DEAR KITTY : 'กลับไปสู่วันฝัน'


คิตตี้ที่รัก

น้องมอดอ่าน 'กลับไปสู่วันฝัน' จบแล้วละ เรื่องนี้เปนนวนิยายเรื่องล่าสุดของคุณหญิงย่า ซึ่งใช้นามปากกา แก้วเก้า เพราะมีความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติเข้ามาข้องเกี่ยวพัวพันในเนื้อเรื่องด้วย เรื่องของ พิมพ์ฉัตร หญิงสาวใหญ่วัยเกือบห้าสิบปี ผู้เงยหน้าขึ้นจากกองภาระตรงหน้าที่จมอยู่กับมันมานานถึงสามสิบปี เพื่อดูแลครอบครัวคือแม่กับน้องๆ อีกสามคนให้ดำเนินชีวิตไปอย่างราบรื่นและเปนสุข หลังจากที่เธอส่งทุกคนขึ้นฝั่งของชีวิตได้อย่างปลอดภัยแล้ว เธอกลับพบว่าตนเองถูกทิ้งอยู่บนฝั่งเดิมอย่างเดียวดาย ไร้คนใส่ใจดูแล มีชีวิตอยู่ไปวันๆ เหมือนใบไม้ร่วงโรยจวนปลิดปลิวลงจากต้น ไม่มีโอกาสมีชีวิตที่สมบูรณ์ ใช้ชีวิตในแบบที่ตนใฝ่ฝันปรารถนาแม้แต่ครั้งเดียว เพราะความเสียสละที่เธอมีให้ต่อทุกคนในครอบครัวมาตลอด แต่กลายเปนว่าวงจรเดิมๆ ทำท่าจะหวนกลับมาในชีวิตเธออีกครั้ง เมื่อน้องๆ แต่ละคนต้องการฝากลูกๆ มาให้เธอคอยทำหน้าที่ดูแล

เหตุนี้เอง ทำให้พิมพ์ฉัตรตัดสินใจขายบ้านอันเปนมรดกตกทอดของครอบครัวทิ้ง แล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการทำงานเปนแม่บ้านในเนิสซิงโฮมที่รับดูแลคนชราในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทำให้เธอได้พบหญิงชราใจอารี ผู้เปนเจ้าของแหวนวิเศษที่สามารถดลบันดาลให้ใครก็ตามที่สวมมัน ได้รับในสิ่งที่ตนตั้งจิตอธิษฐานขอได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่มีเงื่อนไขว่าผู้ที่สวม จะต้องเปนลูกคนโตของครอบครัว (งี้น้องมอดก็อดอะดิ เพราะเกิดมาเปนลูกคนเล็ก T__T) คำอธิษฐานจึงจะสัมฤทธิ์ผลเปนเวลาหนึ่งปีเต็ม แล้วทุกสิ่งอย่างจะคืนกลับสู่สภาพเดิม

ที่สำคัญคือ มนต์อำนาจแห่งแหวน จะช่วยดลบันดาลความสมปรารถนาแก่เจ้าตัวได้เพียงครั้งเดียว พูดง่ายๆ คือไม่มีสิทธิ์ใช้ซ้ำ เพราะงั้น ผู้อธิษฐานจึงต้องแน่ใจจริงๆ ว่าสิ่งที่ขอจากแหวนนั้นเปนสิ่งที่เราอยากได้จริงๆ (คงเหมือนการผ่าตัดเปลี่ยนเพศนั่นแหละเนาะ คิตตี้ คือเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย ไม่สามารถเปลี่ยนกลับเปนเพศเดิมได้ จึงต้องแน่ใจจริงๆ ว่าอยากเปลี่ยนจริงๆ รวมถึงต้องยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย #เอ๊ะนี่พูดออกทะเลไปถึงเรื่องนี้ได้ไง #เกี่ยวกันจังเลย55555 ^^)

แน่นอนว่า ในที่สุดก็มีเหตุให้พิมพ์ฉัตรต้องสวมแหวนวิเศษวงนั้นเข้าจนได้

แม้ว่าจะมีเรื่องความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติมาเกี่ยวข้อง แต่โดยตัวเนื้อหาถือว่าเปนแนว 'เรียลลิสติก' เอามากๆ ที่โดดเด่นที่สุดในความเห็นของน้องมอด คือการสะท้อนปัญหาสังคม ว่าด้วยเรื่องความรุนแรงในครอบครัว (Domestic Violence) คือการที่สามีลงมือทำร้ายภรรยา ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะด้วยการทุบตี หรือการมีผู้หญิงอื่นให้เห็นตำตาก็ตาม (แต่ถึงตอนท้ายเรื่อง ก็ได้รู้ว่าการที่ภรรยาคำนึงถึงความสุขของตนเองมากกว่าของสามี ก็อาจถือเปนความรุนแรงในครอบครัวได้เช่นกัน)

ก็อย่างที่น้องมอดเล่าเรื่องไปตอนต้น ว่าเมื่อพิมพ์ฉัตรเกิดความคิดขึ้นมาว่า เธอไม่เคยได้ใช้ชีวิตตามความฝันที่เคยมีในวัยสาวน้อยเลย แต่ด้วยมนต์อำนาจแห่งแหวนวิเศษ ก็ทำให้เธอได้หวนกลับไปสู่วันฝันอีกครั้ง เมื่อสภาพร่างกายของเธอแปรเปลี่ยนจากสาวใหญ่ล่วงเข้าวัยชรา กลายเปนสาวน้อยร่างบางอ้อนแอ้น กับความสวยสะดุดตาชายหนุ่มทุกคนที่พบเห็น เปิดโอกาสให้เธอได้ย้อนกลับไปลองใช้ชีวิตในแบบที่เธอไม่เคยสัมผัส โดยเฉพาะการได้สมหวังในความรักกับชายผู้เปนรักแรกของเธอ

แต่ความเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเพียงอย่างเดียว ทว่าความคิด จิตใจ และอารมณ์ความรู้สึกของเธอยังเปนของสาวใหญ่คนเดิมทุกประการ ที่สำคัญยวดยิ่งไปกว่านั้น คือการที่คนรอบข้างและสภาพแวดล้อมต่างๆ หาได้เปลี่ยนแปลงตามไปด้วยไม่

ความสนุกของเรื่องก็อยู่ตรงนี้แหละ คิตตี้ เพราะการที่พิมพ์ฉัตรหวนกลับไปเปนเด็กสาววัยสิบแปดปีอีกครั้ง ขณะที่ทุกสิ่งอย่างรอบตัวเธอมิได้หมุนทวนเวลากลับไปด้วยั้น ทำให้เกิดเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ ตามมามากมาย ซึ่งเปนเรื่องที่เธอไม่มีวันพบเจอแน่นอน หากว่ายังอยู่ในร่างของหญิงกลางคน หนึ่งในนั้นคือการประสบเหตุเภทภัยเพราะความสวย ซึ่งนำอันตรายมาสู่ตัวเธออย่างคาดไม่ถึง ทั้งจากอันธพาลข้างถนนและจากเพศเดียวกันที่เกิดอาการหึงหวงจนหน้ามืดตามัว

และแม้ว่าความเปนหญิงสาวสวยจะทำให้เธอมีโอกาสได้สมหวังและลงเอยกับชายหนุ่มผู้เปนอดีตอันหวานชื่นของเธอก็จริง แต่มันกลับนำพาความทุกข์มาสู่จิตใจเธอด้วยเช่นกัน ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามกับตนเองว่า ในเมื่อเธอก็ได้ทุกอย่างที่เคยเฝ้าฝันแล้ว เหตุใดเธอจึงยังไม่อาจค้นพบกับความสุขแท้จริงเสียที

จนเมื่อมองออกแล้วว่า ตนเองกำลังตกอยู่ในสภาพเช่นใด รวมถึงรับรู้ด้วยว่าแม้ชีวิตก่อนหน้านี้จะเต็มไปด้วยความเงียบเหงา หดหู่ อ้างว้าง แต่ก็ยังดีกว่าการต้องจำทนตกอยู่ใต้อำนาจของชายผู้มากล้นด้วยทรัพย์สินมหาศาล แต่กลับเห็นเธอเปนเหมือนข้าวของเครื่องใช้ ไม่ยินยอมให้เธอไปเกี่ยวข้องกับชายอื่นแม้จะเปนเพียงแค่เพื่อนกันก็ตาม ขณะที่ตัวเขาเองกลับมีหญิงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนเวียนเข้ามาแนบข้างแทบจะตลอดเวลา

กลายเปนสาเหตุให้เธอพยายามหาทางพาตนเองไปให้พ้นจากชีวิตอันเต็มไปด้วยความขมจนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ ทั้งที่เหลือเวลาอีกแต่ไม่กี่เดือน มนต์อำนาจแห่งแหวนก็จะเสื่อมฤทธิ์ ทำให้เธอหวนกลับเปนหญิงสาวใหญ่คนเดิมก็ตามที แต่คนเรานั้น เมื่อจิตใจไม่เปนสุขแล้ว จะกี่เดือนกี่วันกี่ชั่วโมงก็ตาม ล้วนยาวนานราวกับตกอยู่ในนรกไม่แตกต่างกัน

ยังมีรายละเอียดอีกมากที่น้องมอดคงไม่เล่าให้คิตตี้ฟังละ #ขี้เกียจ5555 เอาเปนว่าเรื่องนี้เปนนิยายอีกเรื่องหนึ่งของคุณหญิงย่าที่น้องมอดชอบมากๆ #ว่าที่จริงน้องมอดก็ชอบทุกเรื่องที่คุณหญิงย่าเขียนนั่นแหละ #ชอบมากหรือชอบน้อยเท่านั้น เพราะมีความหมายดีๆ แอบแฝงอยู่ระหว่างบรรทัด แทรกเปนข้อคิดเตือนใจเตือนสติตัวเองได้มากมาย (อย่างที่น้องมอดเคยพูดบ่อยๆอะ ว่าแก่แล้วไม่มีใครคอยเตือนคอยสอน #แถมปูนนี้แล้วก็ยิ่งไม่ชอบถูกสอนตรงๆด้วยอะ ต้องให้หนังสือเปนตัวช่วยสอนใจให้ความคิดดีๆแทน ^^) 

นอกจากประเด็นหลักของเรื่องที่คุณหญิงย่าต้องการบอกกับคนอ่าน ว่าการได้บรรลุความฝันไม่ได้หมายความว่าจะนำพาเฉพาะความสุขมาสู่ชีวิตเสมอไป เพราะความสุขกับความทุกข์เปนสิ่งที่เกิดขึ้นควบคู่กันในชีวิตมนุษย์ และไม่มีใครที่จะ 'ได้' ทุกอย่างที่ปรารถนา เมื่อ 'ได้' อย่างก็ต้อง 'เสีย' อีกอย่างหนึ่งไปเสมอ

การมีชีวิตอยู่กับความจริง มิใช่คอยแต่จะหวนไห้อาลัยถึงความฝันเก่าๆ ที่ผ่านพ้นไปอย่างไม่มีวันหวนคืน จึงน่าจะเปนทางออกที่ดีที่สุด

ดังเช่นพิมพ์ฉัตร นางเอกของเรื่องที่สามารถสลัดหลุดพ้นจากม่านหมอกแห่งความฝันอันบังตา และตื่นขึ้นมาพบกับความจริงว่าตัวเธอเองต่างหากที่ควรเปนที่พึ่งแห่งตน เพราะ "ชีวิตใคร...ก็มีหน้าที่ทำให้มันดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าไปหวังจากคนอื่น แม้แต่ปาฏิหาริย์ก็ช่วยไม่ได้ ถ้าไม่ช่วยตัวเอง"

รักคิตตี้จุงเบย

น้องมอด

วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๗
เวลา ๒๓.๒๐ น.






Create Date : 24 ตุลาคม 2557
Last Update : 24 ตุลาคม 2557 14:55:06 น.
Counter : 1073 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nongmod's book
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Group Blog
  •  Bloggang.com