เรื่อง มืดๆ ของคนหม่นๆ ในโลกแปลกๆ
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
18 พฤศจิกายน 2558
 
All Blogs
 
เย้ ไปครั้งแรก เกาะสีชัง

เกาะสีชัง.........ไปให้ถึง และสนุกให้สุด กับ..........การถ่ายภาพเพลินๆ

(หลังจากไม่ได้อัพซะนานเกือบปี)

และแล้ว.......วันเดินทางก็กำหนดได้อย่างลงตัวหลังจากโยกหลบพายุที่เข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อนในช่วงกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นมาจนเกือบต้องพับแผนการถ่ายภาพครั้งนี้ไป แต่เหมือนฟ้าฝนยังให้โอกาสเราเปิดความหวังอีกครั้งในต้นเดือนพฤศจิกายนจนเรากำหนดวันได้ในวันเสาร์ที่ 14 ถึงอาทิตย์ที่ 15 ของเดือน.....แต่ในใจผมยังคงลุ้นอยู่ตลอดว่าวันจริงก็อย่าได้พายุเจอฝนเลย..........เพี้ยง!!

ในเช้าวันเสาร์อากาศค่อนข้างดี ฟ้าเปิดโล่ง ไร้วี่แววของพายุฝนที่เราค่อนข้างกังวลแต่เห็นแบบนี้ก็ใจชื้นขึ้นมาเยอะ พวกเราจึงเริ่มต้นออกเดินทางกันตั้งแต่เวลา 7.30 น. ขึ้นทางด่วนแจ้งวัฒนะตรงมาเรื่อยๆหลับบ้าง ตื่นบ้าง ตามสภาพการขับขี่แต่ก็เพลินไปอีกแบบเพราะมีเพื่อนร่วมทางครั้งนี้รวมกันถึง 30 ชีวิตเพราะไปกับที่ทำงานฮาๆ หรือจะบอกว่า หลากอายุด้วยก็ยังได้ ทุกคนต่างมีความสุขในการเดินทางเพื่อไปรับความหรรษาแบบเต็มๆที่เกาะสีชังเนื่องจากทำงานอย่างต่อเนื่องมาพอสมควร ช่วงเวลานี้จึงจัดเป็นช่วงเวลาที่เราทั้งหมดต้องรีบเก็บเกี่ยวความสุขของทริปนี้ให้มากที่สุดใน1 คืน 2 วัน และหลังจากนั่งอยู่บนรถได้ไม่นานนัก หรือน่าจะราวๆ 2 ชั่วโมงไม่ทันไรพวกเราก็มาถึงยัง ท่าเรือเกาะลอย ศรีราชาซึ่งในจุดนี้ได้ประสานงานเหมาลำเรือทั้งไปและกลับพร้อมรถรับส่งในเกาะไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วทำให้พวกเราทุกคนลงจากรถก้าวขาไม่กี่ก้าว ก็ขึ้นเรือลุยต่อในทันที ไม่มีรอช้าเพราะอยากเห็นความสวยงามที่เกาะสีชังใจจะขาดแล้ว............ในระหว่างลงเรือก็มีตากล้องหลายคนเริ่มปฏิบัติการถ่ายภาพกันบ้างแล้ว ทั้งถ่ายตัวเอง ถ่ายเรือ ถ่ายน้ำทะเลถ่ายไปทั่วลำเรือ จนไม่แน่ใจว่าจะเหลือแบทไว้ถ่ายบนเกาะกันบ้างไหม 


การเดินทางโดยเรือจุดนี้เราใช้เวลาราวๆ 20-30 นาทีโดยประมาณ ก็มาถึงยังเกาะสีชัง วัดจากสายตาแล้วคนไม่เยอะอย่างที่คิดจำนวนคนไม่พลุกพล่าน ไม่แออัด เท่าเกาะล้าน ซึ่งถูกใจพวกเรามาก เพราะถ่ายรูปง่ายทั้งคนที่อยากเป็นนางแบบ นายแบบ ก็จะได้โพสท่าออกลีลากันอย่างสบายใจไม่อายใครมาก แต่ความจริงผมว่าเขาไม่อายใครทั้งนั้นแหละโพสสู้กันสุดฤทธิ์จนผมคิดว่าอยู่ในรายเดินแบบรายการหนึ่งที่กำลังเป็นกระแสทางช่องสามสีอยู่ในปัจจุบันนี้


วกกลับมาเรื่องของทริปเราต่อนะจากที่เราเหมารถรับส่งไว้ล่วงหน้าทำให้เราเดินทางมาถึงยังสถานที่พักไว้ในเวลาอันรวดเร็วซึ่งการมาในครั้งนี้เราได้รับคำแนะนำมาให้เลือกพักที่  “ สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ” ไม่ไกลจากสะพานอัษฎางค์จุดถ่ายภาพยอดนิยมของเกาะเท่าไรนักแต่การนี้รถนำเที่ยวแนะนำให้เราไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่เสียก่อนเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ทีมงานทุกคนพอไปถึงหน้าทางเข้าศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ทุกคนต่างรีบเดินทันทีแทบจะวิ่งแซงกันซะตรงนั้น ไม่ใช่ว่าจะรีบขึ้นเขานะครับ แต่ความหิวมาเยือนหิวจนน้ำลายหยดเลยแหละ แต่ละคนวิ่งเข้าร้านไก่ทอด ปลาหมึกย่าง น้ำอัดลม ไอติมวิ่งวุ่นหาของกินแก้หิวกันหน้าทางขึ้นศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เพราะตอนนี้เที่ยงกว่าแล้วแต่ดันลืมดูเวลาด้วยความตื่นตากับสิ่งรังสรรค์บนตัวเกาะ


หลังจากจัดการแก้ความหิวกันเป็นที่เรียบร้อยก็ได้เวลาขึ้นไปไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ ซึ่งในระหว่างสองข้างทาง จะมีศาลเจ้าแม่กวนอิมสถานรับเงินบริจาคช่วยคนชรา หรือกระทั่งช่วนเหลือวัด เรียงรายกันพอสมควรซึ่งตรงนี้แล้วแต่จิตศรัทธา ห้าบาทสิบบาทก็ว่ากันไปไม่มีใครบังคับทางขึ้นเขาไม่สูงชันมากเดินสบายๆ แต่ถ้าไม่ไหวอากาศร้อนๆก็มีรถรางลากขึ้นลงให้จอดรอเด่นเห็นชัดขึ้นได้ประมาณ 9-10 คน เมื่อขึ้นไปก็สักการะบูชาตามแต่ละคนหามุมถ่ายภาพวิวทะเล ลงมาก็สวยไม่ใช่น้อย เพราะ บนนี้แทบจะเห็นทั้งหมดของเกาะเลยก็ว่าได้




เราอยู่ตรงนี้กันไม่นานนักเพราะจะต้องทำเวลาเพื่อไปจุดต่อไปนั่นคือ“ รอยพระพุทธบาทจำลอง ” นั่งรถย้อนขึ้นเขาไปไม่ไกลนักที่นี่มีหลายจุดถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ได้เยอะ เนื่องจากอยู่ในจุดที่สูงมองเห็นตัวอาคารบ้านเรือน ท่าเรือของเกาะได้อย่างชัดเจนทำให้การถ่ายภาพเป็นไปอย่างสนุกสนาน ไม่มีสะดุด แต่พวกเราอยู่จุดนี้ประมาณ 15นาทีเพื่อทำเวลาไปยัง  “ ช่องเขาขาด หรือสะพานวชิรวุธ ”



เหมือนเดิมพอทุกคนลงจากรถก็รีบวิ่งไปหาสถานที่ถ่ายรูป ถ่ายวิว ถ่ายตัวเองกันตามสะดวกจุดนี้มีมุมมองที่กว้าง และที่ยืนถ่ายรูปหมู่เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากเรายืนเล่นในจุดชมวิวนานไปหน่อย จึงไม่ได้เดินไปทางสะพานเพราะแต่ละคนเริ่มหิวข้าวมื้อกลางวันแล้วทำให้ต้องถอยทัพมาเติมพลังกันก่อนที่ร้านอาหารตามสั่งที่พยายามให้เราทุกคนสั่งอาหารเดียวกันเพื่อสะดวกต่อการทำ ซึ่งเราก็ไม่ติดขัดสั่งข้าวผัด 9 จานบ้าง กระเพราทะเล 10 จานบ้าง แต่น้องคนหนึ่งก็สั่งยำจนได้ 1 จานแต่ทางร้านก็บอกนะว่านานแน่นอน ถ้าไม่สั่งเหมือนคนอื่นแต่ใจเราอยากกินเราไม่ฟังอยู่แล้วครับและแน่นอน....น้องได้เป็นคนแรก........(ไหนว่านาน?)




หลังจากกินอิ่มกันถ้วนหน้าก็ได้เวลาลุยต่อไปยัง“ พระจุฑาธุชราชฐานพระราชวังบนเกาะ ”ซึ่งถือเป็นจุดเด่นมากๆจุดหนึ่งของเกาะสีชังเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะสะพานอัษฎางค์ที่คู่รักหลายคู่มาถ่ายภาพหวานแหววเก็บใส่กรอบโชว์วันงานสำคัญมานักต่อนัก จุดนี้เราใช้เวลาไปเกือบๆ40 นาทีได้ แค่สะพานเพียงเท่านั้นแต่ในความจริงทั้งหมดของบริเวณนี้มีตัวอาคารต่างๆ รวมถึงวัดและจุดชมวิวอีกเพียบแต่เราไปไม่ถึง เพราะเพลินตาไปกับสะพานอัษฎางค์แถมนางแบบเราแต่ละคนมีความคิดเป็นเลิศในการสร้างสรรค์ท่าทางในการโพสทำให้แต่ละท่านถ่ายภาพไปเรื่อยๆจนล่วงเลยเวลา และเนื่องจากมีละอองฝนลงมาเล็กน้อยทุกคนจึงถอนทัพกลับขึ้นรถเพื่อไปจุดถ่ายภาพแห่งสุดท้ายของวัน “ หาดถ้ำพัง ”






ที่หาดถ้ำพังเราพบว่าที่นี่มีนักท่องเที่ยวอยู่พอสมควรมีโขดหินหลายจุดค่อนข้างอันตรายหากน้ำขึ้น แต่เมื่อน้ำลงมันก็คือจุดที่น่าบันทึกภาพไว้ในความทรงจำเช่นกันทางเราจึงไม่รอช้าเดินไปหาที่หาทางถ่ายภาพบ้าง นั่งบ้าง เดินเล่นกันไปบ้างจนทุกอย่างเริ่มอยู่ในความสงบ ทุกคนรวมตัวนั่งชมวิว รับลมทะเลดูแสงอาทิตย์ที่กำลังจะตกตรงหน้า แต่เราไม่รอให้พระอาทิตย์ตกจนมืดค่ำน่าจะดีกว่าเพราะหลายคนเริ่มเหนื่อยล้ากับการโพสท่าถ่ายรูปกันอย่างหนักหน่วงทุกคนจึงตัดสินใจขึ้นรถกลับที่พักเพื่ออาบน้ำอาบท่าพักผ่อนกันตามอัธยาศัย.............ตกดึกเรามีกิจกรรมเกมส์จากผู้นำกลุ่มกันนิดหน่อยขอเรียกผู้นำกลุ่มในครั้งนี้ว่าไกด์อ้ำ




ไกด์อ้ำเชิญทีมงานเล่นเกมนันทนาการชื่อเกม “มาเฟีย ” จากเล่นกันเพียง 7-8 คน หลังๆเหมือนจะเป็นสิบคนและไม่มีทีท่าว่าเกมส์นี้จะจบลงง่ายๆ เนื่องจาก แต่ละคนต้องรับบทบาทสมมติตามที่ตนเองจับสลากได้ และต้องตามล่ามาเฟียให้ได้ก่อนถูกฆ่าหรือถูกโหวตออกกรณีถูกกลุ่มสงสัย (ก็แน่ละผมโดนโหวตประจำ แต่ยังดีไม่ใช่คนแรก)  งานนี้เล่นกันไปได้ถึง 2 ชั่วโมงเศษและยังคงตราตรึงพูดถึงกันถึงเช้าวันต่อมาเลยทีเดียวต้องขอบคุณไกด์อ้ำที่มอบความสุขและความสามารถทางการแสดงให้พวกเราได้เยอะขนาดนี้.....


เช้าวันต่อมาหลังรับประทานอาหารมื้อเช้าเสร็จประมาณ8.30น.  เราเดินทางกลับทันที มีถ่ายรูปบนเรือกันนิดๆหน่อยๆเพราะ สาวๆในกลุ่มอยากไปถ่ายรูปที่ j-park โดยไม่นานนักเราก็เดินทางไปถึงและสาวน้อยสาวใหญ่ก็ได้รวมตัวถ่ายรูปกันอย่างสมใจ และเดินทางกลับบ้านพวกเราอย่างมีความสุขสุดๆซึ่งตรงนี้ ขอบอกเลยว่า “คุณต้องไปสักครั้งเพราะแต่ละคนที่ไป ในช่วงเวลาที่ต่างกัน สิ่งที่ได้เจอย่อมไม่เหมือนกัน” ความสวยงาม ความสนุก มันคงจะคนละแบบ แบบใครแบบมันลองไปดูสักครั้งนะทุกท่าน……ขอบคุณ


ดูรูปละกัน








Create Date : 18 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2558 20:49:23 น. 2 comments
Counter : 604 Pageviews.

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2558 เวลา:2:19:44 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคราบ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 19 พฤศจิกายน 2558 เวลา:18:33:29 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ข้าวต้มโต้รุ่ง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แบบว่าชีวิตมีแต่เรื่องหม่นๆ เลยมาระบายโดยละม่อม
Friends' blogs
[Add ข้าวต้มโต้รุ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.