สำหรับระบบขนส่งสาธารณะทีเป็นที่นิยมในโซลนอกจากรถไฟใต้ดินแล้ว รถเมล์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนเกาหลีนิยมใช้ในการเดินทางเช่นกันเพราะค่าบริการไม่แพงและรถเมล์มีเส้นทางเดินรถที่ครอบคลุมแทบพื้นที่ในกรุงโซลประมาณ 400 เส้นทาง บนท้องถนนบางพื้นที่จะมีเลนพิเศษสำหรับรถเมล์วิ่งโดยเฉพาะเพื่ออำนวยความสะดวกให้รถเมล์สามารถวิ่งได้เร็วกว่ารถส่วนตัวธรรมดาในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน รถเมล์ในกรุงโซลแยกประเภทของรถตามสี มีหมายเลขประจำรถอิงตามต้นทางและปลายทางเพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเข้าใจและจดจำเส้นทางได้ง่ายขึ้น เช่น

แผนที่การแบ่งเขตระบบเส้นทางเดินรถเมล์

เขตหมายเลข 0 ครอบคลุมพื้นที่: Jeongno-gu, Jungno, Yongsan-gu

เขตหมายเลข 1 ครอบคลุมพื้นที่: Dobong-gu, Gangbuk-gu, Seongbuk-gu, Nowon-gu

เขตหมายเลข 2 ครอบคลุมพื้นที่: Dongdaemun-gu, Jungnang-gu, Seongdong-gu, Gwangjin-gu

เขตหมายเลข 3 ครอบคลุมพื้นที่: Gangdong-gu, Songpa-gu

เขตหมายเลข 4 ครอบคลุมพื้นที่: Seocho-gu, Gangnam-gu

เขตหมายเลข 5 ครอบคลุมพื้นที่: Dongjak-gu, Gwanak-gu, Geumcheon-gu

เขตหมายเลข 6 ครอบคลุมพื้นที่: Gangseo-gu, Yangcheon-gu, Guro-gu, Yeongdeungpo-gu

เขตหมายเลข 7 ครอบคลุมพื้นที่: Eunpyeong-gu, Mapo-gu, Seodaemun-gu

สามารถเช็คเส้นทางเดินรถได้ที่นี่

//maps2.visitseoul.net

	รถเมล์สีน้ำเงิน คือรถเมล์ที่วิ่งบนถนนสายหลักและวิ่งระยะยาวระหว่างใจกลางกรุงโซลและเขตปริมณทล มีสัญลักษณ์คืออักษร B และหมายเลขรถเป็นตัวเลขสามตัว เช่น 141 หมายเลขแรก 1 หมายถึงเขตเมืองต้นทาง (ดูได้จากเขตหมายเลขพื้นที่ด้านบน) หมายเลขที่สอง 4 หมายถึงเขตเมืองปลายทาง (ดูได้จากเขตหมายเลขพื้นที่ด้านบน) หมายเลขที่สาม 1 หมายถึงหมายเลขเส้นทางเดินรถ ค่าโดยสาร 1,150 วอน (ราคาสำหรับ 10 กิโลเมตรแรก คิดราคาเพิ่ม 100 วอน ทุกๆ 5 กิโลเมตร)
	รถเมล์สีเขียว คือรถเมล์ที่วิ่งบนถนนสายย่อยในระยะทางที่สั้นกว่า ส่วนมากเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟใต้ดินหรือที่ป้ายจอดรถเมล์สีฟ้าและพื้นที่ที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงเพื่อผู้โดยสารสามารถต่อรถไฟใต้ดินหรือรถเมล์สีฟ้าได้ง่ายขึ้น มีสัญลักษณ์คือตัวอักษร G และหมายเลขรถเป็นตัวเลข 4 ตัว เช่น 2412 หมายเลขแรก 2 หมายถึงเขตเมืองต้นทาง หมายเลขที่สอง 4 หมายถึงเขตเมืองปลายทาง หมายเลขที่สาม 1 หมายถึงหมายเลขเส้นทางเดินรถ หมายเลขที่สี่ 2 หมายถึงหมายเลขเส้นทางเดินรถ ค่าโดยสาร 1,150 วอน (ราคาสำหรับ 10 กิโลเมตรแรก คิดราคาเพิ่ม 100 วอน ทุกๆ 5 กิโลเมตร)
	รถเมล์สีแดง คือรถเมล์ด่วนที่วิ่งระหว่างเมืองหลักจอดตามป้ายแค่ไม่กี่ป้าย (ใจกลางกรุงโซล, เขตคังนัม, เขตยองดึงโพ ฯลฯ) เชื่อมต่อไปยังเมืองเขตรอบนอก (อิลซาน, บุนแดง, อึยจองบู ฯลฯ) มีสัญลักษณ์คือตัวอักษณ R และหมายเลขรถเป็นตัวเลข 4 ตัว เช่น 9412 หมายเลขแรก 9 หมายถึงเขตพื้นที่รอบนอก หมายเลขที่สอง 4 หมายถึงเขตเมืองต้นทาง หมายเลขที่สาม 1 หมายถึงหมายเลขเส้นทางเดินรถ หมายเลขที่สี่ 2 หมายถึงหมายเลขเส้นทางเดินรถ ค่าโดยสาร 1,950 วอน (ราคาสำหรับ 10 กิโลเมตรแรก คิดราคาเพิ่ม 100 วอน ทุกๆ 5 กิโลเมตร)
	รถเมล์สีเหลือง คือรถเมล์ที่วิ่งวนในตัวเมืองเชื่อมต่อพื้นที่หลักหรือย่านธุรกิจ, สถานีรถไฟใต้ดินใหญ่, ป้ายรถเมล์ที่มีรถเมล์สีน้ำเงินวิ่งผ่าน, สถานที่ท่องเที่ยว มีสัญลักษณ์คือตัวอักษร Y หมายเลขรถเป็นตัวเลข 2 ตัว เช่น 41 หมายเลขแรก 4 หมายถึงเขตพื้นที่รถวิ่งคือ ย่านคังนัม หมายเลขที่สอง 1 หมายถึงหมายเลขเส้นทางเดินรถ ค่าโดยสาร 950 วอน (ราคาสำหรับ 10 กิโลเมตรแรก คิดราคาเพิ่ม 100 วอน ทุกๆ 5 กิโลเมตร)
	รถเมล์ N คือรถเมล์ที่วิ่งในเวลากลางคืนเริ่มตั้งแต่เวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงเวลาตี 5 รถเมล์ N ออกทุก 40-50 นาที วิ่งผ่านแค่บางพื้นที่ส่วนมากเป็นพื้นที่หลักในอนาคตอาจมีการขยายเส้นทางเพิ่มเติม สัญลักษณ์ขึ้นต้นด้วยอักษร N และตามด้วยหมายเลข 2 หลัก เช่น N40 ขึ้นต้นด้วยอักษร N ค่าโดยสาร 2,250 วอน

ภาพและข้อมูลจาก //www.lifeinkorea.com/

* เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี สามารถใช้บริการได้ฟรี (เด็กไม่เกิน 3 คน/ 1 ผู้ปกครอง)

เส้นทางการเดินรถของ รถเมล์ N (รถเมล์กลางคืน)

ภาพจาก  Seoul Transport Operation & Information Serivce (TOPIS)

ป้ายรถเมล์

ตามป้ายรถเมล์แต่ละป้ายจะมีข้อมูลแจ้งบอกว่ามีรถเมล์สายไหนจอดบ้างและมีข้อมูลเส้นทางเดินรถของแต่ละสายว่ารถวิ่งไปยังเส้นทางใดสถานีต่อไปคือสถานีไหน (บางครั้งอาจมีแค่ภาษาเกาหลีหรือทั้งภาษาเกาหลีและอังกฤษ)

ป้ายไฟแสดงบอกว่ามีรถเมล์สายไหนกำลังมา

การขึ้น-ลง รถบัสและชำระค่าโดยสาร

การขึ้นรถเมล์ที่เกาหลีต้องขึ้นประตูด้านหน้าและลงประตูด้านหลัง ชำระเงินได้ด้วยการแตะบัตร T-money ทั้งขาขึ้นและขาลงหรือเงินสด หากชำระเป็นบัตร T-money ค่าโดยสารมีราคาถูกกว่าชำระด้วยเงินสด สะดวกมากกว่าและหากมีการต่อรถเมล์สายอื่นหรือรถไฟใต้ดินภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาทีไม่เสียค่าโดยสารเพิ่มหรืออาจเสียค่าส่วนต่างเพิ่มเล็กน้อยแต่หากเกินเวลา 30 นาที เครื่องจะคิดราคาใหม่เป็นราคาปกติ(เปลี่ยนสายได้สูงสุด 5 ครั้ง/วัน 09.00 - 19.00 น.) หากชำระเป็นเงินสดสามารถชำระได้ด้วยเงินเหรียญ (ไม่สามารถชำระได้ด้วยธนบัตรที่มีมูลค่ามากกว่า 5000 วอนขึ้นไป)