space
space
space
<<
มิถุนายน 2559
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
space
space
1 มิถุนายน 2559
space
space
space

Fuel efficiency ที่ไม่เป็นจริง



คิดว่าข้อมูลเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง น่าจะเป็นที่สนใจเวลาคนไทยซื้อรถ  ที่ประหลาดคือข้อมูลดังกล่าวกลับหาไม่เจอบนเว็บไซต์และโบรชัวร์ของรถญี่ปุ่นสองยี่ห้อรวมทั้ง Mercedes ด้วย   คงจะต้องใช้ข้อมูลฝรั่ง หรือไปสอบถามเอาที่โชว์รูม อีกอันนึงที่พี่ไทยไม่โพสต์เลยคือเรื่อง CO2 production อยากจะอนุมานว่าแสดงว่าคนไทยเวลาซื้อรถ อาจจะไม่สนใจสองอันนี้หรือเปล่า ในโบรชัวร์หรือในเว็บไซต์ที่เป็นทางการของผู้ขายรถก็เลยไม่แจ้ง หรือเป็นไปได้ว่าตัวเลขมันน่าเกลียดจนไม่อยากบอก

หลาย ๆ คนอาจจะรู้แล้วว่าตัวเลข Fuel efficiency หรืออัตราการสิ้นเปลืองที่ระบุโดยผู้ผลิตรถนั้นเป็นเรื่องโกหกสิ้นดี ในชีวิตความเป็นจริง เราไม่เคยได้ตามตัวเลขที่ท่านโม้ว่า  ถ้าจะเอาให้ได้ใกล้เคียง ต้องขับช้ามาก ๆ หรือรถไม่ติดเลย ปิดแอร์อะไรงั้น ส่วนใหญ่จะได้ประมาณครึ่งเดียว

Mercedes C350e หรือ น้อง snow white ของเรา หรือน้องโน๋ก็เช่นกัน โม้ไว้ว่า 2.1 L/100 km หรือ 47 km-L หรือ 112 MPG

เอาเข้าจริง ใช้มา 1 เดือน ได้ประมาณเนี้ย
Mercedes C350e Fuel eff_May 2016 photo Fuel eff_may_zpsazmnogxi.jpg

ตอนแรกที่เห็นก็ต้องยอมรับว่าผิดหวัง เพราะดันหลงเชื่อโฆษณาที่ดีเกินจริง 2.1 L/100 km รถแรงขนาดนี้ ใครจะไปเชื่อว่า Mercedes-Benz จะประหยัดน้ำมันกว่ารถญี่ปุ่นไปได้

แต่เมื่อเทียบกับน้องเล็ก (Lexus CT200h) พี่โตโม้ว่าน้องเล็กกินน้ำมัน 4.5L/100 km หรือ 22.2 km-L พอเอาเข้าจริง ๆ ที่คนขับแกขับได้ ตกประมาณ 15-16 km-L เท่านั้นแหละ ดังนั้นพี่โตก็โกหกเหมือนกัน

หากดูตามภาพซึ่งเป็นผลสรุปจากการคำนวณในรถยนต์ว่าเราได้ 3.9L/100 km ก็แสดงว่าดีกว่าน้องเล็กอยู่ดี 3.9 L/100 km ก็คือ 25.6 km/L ก็พอให้ชื่นใจว่าน้องโน๋นั้นประหยัดกว่าน้องเล็ก แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็ต้องถือว่า Mercedes โกหกคำโตกว่าพี่โตโยต้าซะอีก เพราะที่ได้จริง ก็ที่โม้ไว้บนสติ๊กเกอร์ต่างกันเกือบ 2 เท่า ในขณะของพี่โตเค๊า จะว่าไปก็ off ไปกันไม่เยอะเท่าไหร่ และมั่นใจเหลือเกินว่าหากขับช้า ๆ รถไม่ติด อะไรเงี้ย ก็คงถึง 20 km-L แน่นอน  สรุปว่าบริษัทรถเยอรมันนั้นโกหกกว่าบริษัทรถญี่ปุ่น

เมื่อวิเคราะห์ตามภาพ จะเห็นว่าเราขับระยะทางทั้งหมด 781 km เป็น zero emission (ขับไฟฟ้า) ซะ 549 km (ซึ่งอันนี้จริง เพราะส่วนใหญ่ขับไปกลับที่ทำงาน ขับไฟฟ้าตลอด)  ก็แสดงว่าระยะทางที่ขับใช้น้ำมันคือส่วนต่าง = 781-549  ซึ่งเท่ากับ 232 km

ตัวเลข 3.9 l/100 km ถึงจะผิดหวัง (เพราะเล็งไว้ที่ 2.1 l/100 km) แต่ก็ยังดีใจบ้าง เพราะยังไงก็ยังดีกว่าคันเก่า  จนกระทั่งมาเหลือบดูเกจ์น้ำมัน  ตอนเรารับน้องโน๋ออกมาจากโชว์รูม (วันที่ 30 เม.ย.) โชว์รูมข้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยบอกว่ามีน้ำมัน 1/3 ถังเป็นค่าตั้งต้นมาตรฐานจากโรงงาน  เราไปเติมน้ำมันเพิ่มเมื่อวันที่ 7 พ.ค. เติมเต็มถัง เติมไปได้ 33.37 L ซึ่งก็ตรงตามที่โชว์รูปบอก เต็มถังคือ 50 L อันนี้เติมก่อนขับแบบใช้น้ำมัน เพราะปกติขับไปทำงานซึ่งอยู่ห่างออกไป 6 กิโล ก็ขับไฟฟ้าทุกวัน ตัวเลข 232 km ก็ตรงกับที่เกิดขึ้น คือเรามีขับไปกลับเยี่ยมบุพการีที่นครนายก ก็ประมาณ 200 km ส่วนอีก 32 กิโลก็ตอนขับไปบ้านเพื่อนที่ลาดปลาเค้า ก็ตรงอยู่  แต่ที่น่าประหลาดใจคือ น้ำมันหายไปไหน

เอ ถ้า 3.9 L/100 km จริง ก็แสดงว่า เราใช้น้ำมันไป = 232/100 *3.9 ซึ่งเท่ากับ 9.05 ลิตร  แต่เกจ์น้ำมันเรามันแหว่งไป 5 ขีดจาก 12 ขีด ซึ่งก็ควรจะเท่ากับ 20.83 L น่ะสิ

ถึงเวลาลำบากเพราะไม่รู้จะเชื่อใครดี ถ้าน้ำมันหายไป 20.83 L จริง ก็แปลว่า 11.14 km-L หรือ 8.98 L/100 km ซึ่งอันนี้ไม่โอเคแน่นอน  รับไม่ได้ถ้าโฆษณาไว้ 2.1 L/100 km แล้วของจริงได้ 8.98  เท่ากับโกหก 4 เท่า รับไม่ได้ รับไม่ได้

ก็เลยชักสงสัยว่าเอ  ตอนเอารถเข้าไปทำประตูที่โชว์รูมเอาไปดองตั้ง 1 สัปดาห์ เอาไปขับเล่นอีก 7 กม.กว่า (อ่านบล็อกก่อนหน้านี้)  มันมีการสูบเอาน้ำมันเราออกไปอีก 11 ลิตรรึเปล่า มันไม่น่าจะเป็นไปได้นะ โชว์รูมรถตราดาว เราต้องเชื่อมั่นว่าคนทุกคนเป็นคนดีสิ คงไม่มีใครมาขโมยน้ำมันเราไปแล้ว ครั้นจะว่ามันระเหยไปก็คงไม่นะ  แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็โกหกน่ะสิ โกหกคำโต

คำตอบที่แท้จริงก็คงยังไม่ทราบ ตอนนี้ได้แต่สงสัยว่า คำนวณผิดหรือเปล่า ใครขโมยน้ำมันไปไหนรึเปล่า (เพราะรถไม่อยู่กับเราตั้ง 7 วัน) ได้แต่สงสัย  คงต้องรอ reset ใหม่ตอนเติมน้ำมันถังหน้า รู้แต่ว่าหากเอาระยะทางทั้งหมดมาคิดบนน้ำมันที่หายไป (20.83 L) โอ้โห ได้ตั้ง 37 km-L หรือ 2.66 L/100 km แน่ะ ใกล้เคียงกับที่โม้ไว้บนสติ๊กเกอร์  เออหรือพี่ merc แกใช้วิธีนี้นะ  แต่ไม่ได้หรอก เพราะเราก็เสียค่าไฟไปนี่นา ค่าไฟที่ชาร์จระยะทาง 549 km ไปทั้งหมดที่จดไว้ คือ 132.7 ยูนิต เราก็จ่ายค่าไฟไปเหมือนกันนะ  เอ๊ะ ไม่สิ เราผลิตไฟเองจากโซล่าร์เซลล์บนหลังคาเราเอง ก็เท่ากับเราขับฟรีสิ  เอ๊ะไม่ได้เหมือนกัน เพราะเราก็ลงทุนค่าโซล่าร์เซลล์ไปเหมือนกันนิ  โอ๊ยยิ่งคิดมากยิ่งปวดหัว เอาเป็นว่า ถ้าคิดซะว่าเราจ่ายค่าไฟยูนิตละ 3.25 บาท น้ำมันที่เราเติมไปเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ลิตรละ 28.45 บาท

แสดงว่าค่าพลังงานทั้งหมดต่อระยะ 781 km คือ
ค่าน้ำมัน    20.83L * 28.45 THB = 592.61 บาท
ค่าไฟฟ้า 132.7 units * 3.25 THB = 431.28 บาท
รวมค่าพลังงาน = 1023.89 บาท หรือคิดเป็น 1.31 บาทต่อกิโลเมตร 

ถูกเนอะ ถ้าไม่นับค่ารถที่จ่ายไป

รายละเอียดการชาร์จไฟดูได้ในไฟล์นี้นะครับ
https://www.dropbox.com/s/9mxgbf5ozgejxbq/C350e%20charging%20record%20of%20May.pdf?dl=0

ปล. ต้องสารภาพนิดนึงว่ามีการแอบขโมยไฟฟ้า (จริง ๆ ก็ขอเจ้าของดี ๆ) จากบ้านพ่อ บ้านพ่อคนขับ บ้านเจ๊โป่ง-เจ้าของคฤหาสน์ลาดปลาเค้า รวมทั้งที่ทำงาน (2-3 ครั้งเอง - อันนี้ไม่ได้ขอเจ้านายนะฮับ เพราะเจ้านายมีหลายระดับ แฮะ ๆ ช่วยไม่ได้ ใช้คนขับเราอยู่เวรนอนค้างทำไม) แต่รวม ๆ กันไม่น่าจะเกิน 20 ยูนิต  ดังนั้นการคิดค่าไฟฟ้าดังกล่าวอาจจะยังไม่เป๊ะเว่อร์





Create Date : 01 มิถุนายน 2559
Last Update : 1 มิถุนายน 2559 19:36:45 น. 0 comments
Counter : 2969 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

gollygui
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]






space
space
[Add gollygui's blog to your web]
space
space
space
space
space