ถ้าเราเป็น true AF 7 # 2 (ต่อ) อีกอย่างหากเกรปออกในช่วงนี้ ผลจากกระแสของเกรป รวมทั้งข้อกังขาในพฤติกรรม จะสามารถนำมาสร้างกระแสต่อยอดให้แก่รายการต่าง ๆ ที่จะเข้ามาเป็น Marketing Channel ต่อจาก reality show บ้าน AF ได้เป็นอย่างดี  อีกประเด็นที่ การเอาเกรปออก week นี้ น่าจะเป็นผลดีต่อตัวเกรปเอง ในการเอาออกมาสร้างภาพลักษณ์ และให้โอกาสเกรปในการชี้แจงอธิบายความเป็นไปที่เกิดขึ้น (เพราะหากรอช้าไปกว่านี้ กระแสอาจไม่ดังเท่าที่เป็นเท่าในปัจจุบัน หรืออาจจะขยายวงจนทรูกู้ระเบิด แก้สถานการณ์ไม่ทัน หรืออาจส่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของ นลฝ. คนอื่นด้วย)    อย่างที่บอกนี่คือความเห็นส่วนตัว และอยู่บน ข้อสมมุติฐานที่ว่า ไม่นำคะแนนโหวตมาเป็นปัจจัยหลัก (ซึ่งในความเป็นจริงแล้วทางรายการคงใช้ผลโหวตเป็นสำคัญ ดังนั้นในฐานะผู้ต้องการใช้บริการ เราเองก็คงไม่มีทางเลือก อยากเห็นอยากติดตามชีวิตของน้อง ๆ ที่ตัวเองเชียร์ก็ต้องจ่ายเงิน โลกนี้ไม่มีอะไรฟรีนะจ๊ะ จำไว้ โหวตกันเข้าไปพี่น้องประชาชน )  และสถานการณ์ใน week นี้ ประกอบกับเวลาที่เหลืออีก 2 สัปดาห์ หากเราเป็นทรู เราว่าค่อนข้างอ่านเกมยากมาก  ว่า              กระแสจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต ดังนั้น วีคนี้ กลุ่มเสี่ยง คือ เกรป นิว น้ำแข็ง และเบน กลุ่มรอด ปอ บอส ต้น ปั๋ม (หมายเหตุ : ถ้าทรูจะเก็บเกรปไว้ เกรปก็จะไม่มายืนปากเหวเลยในวีคนี้ คนที่จะมายืนคงเป็น น้ำแข็ง นิว เบน และหาก นิวออก เกรปคงจะอยู่ยาวจนถึง impact)    ส่วนใครจะเสี่ยงมากสุด ก็รอฟังผลก็แล้วกัน Free TextEditor   Create Date : 04 กันยายน 2553     1 comment Last Update : 4 กันยายน 2553 12:44:57 น.     Counter : 514 Pageviews.   Share Tweet

ถ้าเราเป็น true AF 7 # 2 ถ้า เรา เป็น ทรู  (week  มนต์รักทุ่งบางกะปิ)      จากสินค้า นลฝ.  8 คน  จะจัดการอย่างไรดี?    ควรจะเก็บใครไว้?   ควรจะเอาใครออก?     มาวิเคราะห์ ตาม “มุมมองส่วนตัว” ที่อยู่บน ข้อสมมุติ พื้นฐานสำคัญ 2  ประการ คือ   ข้อสมมติที่ 1 นลฝทุก V เปรียบเสมือนสินค้าที่ทรูนำเสนอแก่ตลาด  เพื่อให้ผู้ซื้อหรือผู้บริโภค จ่ายเงินเพื่อการโหวต  ข้อสมมติที่  2 ทรูเป็นผู้กำหนดกลยุทธ์ตลาดในการจัดวางตำแหน่งสินค้า (นลฝ) โดยพิจารณาถึงกระแสต่าง ๆ และคาดการณ์สถานการณ์ตลาดในอนาคต  หรือพูดง่าย ๆ ว่า นอกจากผลการโหวตแล้ว ทรูจะมีอำนาจในการกำหนดว่า นลฝ คนใดจะได้อยู่ต่อหรือออกไป       ก่อนจะคาดการณ์อนาคต  เรามาทบทวนอดีตกันพอสังเขป   หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานับมาว่า  กิจกรรมทางการตลาด  ที่เกิดขึ้น  ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าตัวจริงและผู้ที่อาจจะเป็นลูกค้าในอนาคต     เริ่มจากกระแสนัตตี้ออก  มีเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้เกิดกระแสตลาดที่ดี โดยเฉพาะต่อ สินค้า นัตตี้  ที่กำลังรอจังหวะเวลา  ออกสู่ตลาดใหม่อีกครั้ง  พร้อมภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น     ส่วนสินค้าที่วางจำหน่ายทั้ง 8 คน  ก็ร่วมกันส่งเสริม  กิจกรรมทางการตลาด เรียกกระแสฮือฮาได้เป็นอย่างดี  ทั้งรุกทั้งรับ เรียกว่าถ้ากำลังแข่งกีฬาเป็นทีมฟุตบอล  สมาชิกทั้ง 8  ก็ส่งลูกให้กันแบบ non stop  เธอรับฉันส่ง  เธอมาอย่างนี้ ฉันไปอย่างนั้น   เรียกได้ว่า Event  มากันไม่ขาดสาย   ส่งผลให้ การพิจารณาคาดการณ์กำหนดกลยุทธ์ตลาด ค่อนข้างยากที่เดียว  เพราะสินค้า นลฝ.  ทั้ง 8 คน  ณ บัดนี้  กลายเป็นสินค้าที่ต้องใช้ประกอบกันไปเสียแล้ว    หากขาดไปหนึ่งคน ก็อาจจะทำให้กระแสตลาดหยุดชะงักได้     ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ช่องทางการตลาด  (marketing channel)  ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน (live 24 ชม.  คอนเสริต์  กำลังจะหมดวาระ ดังนั้นการวางแผนตลาดจึงต้องคำนึงถึงการสร้างฐานและกระแสต่อยอดให้แก่ ช่องทางการตลาดที่กำลังจะ มาต่อยอด เช่น  การออกสื่อต่าง ๆ   ด้วย  เปรียบเทียบได้กับเล่นสนุกเกอร์ที่ ณ จังหวะนี้ ต้องมองข้ามซ็อตให้ได้ว่าหลังจากปล่อยลูกขาวไปกระทบลูกสีลูกที่หนึ่งแล้ว ลูกขาวจะไปวางในตำแหน่งใดต่อไป เพื่อไปกระทบลูกสีลูกต่อ ๆ ไป      มาดูกันว่า ถ้าเราเป็นทรู เราจะคิดอย่างไร   เพื่อให้การวิเคราะห์เห็นภาพชัดขึ้น การคาดการณ์อนาคต ขอแบ่งเป็น  2 ส่วน   ส่วนที่  1  สินค้านักล่าฝันที่ต้องเก็บไว้ขายต่อในweek ต่อไป ประกอบด้วย   ปอ  ซึ่งแรงซื้อที่ผ่านมายังคงดีไม่มีตก ถึงแม้จะมีแผ่วปลายและเกิดกระแสลบบ้าง  บ้างเนื่องจากโดนปัจจัยด้านความสัมพันธ์ร้าวรานที่เกิดขึ้น  แต่ในด้านกลับกัน วิกฤตอาจกลายเป็นโอกาส ในแง่ของความชัดเจนในจุดหมายของปอและแรงสงสารของเหล่าแฟนคลับ     บอส  หลังจาก week ที่แล้ว ถูกนำมาทดสอบกระแสตลาดว่า ยัง OK หรือไม่  ผลการวิเคราะห์จากสถาบันที่ไม่ประสงค์ออกนาม ได้แจ้งว่า  สินค้า บอส  ยังเป็นที่ต้องการของตลาด  ประกอบกับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาบอสกลายเป็นคู่เล่นที่เกรป (เจ้าแม่event) ส่งลูกให้มากที่สุด   บอสจึงได้สิทธิ์ในการอยู่ต่อ     ต้น  หากพิจารณาต้นในช่วงที่มาอาจจะดูไม่โดดเด่น ในด้านของกระแสมากนัก  แต่ความคงเส้นคงวาของต้น และลูกค้าที่ใช้บริการ vote ต้น  ที่แรงดีสม่ำเสมอ   จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ต้นก็ได้รับการพิจารณาให้วางจำหน่ายต่อไปก่อน     ปั๋ม  อย่างไรเสีย  สินค้าปั๋ม  ก็ต้องเก็บไว้เพื่อการแสดงในวีคสุดท้าย  เพื่อความสมบูรณ์ของการปิดฉากของ marketing Chanel concert     มาดูสินค้ากลุ่มเสี่ยง  เอาเป็นว่าไล่ไปตามลำดับความเสี่ยง  เสี่ยงน้อย ไปเสี่ยงมาก   เบน         สำหรับเบน  เท่าที่ผ่านมายังไม่เคยออกมายืนปากเหว  แต่คาดว่ากระแสโหวตก็ไม่ได้มากเท่ากับ นลฝ. ชาย อีก 3 คน    ดังนั้นสถานการณ์ของเบนจึงอาจจะเป็นไปได้ว่า เก็บไว้เพื่อ week dance เพราะเบนมีความสามารถด้านนี้  และที่ผ่านมาเบนก็เป็นตัวสร้างสีสันในบ้านได้ค่อนข้างมาก และมีบุคลิกโดดเด่นเข้าตาผู้ชม   แต่หากเบนจะต้องออก ก็คงเพราะแรงโหวตน้อยนั่นเอง   นิวและ น้ำแข็ง    สำหรับ น้ำแข็ง  เมื่อ week ที่แล้วออกมายืนปากเหว  แต่กระแสตีกลับไม่ได้มากเท่าของบอส  และอย่างที่เคยวิเคราะห์ไว้ว่า น้ำแข็งเป็นตลาด Niche Market  ประกอบกับน้ำแข็งมีบุลคลิก สบาย ๆ   ดังนั้นการจะมีน้ำแข็งอยู่หรือไม่มี ก็คงไม่ได้เปลี่ยนบรรยากาศและทิศทางของความเป็นไปในบ้านมากนัก   สำหรับนิว สถานการณ์ ณ ตอนนี้ก็คงไม่ต่างจากน้ำแข็งมากนัก ตรงที่เจ้าตัวเองไม่มีประเด็นค้างคาอะไรกับใคร แต่นิวยังมีประโยชน์สำหรับ event  ในบ้าน AF   กล่าวคือ  เป็น “สินค้าที่ใช้ร่วมกันระหว่างปอและเกรป และร่วมกันบางส่วนกับบอสและเกรป”  ดังนั้นหากทรูเลือกที่จะเก็บเกรปไว้   ก็ต้องเอานิวไว้เพื่อเป็นตัวละครในเรื่องราว ส่วนบทจะเป็นใคร  จะเป็น แพะหรือเหยื่อของสถานการณ์ก็ค่อยว่ากัน    แต่หากทรูเลือกที่เอาเกรปออก  ก็หมายความว่า  ยังคงเก็บนิวไว้ได้ไปก่อนอีก 1 อาทิตย์แล้วค่อยว่ากันใหม่     เกรป   ทั้งที่ ๆ เป็นเจ้าแม่ event  สร้างกระแสตลาดได้ตลอด   เนื่องมาจาก คลื่นอารมณ์ที่พัดผ่านไปมา   ซึ่งทรูเองก็คงลำบากใจ เพราะในแง่การตลาดก็นับมาเป็นจุดดีที่มีกระแส  แต่ช่วงหลังมานี้ กระแสลมเริ่มกลายเป็นมรสุมขนาดเล็กที่นอกจากจะทำให้เกรปเองปั่นป่วนแล้ว  ยังส่งผลกระทบต่อกิจกรรมและสภาพจิตใจของเพื่อน ๆ นลฝ. แต่ละคน มากน้อยแตกต่างกันไป      ดังนั้นในช่วงเวลา อีก 2 week ที่เหลือ  ทรู คงไม่อยากให้คนจดจำภาพบรยากาศแบบนี้  ทรูน่าจะ ต้องการให้ผู้ชมเห็นภาพที่เด็ก พยายามมุ่งมั่น  ขยัน  เพื่อสะท้อนสโลแกนของเวทีนี้ ว่า” นักล่าฝัน ต้องมุ่งมั่น พยายาม”     ต้องมองถึงปีหน้า AF 8 ด้วย    อีกอย่างหากเกรปออกในช่วงนี้     Create Date : 04 กันยายน 2553     0 comment Last Update : 4 กันยายน 2553 15:13:37 น.     Counter : 262 Pageviews.   Share Tweet

เมื่อคืนที่ได้มีโอกาสนั่งดู บอส นิว ในห้องสารภาพ (29 สิงหาคม 2553) องก์ 2 เมื่อคืนที่ได้มีโอกาสนั่งดู บอส นิว ในห้องสารภาพ  (29 สิงหาคม 2553) องก์ 2   มาจะกล่าวบทไปถึงน้องบอส  คนซื่อ     เคยได้ยินประโยคที่ว่า “เด็กก็เหมือนผ้าขาว อยู่ที่ผู้ใหญ่จะระบายสีอะไรลงไปในตัวเด็ก”  ถ้าจะเปรียบน้องบอสเป็นผ้า ก็จัดได้ว่าเป็นผ้ากึ่งขาวกึ่งสี  คือ มีความใส ซื่อ อยู่ค่อนข้างมากในตัว นลฝ. อายุ 16 คนนี้  แต่บางครั้งความใสซื่อ ถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบ งง งง  กับชีวิตตัวเอง   ส่วนสีเริ่มจะมีในตัวน้องบอส ก็ถืดได้ว่าผู้วาดได้พยายามใส่สีที่ดีที่สุด  เพื่อให้ผ้าผืนนี้สวยงาม  เช่นกันขอปรบมือให้แก่ครอบครัวน้องบอส   มาถึงเรื่องเนื้อหาสาระในห้องสารภาพ ของ สอง นลฝ.   ในส่วนของบอส ถ้าตัดคำว่า “นั่นแหละ” ออกไป ก็คงจะมีประเด็นอยู่ไม่กี่ประเด็น  แต่ในไม่กี่ประเด็นที่บอสพูด กลับมีอีกหลายอย่างที่ทำให้เรากลับมานั่งนึก แกม  หวั่นใจ    ประเด็น  แฟนคลับ บอสเป็นเด็กที่มีความช่างสังเกตและใส่ใจรายละเอียด ดังเช่น ตัวอย่าง การเปลี่ยตำแหน่งหรือการกระจายของกลุ่มแฟนคลับ  ซึ่งช่วงแรกบอสบอกว่าอยากให้ไปอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนเพื่อการง่ายในการโฟกัสสายตา  ต่อมาก็บอกว่า ไม่เป็นไร  อยู่กระจายกันก็ดี จะได้มองได้ทั่วทั้ง Hall   สิ่งที่เราคิดได้จากสิ่งที่น้องบอสพูด คือ เหรียญมีสองด้าน  ทุกอย่างมีทั้งดีและไม่ดี ขึ้นอยู่กับว่า เราจะเลือกมองมุมใดในเรื่องนั้น ๆ เหมือนที่บอสมองเรื่องตำแหน่งของกลุ่มแฟนคลับแล้วมองหาจุดดี จากเรื่องดังกล่าว     พูดถึงแฟนคลับ  ในความเห็นของเราที่ไม่เคยดู AF แบบ reality มาก่อน (ที่ผ่านมาดูแต่ที่เป็น cc ถ่ายทอดผ่านช่อง 9)   สำหรับ season นี้ มีโอกาส ได้มาติดตาม ชีวิตในบ้าน ถึงแม้จะไม่ตลอด  และได้ไปแวะเยี่ยมเยียนสินค้าประกอบกัน เช่นwebsite web fanclub   บางครั้งก็รู้สึกกังวลแทนว่า  สำหรับ นลฝ. หลายคนอาจจะความจริงหลังออกจากบ้าน   ซึ่งเกินกว่ากำลังของน้อง ๆ จะจัดการไหว  เพราะลำพังให้จัดการกับระบบความคิดตัวเองและการแสดงออกของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง เหมาะสม ไม่ทำร้ายตัวเองและความรู้สึกคนอื่น  น้อง ๆ นลฝ. เกือบทุกคนยังจะไม่ค่อยไหวเลย  หากออกมาเจอวัฒนธรรมแฟนคลับที่มากันหลากหลายรูปแบบ ทั้งดี และไม่ดี  น้อง ๆ จะบริหารจัดการ คัดกรองแยกแยะ  ได้หรือไม่    ออกทะเลไปแล้ว  กลับมาสู่เรื่องน้องบอสกับห้องสารภาพ กันต่อ     ประเด็นเรื่องครอบครัว   เด็กผู้ชาย ที่มีสำนึกความร่วมรับผิดชอบกับภาระความเป็นอยู่ของครอบครัว อย่างบอส นับว่าเป็นจุดที่น่าชื่นชม          จริง ๆ แล้ว น้อง ๆ ทุกคนที่เข้ามาใน AF ก็คงมีเป้าหมายเรื่องการแบ่งเบาภาระครอบครัว ด้วย  ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี  แต่ในประเด็นของบอส  มีสิ่งที่ต้องนำเข้ามาพิจารณาด้วยทั้งในเรื่องอาชีพของครอบครัว  และความต้องการของบอส        จำได้ว่าบอสเคยบอกว่า สาเหตุที่เข้ามาประกวดเพราะพ่อแม่ส่งเสริมผลักดัน ตัวบอสเอง ไม่ได้มีใจรักชอบทางนี้เท่าไหร่    แต่บอสก็พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อพ่อ แม่ ครอบครัว   ซึ่งหากครอบครัวใครเป็นเกษตรกร คงจะเข้าใจดีกว่า หุ้นส่วนใหญ่ของการทำเกษตร คือ เทวดา นั่นก็คือ ดินฟ้าอากาศ  ดังนั้น ช่วงเวลาที่ฝนตกสำหรับบอส  หมายถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจเลี้ยงปลา ของครอบครัว   บอสได้บอกกับพ่อแม่ว่า “ไม่ต้องมาเชียร์บอสก็ได้ถ้าไม่สะดวก หรืออาจต้องดูแลบ่อปลา หรือ มาแล้วต้องกลับบ้านดึก ๆ  “    แต่บอสจะรู้มั้ยนะ ว่าสำหรับคนเป็นพ่อแม่แล้ว  ลูกคือสิ่งที่สำคัญที่สุด   ต่อให้ลำบากแค่ไหน  เพื่อลูกทำให้ได้เสมอ         กรณีที่บอสสะท้อนมุมมอง พ่อแม่ทะเลาะกัน  แล้วลูกรู้สึกไม่สบายใจ   มันชี้ให้เห็นได้ชัดว่า  ครอบครัวคือเบ้าหลอมของเด็ก ๆ    ซึ่งบางครั้งเวลาพ่อแม่ทะเลาะกันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตมากมาย  แค่ผู้ใหญ่ ที่อาจจะมีความเห็นต่าง และมีเป้าหมายร่วมกัน คือ เพื่อคนที่เขารักที่สุด    แต่ในความรู้สึกของเด็ก  ภาพที่เห็น เสียงที่ได้ยิน ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ    ดังนั้น หากจะทะเลาะกัน ชำเลืองดูลูกของคุณหน่อยนิดนึง  หรืออาจจะอธิบายให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น   จะดีกว่า      เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ นลฝ.  ทุกคนนะคะ    หมายเหตุ ถ้ามีโอกาสดู บอส นิว ในห้องสารภาพอีก จะลองนั่งนับ คำว่า “นั่นแหละ”  ว่าจะหาเลขเด็ดไปเสี่ยงดวงซะหน่อย         Free TextEditor   Create Date : 30 สิงหาคม 2553     0 comment Last Update : 30 สิงหาคม 2553 14:38:11 น.     Counter : 240 Pageviews.   Share Tweet

เมื่อคืนที่ได้มีโอกาสนั่งดู บอส นิว ในห้องสารภาพ (29 สิงหาคม 2553) เมื่อคืนที่ได้มีโอกาสนั่งดู บอส นิว ในห้องสารภาพ  (29 สิงหาคม 2553)   รู้สึกประทับใจกับความคิด และมุมมองของเด็กทั้งสองคน  มากกว่าจะมองในเรื่อง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่  (ที่เรารู้สึกว่า  เป็นความรู้สึกดีดี และจริงใจ ที่คนสองคน มีให้แก่กันและมีให้กับคนรอบข้าง  ซึ่งไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นความสัมพันธ์ แฟนหรือคู่รักกัน) หลาย ๆ ประโยคของน้องทั้งสอง สะท้อนให้เห็นว่าเป็นเด็กที่มีทัศนคติเชิงบวก  และสมวัย  (สิ่งนี้คงต้องยกความดีความชอบให้แก่ครอบครัว ของน้อง  ๆ ที่อบรมสั่งสอนมา) เริ่มที่น้องนิวก่อน ประเด็นที่  1 คนดู และคนโหวต   ประทับใจเรื่องที่น้องนิวพูดถึงกรณีที่โดนตะโกนด่าว่า  สำออย ในเวที cc  ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้น้องรู้สึกเสียใจ  แต่น้องเลือกที่จะมองเหตุการณ์นั้นว่า  “ไม่เป็นไร จะหวังให้ทุกคนมาชอบเราหมดคงไม่ได้ แค่เราเรียนรู้ที่จะเก็บสิ่งดีดี ใครรักเรา..เรารัก    ใครแคร์เรา..เราแคร์ แต่เราไม่เกลียดใคร (ที่เขาอาจจะเกลียดเรา)”   คิดได้ไงเนี่ย ขอต่อเรื่อง คนดู  คนโหวต   มีอยู่ช่วงหนึ่งระหว่างที่นิวขอบคุณแฟน ๆ และคนดู ที่มาให้กำลังใจ และเสียเงินจ่ายค่าโหวต ให้นิวได้อยู่ต่อ  น้องพูดขึ้นมาว่า ประมาณว่า เกรงใจที่คนดูต้องจ่ายเงินค่าโหวต  แค่ส่งกำลังใจมาให้ก็ได้  ไม่ต้องจ่ายค่าโหวต ก็ได้ (อะไรประมาณนี้)  ประเด็นนี้ก็เข้าใจคิดนะ  มีแต่คนอยากให้โหวตตัวเองมาเยอะ ๆ แต่อันนี้กลับเกรงใจ  ซึ่ง ผู้จัดรายการอาจจะไม่ค่อยปลาบปลื้มเท่าไหร่    ประเด็นที่ 2 ครอบครัว    จริงแล้ว ๆ เป็นเรื่องปกติที่ นลฝ. ทุกคน จะพูดแสดงความห่วงใยและคิดถึง ส่งให้แก่ สมาชิกในครอบครัว เพื่อน ๆ คนใกล้ชิด  แต่สิ่งที่ได้ยินจากน้องนิวในห้องสารภาพเมื่อคืน  คือ ประเด็นที่พูดถึงน้องชาย ที่กำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่น  อาจจะติดเกม        ซึ่งน้องนิวได้แสดงความห่วงใยไปถึงน้องชาย ว่า “ให้คิดให้ดีว่าสิ่งใดดี สิ่งใดควรทำ และสิ่งไหนที่ไม่ดี เพราะแม่ก็ได้สอนหมดแล้ว”  และฝากถึงเพื่อนๆ ของน้องชายว่า “ให้ดูแลกัน เพื่อนกันอย่าพากันลงเหว”  ให้พากันไปทำสิ่งดีดีไม่ต้องต่อคนอื่น ก็ได้ เอาแค่ให้ดีกับตัวเอง  แค่นี้ คนเป็นผู้ปกครองพ่อแม่ก็สบายใจแล้ว ส่วนอีกประเด็นที่น้องนิวพูดแล้วสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่น้องนิวมีต่อครอบครัว  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ฝากบอกพี่ชายให้ช่วยดูแลพ่อกับแม่  ให้น้องชายพูดกับพ่อดี ๆ เพราะพ่อกลับมาจากทำงานเหนื่อย ๆ พอกลับมาบ้านอาจจะอารมณ์เสีย  มาเจอลูก ๆ ไม่ได้ดั่งใจ  ก็อาจเกิดอารมณ์ บ่ จอย กันได้  เหตุการณ์ต่อเนื่องกันอย่างนี้ ทำให้บรรยากาศ ของความเป็น “ บ้านและครอบครัว” มันหายไป  ทุกคนก็ไม่มีความสุข  จากสิ่งที่นิวพูดทำให้เรา มาลองทบทวนดู  ว่า หากเราอยู่ด้วยกันไม่ว่าจะในสถานะใด  พ่อแม่ ลูก ญาติพี่น้อง เพื่อน       เพื่อนร่วมงาน  ฯลฯ  เราควรคำนึงถึงจิตใจคนอื่นด้วย ไม่ใช่มองแต่ความรู้สึกของเราอย่างเดียว  ทุกคนต้องช่วยกันสร้างบรรยากาศดี ๆ เพื่อที่ทุกคน จะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ประเด็นเรื่องนี้เกี่ยวโยงไปถึงที่น้องนิว พูดถึง การร้องให้ (ที่อาจจะบ่อย)  ของตัวนิวเองว่า  เป็นคน sentitive ทำให้เวลาเกิดความรู้สึกที่ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี  ดีใจ ซาบซึ้ง   น้อยใจ  เสียใจ  วิธีการแสดงออกระบายความรู้สึกของนิว คือการ ร้องให้      ซึ่งนิวบอกว่า  "ร้องแล้วก็จบ เริ่มกันใหม่  และไม่ไปสร้างปัญหาหรือผลกระทบให้แก่ใคร"    แถมยังบอกว่า "ตากล้องไม่ต้องจับภาพเวลานิวร้องให้ก็ได้ "  น่ารักดี   แต่โดยส่วนตัวอยากให้น้องนิวเข้มแข็งกว่านี้  ให้กำลังใจและมั่นใจในตัวเองมากกว่าที่เป็นอยู่  แต่ก็เข้าใจอยู่ในว่า อายุ แค่นี้ พยายามอยู่ให้ได้ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่บ้านครอบครัว ก็เก่งมากแล้ว (อันนี้ขอชมน้อง ๆ นลฝ. ทุกคนด้วยคะ)   เรื่องสุดท้าย ที่เราได้ยินน้องนิวพูดแล้วก็แอบอมยิ้ม คือ ช่วงที่น้องบอสบอกกับพ่อแม่ว่าอย่าทะเลาะกันมาก กลัวแม่เครียด  (ก่อนที่น้องบอสจะพูดมีลังเลใจนิดนึงว่าควรพูดออกอากาศหรือเปล่า คงกลัวว่าจะเป็นการว่าพ่อแม่)  แล้วน้องนิวเสนอแนะว่า “หากจะทะเลาะกัน ให้เปลี่ยนจากทะเลาะโต้เถียงกัน มาหยิบโทรศัพท์โหวตลูกชายดีกว่า  ใครโหวตมากกว่า เป็นฝ่ายชนะ”   อะไรทำนองนี้    ฟังแล้ว นึกในใจ มีลูกแบบนี้ รักตายเลย   พูดถึงประเด็นน้องบอส  ในห้องสารภาพ ก็มีหลายมุมมองที่ฟังแล้วต้องย้อนกลับมานึกถึง คำว่า ครอบครัว   และผลกระทบที่เกิดกับลูก ๆ จากการรับรู้และการกระทำของพ่อแม่            Free TextEditor   Create Date : 30 สิงหาคม 2553     0 comment Last Update : 30 สิงหาคม 2553 10:12:53 น.     Counter : 310 Pageviews.   Share Tweet

(AF 7) ถ้า เรา เป็น trueaf ถ้า เรา เป็น ทรู   ก่อนจะอ่านบทวิเคราะห์ที่เป็นความเห็นส่วนตัวนี้  ขอบอกไว้ก่อนว่านี่เป็นบทวิเคราะห์ในเชิงการตลาดเท่านั้น   ไม่ได้มีนัยยะในด้านอารมณ์ความรู้สึกหรือมุมมองทั้งในแง่ดีและไม่ดีกับ นลฝ. ใด ๆ ทั้งสิ้น   ดังนั้นข้อสมมุติ ของบทวิเคราะห์นี้ จึงประกอบด้วย   ข้อสมมติที่ 1 นลฝทุก V เปรียบเสมือนสินค้าที่ทรูนำเสนอแก่ตลาด  เพื่อให้ผู้ซื้อหรือผู้บริโภค จ่ายเงินเพื่อการโหวต   ข้อสมมติที่  2 ทรูเป็นผู้กำหนดกลยุทธ์ตลาดในการจัดวางตำแหน่งสินค้า (นลฝ) โดยพิจารณาถึงกระแสต่าง ๆ และคาดการณ์สถานการณ์ตลาดในอนาคต  หรือพูดง่าย ๆ ว่า นอกจากผลการโหวตแล้ว ทรูจะมีอำนาจในการกำหนดว่า นลฝ คนใดจะได้อยู่ต่อหรือออกไป     มาเข้าสู่การวิเคราะห์  กัน   สำหรับสถานการณ์ใน week นี้ที่มีสินค้า 9 คน  และทรูจะต้องพิจารณาว่าควรจะเอาสินค้าใดเก็บไว้เพื่อจัด event หรือ promotion ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย  และตัดสินใจว่าสินค้าใด้ควรเอาออกจาก  shelf  เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์ก่อนนำเสนอสู่ตลาดอีกครั้งในอนาคต   ถ้าวิเคราะห์รายสินค้า  คาดว่า   ปอ   บอส   เบน  ต้น   เป็นสินค้าที่มีกระแสตอบรับของตลาดค่อนข้างดี (ดูจากผลโหวตที่ผ่านมา) ประกอบกับตัวสินค้ามีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค (หน้าตาดี มีเสน่ห์  มีเอกลักษณ์  และเป็นผู้ชาย)  ทำให้สินค้า  4 ประเภทนี้ ยังคงวางจำหน่ายอยู่ต่อไปได้  อีกประเด็นคือ ผู้บริโภคมี brand loyalty ความจงรักภักดีต่อสินค้าสูง            ( ประเภท รักแล้วรักเลย ไม่เปลี่ยนใจ)       สำหรับสินค้าฝ่ายชายที่เหลือ อีก 1 คือ น้ำแข็ง  ถ้ามองเป็นสินค้า ก็จัดเข้าข่ายประเภท Niche Market คือ เป็นสินค้ามีแตกต่าง มีกลุ่มผู้ซื้อที่นิยมชมชอบสไตล์นี้เป็นพิเศษ   ซึ่งแตกต่างจากสินค้าชาย  4 คนที่เหลือ  ทำให้การขยายตลาดหรือกลุ่มลูกค้าของสินค้า นลฝ น้ำแข็ง ค่อนข้างทำได้ยาก  ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทรูอาจจะพิจารณาว่าควรจะเก็บไว้หรือเอาออกไปก่อน     มาถึง อีก segment สินค้า นลฝ ฝ่ายหญิง  ที่โดยปัจจัยพื้นฐานของสินค้า ค่อนข้างมีกลุ่มเป้าหมายแคบ  ทำให้กระแสตลาดจะแผ่วกว่า สินค้าฝ่ายชาย  แต่ในแง่ของการจัด  event  หรือ การกระตุ้นยอดขาย จะทำได้ง่ายกว่า   เพราะมักจะมี event ที่สร้างกระแส อยู่เสมอ ๆ   ที่นี่มาวิเคราะห์ week ที่ผ่านมาและ คาดการณ์  week ต่อไป   ขอพูดถึงสินค้าที่มีคุณสมบัติดีในแง่ของเสียงร้อง ก่อน คือ  ปั๋ม  ที่ทรูคงต้องเก็บไว้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีว่ามีตัวแม่ด้านการร้องบนเวทีแห่งนี้      ส่วน เกรป  ซึ่งเป็นสินค้าที่มักสร้างกระแส ให้ ทรู มี งานเข้าตลอดเวลา  ทรู ก็คงน่าจะเก็บเอาไว้ก่อนเพราะ เอาไว้ดึงเรตติ้งให้คนเข้ามา ดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกจากอารมณ์และการกระทำของเกรป    หรืออาจจะกล่าวอย่างง่าย ๆ ว่า เกรปเป็นตัวชูประเด็นในการจัด event นั่นเอง   แต่หากไม่มีคู่ชกให้เกรป มันก็คงจุดกระแสไม่ติด  ดังนั้นคู่ชกสำหรับเกรปในช่วงเวลานี้คงนี้ไม่พ้น นิว ผู้ท้าชิงคนใหม่  สำหรับสินค้านิว ถึงแม้ว่าในคุณลักษณะพื้นฐานอาจจะยังไม่โดดเด่นมากนัก  แต่ก็ถือว่ามีจุดขายที่ช่วยสร้างกระแสให้แก่             ทรูได้พอสมควร ไม่ว่า จะเป็นบ้านคู่ หรือ fc ที่ anti การจับคู่   ดังนั้นการปล่อยนิวไปใน week นี้ จะได้ไม่คุ้มเสียสำหรับทรู เพราะ จะไม่มีคู่ชกให้เกรป (เหมือนที่นัตตึ้เคยขึ้นเวทีปะทะเกรปมาให้แล้วเมื่อช่วงเริ่มสัปดาห์)                                       และหากเสียนิวไป ทรูจะขาดซึ่งรายได้จาก fc นิว (ที่ ประเมินว่าคงมีมากพอสมควรเนื่องจาก นิวออกมายืนปากเหวแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อสัปดาห์แรก) และยังส่งผลกระทบต่อการขาดกระแสและแรงซื้อของบ้านคู่ที่เวลา vote จะ vote นักล่าฝันทั้งคู่  (ซื้อแบบ pack คู่ ดีกว่าซื้อเดี่ยว)  นอกจากนี้  side effect ก็คือ การหายไปของ กระแส antiนิว ที่ถึงแม้จะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่  แต่ในแง่การตลาด แล้ว การมีกระแส (แม้ว่าจะไม่ค่อยดี) ดีกว่าเงียบไม่มีใครสนใจ     สินค้า นัตตี้  หากมองตามสถานการณ์  อาจจะกล่าวได้ว่า  น่าจะหมดกระแสไปแล้ว ณ จุดนี้  เพราะสินค้าถึงจุดอิ่มตัว และผ่านช่วงพีคไปแล้ว  มามองได้จากเหตุการณ์ในบ้าน  ที่ นลฝ คนอื่น ๆ เริ่มชินกับพฤติกรรมนัตตี้  ไม่มีการชอบ หรือเกลียดไปมากกว่าที่เป็นอยู่    ดังนั้น สินค้านี้  อาจจะ เอาออกเพื่อสร้างกระแส ในประเด็นที่ว่า เด็กที่พยายามต่อสู้ต่อได้ออกไปแล้วอีก      1  คน     ...นอกจากนี้การออกของนัตตี้จะเป็นจุดพลิกผันของเหตุการณ์ในบ้าน เพราะถ้านัตตี้ออก             นิว จะหัวเดียว home alone เพราะเกรปกับปั๋ม คงจะจับคู่ หรืออาจมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น ระหว่าง  3  สาว  ที่จะต้องติดตามด้วยความระทึกในดวงใจ กันต่อไป     สรุปสุดท้าย  อย่างที่บอกไว้ช่วงเริ่มต้นว่านี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์ทางการตลาดที่อิงอยู่บนสมมุติฐาน  ดังนั้น  หากพิจารณาตามข้อสมมุติดังกล่าว  และสถานการณ์ที่ผ่านมาและคาดการณ์อนาคต  ก็คาดว่า   สินค้าที่ทรูจะเก็บไว้แน่นอน คือ  ปอ  บอส   เบน  ปั๊ม   ต้น  (ในกลุ่ม 5 คนนี้ อาจดึงออกมาปากเหวสัก คน เพื่อบิวต์โหวตแฟนคลับใน week หน้า  คาดว่าเหยื่อ น่าจะเป็น เบน หรือไม่ก็ปั๋ม)   เกรปก็เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ทรูคงต้องเก็บไว้เพื่อสร้างกระแสก่อน  แล้วดูเหตุการณ์กันต่อไป    นิว คือ สินค้าที่ทรูกำลังพิจารณาผลได้ผลเสีย ระหว่าง “เก็บไว้” และ “เอาออก”  ซึ่งพิจารณาแล้ว  น่าจะเก็บไว้จะสร้างกระแสได้มากกว่า ทั้งเรื่องบ้านคู่ที่กำลังมาแรง การชิงรักหักสวาท และเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด   หรือ โดดเดี่ยวคนที่  2     สุดท้าย  ไม่นัตตี้ ก็ น้ำแข็ง นี่แหละที่ ทรู จะต้องเลือกเอาคนใดคนหนึ่งออก  ทั้งนี้อาจดูผลโหวตเป็นสำคัญ  ซึ่งดูแล้วนัตตี้ความเสี่ยงมากกว่า ดูจากการออกมายืนปากเหว ติดต่อกันหลายครั้ง   ส่วนน้ำแข็งได้เปรียบในแง่ว่าเป็นผู้ชาย และอาจรักษาพี่ใหญ่ไว้ในบ้าน AF สักหนึ่งคน       Free TextEditor   Create Date : 28 สิงหาคม 2553     3 comment Last Update : 28 สิงหาคม 2553 16:52:51 น.     Counter : 397 Pageviews.   Share Tweet