ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ลิปสติก แบบ ทินต์ มีอันตรายไหม?

ลิปสติก หรือ ทินต์ หรือที่สาวไทยบางคนก็มักจะใช้ น้ำยาอุทัย เป็นตัวทำให้ปากสีแดงระเรื่อ ทาแก้มได้ด้วย จนปัจจุบันมีผลิตออกมามากมายหลายยี่ห้อ เป็นทั้งแบบน้ำ แบบเจล เลือกกันไม่หวาดไม่ไหว จนมีคนสงสัย ลิปสติก หรือ ทินต์ มีอันตรายไหมนะ?

ลิปสติก แบบ ทินต์ มีอันตรายไหม?

ลิปสติก แบบ ทินต์ มีอันตรายไหม?

มีข้อมูลของคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข สรุปเป็นคำตอบ ดังนี้

เครื่องสำอางที่กำลังเป็นที่นิยมของวัยรุ่นอย่างหนึ่งคือ ทินต์ (tint) หรือ ลิปทินต์ (lip tint) ใช้ทาเพื่อให้ปากมีสีอมชมพู ระเรื่อ หรือออกโทนส้มอ่อน ดูแล้วให้ความรู้สึกว่าเป็นคนสุขภาพดี มีเลือดฝาดดี มีความสวยเป็นธรรมชาติ จึงมีผู้ผลิตออกมาจำหน่ายหลากหลายยี่ห้อ วางขายตั้งแต่ห้างร้านราคาแพงลงไปถึงตามตลาดนัดราคาถูก

อย่างไรก็ตาม การใช้ทินต์แตกต่างจากลิปสติกทั่วไป ซึ่งทาที่ริมฝีปาก แต่การใช้ทินต์น่าเป็นห่วงมาก เพราะมีโอกาสที่ผู้ใช้จะกลืนกินสีที่เป็นส่วนผสมในเจลทินต์เข้าไปในร่างกายง่ายกว่า เนื่องจากใช้ทินต์ป้ายเข้าไปในริมฝีปากด้านในทั้งบนและล่าง ซึ่งเป็นเยื่อบุที่บอบบาง หากเป็นสีที่ไม่ใช่สีที่ใช้ผสมอาหาร เป็นสีต้องห้ามอันตราย หรือสีไม่ได้มาตรฐาน สารที่อยู่ในสีก็จะซึมเข้าไปตามเยื่อบุปาก และถูกกลืนกินเข้าไปในร่างกายได้ง่าย ทำให้มีความเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง ซึ่งจากผลทดสอบทางห้องปฏิบัติการพบว่าก่อมะเร็งในสัตว์ทดลองได้ การเลือกใช้จึงต้องพิถีพิถันในเรื่องคุณภาพเป็นพิเศษ


ทั้งนี้ จากที่ อย.ได้ตรวจสอบเครื่องสำอางประเภทลิปสติก โดยเน้นในแหล่งชุมชนที่มีการจำหน่ายสินค้าราคาถูก และในจังหวัดที่ติดเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน 693 ตัวอย่าง พบสีห้ามใช้ 164 ตัวอย่าง โดยลิปสติกที่ฉลากไม่ครบถ้วน หรือเป็นภาษาต่างประเทศ พบสีห้ามใช้ถึงร้อยละ 39 ซึ่งมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2535 ดังนั้น วัยรุ่นที่คิดจะใช้เครื่องสำอางจึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ มีความปลอดภัย โดยดูจากบรรจุภัณฑ์ที่สะอาด ปิดผนึกแน่นหนา ที่สำคัญต้องมีฉลากระบุส่วนผสมสำคัญ แหล่งผลิต ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ข้อแนะนำการใช้อย่างชัดเจน เครื่องสำอางที่แบ่งบรรจุไม่มีฉลากไม่ควรซื้อมาใช้อย่างเด็ดขาด

ลิปสติก แบบ ทินต์ มีอันตรายไหม?

เลือกใช้ของแท้ จะดีที่สุด ทินต์ Etude ของแท้ มีรายละเอียดชัดเจน

ยังมีข้อมูลจาก นพ.จิโรจ สินธวานนท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ว่า หากลิปสติกมีส่วนผสมของสารต้องห้าม เช่น นิกเกิล โลหะ หรือสารตะกั่ว ซึ่งเป็นสีที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม จะก่อให้เกิดอาการระคายเคืองอย่างรุนแรง เกิดพิษรุนแรง และพิษดูดซึมเข้าระบบทางเดินอาหาร ทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามัว หรือทำให้ริมฝีปากปวดแสบปวดร้อน คัน เห่อแดง บวม หรือลอกเป็นขุย และแม้จะเป็นลิปสติกที่ได้มาตรฐาน แต่การใช้ทาบนริมฝีปากซึ่งเป็นเนื้อเยื่ออ่อน วันละหลายครั้ง และสัมผัสริมฝีปากเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดการแพ้ได้ง่ายกว่าผิวหนังบริเวณอื่น โดยสาเหตุมาจากน้ำหอมที่เป็นส่วนผสม หรืออาจมีสารบางชนิดกระตุ้นให้เกิดการแพ้

นอกจากนี้ สีในลิปสติกบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับแสงแดด ทำให้เกิดผื่นผิวหนังอักเสบ ส่วนลิปสติกที่มีไขมันและน้ำมันน้อยอาจทำให้ริมฝีปากแห้งแตก ทำให้แพ้ง่าย โดยระยะในการแพ้จะอยู่ในช่วง 7-10 วัน ที่ผ่านมาพบว่าสีลิปสติกที่ทำให้ผู้ใช้แพ้มากที่สุด ได้แก่กลุ่มที่ให้สีสด คือ สีส้ม ชมพู และแดง แต่การแพ้นั้นไม่ได้เกิดทุกคน

ปกติวัยรุ่นมักจะมีริมฝีปากเป็นสีที่เป็นธรรมชาติสวยอยู่แล้ว เพราะเป็นวัยที่มีสุขภาพดี การดูแลความสะอาดริมฝีปากและทาลิปมันหรือลิปกลอส เพื่อให้ความชุ่มชื้นจึงเพียงพอแล้ว และหากมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะยิ่งช่วยให้ระบบการสูบฉีดเลือดในร่างกายดี ทำให้ปากและแก้มเป็นสีชมพูตามธรรมชาติยิ่งขึ้น ทั้งควรเลือกกินอาหารที่มีสารอาหารและวิตามินครบถ้วน ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ปากชุ่มชื้น หากต้องการจะใช้เครื่องสำอางขอให้เลือกเครื่องสำอางที่มีคุณภาพเชื่อถือได้ มีการรับรองมาตรฐานถูกต้อง และควรสังเกตอาการแพ้ด้วย เพราะมีโอกาสเกิดขึ้นได้

รู้ไปโม้ด โดย...น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com นสพ.ข่าวสด

การทาลิปสติกแบบทินต์ให้สวย



//webboard.yenta4.com/topic/566613




Create Date : 04 มกราคม 2558
Last Update : 4 มกราคม 2558 21:06:52 น. 0 comments
Counter : 977 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

thainewcar
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add thainewcar's blog to your web]