• TRIP

Pattaya Trip 14 - 16 March 2009  เที่ยวพัทยาเที่ยวนี้ ไปพักที่ The Zign Hotel โรงแรมใหม่ห้องพักสวยสะอาดสะอ้านน่าอยู่ ประทับใจ เวลาไปเที่ยวขอ 3 อย่างคับ ที่พักสะอาดน่าอยู่  อาหารอร่อยมีให้เลือกทานเยอะ   และมีที่เที่ยวให้สนุก ก็พอแล้วคับ มาคราวนี้ก็ได้ครบ 3 อย่างเลยคับ มีโปรแกรมเที่ยวเต็มเหยียดเหมือนเคย  ติดตามความสนุกกันได้เลย น้องมิวจะร่ายยาวแล้วคับ เรามีคุณตา คุณยาย มาม๊า และน้องมิวเอง ปาป๊าติดงานเลยไม่ได้ไปด้วย เราแวะเที่ยวสวนเสือศรีราชาเป็นที่แรก คุณตาเอารถเข็นน้องมิวไปเป็นเครื่องทุ่นแรงด้วยเพราะต้องเดินกันเยอะ ออกกำลังกายกันซะเหงื่อหยด ที่นี่มีสัตว์เยอะ มีเสือโคร่ง จรเข้ ลิง นกกระจอกเทศ อูฐ ช้าง หมู นก และอีกเยอะแยะเลยคับ มีการแสดงโชว์ความสามารถสัตว์หลายอย่าง น้องมิวชอบดูหมูวิ่งแข่งกันคับ แปลกและสนุกดี  อันที่จริงน้องมิวว่าที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียวก็สนุกมากเหมือนกันนะคับ คราวก่อนไปเที่ยวกันตอนน้ามาร์คกลับมาเมืองไทย แล้วไปเที่ยวกันสนุกมากเลย มิวคิดถึงน้ามาร์คนะคับ      เที่ยวกันจนถึงบ่ายแก่ๆ   ได้เวลาเข้าเช็คอินโรงแรมละคับ น้องมิวชอบห้องพักมาก แอร์เย็นเฉียบ สบายตัว สะอาด มีที่ให้เดินเล่นสบายในห้อง มีเตียงใหญ่ 1 เตียง และเตียงเล็กอีก 1 เตียง น้องมิวก๊อเลยนอนตรงกลางระหว่างมาม๊า กับคุณยายบนเตียงใหญ่ แล้วให้คุณตานอนเตียงเล็กคนเดียวสบายเลย ขืนให้คุณตานอนกับน้องมิว มิวคงได้จิ้มตาคุณตาทั้งคืน ให้ตื่นมาเล่นกันน้องมิวแน่เลย  จัดของเข้าที่แล้ว ก็ลงไปนั่งเล่น และถ่ายรูปสวยๆที่สระว่ายน้ำกัน น้องมิวหาว และเกือบงีบซะที่สระว่ายน้ำ เพราะมีลมทะเลเย็นๆพัดตลอดเวลา  พอตกเย็นพวกเราก็ไปทานอาหารเย็นกันที่ร้านเจ้าเก่า ร้านศรีนวลซีฟู้ด ที่บ้านอำเภอ ไปทางหาดจอมเทียน มาทางนี้ทีไรเราต้องแวะทุกทีคับ มีอาหารทะเลสดๆ อร่อย ทานทุกครั้ง         ขากลับโรงแรมว่าจะแวะทานไอติมสเวนเซ่น  ของโปรดน้องมิวและคุณยาย แต่ปรากฎว่าทุกคนอิ่มเกินอัตรา ก็เลยต้องเก็บไว้ก่อนคับ  เช้าวันอาทิตย์มีโปรแกรมไปเที่ยวชมธรรมชาติที่สวนนงนุชกัน     มีต้นไม้มากมายเขียวชะอุ่มไปทั้งสวน เน้นที่ตระกูลปาล์มทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ได้ไปดูการแสดงโชว์ศิลปวัฒนธรรมของไทย ทั้งฟ้อนรำของแต่ละภาคมีทั้งเซิ้งทางอีสาน ฟ้อนเล็บทางเหนือ รำมโนราห์ทางใต้ มีชกมวย มีการแสดงการต่อสู้บนหลังช้าง มีการแสดงพิธีแต่งงาน น่าดูทั้งนั้นเลยคับ เสร็จแล้วไปดูโชว์ช้าง มาม๊าเอาน้องมิวขึ้นไปนั่งบนหลังช้างด้วย น้องมิวอดเสียว...ไม่ได้  เขามีรถพ่วงพาเรานั่งเที่ยวไปรอบๆสวนด้วย    ดูความงาม และความสดชื่นของต้นไม้ในสวน ลำพังเดินไม่ไหวคับเพราะสวนกว้างมาก แล้วลุงคนขับก็จะจอดให้เราได้ลงไปเดินเที่ยวเป็นระยะๆ พอลุงจอดน้องมิวรีบยึดรถเป็นคนขับ บึ้น..บึ้น..เองเลย มีอยู่ที่หนึ่งจอดแล้วมีมดยักษ์สีแดง สีเขียว สีเหลืองเต็มเลย เห็นแล้วขนลุกเหมือนกัน ถ้าเป็นมดจริงน้องมิวคงวิ่งหนีไม่ทันแน่เลย จากนั้นก็ได้ถ่ายรูปสวยๆกับคุณตา และมาม๊าอีกหลายรูปคับ อีกที่หนึ่งที่เราแวะเทียวคือไร่องุ่น Silver Lake Vineyard ของคุณสุพรรษา เนื่องภิรมย์ (หนึ่งในบรรดาดาราคุณภาพรุ่นอาวุโสของวงการบันเทิงเมืองไทย รุ่นคุณยายจะคุ้นเคยดีคับ น้องมิวแอบฟังจากคุณยายมาเล่าต่อคับ)    ไร่นี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงายและโรแมนติคจังเลย เป็นไร่ใหญ่ริมถนนที่เข้าไปจากถนนสุขุมวิท อยู่ใกล้ๆกับสวนนงนุช ไร่นี้ติดกับทะเลสาบสวยกว้างใหญ่ เข้าใจว่าเป็นทะเลสาบธรรมชาติ มีต้นองุ่นจำนวนมาก มีองุ่นสด และน้ำองุ่นสดแช่เย็นไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย โชคดีที่แวะเข้าไปช่วงเย็นราวๆ 6 โมงเย็น   ซึ่งอากาศเริ่มเย็นลงแล้ว เห็นพระจันทร์ขึ้นรางๆ และทางไร่ได้เริ่มเปิดไฟสว่างตามต้นไม้ และตามเสาไฟ ทำให้ได้บรรยากาศที่สวยอีกแบบ ถ้าเป็นกลางวันแดดร้อนจัด  น่าจะเหนื่อยเหมือนกัน ดีใจคับที่ได้มาชื่นชมกับไร่องุนนี้ ก่อนกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมอีกคืนหนึ่ง เช้าวันจันทร์ พวกเรารีบขับรถกลับกรุงเทพแต่เช้า เพราะคุณตาและมาม๊าต้องกลับไปทำงานตามปกติคับ บ้าย..บาย   สุดยอดอีกแล้วคับ แล้วเจอกันอีกในครั้งต่อไปคับ..........น้องมิวเองคับ Free TextEditor   Create Date : 27 กรกฎาคม 2552     Last Update : 3 สิงหาคม 2552 16:36:32 น. Counter : 549 Pageviews.   3 comment Share Tweet

Rayong Trip 27 - 28 June, 2009   ได้ฤกษ์เที่ยวกันอีกแล้ว คราวนี้ไประยองกัน   ไปพักที่ระยองรีสอร์ท ที่ต้องขึ้นภูเขา แล้วมองลงมาจะเห็นความสวยงามของหาดทรายบริเวณรีสอร์ทได้อย่างเต็มอิ่ม ไปกี่ครั้งก็ยังไม่เบื่อ ตั้งใจจะไปเที่ยวสวนผลไม้กันอีก หลังจากติดอกติดใจกับการไปเที่ยวสวนผลไม้ที่จันทบุรี เมื่อเดือนที่แล้ว แวะเข้าไปที่สวนยายดา (รู้จักจากการทำ research สถานที่น่าเที่ยวจาก google) ปรากฎว่าผิดหวังเล็กๆ    เนื่องจากผลไม้บนต้นวายหมดแล้ว ไม่สามารถเดินท่องสวน เก็บทานจากต้นได้ แต่ก็มีการเก็บมาจากสวนเครือญาติเตรียมรับนักท่องเที่ยวให้ไปนั่งทาน buffet ผลไม้ได้ เราตัดสินใจซื้อลองกองหวานอร่อยติดไม้ติดมือประมาณ 10 กิโลได้ มาทานกันที่พัก ก็สนุกและอิ่มอร่อยตามที่ตั้งใจทุกประการ โดยเฉพาะน้องมิว   จะชอบลองกองเอามั่กๆๆ คุณตาต้องคอยแกะเอาเม็ดเล็กๆใส่ถ้วยเตรียมไว้ให้ตลอด หยิบทานเองจนแกะไม่ทันเลยเชียว     ที่สวนยายดา ปาป๊าพาน้องมิวไปดู ..ฟักข้าว.. สีสวยสด อยู่ในตระกูลแตงกวาและมะระ ผลอ่อนเป็นสีเขียว ผลแก่เป็นสีออกส้มสดใส มีสรรพคุณทางยานานาโรค ก็เลยถ่ายรูปมาฝากเล่นคับ   เดินทางเข้าเช็คอินที่ระยองรีสอร์ทแล้วคับ พวกเราชอบที่นี่กันมาก โดยเฉพาะลุงแมนของมิว (ลุงแมนยังไม่แก่นะคับ เพิยงแต่เป็นพีชายคนเดียวของมาม๊า ก็เลยต้องเป็นลุงมิวคับ) ลุงแมนชอบบรรยากาศเงียบสงบของที่นี่มาก มีลมทะเลพัดเอื่อยๆ นั่งๆนอนๆอ่านหนังสือ งีบบ้าง ตื่นบ้าง โรแมนติคจังเลย มิวว่าถ้ามีใครซักคนอยู่ข้างๆลุงแมน ก็คงจะดีนะคับ   พวกเราเดินบนสะพานที่ทอดยาวลงไปในทะเล ที่โรงแรมได้ทำไว้ให้สำหรับเดินไปรับลมทะเล ตอนเย็นๆเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพราะแสงแดดจะอ่อนลงเยอะ  ปรากฎว่ามีปลาเยอะมาก แหวกว่ายกันเป็นฝูงๆ พวกเราเอาขนมปังฟาร์มเฮาส์หอมกรุ่นๆจากเตาอบไปโยนให้ปลาทาน แต่ปรากฎว่ามันไม่ทาน สงสัยจะไม่รู้จักขนมปังคับ ไม่เหมือนปลาที่อื่น เมื่อมีอาหารมาให้จะกรูกันเข้ามาแย่งกันตุ๊บๆตั๊บๆ แป๊บเดียวก็เกลี้ยง  พวกเราอดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปเก็บบรรยากาศดีๆไว้ดูเล่น ขากลับจากสะพาน เดินขึ้นเนินไปที่จอดรถ ต้องมีการเข็นครกขึ้นดอย คุณตาอยู่หน้าสุด ตามด้วยมาม๊า และลุงแมนเป็นฮีโร่เข็นคนแก่ และคุณแม่ลูกอ่อนขึ้นภูเขา เสียดายน้องมิวยังตัวเล็กอยู่ ไม่งั้นลุงแมนก็ลุงแมนเถอะคับ ชิว..ชิว..  จากนั้นเตรียมไปทานอาหารเย็นกันที่ร้านแหลมเจริญซีฟูดส์     อร่อยมาก บรรยากาศดี แต่ทางไปที่ร้านหายากวกวนหน่อย แต่ก็คุ้มค่าเพราะอร่อย ทานข้าวเย็นเสร็จ มาแวะจอดรถที่ตลาดนัดกลางคืนที่ในตัวเมือง ลุงแมนพามิวเติมพลังอีกด้วยโรตีกรอบอร่อย ประจำไปที่ไหนต้องมีโรตีล้างปากคับ เสร็จแล้วก็กลับที่พัก พักผ่อนซะให้คุ้มเลย วันอาทิตย์เช้า เติมพลังกันด้วย ABF ที่โรงแรมจัดให้ อิ่มอร่อยคับ เตรียมตัวกันไปดูปลา (ของโปรดของน้องมิว ชอบดูนะคับ อย่านึกแต่เรื่องหม่ำคับ) ไปที่ศูนย์แสดงพันธ์สัตว์น้ำระยอง (Rayong Aquarium) เป็นของราชการมังคับค่าเข้าดูก็เลยย่อมเยาว์ คนละ 30 บาท คับ (น้องมิวฟรีอีกแล้ว) มีสัตว์น้ำมากมายหลายชนิด ปลาน้อยใหญ่หลายพันธ์สีสวยงาม มีเต่าทะเลตัวใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มหลายตัว แหวกว่ายไปมา มีปลาดาวให้จับได้ด้วย มีม้าน้ำ มีหอย มีปู และอีกเยอะแยะ น้องมิวตื่นเต้น และชอบดูจริงๆคับ ชอบขนาดที่ฝันถึง และอดทำมือทำท่าเหมือนปลาว่ายน้ำไปมาได้อย่างไม่เคยเบื่อเลยคับ ปิดท้ายทริปนี้ด้วยรูปน้องมิวกับปลาที่กำลังแหวกว่ายไปมาอย่างสนุกสนานนะคับ เสร็จจากที่นี่เราไปทานข้าวกลางวันกันที่ร้านแม่นกแก้วซีฟูดส์ ที่หาดบ้านเพ     ทานปูม้านึ่ง ปลาเก๋าสามรส ต้มยำกุ้ง ไข่เจียวปู ร้านนี้คุณยาย คุณตาเคยมาทานตั้งแต่สมัยยังจีบกันแน่ะคับ จึงไม่ต้องอวดว่าอร่อยแค่ไหนนะคับ ทานกลางวันเสร็จแวะไปรับลุงแมนที่ระยองรีสอร์ท ลุงแมนขอรออยู่ที่นั่น เพราะชอบบรรยากาศเหลือเกิน น้องมิวก็เลยสั่งข้าวผัดปูและกุ้งไปฝากลุงแมนเป็นอาหารกลางวัน เสร็จแล้วพวกเราก็เดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ บ้าย..บาย.. พบกันใหม่ทริปต่อไปคับ รับรองไม่นานเกินรอ....   Story by Grandma & Music   Create Date : 24 กรกฎาคม 2552     Last Update : 31 กรกฎาคม 2552 11:35:51 น. Counter : 631 Pageviews.   1 comment Share Tweet

Kanchanaburi Trip 8-10 May 2009 อั้นไม่ได้เที่ยวมาได้ 1 เดือนตลอดเมษายน (ช่วงสงกรานต์) ได้โอกาสนัดทุกคนได้ช่วง 8-10 พฤษภาคม 2009 จึงเตรียมลุยเที่ยวครั้งใหม่ คราวนี้เป้าหมายคือ จังหวัดกาญจนบุรี มีคุณตา คุณยาย ป่าป๊าเอ มาม๊ามิ้งค์ และน้องมิวสิค (แฟนพันธ์แท้ท่องเที่ยว ) รอลุงแมน กับน้ามาร์คไม่ไหวคับ เอาไว้ครบหน้าอีกเมื่อไหร่น้องมิวยินดีแจมตลอดคับ Trip นี้จองที่พักไปที่ "คำแสดริเวอร์แคว รีสอร์ทแอนด์สปา" เป็นรีสอร์ทสวยริมแม่น้ำแควน้อย เขาคุยว่าได้รับรางวัลระดับนานาชาติมาเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้าน Green Environment  เราจึงตื่นเต้นกันพอสมควรที่จะได้ไปพักผ่อนกับความเป็นธรรมชาติ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพไม่ไกลนัก แต่เผอิญเป็น long weekend รถก็เลยติดเป็นระยะ เพราะคนออกเที่ยวต่างจังหวัดกันเยอะ เราใช้เส้นทางสายพุทธมณฑล ผ่านนครไชยศรี นครปฐม กาญจนบุรี เมื่อเดินทางไปถึงคำแสด ก็ไม่ผิดหวังกับต้นไม้ใหญ่น้อยมากมาย แสนจะร่มรื่น เขียวขจี มีบ้านพักกระจายเต็มเนื้อที่ ไม่แออัด มีสายน้ำแควน้อยไหลผ่าน ทำให้สดชื่นจริงๆ ก็เลยทักทายแฟนๆด้วยรูปน่ารักของน้องมิว กะมาม๊าก่อนละกันนะคับ เช็คอินเสร็จแล้ว ออกเดินทางไปน้ำตกเอราวัณเลยคับ ห่างจากที่พักประมาณ 40 กิโลกรัม..เอ้ย..กิโลเมตรคับ   นักท่องเที่ยวเยอะ น้ำตกมีน้อยไปนิดในหน้าแล้ง แต่ก็ยังสนุกและเป็นเป้าหมายที่ทุกคนอยากไป เราเดินขึ้นน้ำตกกันถึงประมาณชั้นที่ 3 น้องมิวอาศัยขี่คอมั่ง พ่วงมั่งไปกับคุณตา และปาป๊าสลับกันไป   ขืนน้องมิวเดินเอง อุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณก็จะปิดก่อนแน่นอน เพราะเราไปถึงก็บ่ายแก่แล้ว น้องมิวชอบชมนกชมไม้ตลอดทาง ก็เลยทำผลงานการเดินทางได้น้อยไปหน่อยคับ น้องมิวไม่ค่อยกล้าเหยียบน้ำตกเท่าไหร่ แหยงๆ กล้าๆ กลัวๆ แต่ก็ชอบเสียงน้ำตกนะคับ ชอบปลาที่ว่ายวนเวียนอยู่ในน้ำตกตลอดทาง และตื่นเต้นอย่างมากกับฝูงลิงตัวน้อย ตัวใหญ่ที่ห้อยโหนไปมาอยู่บนต้นไม้ ธรรมชาติมีอะไรเยอะมากที่น้องมิวต้องค่อยๆเรียนรู้ และสะสมไว้หน่วยความจำเล็กๆของน้องมิว  เราอยู่จนถึงเวลาปิด ลุงเจ้าหน้าที่ต้องมาต้อนเรากลับที่พัก เสียดายยังขึ้นไม่ถึงชั้นบนสุดเลยคับ ..........มิวไปแอบก๊อปมาจากข้อมูลของอุทยานแห่งชาติเอราวัณจาก Website หนึ่ง เขียนบรรยายได้อย่างตื่นตาตื่นใจ เห็นว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนพ้องน้องพี่ทั้งหลาย ที่อาจยังไม่รู้รายละเอียดที่น่าสนใจนี้คับ  .............น้ำตกเอราวัณ แบ่งออกเป็นชั้นใหญ่ๆ ได้ 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามร่มรื่นไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ ทั้งเถาวัลย์พันเกี่ยวทอดตัวไปบนต้นไม้ใหญ่ กล้วยไม้ป่าหลายชนิดบนคาคบไม้ สายธารน้ำที่ไหลตกลดหลั่นลงมาบนโขดหินสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง เสียงสาดซ่า คลอเคล้าด้วยเสียงเพรียกของนกป่า ทำให้สภาพความเป็นธรรมชาติสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น นับเป็นบรรยากาศที่เรียกเอาความมีคุณค่าของป่าเขาลำเนาไพรซึมซับเข้าสู่อารมณ์ของผู้ใฝ่ความสันโดษ และรักธรรมชาติโดยแท้จริง ในชั้นที่ 7 อันเป็นชั้นบนสุดของน้ำตก เมื่อมีน้ำตกไหลบ่าจะมีรูปคล้ายหัวช้างเอราวัณ จนคนทั่วไปรู้จักและขนานนามว่า “น้ำตกเอราวัณ”   ออกจากน้ำตกเอราวัณ แวะเที่ยวเขื่อนศรีนครินทร์ และตั้งใจกันไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารเหนือเขื่อน    ที่มาม๊า และยายมิคช่วยกันทำ survey ก่อนออกเดินทางว่ามีร้านอร่อยและราคามิตรภาพตั้งอยู่เหนือเขื่อนขึ้นไป จำชื่อร้านไม่ได้ แย่จังยายเนี่ย..เฮ้อน้องมิวละเบื่อยายที่มีความจำสั้นจัง คราวหน้ามาเที่ยวต้องมารื้อฟื้นกันใหม่อีกนะ ขับขึ้นไปบนภูเขาเหนือเขื่อนประมาณ 10 กิโลกว่าๆได้ก็เจอร้านอาหาร มองลงมาด้านล่างเหมือนอ่าว มีการสร้างแพพักสำหรับคนที่ต้องการค้างคืนด้วย มีของเล่นให้น้องมิวได้ตื่นเต้นอีกแล้ว เป็นม้าโยก ต้องเล่นกับมาม๊า ปาป๊า และคุณตา ไม่งั้นน้องมิวตกกลิ้งแน่เลย มีต้นมะม่วงที่กำลังออกลูกขนาดกำลังสวยให้น้องมิวได้ขี่คอปาป๊าเอื้อมจับด้วย บรรยากาศโดยรอบๆเงียบสงบเป็นธรรมชาติอย่างมาก มีนักท่องเที่ยวทั้งฝรั่ง และคนไทย มาเที่ยวและพักค้างคืนกันที่นั่น พร้อมกับลงเล่นน้ำกันสนุกสนาน เราสั่งอาหารกันเต็มโต๊ะ อร่อย อิ่มหนำสำราญท้องกางจนจุใจ จนพอใจแล้วจึงขับรถกลับคำแสดรีสอร์ท เพื่อพักผ่อนเอาแรงไว้สำหรับเที่ยวต่อวันรุ่งขึ้นต่อไป    เช้าวันเสาร์เดินเที่ยวในรีสอร์ท น้องมิวเห็นตุ๊กตาดินปั้นยืนเข้าแถวกันอยู่         ก็เลยไปยืนเป็นเพื่อนเทียบความหล่อ แล้วก็เดินแวะไปเที่ยวริมน้ำแควน้อย น้ำไหลเชี่ยวน่าดู น้องมิวกล้าๆกลัวๆแถวริมตลิ่งนั่นหละคับ ขยับตัวทีไร ทุกคนต้องขยับตัวตาม น้องมิวเด็กดีคับ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคับ  ริมตลิ่งมีเก้าอี้นอนเอนหลังสบายๆไว้ให้งีบเล่นด้วยนะคับ มิวแอบเห็นคุณตา กะปาป๊าจองกันคนละตัวเลย บริเวณรีสอร์ทมีการปลูกกล้วยไม้ตระกูลช้างป่าสวยๆหลายต้น ตามต้นไม้ใหญ่ ช่วงนั้นกำลังออกดอกสวยมากเลยคับ น้องมิวยังไม่เคยเห็นกล้วยไม้ตระกูลช้างป่าที่บ้านคุณตาออกดอกซะที สงสัยคุณตาลืมใส่ปุ๋ยโด๊ปแน่เลย   สายๆหน่อยล้อเริ่มหมุนต่อ   เราไปเที่ยวกองถ่ายภาพยนต์...ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ ในบริเวณกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จังหวัดกาญจนบุรี ห่างจากที่พักประมาณ 20 กิโลเมตร ก่อสร้างด้วยงบประมาณกว่า 700 ล้านบาท โดยมีการเก็บค่าเข้าชมคนละ 100 บาท เด็ก 50 บาท แต่น้องมิวฟรีอีกแล้วคับ กลางวันแดดเปรี้ยงเลย  ดีที่คุณยายเอาร่มไปด้วย  ก็เลยพอเดินไหว มีบางช่วงเขามีรถพ่วงให้เราได้นั่งสบายๆเป็นระยะๆ น้องมิวง่วงเป็นพักๆคับ ดีที่มีรถเข็นส่วนตัวให้น้องมิวได้งีบบ้าง ในบริเวณกองถ่ายมีสถานที่น่าสนใจที่ใช้เป็นฉากหลายฉากเช่น บริเวณวัดมหาเถรคันฉ่อง กำแพงเมืองหงสาวดี สีหสาสนบัลลังก์ คุกใต้ดิน เป็นต้น สนุกคับ ตอนหลังเริ่มมีเมฆฝน    ทำให้อากาศเริ่มเย็นลงบ้างคับ    มื้อกลางวันเราแวะไปทานก๋วยเตี๋ยวผัดไทยเจ้าอร่อยขึ้นชื่อของเมืองกาญจนบุรี ทุกคนบอกอร่อยสมคำร่ำลือนะคับ แต่น้องมิวทานข้าวผัดนะคับ ยังทานผัดไทยไม่เป็น สุดท้ายของวัน พวกเราไปเที่ยว "ซาฟารีปาร์ค" กัน เอารถของเราจอดไว้แล้วขึ้นไปบนรถที่ทางปาร์คจัดเตรียมไว้บริการ บนรถมีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นด้วย ท่าทางจะมาจากจีน ใครต้องการเอารถตัวเองขับเข้าไปก็ได้ไม่ว่ากัน แต่ไม่สนุกเท่ากับนั่งรถของทางปาร์คนะจะบอกให้ อยากรู้ว่าทำไม ลองติดตามต่อไปคับ   รถคันใหญ่ค่อยๆขับผ่านเข้าไปในป่าซาฟารี มีกวางตัวเล็ก ตัวใหญ่เดินหาอาหารจากนักท่องเที่ยว มีนกหลายประเภท บ้างก็บิน บ้างก็เดิน บ้างก็กระโดดไปๆมาๆละลานตาไปหมด มีอูฐ ควายป่า สิงห์โต หมี เสือฯลฯ ให้เห็นเป็นระยะๆ แยกอยู่ตามแดนต่างๆ ช่วงตื่นเต้นที่สุดเป็นช่วงที่รถขับผ่านฝูงยีราฟคอยาวซึ่งเชื่องมาก ขนาดที่เอาคอยาวๆยื่นเข้ามาในรถเพื่อหาอาหารจากกาละมังในมือนักท่องเที่ยวเลยทีเดียว ไม่ได้เข้ามาเพียงตัวเดียวเหมือนฝึกโชว์นะคับ แต่เบียดกันเข้ามาทุกหน้าต่างที่เผลอเปิดเอาไว้ ตั้ง 4-5 ตัวแน่ะ ทำเอารถแคบไปถนัดตาเลย จนคนต้องหาที่หลบมุดใต้ที่นั่ง เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดกันทั่วรถเลย หากใครขับรถเข้ามาเองจะไม่เจอประสพการณ์นี้ เพราะคงไม่เปิดหน้าต่างให้เข้ามาเลอะเทอะในรถแน่เลย จากนั้นเราก็ได้ไปดูโชว์ช้างกันเป็นที่ครื้นเครง ก่อนจะกลับเข้าที่พักต่อไป วันนี้สนุกมากคับ น้องมิวชอบดูสัตว์ มันน่ารักจิงๆ    คุณตากับคุณยายกลัวน้องมิวโดนฝน อุตส่าห์เอาผ้าเช็ดหน้าของคุณตาโพกหัวให้น้องมิว แต่ไม่ยักกะเป็นห่วงข้างล่างของน้องมิว ทำเอาโป๊เลย น้องมิวเขินเป็นนะคับ    ต้องขึ้นป้าย "ห้ามผู้มีอายุเกิน 1 ขวบ 5 เดือนชมภาพนี้" หน่อยนะคับ ภาพสุดท้ายของการท่องเที่ยวนี้ เป็นภาพบนร้านอาหารบนแพในแม่น้ำแคว    ที่แวะทานอาหารกลางวันในวันอาทิตย์ก่อนกลับบ้าน น้องมิวกำลังดูดน้ำแตงโมปั่นที่แสนอร่อย และเย็นชื่นใจ บรรยากาศบนแพดีมากคับ ลมพัดเย็นสบาย อาหารอร่อย เห็นภาพสะพานข้ามแม่น้ำแควมีคนเดินเที่ยวเยอะเลย เราทานข้าวอิ่มแล้ว ก็เริ่มเดินทางกลับ ได้แวะจอดซื้อขนมของฝากติดไม้ติดมือด้วย น้องมิวเที่ยวเผื่ออากง องม่า อาโก ลุงแมน น้ามาร์ค และทุกๆคนที่เชียงใหม่และกรุงเทพด้วยนะคับ    Story by Grandma & Music Kab   Create Date : 16 กรกฎาคม 2552     Last Update : 17 กรกฎาคม 2552 18:27:57 น. Counter : 932 Pageviews.   2 comment Share Tweet

Pai Trip @ New Year Eve 2009 ปีใหม่นี้ (31 ธค.2551 - 4 มค.2552) น้องมิวสิค  ไปฉลองปีใหม่ไกลถึงปาย ไปสนุกกับน้าๆ ที่เชียงใหม่ สนุกที่ซู้ด..... เริ่มออกเดินทางโดยรถด่วนนครพิงค์ นั่งกับม่าม้ามิ้งค์ ดูวิวสวยสองข้างทาง เกือบถึงเชียงใหม่แล้ว มิวรับอาสาเล่า และจ้อให้ฟังตลอดการท่องเที่ยวนะคับ ฉลองคืนส่งท้ายปีเก่า 2551 และต้อนรับปีใหม่ 2552  Count Down ที่บ้านน้ำตกแม่สา ของคุณตาทวดเจริญ และคุณยายทวดอำไพ ทานอาหารเย็นอร่อย  ร้องเพลงคาราโอเกะกันด้วยเพลงร่วมสมัย ปี 1960 ..สุเทพ ..ชรินทร์ ..ทูล ..สุนทราภรณ์ เป็นต้น ด้วยเสียงน้ำเซาะทรายของตาหนุ่ย ตาเล็ก ยายต้อม ยายแต้ม คุณยายทวดอำไพ ยายมิค เป็นต้น ส่วนรุ่นกลางร่วมสมัย ก็มีทั้งแม็ค มนต์ ไม้ค์ เป็นต้น มีเสียงใสๆจากนักร้องกิติมศักดิ์ทั้งหลาย ท่ามกลางบรรยากาศเสียงน้ำตกแม่สายามดึก เสียงจิ้งหรีดเรไรรอบด้าน ทำให้คืน Count Down ของพวกเราเต็มไปด้วยความสุขสนุกสนาน เมื่อถึงเที่ยงคืนก็มีการปล่อยโคมลอยกัน พร้อมกับรับพรปีใหม่จากคุณตาทวด และคุณยายทวด ให้มีแต่ความสุขอายุมั่นขวัญยืน ประสพพบพานแต่สิ่งดีงามในชีวิตตลอดไป เป็นปลื้ม..กันทั่วหน้า ปีหน้าเจอกันใหม่คับ ถ่ายรูปรวมกันมีคุณตาทวด คุณยายทวด เป็นมิ่ง เป็นขวัญ ให้กับลูก หลาน เหลน ทุกปีตลอดไป ที่เหลือเป็นภาพเก็บตกจาก Pai Trip คับ ไผเป็นไผ ดูเอาเองนะคับ รูปแรกเป็นบรรยากาศที่ครัวป่าติ้วของน้าโต้ง และคุณยายไพ พวกเราแวะเติมพลังอาหารเช้าก่อนออกเดินทางไปปาย ทานกันเอร็ดอร่อยทุกจาน สาวๆ หนุ่ม เป็นทั้งแม่ครัว คนปรุง คนเสริฟ ทานกันจนท้องกาง อร่อยจริงๆ  ล้อหมุนแล้วจุดหมายปลายทางอยู่ที่ปาย  มิวกับม่าม้า ป่าป้า และน้าไม้ค์  มาอาสานั่งเป็นเพื่อนในรถยายต้อม คอยปลุกไม่ให้ยายต้อมหลับนกเวลาขับ  นอกนั้นก็มีอีก 3 คันคือ รถตาเล็ก ยายแต้ม น้ามิ้นท์ น้าแม็ค  รถตาหนุ่ย  ยายป๊อก น้าเหมี่ยว น้ามนต์  และ รถคันสุดท้ายมีตายิ้ม ลุงแมน ยายมิค ระหว่างทางแวะเที่ยวที่บ่อน้ำพุร้อนโป่งเดือด ที่มองเห็นไอร้อนอยู่ข้างหลัง อากาศทั่วไปเย็น แต่มีไอร้อนผุดขึ้นมา ทำให้ความรู้สึกอบอุ่นขึ้นเยอะ มีทั้งหนุ่มวัยละอ่อน หนุ่มวัยกลาง และหนุ่มและวัยดึก ตลอดจนสองสาวน้อย เกือบครบแก๊งค์ JJY หลายคนช่วยให้โป่งเดือดมีชีวิตชีวาจัง เดินทางไปถึงที่พักก็บ่ายแก่เป็นบ้านพักทรงไทย ชั้นเดียว มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ สะอาดสะอ้าน  เจ้าของน่ารักเป็นกันเองดีคับ    ชมรมคนหนุ่มหลายวัยของ JJY รวมตัวกันที่ท้องนาที่เพิ่งเก็บเกี่ยวข้าว ยังมีซังข้าวหลงเหลือให้เห็นอยู่ทั่วไป ของอย่างนี้หาให้ดูไม่ได้ในเมืองหลวง หรือแม้แต่ในเชียงใหม่เองก็เถอะ มิวยิ่งไม่เคยเห็นเลย ออกจากท้องม่าม้า ก็ถูกจับอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมในออฟฟิศตายิ้ม เพิ่งจะมาเห็นนาข้าวที่ปลูกข้าวให้มิวหม่ำนี่หละคับ มิวว่าน่าจะมีฝนตกลงมาให้ชุ่มหน่อย    ซังข้าวแห้งจนเหลืองเลยสงสารซังข้าวท่าจะหิวน้ำเหมือนกัน ในยามค่ำคืนที่ถนนคนเดินในอำเภอปาย  เต็มไปด้วยแม่ค้า พ่อค้าขายของฝากน่ารักๆ ของกินอร่อยๆ  เสียงดนตรีเพราะๆ นักท่องเที่ยวเดินกันขวักไขว่ไปให้ทั่ว ที่สุดฮิตก็คือการถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกับแบ็คกราวนด์ไหนก็ได้ที่มีคำว่า ปาย  น้องมิว บ้าย บาย ขอนอนก่อนนะค้าบ..ทั้งหนาว และดึกแล้ว พรุ่งนี้ว่ากันใหม่ค้าบ..มิวไม่ยอมแพ้หรอก เป็นไงเป็นกัน  เช้าแล้วน้องมิวตื่นก่อนใคร รีบเอานิ้วมือแยงตาม่าม้า และป่าป้าแบบเบาๆ ให้ตื่นแต่เช้า (วิธีการปลุกของมิวเอง ใครจะเอาไปใช้ก็ได้ แต่อย่าแรงนะคับ มิวไม่หวงค้าบ..) รีบตื่นเร็ว แล้วพามิวไปเก็บภาพปายไว้เป็นที่ระลึกกัน เมื่อคืนง่วงจัดเลยไม่ได้ถ่ายรูปหล่อ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้มาอีก คงเป็นหนุ่มกว่าจะได้มาอีกที ถึงตอนนั้นมิวก็จะพาสาวกิ๊กมาเที่ยว อย่าว่ากันนะคับ แวะถ่ายรูปกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว เอ้ย.. แม่น้ำปายก่อนนะคับ เป็นจุดท้อปฮิตที่ทุกคนมาเก็บภาพกัน สะพานนี้รถวิ่งข้ามไม่ได้ ได้เพียงให้คนเดินเล่นคับ เขาเล่ากันว่าโครงเหล็กสะพานนี้ยกมาจากโครงเหล็กของสะพานนวรัฐที่เชียงใหม่ทั้งดุ้นเลยคับ กลายเป็นประวัติศาสตร์สำหรับคนที่ไม่เคยเห็นสะพานเก่าแก่นี้ที่เชียงใหม่ ก็จะมาเห็นที่ปายนี่แหละคับ ประทับใจคับ    เรากำลังจะกลับเชียงใหม่กันแล้วคับ ประทับใจกับการเที่ยวที่ปายมาก สนุกที่สุดก็ตอนขับรถผ่านเขาสูงนี่หละ เขาโม้ว่า 1095 โค้งไป และ 1095 โค้งกลับเชียวคับ ขี้โม้รึเปล่าคับ จิงๆมิวว่ามี 2 โค้งเอง มีแต่โค้งซ้าย กับโค้งขวาเท่านั้นแหละ หรือใครว่าไม่จิงคับ ใครๆที่มาเที่ยวปายโดยไม่ขับรถ แต่บินมา มิวว่าเสียโอกาสที่จะเห็นความสวยงามของธรรมชาติเยอะเลย ตลอดทางมีแต่ต้นไม้สูงใหญ่เขียวชอุ่ม ขึ้นหนาแน่น ป่าของเรายังสมบูรณ์อยู่มากเลยนะคับ พวกเราแวะเก็บภาพสวยข้างทางเอาไว้ เราแวะลานกว้างที่เคยเป็นสถานที่ถ่ายหนังเรื่อง รักจัง ด้วย   รูปปิดท้ายเป็นรูปหลายบรรยากาศที่น้าเล็กตัดต่อมาให้ ตั้งแต่ภาพการซื้อ ขายส้มสายน้ำผึ้งเตรียมไปเป็นสะเบียงตลอดการเดินทาง เป็นทั้งคนซื้อคนขายนั่นหละ รูปที่สองเป็นมื้อกลางวันที่บ่อน้ำพุร้อนที่โป่งเดือด   ปูเสื่อกันนอนกลางดิน กินกลางทรายเลยหละ อีกสองรูปสุดบรรยายน้องมิวกับยายมิค เหมือนจะอยากบอกยายว่าอยู่กับยายนุ่มนิ่มจัง Story by Grandma Micky & Music   Create Date : 06 กรกฎาคม 2552     Last Update : 16 กรกฎาคม 2552 18:26:36 น. Counter : 842 Pageviews.   2 comment Share Tweet

Chantaburi Trip on May 30 2009 Chantaburi Trip, เที่ยวสวนผลไม้กุลพัฒน์ สะพานศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน โอเอซิสซีเวิลด์  น้ำตกพลิ้ว วันนี้คุณตา คุณยาย ป่าป๊า มาม๊า พาน้องมิวสิค  ไปเที่ยวจันทบุรี ติดตามชมรูปได้เลยจ้า เริ่มออกเดินทางวันเสาร์ คุณตากับคุณยายมารับที่บ้านอาม่าตอนสิบโมง (ตาตื่นสาย นัดมิวตื่นตั้งแต่ตีห้าแน่ะ ) เดินทางประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงสามแยกแกลง หิวละแวะหม่ำก๋วยเตี๋ยวเกี๊ยวปลาสามย่านเจ้าดัง  พออิ่มละก็ไปต่อบุฟเฟ่ต์ผลไม้ที่สวนกุลพัฒน์ ที่นี่เค้าขึ้นชื่อเรื่องลองกองพันธุ์ตันหยงมัส (แห้ง) หวานมาก ดูจากรูปได้เลย น้องมิวได้เด็ดเองกะมือเลยนะ เด็ดให้ตา ยาย ป่าป๊า มาม๊า ทาน อร่อยมาก อิ่มนี้คนละ 60 บาท ของมิวทานฟรี  (รู้สึกจะหม่ำเยอะสุดด้วย) พออิ่มละก็ซื้อติดไม้ติดมือกลับมาฝากอาม่า อากง กะโกๆ แล้วเราก็ออกเดินทางไปเที่ยวชมสะพานศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนกันต่อ โอ้โฮ ที่นี่ทำไว้ดีมากเลย มิวได้ความรู้เยอะเลย เห็นปูตัวเล็กตัวน้อย ต้นโกงกาง แล้วก็ไม้ป่าชายเลนอีกหลานพันธุ์ ได้ยินเสียงดีดดังป๊อกๆ เห็นพี่ๆ แถวนั้นบอกว่าเป็นเสียงปูดีดก้าม เสียงดังชัดเลย สงสัยปูจะตัวใหญ่ วันนี้เหนื่อยละ พอแค่นี้ดีกว่า เก็บแรงไว้เที่ยวพรุ่งนี้มั่ง ขอนอนพักเอาแรงก่อนน้า เช้าวันอาทิตย์น้องมิวตื่นคนแรกเลย  เลยปลุกม่าม๊าและป่าป๊า (ด้วยวิธีจิ้มตา )  ให้พาไปเดินชายหาดกัน วันนี้ฟ้าโปร่งมากเลย ไม่มีเมฆ ถ่ายรูปออกมาสวยมากเลย เลยถ่ายรูปกันใหญ่ ชมรูปหล่อๆ ของผมได้เลยค้าบบ ที่นี่มีปูลม กะปลาตัวเล็กๆ  ให้น้องมิวดูเยอะแยะเลย หาดสวย น้ำใสมาก มิวตื่นเต้นใหญ่เลย แต่ไม่กล้าจับปูกลัวโดนหนีบมือ ถ่ายรูปเสร็จเราก็ไปทานอาหารเช้ากัน  อาหารเช้าที่โรงแรมอร่อยมากเลย มีของโปรดม่าม๊ากะยายด้วย (ขนมครก) พอทานอิ่มกันแล้ว ก็ออกเดินทางต่อไปดูปลาโลมาที่โอเอซิส ซีเวิลด์ น้องมิวชอบโลมาที่นี่มากเลย โดยเฉพาะพันธุ์หัวบาตร ชื่อเอก เสียดายม่าม๊ากะป่าป๊ามัวแต่ดูโชว์เลยไม่ได้ถ่ายรูปกลับมาอวดเพื่อนๆ เลย พอดูโชว์จบน้องมิวได้ท่าใหม่โชว์เลย ท่าปลาโลมาว่ายน้ำ โลมากระโดดลอดห่วงสูงๆ น่ารักสุดๆๆ  ที่โอเอซิสมีเปิดให้น้องๆ ไปว่ายน้ำกับปลาโลมาด้วย เสียดายน้องมิวยังว่ายน้ำไม่เป็น ตาเลยสัญญาว่าคราวหน้าจะพามาว่ายกะโลมาใหม่คับ ต่อมาก็ไปให้อาหารปลาพลวงที่น้ำตกพลิ้ว โอ้โหปลาพลวงชอบทานถั่วฝักยาวมากเลย ปลาตัวเบ้อเริ่ม มิวไม่กล้าลงน้ำตกเลย กลัวปลาตอด หลังจากน้ำตกพลิ้ว ขบวนของเราก็ขับกลับกรุงเทพกัน   ทริปนี้สนุกมากเลยคับตายาย มิวชอบมากเลย ทั้งลองกองหวานๆ เงาะ (มิวพูดว่าเน๊าะได้แล้วน้า ) มังคุด แล้วก็ได้ดูปลาโลมาน่ารักๆ ด้วยคับ ไว้มากันใหม่อีกนะคับ ตายาย STORY BY Mama Mink   Create Date : 30 มิถุนายน 2552     Last Update : 16 กรกฎาคม 2552 18:15:28 น. Counter : 1025 Pageviews.   1 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com