เย้ ไปครั้งแรก เกาะสีชัง
เกาะสีชัง.........ไปให้ถึง และสนุกให้สุด กับ..........การถ่ายภาพเพลินๆ (หลังจากไม่ได้อัพซะนานเกือบปี) และแล้ว.......วันเดินทางก็กำหนดได้อย่างลงตัวหลังจากโยกหลบพายุที่เข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อนในช่วงกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นมาจนเกือบต้องพับแผนการถ่ายภาพครั้งนี้ไป แต่เหมือนฟ้าฝนยังให้โอกาสเราเปิดความหวังอีกครั้งในต้นเดือนพฤศจิกายนจนเรากำหนดวันได้ในวันเสาร์ที่ 14 ถึงอาทิตย์ที่ 15 ของเดือน.....แต่ในใจผมยังคงลุ้นอยู่ตลอดว่าวันจริงก็อย่าได้พายุเจอฝนเลย..........เพี้ยง!! ในเช้าวันเสาร์อากาศค่อนข้างดี ฟ้าเปิดโล่ง ไร้วี่แววของพายุฝนที่เราค่อนข้างกังวลแต่เห็นแบบนี้ก็ใจชื้นขึ้นมาเยอะ พวกเราจึงเริ่มต้นออกเดินทางกันตั้งแต่เวลา 7.30 น. ขึ้นทางด่วนแจ้งวัฒนะตรงมาเรื่อยๆหลับบ้าง ตื่นบ้าง ตามสภาพการขับขี่แต่ก็เพลินไปอีกแบบเพราะมีเพื่อนร่วมทางครั้งนี้รวมกันถึง 30 ชีวิตเพราะไปกับที่ทำงานฮาๆ หรือจะบอกว่า หลากอายุด้วยก็ยังได้ ทุกคนต่างมีความสุขในการเดินทางเพื่อไปรับความหรรษาแบบเต็มๆที่เกาะสีชังเนื่องจากทำงานอย่างต่อเนื่องมาพอสมควร ช่วงเวลานี้จึงจัดเป็นช่วงเวลาที่เราทั้งหมดต้องรีบเก็บเกี่ยวความสุขของทริปนี้ให้มากที่สุดใน1 คืน 2 วัน และหลังจากนั่งอยู่บนรถได้ไม่นานนัก หรือน่าจะราวๆ 2 ชั่วโมงไม่ทันไรพวกเราก็มาถึงยัง ท่าเรือเกาะลอย ศรีราชาซึ่งในจุดนี้ได้ประสานงานเหมาลำเรือทั้งไปและกลับพร้อมรถรับส่งในเกาะไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วทำให้พวกเราทุกคนลงจากรถก้าวขาไม่กี่ก้าว ก็ขึ้นเรือลุยต่อในทันที ไม่มีรอช้าเพราะอยากเห็นความสวยงามที่เกาะสีชังใจจะขาดแล้ว............ในระหว่างลงเรือก็มีตากล้องหลายคนเริ่มปฏิบัติการถ่ายภาพกันบ้างแล้ว ทั้งถ่ายตัวเอง ถ่ายเรือ ถ่ายน้ำทะเลถ่ายไปทั่วลำเรือ จนไม่แน่ใจว่าจะเหลือแบทไว้ถ่ายบนเกาะกันบ้างไหม
การเดินทางโดยเรือจุดนี้เราใช้เวลาราวๆ 20-30 นาทีโดยประมาณ ก็มาถึงยังเกาะสีชัง วัดจากสายตาแล้วคนไม่เยอะอย่างที่คิดจำนวนคนไม่พลุกพล่าน ไม่แออัด เท่าเกาะล้าน ซึ่งถูกใจพวกเรามาก เพราะถ่ายรูปง่ายทั้งคนที่อยากเป็นนางแบบ นายแบบ ก็จะได้โพสท่าออกลีลากันอย่างสบายใจไม่อายใครมาก แต่ความจริงผมว่าเขาไม่อายใครทั้งนั้นแหละโพสสู้กันสุดฤทธิ์จนผมคิดว่าอยู่ในรายเดินแบบรายการหนึ่งที่กำลังเป็นกระแสทางช่องสามสีอยู่ในปัจจุบันนี้
วกกลับมาเรื่องของทริปเราต่อนะจากที่เราเหมารถรับส่งไว้ล่วงหน้าทำให้เราเดินทางมาถึงยังสถานที่พักไว้ในเวลาอันรวดเร็วซึ่งการมาในครั้งนี้เราได้รับคำแนะนำมาให้เลือกพักที่ สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่ไกลจากสะพานอัษฎางค์จุดถ่ายภาพยอดนิยมของเกาะเท่าไรนักแต่การนี้รถนำเที่ยวแนะนำให้เราไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่เสียก่อนเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ทีมงานทุกคนพอไปถึงหน้าทางเข้าศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ทุกคนต่างรีบเดินทันทีแทบจะวิ่งแซงกันซะตรงนั้น ไม่ใช่ว่าจะรีบขึ้นเขานะครับ แต่ความหิวมาเยือนหิวจนน้ำลายหยดเลยแหละ แต่ละคนวิ่งเข้าร้านไก่ทอด ปลาหมึกย่าง น้ำอัดลม ไอติมวิ่งวุ่นหาของกินแก้หิวกันหน้าทางขึ้นศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เพราะตอนนี้เที่ยงกว่าแล้วแต่ดันลืมดูเวลาด้วยความตื่นตากับสิ่งรังสรรค์บนตัวเกาะ
หลังจากจัดการแก้ความหิวกันเป็นที่เรียบร้อยก็ได้เวลาขึ้นไปไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ ซึ่งในระหว่างสองข้างทาง จะมีศาลเจ้าแม่กวนอิมสถานรับเงินบริจาคช่วยคนชรา หรือกระทั่งช่วนเหลือวัด เรียงรายกันพอสมควรซึ่งตรงนี้แล้วแต่จิตศรัทธา ห้าบาทสิบบาทก็ว่ากันไปไม่มีใครบังคับทางขึ้นเขาไม่สูงชันมากเดินสบายๆ แต่ถ้าไม่ไหวอากาศร้อนๆก็มีรถรางลากขึ้นลงให้จอดรอเด่นเห็นชัดขึ้นได้ประมาณ 9-10 คน เมื่อขึ้นไปก็สักการะบูชาตามแต่ละคนหามุมถ่ายภาพวิวทะเล ลงมาก็สวยไม่ใช่น้อย เพราะ บนนี้แทบจะเห็นทั้งหมดของเกาะเลยก็ว่าได้
เราอยู่ตรงนี้กันไม่นานนักเพราะจะต้องทำเวลาเพื่อไปจุดต่อไปนั่นคือ รอยพระพุทธบาทจำลอง นั่งรถย้อนขึ้นเขาไปไม่ไกลนักที่นี่มีหลายจุดถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ได้เยอะ เนื่องจากอยู่ในจุดที่สูงมองเห็นตัวอาคารบ้านเรือน ท่าเรือของเกาะได้อย่างชัดเจนทำให้การถ่ายภาพเป็นไปอย่างสนุกสนาน ไม่มีสะดุด แต่พวกเราอยู่จุดนี้ประมาณ 15นาทีเพื่อทำเวลาไปยัง ช่องเขาขาด หรือสะพานวชิรวุธ
เหมือนเดิมพอทุกคนลงจากรถก็รีบวิ่งไปหาสถานที่ถ่ายรูป ถ่ายวิว ถ่ายตัวเองกันตามสะดวกจุดนี้มีมุมมองที่กว้าง และที่ยืนถ่ายรูปหมู่เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากเรายืนเล่นในจุดชมวิวนานไปหน่อย จึงไม่ได้เดินไปทางสะพานเพราะแต่ละคนเริ่มหิวข้าวมื้อกลางวันแล้วทำให้ต้องถอยทัพมาเติมพลังกันก่อนที่ร้านอาหารตามสั่งที่พยายามให้เราทุกคนสั่งอาหารเดียวกันเพื่อสะดวกต่อการทำ ซึ่งเราก็ไม่ติดขัดสั่งข้าวผัด 9 จานบ้าง กระเพราทะเล 10 จานบ้าง แต่น้องคนหนึ่งก็สั่งยำจนได้ 1 จานแต่ทางร้านก็บอกนะว่านานแน่นอน ถ้าไม่สั่งเหมือนคนอื่นแต่ใจเราอยากกินเราไม่ฟังอยู่แล้วครับและแน่นอน....น้องได้เป็นคนแรก........(ไหนว่านาน?)
หลังจากกินอิ่มกันถ้วนหน้าก็ได้เวลาลุยต่อไปยัง พระจุฑาธุชราชฐานพระราชวังบนเกาะ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นมากๆจุดหนึ่งของเกาะสีชังเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะสะพานอัษฎางค์ที่คู่รักหลายคู่มาถ่ายภาพหวานแหววเก็บใส่กรอบโชว์วันงานสำคัญมานักต่อนัก จุดนี้เราใช้เวลาไปเกือบๆ40 นาทีได้ แค่สะพานเพียงเท่านั้นแต่ในความจริงทั้งหมดของบริเวณนี้มีตัวอาคารต่างๆ รวมถึงวัดและจุดชมวิวอีกเพียบแต่เราไปไม่ถึง เพราะเพลินตาไปกับสะพานอัษฎางค์แถมนางแบบเราแต่ละคนมีความคิดเป็นเลิศในการสร้างสรรค์ท่าทางในการโพสทำให้แต่ละท่านถ่ายภาพไปเรื่อยๆจนล่วงเลยเวลา และเนื่องจากมีละอองฝนลงมาเล็กน้อยทุกคนจึงถอนทัพกลับขึ้นรถเพื่อไปจุดถ่ายภาพแห่งสุดท้ายของวัน หาดถ้ำพัง
ที่หาดถ้ำพังเราพบว่าที่นี่มีนักท่องเที่ยวอยู่พอสมควรมีโขดหินหลายจุดค่อนข้างอันตรายหากน้ำขึ้น แต่เมื่อน้ำลงมันก็คือจุดที่น่าบันทึกภาพไว้ในความทรงจำเช่นกันทางเราจึงไม่รอช้าเดินไปหาที่หาทางถ่ายภาพบ้าง นั่งบ้าง เดินเล่นกันไปบ้างจนทุกอย่างเริ่มอยู่ในความสงบ ทุกคนรวมตัวนั่งชมวิว รับลมทะเลดูแสงอาทิตย์ที่กำลังจะตกตรงหน้า แต่เราไม่รอให้พระอาทิตย์ตกจนมืดค่ำน่าจะดีกว่าเพราะหลายคนเริ่มเหนื่อยล้ากับการโพสท่าถ่ายรูปกันอย่างหนักหน่วงทุกคนจึงตัดสินใจขึ้นรถกลับที่พักเพื่ออาบน้ำอาบท่าพักผ่อนกันตามอัธยาศัย.............ตกดึกเรามีกิจกรรมเกมส์จากผู้นำกลุ่มกันนิดหน่อยขอเรียกผู้นำกลุ่มในครั้งนี้ว่าไกด์อ้ำ
ไกด์อ้ำเชิญทีมงานเล่นเกมนันทนาการชื่อเกม มาเฟีย จากเล่นกันเพียง 7-8 คน หลังๆเหมือนจะเป็นสิบคนและไม่มีทีท่าว่าเกมส์นี้จะจบลงง่ายๆ เนื่องจาก แต่ละคนต้องรับบทบาทสมมติตามที่ตนเองจับสลากได้ และต้องตามล่ามาเฟียให้ได้ก่อนถูกฆ่าหรือถูกโหวตออกกรณีถูกกลุ่มสงสัย (ก็แน่ละผมโดนโหวตประจำ แต่ยังดีไม่ใช่คนแรก) งานนี้เล่นกันไปได้ถึง 2 ชั่วโมงเศษและยังคงตราตรึงพูดถึงกันถึงเช้าวันต่อมาเลยทีเดียวต้องขอบคุณไกด์อ้ำที่มอบความสุขและความสามารถทางการแสดงให้พวกเราได้เยอะขนาดนี้.....
เช้าวันต่อมาหลังรับประทานอาหารมื้อเช้าเสร็จประมาณ8.30น. เราเดินทางกลับทันที มีถ่ายรูปบนเรือกันนิดๆหน่อยๆเพราะ สาวๆในกลุ่มอยากไปถ่ายรูปที่ j-park โดยไม่นานนักเราก็เดินทางไปถึงและสาวน้อยสาวใหญ่ก็ได้รวมตัวถ่ายรูปกันอย่างสมใจ และเดินทางกลับบ้านพวกเราอย่างมีความสุขสุดๆซึ่งตรงนี้ ขอบอกเลยว่า คุณต้องไปสักครั้งเพราะแต่ละคนที่ไป ในช่วงเวลาที่ต่างกัน สิ่งที่ได้เจอย่อมไม่เหมือนกัน ความสวยงาม ความสนุก มันคงจะคนละแบบ แบบใครแบบมันลองไปดูสักครั้งนะทุกท่าน
ขอบคุณ
ดูรูปละกัน
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2558 |
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2558 20:49:23 น. |
|
2 comments
|
Counter : 604 Pageviews. |
|
|