Group Blog
 
<<
เมษายน 2557
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
3 เมษายน 2557
 
All Blogs
 
The Wind Rises : สายลมแห่งความฝัน และโศกนาฐกรรมของความรัก



            ในงานออสการ์ครั้งที่ผ่านมา มีภาพยนตร์ดังมากมายหลายหน้าที่แย่งชิงรางวัลกันสนุกสนาน และหนึ่งในการแข่งขันที่สนุก สูสีมากๆก็คือรางวัลสาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมซึ่งตัวเต็งในรายการนี้คือ Frozen, The Croods, Ernest & Celestine และ The Wind Rises(ขอตัดพวกมินเนี่ยนออกนะครับ เพราะคิดว่าคงสู้พวกนี้ลำบาก) ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้ชนะก็เป็น Frozen ที่ทำรายได้ถล่มลายไปทั่วโลกพร้อมกับคำวิจารณ์ด้านบวกมากมาย แต่ในขณะเดียวก็มีภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่น่าจับตามองมาตั้งแต่ยังไม่ทันได้เข้าฉายด้วยซ้ำ ซึ่งพอได้เข้าฉายจริงก็สามารถทำรายได้เยอะมากในประเทศ และยังกวาดรางวัลทั้งในประเทศและนอกประเทศมาไม่น้อย ภาพยนตร์ที่ผมพูดถึงอยู่ก็คือเรื่อง The Wind Rises นั่นเอง



            The Wind Rises เป็นผลงานลำดับที่18ของ Studio Ghibli และเป็นผลงานกำกับชิ้นสุดท้ายของ Hayao Miyazaki ก่อนที่จะประกาศวางมือไปเมื่อปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้อิงชีวประวัติของนาย Jiro Horikoshi ผู้ออกแบบเครื่องบินญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 โดยที่ตัวเขาสมัยเด็กนั้นใฝ่ฝันอยากเป็นนักบิน แต่ด้วยความที่สายตาสั้นทำให้ไม่สามารถเป็นนักบินได้ แต่ต่อมาก็ได้เปลี่ยนความฝันมาเป็นนักออกแบบเครื่องบินแทน ซึ่งตัวเขาเองนั้นต้องการจะออกแบบเครื่องบินเพื่อให้ความฝันเป็นจริง แต่ในช่วงนั้นเป็นช่วงสงครามโลก ซึ่งแน่นอนว่า"ความฝัน"ของตัวเขาจะต้องถูกนำไปใช้เข่นฆ่าคนในสงคราม ซึ่งเป็นความจริงที่เขาเองไม่อยากยอมรับ แต่ก็ไม่อาจล้มเลิกความฝันของตัวเองได้เช่นกัน ในขณะเดียวกันตัวเขาเองก็ได้พบกับความรักที่โชคชะตานำพามาให้ และจะเป็นแรงผลักดันที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จในการออกแบบเครื่องบิน



             ภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อิงประวัติศาสตร์ไว้มากพอสมควร และมีเรื่องเกี่ยวกับเครื่องบินอยู่พอสมควร ทำให้บางตอนคนดูอาจรู้สึกเบื่อได้ แต่จุดเด่นของเรื่องนี้จะเน้นหนักไปที่ความฝันและความรักโดยมีเครื่องบินเป็นพื้นหลังของเรื่อง ที่ชอบมาคือฉากโรแมนติกของเรื่องที่ทำออกมาได้น่าจดจำมากๆ ประเด็นในการทำตามความฝันก็ยอดเยี่ยม คนดูสามารถเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้ไม่ยากเย็น ส่วนอย่างอื่นๆเช่นการกำกับภาพที่สุดยอด บทที่ลงตัว สเน่ห์และจิตวิญญาณของเรื่อง ดนตรีประกอบที่ไพเราะ ฯลฯ ก็ยังคงสไตล์ Miyazaki แบบดั้งเดิมเอาไว้ ซึ่งก็ยังคงสามารถที่จะเรียกน้ำตาให้กับผู้ชม(โดยเฉพาะกับแฟนพันธุ์แท้ของHayao Miyazaki)ได้เสมอ

             อย่างที่บอกเอาไว้ตั้งแต่ต้น ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานกำกับเรื่องสุดท้ายของ Hayao Miyazaki ยอมรับว่าตัวผมเองนั้นถึงแม้พึ่งจะได้มาติดตามผลงานของ Studio Ghibli มาไม่นาน แต่เพียงภาพยนตร์อนิเมะไม่กี่เรื่องที่ผมได้ดูนั้น ผมกลับรู้สึกได้ว่าผลงานของค่ายนี้มีสเน่ห์ มีอารมณ์ร่วมกับตัวละครที่เหลือเชื่อมากจนแอบคิดว่าตัวละครทุกคนมีชึวิตอยู่จริงๆ และที่สำคัญคือทุกเรื่องจะมีความหมาย ปรัชญา ข้อคิดแฝงอยู่ทุกเรื่องแบบที่ไม่ตกยุคสมัยอีกด้วย ไม่แปลกใจเลยที่ผลงานของค่ายนี้เป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก การที่หัวเรือใหญ่แห่งค่ายนี้ได้วางมือลงไปแล้ว ทำให้แฟนๆทั่วโลกใจหายกันพอสมควร โดยได้ปล่อย The Wind Rises เป็นเรื่องส่งท้ายของเขา

               แม้ว่า Hayao Miyazaki จะไม่มากำกับภาพยนตร์อนิเมชั่นอีกแล้ว แต่ผลงานที่ผ่านมาของเขาจะตราตรึงในความทรงจำของแฟนๆทั่วโลกตลอดไป........







Create Date : 03 เมษายน 2557
Last Update : 5 เมษายน 2557 0:52:35 น. 0 comments
Counter : 4323 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 751525
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 751525's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.