้านขวามือ ต้องกลับรถมาน่ะค่ะ หรือทางสะดวกก็เลี้ยวขวาเข้าไปตามเส้นทาง มีป้ายบอกตลอดทางค่ะ หาที่จอดรถเรียบร้อย เข้าไปในร้านเลยค่ะ ตื่นตาตื่นใจค่ะ อาหารที่ดูหรูหรา ก็จริงดังคาดล่ะค่ะ อาหารอร่อย ราคาสมกับอาหาร หน้าตาดี .......พออาหารลง ทุกคนก็เงียบค่ะ เมนูแนะนำ ก็ต้อง "สเต๊ก" น่ะค่ะ "สปาเก็ตตี้" และ "ไก่ทอด" ตามด้วย "ไส้กรอก" ของเขาดีจริง...... ถ้าเอ่ยถึงเขื่อน "ลำตะคอง" ใครๆ ก็คงรู้จักใช่มิค่ะ แต่ถ้าบอกว่ามีอีกแห่งหนึ่งเป็นสถานที่เก็บน้ำก่อนที่จะปล่อยลงเขื่อนลำตะคอง เรียกว่า "เขื่อนบน" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "เขายายเที่ยง" ชื่อคุ้นๆ มั้ยค่ะ ขับรถขึ้นไปเรื่อยๆ มีป้ายทางตลอดค่ะ ก่อนเข้าไปในเขื่อน มีป้อมยามเราก็บอกเจ้าหน้าที่นิดหนึ่งน่ะค่ะ ว่ามาเที่ยว พี่ๆ เค้าก็ไห้เราขับรถขึ้นไปจอดด้านบนค่ะ ลงรถปุ๊ปก็ประทับใจสุดๆ ไปเลย โดยเฉพาะสายลมที่พัดปะทะลมหนาว หาคำมาบรรยายไม่ถูกเลยว่ารู้สึกยังไงในตอนนั้น พวกเราเดินชมวิวกันสักครู่ เก็บความประทับใจไว้ในความทรงจำของทุกคน และ ก็เดินทางกลับ ก่อนกลับก็แวะไปสวนเมืองพร ที่เมื่อก่อนเป็นเพียงสวนที่ตาและยายช่วยกันเพาะต้นไม้ขายแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นธุรกิจไปซะแล้ว เพราะมีทั้งร้านอาหาร สวนที่ขายต้นไม้ ตอนกลางคืนยังมีส่วนของ Pub อีกด้วยน่ะ เก็บภาพประทับใจมาให้ดูกันค่ะ --- เสร็จ TRip 1 วันแบบชิลๆๆๆ ----- -ขับรถกลับบ้านอย่างสบายใจ สุขใจ และ อิ่มเอมหัวใจเหลือเกินค่ะ --------- พร้อมแล้วที่จะกลับมาทำงานให้หัวใจชื่นบานค่ะ ๐๐๐ ถ้าเพื่อนๆ ว่างก็ลองจัดTrip เล็กๆ ดูน่ะค่ะ๐๐๐๐
ใครสนใจแวะชมได้ที่จังหวัดชุมพร เจ้าขาเอ่ย.ย.ยย.ย.ย...ยย. ไปก่อนนะค่ะ 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
