ปลายฝนต้นหนาวที่หลวงพระบาง 7-10 Oct 17



สวัสดีค่ะ หลังจากพาไปเที่ยวเขมร 2 กระทู้ก่อนหน้า คราวนี้ขอพามาทางโซนเหนือ บ้านใกล้เรือนเคียงอย่างประเทศลาวกันบ้างค่ะ

กระทู้ก่อนหน้านี้  "พาเที่ยวปราสาทหินใกล้เมืองพนมเปญ" https://pantip.com/topic/36856760 กับ "เที่ยวเสียมเรียบ คนเดียว 11-14 Aug 17" https://pantip.com/topic/36789103
จุดหมายปลายทางเที่ยวนี้คือ เมือง "หลวงพระบาง" ค่ะ เมืองในฝันที่กว่าจะได้ไปก็ปาเข้าไปเกือบ 10 ปีเลย 555 เริ่มเลยดีกว่าเน้อ

หลวงพระบาง day 1

คราวนี้ใช้บริการสายการบินหางแดง จองล่วงหน้ามาตั้งแต่เดือน พ.ย. 16 แล้ว อ้อ ลืมบอก คราวนี้เป็น Family trip นะคะ ไม่ได้บินเดี่ยวค่ะ



บินออกจากดอนเมืองบ่าย 2 ครึ่ง ถึงหลวงพระบาง 15.50 น.  มาถึงแว้ววว


ท้องฟ้าปลอดโปร่ง สนามบินเล็ก เดินลงมาชั้น 1 แล้วก็ผ่านตม. ใบตม.ให้กรอกให้เรียบร้อยบนเครื่องบินเลยนะคะ จะได้ไม่ต้องรอค่ะ ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีก็ผ่านตม.มาทั้ง 4 คน  ออกมาก็มารับกระเป๋าที่โหลดไว้ ส่วนใครจะซื้อ Sim card ก็ซื้อได้เลยตรงบริเวณรับกระเป๋าค่ะ มีให้เลือกหลายค่ายเลย ส่วนจขกท.ชอบเปิด Roaming  เลยข้ามบริการในจุดนี้ไป


พอเดินออกมา อย่างแรกก็ต้องแลกเงินก่อนเลยค่ะ จริงๆแล้วที่ลาวใช้เงินบาทเลยก็ได้นะคะ แต่ใช้เงินกีบจะได้ราคาดีกว่า ไม่ขาดทุน แล้วถ้าแลกก็ให้แลกที่สนามบินไปเลย เพราะเรทดีสุดแล้วค่ะ ( สนามบินให้เรท 252 กีบ ต่อ 1 บาท แต่ถ้าเป็นในเมืองจะได้ประมาณ 250 กีบ ต่อ 1 บาทค่ะ) จากนั้นเราก็ขึ้นรถที่ให้ทางโรงแรมส่งมารับคันนี้ค่ะ 4 คนราคา 100,000 กีบค่ะ


ที่พักของเรา ชื่อ Lankham Riverside ริมโขงเลยค่ะ เป็นห้อง 4 คนรวมอาหารเช้า ราคา 165 $ จ่ายวัน Check out เลย ดีหมดนะคะ มีจักรยานให้ยืม
มีฟรีไวไฟแรงปรื้ดๆ ยกเว้นห้องไม่มีหน้าต่าง เจ้าของน่าจะเป็นคนเวียดนาม ใจดีมากเลยค่ะ



มี Welcome drink เป็นน้ำหมากเกี้ยงด้วยค่ะ หมากเกี้ยง คือส้มเช้งบ้านเรานี่แหล่ะค่ะ 555


วิวหน้าห้องพักกับที่กินอาหารเช้าค่ะ สุดยอดเลย


นอนเล่นซักพักใหญ่ๆก็เดินไปหาข้าวกินกัน เดินไปไม่ทันไร ฝนตก เลยต้องกลับมายืมร่มที่โรงแรมแล้วก็ออกไปหาที่กินต่อ
เดินไปเดินมาจนมาเจอเส้นหลัก เดินจนมาเจอร้าน "ตำหนักลาว" เห็นใครไปหลวงพระบางต้องกินร้านนี้ ก็เลยเอามั่ง ขี้เกียจเดินแล้ว หิว 555



ร้านนี้อาหารอร่อย และราคาก็แพงด้วย แต่ลองเดินดูหลายๆร้านแล้ว ถ้าเป็นร้านอาหาร ราคาไม่หนีกันเท่าไหร่ เริ่มต้นที่ 50,000 กีบต่อจาน แต่ถ้าใครมาที่นี่แล้วอยากนั่งร้านอาหาร แนะนำร้านนี้ค่ะ


มื้อนี้หมดไป 2xx,xxx เลยค่ะ
พอกินเสร็จ ฝนซาแล้ว เราก็เลยว่าจะไปหาหนมครกกินกันที่ตลาดมืดต่อ ตลาดมืดหรือตลาดตอนเย็น อยู่เส้นเดียวกับร้านตำหนักลาวค่ะ แค่เดินย้อนมาอีกทาง ถ้าไม่รู้ทางไหน ก็ไปยืนกลางถนนแล้วมองหา ถ้าเป็นตลาดมืดก็จะมีไฟสว่างไสวเลยค่ะ

เมืองหลวงพระบางจะมีถนนเส้นหลักเส้นเดียว ชื่อถนนสักกะรินทร์ เป็นเส้นที่ตักบาตรตอนเช้า กับตลาดมืด จะหาซื้ออะไร มาเส้นนี้เลยค่ะ มีหมดทุกอย่าง

หนมครก กระทงละ 5,000 กีบ อร่อยค่ะ ไม่หวานมาก เดินมากินทุกวันเลย



สินค้าในตลาดมืดส่วนใหญ่ก็จะเหมือนๆกันเป็นสินค้าทำมือ สำหรับคนที่ชอบของทำมือแบบจขกท.นี่ กระเป๋าแหกเลยค่ะ 555


จขกท.ได้กระเป๋าร้านนี้มา 2 ใบราคา 300 บาท กับผ้าซิ่นปักมือ ต่อรองราคามาได้ผืนละ 800 บาทค่ะ


เดินสำรวจจนพอใจก็กลับที่พักก่อนค่ะ แล้วพรุ่งนี้เรามีโปรแกรมไปเที่ยวน้ำตกกันค่ะ

หลวงพระบาง day 2

เหมารถคันเดิมที่ไปรับเราไป วัดป่าโพนเพา น้ำตกตาดแส้ และน้ำตกตาดกวางสี ราคา 500,000 กีบ เนต ถ้าจะจ่ายเงินไทยก็ 2,000 บาทค่ะ แต่ถ้าใครไม่สะดวกจะไปทัวร์ร่วมกับคนอื่น หรือเหมารถสกายแล็บไปก็ได้นะคะ อยู่เส้นตลาดมืดเลยค่ะ เยอะ 555 ส่วนรถสกายแล็บหาได้ทั่วเมืองค่ะ

ที่กินอาหารเช้าเรา เดินข้ามถนนมาฝั่งแม้น้ำโขง บรรยากาศฟินสุดๆเลยค่ะ


อาหารเช้า มีให้เลือก 1 อย่าง เป็นอาหารฝรั่ง กับน้ำหมากไม้ปั่น 1 แก้ว ส่วน ชา กาแฟ บริการตัวเองได้เลย จขกท.ไม่ชอบอาหารฝรั่ง เลยเลือกเฝอหมูกับน้ำกล้วยปั่น ที่นี่เค้าใช้กล้วยน้ำว้ามาปั่นนะคะ อร่อยค่ะ


แต่ไม่อิ่ม 5555 ระหว่างรอลุงคนขับรถ เราก็เลยเดินไปร้านประชานิยม กินเพิ่มอีกชาม 555  ไว้วันที่ 3 จะมารีวิวละเอียดอีกมีนะคะ

นัดลุง 9 โมง แต่ 8.45 น.ลุงก็มารอแล้ว เราเลยได้ไปตรงเวลา วันนี้เราไป 3 ที่ ช่วงเช้า เราจะไปวัดป่าโพนเพากับน้ำตกตาดแส้ก่อน เพราะว่าอยู่ใกล้กว่า ถ้าไปที่วัดป่าโพนเพามองเข้าเมืองมาจะเห็นพระธาตุพูสีด้วยค่ะ

วัดป่าโพนเพาอยู่ทางตะวันออกของพลวงพระบางนะคะ มีเจดีย์สีทองอยู่ วันนี้โชคดีฟ้าสวยนะคะ ภาพออกมาเลยสวยเป็นพิเศษ



จากนั้นเราก็ไปต่อกับที่น้ำตกตาดแส้ อยู่ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 15 กม. ที่จอดรถจะอยู่ในหมู่บ้าน ไปถึงเราจะต้องเสียค่าผ่านด่านก่อน จากนั้นก็เดินไปขึ้นเรือไปน้ำตก ค่าเรือไป กลับคนละ 10,000 กีบ เป้นเรือหางยาว ล่องลงไปตามน้ำคานไม่เกิน 10 นาทีค่ะ

ท่าเรือ



สองข้างทาง

เห็นน้ำตกแล้ว....


ขึ้นจากท่าเรือมา เราก็ต้องมาซื้อปี้ หรือตั๋วเข้าน้ำตก ราคาคนละ 15,000 กีบค่ะ


จากนั้นเดินไปไม่เกิน 100 เมตร น้ำตกหินปูนก็อยู่ตรงหน้าเรา สวยมากเลยค่ะ ที่นี่สามารถเล่นน้ำได้ มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า กับมีร้านอาหารบริการ กับมีที่นั่งกินริมน้ำตกเลย ดีงามมากเลยค่ะ


มีทางเดินข้ามน้ำตกกับรอบๆน้ำตกด้วยค่ะ

มีพี่ช้างด้วยนะคะ ใครอยากขี่ช้างก็มีบริการ ให้ช้างพาอาบน้ำตกด้วยก็ได้นะคะ น่าสนุกดีค่ะ แต่ที่ดีงามสุดๆ คือ มีร้านกาแฟ อยู่หน้าน้ำตกเลยต่ะ "Mai coffee" ชอบมาก


กาแฟรสชาติธรรมดาค่ะ ส่วนบรรยากาศกินขาด อยู่ได้ทั้งวันเลยค่ะแบบนี้

Day 2 ช่วงบ่ายค่ะ ขากลับเราก็นั่งเรือกลับมาขึ้นฝั่ง เพื่อจะไปน้ำตกตาดกวางสีต่อ ระยะทางจากน้ำตกตาดแส้ไปตาดกวางสีประมาณ 40 กม. เพราะไปคนละทางกัน ทางเป็นแบบวกไปวนมา ขึ้นเขาเป็นระยะๆ ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ค่ะ 


มาถึงแล้วรถเยอะมาก เราเติมพลังกันที่ลานจอดรถก่อนไปเล่นน้ำตกค่ะ อาหารที่นี่อร่อย สด ราคาไม่แพงมากเท่าในเมือง มื้อนี้หมดไป 133,000 กีบค่ะ



ต้มปลาอร่อยที่สุดเลยค่ะ


อิ่มท้องแล้ว เราก็ไปกันต่อ ค่าเข้าน้ำตกคนละ 20,000 กีบค่ะ


จากทางเข้าเดินไม่ไกลค่ะ ประมาณ 100 เมตรก็ถึงน้ำตกแล้ว พอดีที่เรามาเป็นช่วงบ่าย + กับที่นี่เป็น Highlight ด้วย คนเลยเยอะมากค่ะ แต่น้ำสีสวยค่ะ ออกเขียวมรกตเลย


จุดเล่นน้ำมี 2 จุดนะคะ ละแวกนั่นจะมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ากับม้านั่งด้วยค่ะ โดยส่วนตัวชอบที่ตาดแส้มากกว่า คนน้อยกว่าบรรยากาศดี


จากนั้นให้เดินเลาะลำธารขึ้นมาเรื่อยๆนะคะ จะเจอภาพนี้ค่ะ ดูด้วยตาฟินกว่าเยอะค่ะ


และภาพนี้ค่ะ


อดใจไม่ไหวต้องขอลงน้ำซะหน่อย ขอบอกว่าน้ำเย็นมว๊ากกกกกกกกกกกก แต่ลงไปแล้วสดชื่นสุดๆ เล่นน้ำจนหนำใจก็กลับ บอกลุงให้ไปส่งที่ร้านกาแฟ Joma สาขาริมน้ำคาน

เรามาถึงที่ร้านกาแฟตอนบ่าย 3 ใช้เวลาจากน้ำตก เข้าเมืองประมาณ 1 ชม. ระยะทาง 30 กม. ตอนเย็นเรามีโปรแกรมจะเดินขึ้นพูสี เลยต้องมาหาอะไรใส่ท้องก่อน ไม่งั้นเดินขึ้นไม่ไหวแน่ๆ 555555

ร้านเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นค่ะ อยู่ริมแม่น้ำคาน เงียบสงบ ถึงอากาศจะร้อน แต่ก็ฟินค่ะ



โซนนี้จะเป็นโซนที่สูบบุหรี่นะคะ ถ้าใครไม่ชอบก็ไปข้างในกับชั้น 2 เลยค่ะ


ชอบคำนี้ น่ารักดี


ร้านนี้มีปลั๊กเสียบคอมพิวเตอร์ มีฟรีไวไฟ ขนมอร่อย กาแฟรสชาติดีนะคะ แต่คาเฟอีนแรงมากค่ะ จขกท.กินแล้วเมาเลย 555555 ไม่ไหวๆๆ ถ้ากาแฟอร่อยเหมือนที่เสียมเรียบจะฟินกว่าเยอะค่ะ

ค่าเสียหายมื้อนี้ แพงกว่าข้าวกลางวันอีก ^____^



พอ 5 โมงเย็น เราก็ได้เวลาเดินๆไปดูพระอาทิตย์ตกบนพระธาตุพูสี ไม่ไกลจากร้านเท่าไหร่ พิกัด ก็อยู่ตรงตลาดมืดเลยค่ะ

ชันได้ใจมาก เกือบแย่



จุดที่ถ่ายรูปนี้เป็นจุดพัก และต้องซื้อปี้ที่นี่ ใครไหวก็ไปต่อ ใครไม่ไหวเดินกลับค่ะ แต่ช่วง 2 ไม่ชั้นเท่าช่วงแรกนะคะ เดินได้ไม่เหนื่อยมาก ค่าขึ้นพระธาตุคนละ 20,000 กีบค่ะ


วิวตรงจุดพัก


ไปๆๆๆ เดินต่อ อีกอึดใจเดียว



มองไปทางตะวันออก เห็นสนามบินกับพระธาตุโพนเพาด้วยค่ะ



แล้วพระอาทิตย์ตกก็ไม่เห็น เพราะคนเยอะมาก เลยเดินลงดีกว่า


กระหายน้ำมาก ลงมาจัดน้ำหมากพร้าวเลยค่ะ ลูกละ 60 บาท ถูกกว่าที่เสียมเรียบหน่อยนึง เสียบเรียมลูกค้า 2.5 $ ประมาณ 85 บาท


จุดนี้สูงพอจะเห็นวิวของหอพระบางที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์กับหลังคาตลาดมืดค่ะ  (พิพิธภัณฑ์ เก็บไว้วันสุดท้ายค่ะ)


เดินจนเหนื่อย วันนี้เราขอฝากท้องแถวๆตลาดมืดนะคะ ราคาย่อมเยา เราเลือกกินหมาล่ากันค่ะ ไปเลือกเอาว่าจะเอาอะไร จากนั้นก็เอาไปต้ม ชามนี้ราคา 70,000 กีบค่ะ กินกัน 4 คน อร่อยและราคาประหยัดค่ะ


อันนี้เป็นพริก ไม่รู้ตำใส่อะไรจะมีกลิ่นหอมกับรสซ่าๆด้วยค่ะ พริกที่นี่เผ็ดมากเลยนะคะ อย่าใส่เยอะ ขอเตือน 5555

หมดวันแล้ว กว่าจะกลับถึงรร.ก็ 2 ทุ่มเลยค่ะ กลับมาก็มีน้ำหมากเกี้ยงให้กินเหมือนเดิม ชื่นใจ......

หลวงพระบาง Day 3 

วันนี้เริ่มต้นด้วยการตักบาตรข้าวเหนียวตอนเช้าค่ะ ...... ถ้าใครจะตื่นมาตักบาตรตอนเช้า ให้มาถึงอย่างช้าตี 5 ครึ่งนะคะ โดยพระจะเริ่มเดินบิณฑบาตรจากทางวัดเชียงทองมาค่ะ พอดีเราได้อยู่แถวท้ายๆ สุดถนน เลยได้ตักบาตรตอนเกือบ 6 โมง

เดินออกจากที่พักไป ด่านแรก ต้องผจญกับแม่ค้ามาขายชุดตักบาตร แต่เราก็เลือกเดินไปที่ถนนเส้นหลัก แล้วซื้อของตักบาตรตรงนั้น โดยเอาแต่ข้าวเหนียว กระติ๊บละ 10,000 กีบ



การตักบาตรที่นี่ พระจะเยอะมาก เราจะต้อง manage ข้าวเหนียวในกระติ๊บยังงัยให้พอกับพระที่มาบิณฑบาตร ซึ่งจขกท. สอบตก ไม่พอเหมือนกัน ถ้าไปคราวหน้าจะเอากระติ๊บใหญ่ 20,000 กีบละ อันนั้นพอแน่นอน 555555


ธรรมเนียมการตักบาตรที่นี่ จะไม่เอาเงิน หรืออาหารอย่างอื่นใส่ไปในบาตรพระนะคะ เพราะตอนที่นั่งตักบาตรอยู่ เห็นพระท่านต้องเดินรับบาตรข้าวเหนียว แล้วก็ต้องเอาขนมหรือของแห้งอย่างอื่นออกจากบาตรมาใส่ในกระติ๊บของชาวบ้านที่นั่งอยู่ข้างๆ จขกท.ด้วย สร้างความลำบากให้ทั้ง 2 ฝ่ายเลยค่ะ


แม่ค้าให้ยืมผ้าเบี่ยงด้วยค่ะ


ส่วนใหญ่จะเป็นจัวน้อยที่มารับบิณฑบาตร แต่ จขกท.ไม่ได้ถ่ายไว้ มัวแต่จกข้าวเหนียวค่ะ 555

จากนั้นเราก็เดินไปกินข้าวเช้ากันที่ร้าน ประชานิยม ร้านที่คนไทยนิยมไปกินจริงๆ ถ้าถามจขกท.ก็เฉยๆนะคะ แต่ตอน 6 โมงเช้า ยังไม่มีร้านไหนเปิด ร้านนี้เลยเป็นตัวเลือกแรกๆค่ะ คนเยอะทุกวันเลย ปาท่องโก๋กับชานม อร่อยค่ะ สั่งข้าวเปียกมาคนละชาม ไป 4 คน หมดไป 43,000 กีบ



อิ่มท้องแล้ว ก็ได้เวลาเดินชมเมืองค่ะ เราเดินย้อนมาทางที่ตักบาตรเมื่อเช้า

ตึกแต่ละที่สวยและคลาสสิกมากเลยค่ะ



จขกท.ชอบตึกนี้ค่ะ

จากนั้นก็เริ่มจะมีแต่วัดแล้ว สวยๆทั้งนั้นเลยค่ะ




เดินไปเรื่อยๆ สุดถนนจะเป็นสวนธารณะค่ะ มองไปจะเป็นที่บรรจบของแม่น้ำคานกับแม่น้ำโขงค่ะ


กระต่า เอาไว้ใส่ขยะค่ะ

ก่อนจะกลับไปกินข้าวเช้าที่รร.อีกรอบ ขอส่งท้ายที่วัดเชียงทอง สวยมาก และควรจะมาเลยค่ะ  ค่าเข้าชมคนละ 20,000 กีบ



อันนี้เป็นโรงเมี้ยนโกฐของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ค่ะ


จัวน้อยทำงานกันขยันขันแข็งเลยค่ะ

เห็น PC สวยๆที่นี่ เลยซื้อส่งกลับไปฝากมิตรสหาย ราคาชุดละ 10,000 กีบ ไม่แพงด้วยค่ะ



ที่นี่มีท่าเรือด้วยนะคะ ใครสนใจจะล่องเรือไปถ้ำติ่ง หรือล่องเรือชมโขง ติดต่อที่นี่ได้ค่ะ

กลับไปกินข้าวเช้าที่รร.อีกรอบ เพราะเดินไกล หมดแรงข้าวต้มแล้ว 555555

 ช่วงบ่าย เราเริ่มจากมาหาข้าวกลางวันกินกัน 

วันนี้เราก็ไม่มีจุดหมาย เดินไปเส้นหลักแล้วกัน ไปเจอร้านข้าวเปียก ชามละ 85 บาท อร่อยค่ะ



กินเสร็จเราก็จะเดินไปไปรษณีย์ อยู่เส้นหลักนี่แหล่ะ แต่เดินไปทางตลาดเช้า วันนี้เดินกลับไปกลับมาประมาณ 3 รอบได้ เป็นครั้งแรกที่เดินไปส่ง PC เอง ปกติจะฝากส่งรร.ส่งให้ตลอดเลยค่ะ


พอส่งไปรษณีย์เสร็จก็จะเดินไปกิน Joma สาขาในเมือง แต่ปรากฏว่า ร้านปิดปรับปรุง !!!!!!! แงๆๆ เดินมาตั้งไกล จากนั้นก็เดินวนหาร้านแถวๆนั้นอีก ร้อนก็ร้อน หาก็ไม่เจอ สรุป เราเลยต้องเรียกสกายแล็บไปส่งที่ร้าน Joma สาขาเดิม ในราคา 30,000 กีบ ไม่มีอารมณ์ต่อรองแล้ว เพราะเหนื่อยและร้อนมาก...........

นั่งเล่นเย็นๆไปเรื่อยๆ จนตอนเย็นก็กลับไปพัก รร. ได้กินน้ำหมากเกี้ยงอีกแล้ว ชอบมากเลย อร่อยดี

ตอนเย็นเราก็ยังคงไปฝากท้องแถวๆตลาดมืดเช่นเคย วันนี้เราเลือกร้านที่อยู่หัวถนนเลย แต่เดินไปทางแม่น้ำโขง จะมีร้านข้าวเปียกอยู่ร้านนึง ไม่มีคน ข้างๆกันจะมีร้านรถเข็นเป็ดย่างด้วย

เย็นนี้เราจัดข้าวซอยไป อร่อยมากเลย ไม่เหมือนข้าวซอยทางเชียงใหม่นะ แต่จะเป็นอารมณ์ข้าวซอยยูนนานที่เคยไปกินที่เชียงของมากกว่า



ตกชามละ 15,000 กีบ เราสั่งเป็ดย่างมาจากร้านข้างๆ ตัวละ 40,000 กีบ อร่อยมาก ที่สำคัญพ่อค้าแซ่บมากค่ะ หัวใจ



หลวงพระบาง Day 4 

วันนี้ตื่นสาย ไม่มีอะไรมาก มีแค่จะไปพิพิธภัณฑ์ ที่อยู่ตรงข้ามพระธาตุพูสี ตรงตลาดมืดแต่นั้น พิพิธภัณฑ์ปิดวันจันทร์นะคะ วางแผนดีๆ ระวังจะแห้วค่ะ ค่าเข้าคนละ 30,000 กีบ แต่คุ้มนะคะ



ในส่วนของห้องจัดแสดงกับหอพระบาง งดถ่ายรูปด้านใน และต้องฝากของทุกกรณีค่ะ


ทางไปห้องฝากของจะเดินผ่านอนุสาวรีย์ของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ด้วย

บรรยากาศรอบๆ ร่มรื่นมาก ที่นี่เคยเป็นวังที่ประทับเก่า ชัยภูมิดีมาก ด้านหน้าเป็นพระธาตุพูสี ด้านหลังเป็นท่าเรือข้ามฟาก วันนี้ฟ้าปิดอากาศไม่ค่อยดี มีฝนตก แต่ก็ไม่ร้อนค่ะ



เดินเล่นอยู่พักใหญ่ๆ ก็ออกไปหาร้านกาแฟนั่งกิน อ้อ ที่นี่ต้องแต่งกายสุภาพนะคะ งดกางเกงขาด กางเกงขาสั้นเหนือเข่าค่ะ

ร้านที่เราเลือก อยู่ริมพระธาตุพูสีเลยค่ะ เพราะฝนเริ่มลงเม็ดหนาแล้ว ก็เลยไม่อยากไปไกล ชื่อร้าน "Luang Prabang Bakery and restaurant" เป็น Guesthouse ด้วยนะคะที่นี่ มีฟรีไวไฟแรงมากอ่ะ กาแฟเฉยๆ ขนมอร่อยค่ะ



ค่าเสียหายมื้อนี้ 129,000 กีบค่ะ เที่ยงแล้ว เด๋วพาไปกินอาหารอิตาเลี่ยนส่งท้ายกันค่ะ ร้านที่จขกท.จะพาไป ชื่อ ร้าน Le Benetton อยู่ตรงข้ามกับกับวัดสบสิกขาราม นะคะ เล็งไว้แต่เมื่อวานละ เราสั่งพิซซ่ากับบาแกตมา อร่อยและราคาไม่แพงด้วยค่ะ


ลืมถ่ายบิลมา แต่มื้อนี้ ราคา 89,000 กีบ ถูกกว่ากาแฟเมื่อกี้อีก กินเสร็จแล้วเราก็นั่งเล่นไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะกลับรร.แล้วก็นั่งรถคันเดียวกับขามาไปสนามบิน ค่ารถก็ 100,000 กีบเท่าเดิม

ส่งท้ายกันด้วยภาพนี้



หลวงพระบางท่ามกลางสายฝน เป็นเมืองที่มีเสน่ห์มาก แต่สิ่งที่ไม่ประทับใจคือ กาแฟค่ะ กินร้านไหนก็เมา ไม่อร่อยเลย ถ้ากาแฟรสชาติดี จะฟินกว่านี้เยอะค่ะ

ไว้ถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีกแน่นอน....... บาย บาย หลวงพระบาง


ดูรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/chavathida.thamolsan/media_set?set=a.1938097286219616.1073741941.100000580896664&type=3&pnref=story ถ่ายด้วยกล้อง canon 550D เลนส์ Kit
ส่วนรูปในกระทู้ถ่ายด้วย iphone7 ค่ะ




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2560    
Last Update : 16 ตุลาคม 2560 23:04:29 น.
Counter : 1778 Pageviews.  

พาเที่ยวปราสาทหินใกล้เมืองพนมเปญ



สวัสดีค่ะ  หลังจากก่อนหน้านี้พาไปเที่ยวเสียมเรียบแล้ว จริงๆรีวิวครั้งนี้ ไปมาเมื่อปีที่แล้ว และต้องบอกว่า การไปครั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้จัดทริปไปเที่ยวเสียมเรียบในเวลาต่อมาค่ะ

เพื่อนที่เขมรทราบว่า หมูเป็นคนชอบของโบราณ เช่น วัดวาอารามต่างๆ หรือไม่ก็ปราสาทหิน ชนิดเข้าขั้นหลงไหลเลย offer 1 day trip สำหรับการทัวร์ ปราสาทหิน รอบๆกรุงพนมเปญมา ฟังชื่อก็น่าตื่นเต้นแล้วเน้อ รอไรหล่ะ กระโดดงับเลยในบัดดล 5555555 ไม่พูดมากแล้ว เอาเป็นว่า ตามมาเลยค่ะ

วันนี้เรารวมพลกันได้ 5 คน ออกจากเมืองแต่เช้า จริงๆแล้วระยะทางไม่ไกลนะคะ แต่สภาพถนนไม่ดี เราเลยใช้เวลานานกว่าปกติ

การจราจรในกรุงพนมเปญอยู่ในระดับแย่ รถเยอะและไม่เป็นระเบียบซักเท่าไหร่ กว่าจะได้ออกนอกเมืองมาก็กินเวลาไปเกือบๆชม.เลยค่ะ ที่แรกที่เราจะไปกัน คือ ปราสาท Taphrom  อันนี้คนละที่กับที่เสียมเรียบนะคะ แต่ชื่อเหมือนกันเฉยๆ ปราสาท Taphrom  อยู่ในจังหวัด Takeo อยู่ทางตอนใต้ของพนมเปญ ใกล้ๆกับ Tonle Bati ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ใครที่จะไปเที่ยวแนะนำว่า ให้เหมารถจากพนมเปญไปเลย เพราะสถานที่ยังไม่ได้บูมเหมือนกับนครวัด จะหารถโดยสารไปค่อนข้างยากค่ะ

ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.กว่าๆ เราก็มาถึงปราสาทหิน หน้าตาคล้ายๆกับปราสาทหินพิมายบ้านเราค่ะ แต่เล็กกว่า และยังดูไม่มีการจัดการที่ดีเท่าที่ควร  พอลงรถปุ๊บ เราก็โดนเด็กขายดอกไม้ธูปเทียนประมาณ 10 กว่าคนรุมเลยอ่ะ และที่น่ากลัวกว่านั้นคือ พวกนี้พูดภาษาอังกฤษได้ และเถียงเราเป็นภาษาอังกฤษด้วย!!!  ปราสาทหินที่นี่อายุเท่าๆกันกับนครวัด และขนาดเล็กกว่ามาก ถามว่าชอบมั๊ยเราชอบนะ แต่น่ากลัวตรงโดนรุมนี่แหล่ะ ถ้าให้ไปคนเดียวไม่เอาเด็ดขาดเลย

วันนี้แดดดี ภาพเลยออกมาสวย

ภาพนี้แสงฟุ้งไปหน่อย แต่สวย

หมูชอบภาพนี้ค่ะ ดูลงตัวดี

ใกล้เที่ยงแล้ว หาของกินกันดีกว่า มี 2 ทางเลือก คือ กินริมน้ำที่ Tonle bati หรือจะไปกินใกล้ๆกับ Phnom Chisor ก็ได้ ส่วนเรายังงัยก็ได้ แล้วแต่เจ้าถิ่น สรุปก็ไปกันต่อที่ Phnom Chisor ห่างจาก Tonle Bati ซัก 20 กิโลได้ ไปถึง แล้ว ดูคึกคัก คนเยอะ ดูจากลักษณะแล้ว ที่นี่น่าจะเป็นที่นิยมของคนท้องถิ่น เราเลือกร้านที่อยู่ติดกับทางขึ้นเขาเลย กินเสร็จแล้ว เดินขึ้นเขาย่อยอาหารได้เลย  5555

ตอนแรกเราเห็นเปลญวนทุกร้านเลย ก็งงๆว่า เอาไว้ทำอะไร สรุปคือ เอาไว้นอนรอจร้า......................... อาหารช้ามาก เกือบชม.ถึงจะได้กิน หลังจากที่เราไปสั่งแล้ว แม่ค้าก็จะเริ่มเตรียมอาหาร ไล่ตั้งแต่จุดเตาถ่านเลย แล้วก็เอาไก่มาชำแหล่ะ ค่อยๆเตรียมอาหารอย่างใจเย็นและพิถีพิถันมาก ดีนะยังมีหม้อหุงข้าว ไม่งั้น มื้อกลางวันอาจจะกลายเป็นมื้อเย็นได้  

และแล้ว อาหารน่าตาน่ากินก็ออกมา และอร่อยกว่าที่คิดนะ
มีแรงแล้วเดินขึ้นเขากันต่อค่ะ ที่ๆของ 2 ของวันนี้และเป็นที่สุดท้ายคือ Phnom Chisor เป็นวัดและมีปราสาทหินอยู่บนเขา เริ่มเลยค่ะ อารมณ์คล้ายๆเดินขึ้นเขาสุกิมค่ะ เหนื่อยมาก เห็นว่าบันได 400 ขั้นนะ แต่เราไม่ได้นับ เหนื่อย จะเอาตัวไม่รอด 5555555



หมูชอบที่นี่มากกว่า เดินขึ้นมาเหนื่อยๆ ลมเย็นๆแล้ว เห็นวิวแบบนี้ หายเหนื่อยเลยค่ะ


จริงๆแล้วด้วยสายตา มองเห็นตึกสูงๆอย่าง Canadia Bank ที่พนมเปญเลยนะคะ แต่ภาพเก็บไม่ได้
มาดูปราสาทกัน


มี Baray ด้วยค่ะ

เหมือนกันที่อื่นๆ จะมีทางเดินขึ้นสู่ตัวปราสาท และระหว่างทางก็จะมีที่พักรายทาง การก่อสร้างของคนสมัยก่อนนี้น่าอัศจรรย์เน้อ ชอบมากๆเลยอ่ะ



ส่งท้ายด้วยภาพกำแพง ชอบถ่ายกำแพงค่ะ 5555

ดื่มด่ำกับบรยากาศกันพอสมควร ก็ได้เวลากลับกันแล้ว กว่าจะถึงตัวเมืองมืดเลยค่ะ 55555


Bye bye เป็นทริปอีกทริปที่ทำให้พนมเปญเป็นที่ที่น่าจดจำอีกครั้ง I love you Cambodia.

รูปทั้งหมดถ่ายด้วย Iphone 7




 

Create Date : 09 กันยายน 2560    
Last Update : 9 กันยายน 2560 21:24:40 น.
Counter : 673 Pageviews.  

เที่ยวเสียมเรียบ คนเดียว 11-14 Aug 17







เริ่มจากได้มีโอกาสไปทำงานที่พนมเปญมา 2 ครั้งในช่วง 3 ปีที่ผ่าน และเกิดหลงรักเมืองและประวัติศาสตร์ที่นี่เข้าอย่างจัง จนเป็นเหตุให้ต้องหาทางจัด Trip ไปดูปราสาทนครวัดในเวลาต่อมา

ช่วงเวลาที่เลือก หมูตัดสินใจเลือกหน้าฝน เพราะ 1.Low season คนน้อยกว่าช่วงอื่นๆ 2. ค่าที่พักลด 30% 3. จะได้เห็นปราสาทตาพรหมในมุมที่มีต้นไม้เขียวๆ

วันที่ไป 11-14 Aug 17 เพราะเป็นวันหยุดยาว +compensate เพิ่ม 1 วัน ก็ได้ไปชิลที่เสียมเรียบแบบสบายๆ  จากนั้นก็จัดการจองตั๋วเครื่องบินเลยค่ะ จริงๆถ้าไปรถจะประหยัดกว่ามากเลยค่ะ แต่หมูชอบไปเที่ยวสบายๆและประหยัดเวลาเลยตัดสินใจไปเครื่องบินค่ะ  


Mamoo in Siem Reap day1
แอบหนีมาเที่ยวนครวัดคนเดียว ครั้งแรกเลยที่ตะลุยต่างประเทศคนเดียว เริ่มจากจอง Taxi ผ่าน Grab application ลุงมาก่อนเวลาด้วย 5555 ดีนะตื่นแล้ว ไปถึง สนามบิน ตี 5 ก็ไปดู counter chech-in เห็นเขียนว่า CDE เลยต่อมันอันที่ใกล้ที่สุดนั่นแหล่ะ คราวนี้เลือกบิน Thai smile เพราะว่า ราคาไม่ต่างจากAirAsia แถม Load กระเป๋าได้ 20 kg. ด้วย ต่อคิวอยู่ประมาณ 15 นาที พอจะ Check-in เจ้าหน้าที่บอกว่า International ต้องไปทาง Row E นะคะ  😭😭😭😭😭😭😭 ดีนะต่อไม่นาน ทำไงได้ ลากกระเป๋าข้ามฝั่งดิ รอแป๊บนึงก็ถึงคิวเลย พอ Check-in เสร็จ ก็ไปเดินหาแลกเงิน กับไปซื้อของยังชีพเพิ่ม.... อยากกินตาบัค แต่ว่าตั้งใจว่ามาถึงจะไปลอง Brown coffee ก่อน เลยอดใจไว้

นอนดึกตื่นเช้า เลยออกอาการหลับตั้งแต่ได้ที่นั่ง รู้ตัวอีกที แอร์โฮสเตสปลุกให้มาเอา set ของว่าง ของว่างของ Thai smile OK เลยนะ เป็นขนมปังไส้ไก่ ชิ้นเบ่อเริ่มเลย กับผลไม้ แล้วก็มีน้ำผลไม้ 20%กับน้ำเปล่า อิ่มประทังชีวิตได้เลยอ่ะ
ใช้เวลาบิน 55 นาที ก็มาถึง สนามบิน Siem Reap น่ารักดี อารมณ์สนามบินหาดใหญ่ แต่ที่ไม่โอคือ รอตม. ช้ามาก มาถึงตรงเวลา แต่เสียเวลารอผ่านด่านครึ่งชม. กว่าจะออกมาได้ โชคดีรร.ให้รถมารับฟรี เลยประหยัดไป 1 ขา
รร.ที่พัก ชื่อ Angkor Holiday Hotel อยู่ถนนเส้นหลักเลยและที่สำคัญอยู่ใกล้ Brown coffee 55555  

มาถึงต้อนรับด้วย Welcome drink


กับผ้าเย็น สุดประทับใจ พอรู้ว่าเป็นคนไทย ทุกคนก็พยายามจะพูดภาษาไทยด้วย น่ารักดี.....
พักพอหายเหนื่อยแล้วก็เดินไปที่ Brown coffee ร้านสวยมว๊ากเลยอ่ะ


ร่มรื่น โล่ง โปร่ง สบาย เข้าไปก็สั่ง Caramel macchiato แก้วใหญ่เลย กับ Danish สับปะรด


มากินให้สมกับความอยาก 55555 ตอนที่พนักงานมาเสิร์ฟผิด เราก็ตอบเป็นภาษาอังกฤษไปนะ แต่ทำไมเค้ารู้ว่าเป็นคนไทยก็ไม่รู้ พอมาเสิร์ฟอีกที ก็พูดไทยว่า "เมื่อกี้สับสน" 55555 มีแต่เรื่องโจ๊ก
นั่งเล่นประมาณชม.นึง ก็ออกไปเรียกตุ๊กๆ เหมาจนเย็นอ่ะ 20$ ให้พาไป National Angkor museum ไปซื้อ pass แล้วก็ไปนครวัดก่อน ที่ตะลึงคือ พี่ตุ๊กๆพูดไทยได้เว้ย 😜😜😜😜😜😜😜 สบายหล่ะกรู ที่แรกไปพิพิธภัณฑ์ พี่ตุ๊กๆบอกว่า ให้แวะไปที่ Galleria ก่อนนะ ไม่ซื้อไม่เป็นไร แกจะได้ 2$ เอาวะ ถือว่าช่วยแก T Galleria เหมือนเป็นร้าน Brand name แต่ไม่เยอะนะคะ พอๆกับที่สนามบินแหล่ะค่ะ เอารูปภายนอกไปดูก่อนแล้วกันนะคะ  



เข้าไปถ่ายรูปแล้วก็เดินมาต่อที่พิพิธภัณฑ์ ค่าเข้า 12 $ ห้ามถ่ายรูปและต้องฝากกระเป๋าด้านนอก ทุกกรณี เลยไม่มีภาพมาอวด เดินเล่นเย็นๆอยู่ชม.นึง แล้วก็ไปซื้อ pass พี่ตุ๊กๆก็จะพาไป Shopping ตลอด กรูบอกว่าไม่ไป จะไปซื้อ pass ไปถึงก็ตรงไปบูธขายตั๋วเลย 3 days 62$ เลือกได้ด้วยว่า จะเริ่มวันไหน เราก็เริ่มวันนี้เลย ถึงจะขาดทุนไปครึ่งวันก็ไม่เป็นไร


ที่ขายตั๋วเข้า Angkor wat ค่ะ


มีแยกเป็น Counter ถ่ายรูปจ่ายเงินเสร็จ รอไม่เกิน 5 นาทีค่ะ


จากนั้นก็ตรงไปนครวัด บอกพี่ตุ๊กๆว่า จะออกมาตอน 5 โมงครึ่ง แกก็ใจดีบอกว่า ให้ไปซื้อน้ำก่อนนะ ข้างในไม่มีขาย เดินร้อนๆจะหิวน้ำ เราก็เลยตรงไปตามที่แกบอก่อน ถามคนขายจะซื้อน้ำคนขายตอบมาเป็นภาษาไทยว่า 5 บาท😱😱😱 คนไทยคงมาเที่ยวบ่อยจริงๆ อ้อ 5 บาท = 500 riel นะ
พอได้มาสัมผัสแล้ว คำว่า See Angkor Wat and died มันไม่เกินเลยเลยอ่ะ ปราสาทหินขนาดมหึมา ใหญ่กว่าปราสาทหินพิมายเป็น 10 เท่าเลย ตัวปราสาทถูกล้อมรอบด้วย Baray หรือบ่อน้ำขนาดใหญ่ มันดูอลังการมาก ตัวสะพานนาคราชด้านหน้าชำรุดไม่ให้ข้าม เลยต้องมาข้ามทางเดินที่ทำเป็นทุ่นให้เดิน ดึ๋งๆ


พอเข้าไปก็จะเจอซุ้มกำแพงด้านนอกก่อน ตอนนี้มันร้อนมาก เกรียมไปหมดทั้งตัว เลยต้องรีบเดินเข้าไปข้างใน พอเข้าไปก็จะมีทางเดินหินยาวเป็นกิโลเลยกว่าจะถึงตัวปราสาท ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ไกล แต่มันร้อน!!!!! มาแล้วก็เดินฝ่าไปแบบร้อนๆนั่นแหล่ะ ระหว่างทางก็จะมีปราสาทหลังเล็กๆอยู่ 2 ฟาก ไม่รู้ว่าเป็นห้องสมุด หรือศาลาอโรคยากันแน่ ถัดจากตัวปราสาท ก็จะมีบ่อน้ำอยู่2 ด้าน
เป็นที่ที่เค้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน แต่เราขอดูตอนเย็นดีกว่า เพราะนครวัดหันหน้าไปทางตะวันตก ตอนเย็นแสงจะสวยและเห็นเงาของนครวัดสะท้อนน้ำ เล่นเอาลืมหายใจเลยทีเดียว



พอเข้าไปถึงปราสาท จะมีกำแพงอีก 2 ชั้น ชั้นแรกล้อมรอบไปด้วยภาพสลักเต็มเลย สวยมาก เดินวนรอบ เหนื่อยก็พัก จากนั้นก็เดินฝ่าไปก็จะเจอกำแพงอีกชั้น อันนี้เดินได้ฝั่งเดียว อีกฝั่งปิดซ่อม ต้องผ่านกำแพง 3 ชั้น ถึงจะถึงตัวปราสาท


คิดดูว่ามันใหญ่ขนาดไหน ตัวปราสาทต้องปีนบันไดชัน 70 องศาเลยม้าง แถมจำกัดจำนวนคนแค่ 100 คน เค้าจะมีป้ายให้


ถ้ามีคนลงมาก็จะเวียนป้ายไปเรื่อยๆ ถือว่าจัดการดีมากเลยหล่ะ แถมมาเที่ยวคนเดียวไม่ต้องกลัว มีเจ้าหน้าที่อยู่รอบปราสาทเลย 55555 ไหนๆมาแล้วต่อคิวขึ้นก็ยอม ไม่รีบนี่หว่า แต่พอเดินขึ้นจริง ลมแทบจับ เหนื่อยว๊ากกกกก
คุ้มมากที่ได้มีโอกาสมาเยือนครึ่งวันบ่ายเต็มๆเลย เดินทุกซอกทุกมุม รอบๆปราสาทเป็นป่า อากาศก็เลยดีมาก มีลิงเยอะแยะเลย 5555



สูญเสียพลังงาน ก่อนกลับเลยแวะกินน้ำมะพร้าวลูกใหญ่มาก 2.5$ น้ำเยอะมาก


ก็ถือว่าคุ้มนะ ได้มากกว่า ที่ Top super อีก
หมดแรงข้าวเหนียว เลยกลับรร.เลย ไปไหนต่อไม่ได้ละ

รูปที่แนบในกระทู้ถ่ายด้วย Iphone 7 ค่ะ


Mamoo in Siem Reap day 2
Plan วันนี้ อยู่ใน Angkorthom ทั้งวันเลย....... เริ่มแรก รวบรวมกำลังพล the gang ที่ Brown coffee ก่อนเลย 
เมนูเดิมค่ะ




วันนี้มีเพื่อนร่วม Trip 4 คน เป็นเพื่อนๆเจ้าถิ่น เจอกันตอนที่ไปทำงานที่พนมเปญ วันนี้เราใช้บริการพี่ตุ๊กๆคนเดิม พี่แกจะจอดประจำอยู่แถว Brown coffee แต่วันนี้เพื่อนเต็ม แกเลยไม่ได้พูดไทยกับเราเลย วันนี้ต่อได้ในราคา 20$ ทั้งวัน 55555 แล้วเมื่อวานแค่ครึ่งวัน 20$ คืออาร๊ายยยย จุดแรกที่แวะ คือ Banteay kdei อ้อ ก่อนจะเข้าเขต Angkor wat จะมีจุดตรวจตั๋ว ก็ต้องเอา pass มาโชว์ เค้าก็จะเจาะรูเป็นหลักฐานว่า เข้าไปกี่วันแล้ว และพอไปถึงแต่ละที่ก็จะมีเจ้าหน้าที่เสื้อสีม่วง รอตรวจ pass เป็นระยะๆ เพราะฉะนั้น ห้ามหาย!!!!!
Bantrey kdei เป็นปราสาทเล็กๆ คนไม่เยอะมาก มีมุมให้ถ่ายรูปแบบไม่ติดคนเยอะอยู่ แค่กรูลืมหยิบ Iphone มาถ่าย 55555 รอดูจาก DSLR แล้วกัน เดินประมาณ 15 นาทีก็โอเคละ


   ภาพนี้เป็นหนังวัวนะคะ สวยมากเลยค่ะ

ด้านหน้า

 ก่อนจะออกค่ะ ชอบมากเลยอ่ะ

แห่งที่ 2 ปราสาท Ta phrom ที่ถ่ายหนัง Tomb raider คนเยอะมาก ทั้งไทย ทั้งเทศ ทั้งคนท้องถิ่น เลยไม่ค่อยได้มุมสวยๆ กับไม่มีโอกาสดื่มด่ำกับศิลปะเท่าไหร่ แต่ก็ยังโชคดีที่มี The gang คอยอธิบายและเป็นไกด์ให้ในตัว 



กระหายน้ำมาก เลยบอก The gang อยากกินน้ำมะพร้าว เมื่อวานจ่ายไป 2.5 $ วันนี้เลยพอไปกิน 1 $ แถวๆ Terrace of elephant. รสชาติเหมือนกันเด่ะ!!!

กินเสร็จ เราก็ไปต่อกันที่ปราสาท Bayon ที่มีหน้ายิ้มเยอะๆ วันนี้ชอบที่นี่ที่สุด คนไม่เยอะมาก พอเข้ามาแล้วรู้สึกว่า เหมือนมีผู้ใหญ่ใจดี จ้องมองตลอดเวลา 55555 ประทับใจๆ


อากาศวันนี้ถ้าเทียบกับเมื่อวานแล้ว ไม่ร้อนเท่า แต่เมฆเยอะ ฟ้าไม่สวย รูปที่ออกมาเลย สู้ภาพจากนครวัดไม่ได้ แล้วที่นี่ใหญ่มาก บอกเลย จะแวะให้ครบต้องอยู่เป็นอาทิตย์อ่ะ
ท้องร้อง..... บ่ายโมงกว่า The gang พาไปกินร้านเพิงข้างทาง ทำใจตั้งแต่เห็นเปลละ อารมณ์ Shiso mountain เลย นานชัวร์ !!!!!! พออาหารมาถึง ไม่พูดพร่ำทำเพลงละคร้าบบบบบบ ลุยสิ!!! กินเสร็จก็นั่งเล่นอีกซักพักใหญ่ มื้อนี้มีเจ้ามือเลี้ยง 55555
Back to Angkor wat แต่วันนี้เข้าทางตะวันออก เดินผ่านป่ามา กว่าจะมาถึงตัวปราสาท วันนี้คนเยอะมว๊ากกก ดีแล้วที่ตัดสินใจมาเมื่อวาน
สุดท้ายจบที่ Phnom bakeng เดินขึ้นเขาไปดูพระอาทิตย์ตก แต่คนเยอะมาก และจำกัดคนขึ้นอีกเช่นเคย เลยตกลงกับ The gang ว่า กลับเหอะ ไว้คราวหน้า มาดูใหม่ จะมาจองแต่บ่ายสามเลย



หมดแรงข้าวเหนียวเลยค่ะ เด๋วมาต่อ Day 3 เน้อ

Mamoo in Siem Reap day 3

วันนี้ The gang สลายตัวแต่เช้า เลยต้องไปคนเดียว กินข้าวเสร็จไปต่อที่ Brown coffee เหมือนเดิม เป็นคนที่ชอบกิน Caramel Macchiato มากๆ แต่พอเห็น Latte art สวยๆก็เลยสั่งมัน 2 แก้วเลย ตอนที่สั่งชี้ไปที่รูปหมี บอกว่า I want like this. จริงๆเอาแค่ Latte Art มาก็ฟินละ แต่นี้มาเป็นรูปหน้าหมีแบบที่ชี้เด๊ะๆเลย ขอบคุณในความใส่ใจลูกค้าของพนักงาน Brown มากๆ



I would like to say thank you to Brown staff. You make me feel good and have great experience in here. The best coffee in Cambodia.
วันนี้มีโปรแกรมออกนอกเมือง ตอนแรกตั้งใจว่า จะกลับไปเรียก Taxi ที่รร.ก็ได้ เพราะ มันต้องเดินทางไกล ดูจะปลอดภัยกว่า แต่ The gang บอกว่า จะโทรเรียกพี่ตุ๊กๆคนเดิมให้ เพราะคุ้นเคยกันมาหลายวันแล้ว และพูดภาษาไทยได้ นางก็มาคุยให้พร้อมต่อราคาให้เสร็จสรรพที่ 30 $ พาไป Banteay Srei กับ Kbal spean ประมาณเกือบๆ 50 กิโลได้
Start tour ตอน 10.20 น. กว่าจะไปถึง Banteay Srei ก็ปาไป 11.30 น. พี่ตุ๊กๆไม่เคยไปเลยแวะถามทางตลอด 5555 ช้านิดนึง
ไปถึงด่านแรก ขอตรวจ pass เลยจร้า.... มีของขาย มีห้องน้ำด้วย ระหว่างทางก็มีห้องน้ำนะ ไม่ต้องกลัวใดๆ ทั้งสิ้น Banteay Srei เป็นปราสาทเล็กๆ ไม่ใหญ่แต่โดดเด่นที่เป็นหินทรายสีชมพูและการแกะสลักยังสวยงาม และค่อนข้างสมบูรณ์ด้วย คุ้มกับที่นั่งรถมาเป็นชม.เลยจริงๆ ใช้เวลาอยู่กับที่นี่ 45 นาที ได้มุมถ่ายรูปสวยๆเยอะ ไม่ติดคน อาจจะเป็นเพราะมันไกล คนเลยไม่เยอะ พอหลบได้อยู่




จากนั้นก็ไปต่อกันที่ Kbal Spean ห่างจาก Banteay Srei 13 กิโลได้ ไปถึงก็ยังมีตรวจ pass อีกจร้า..... เก็บทุกเม็ดเลยจริงๆ แต่ก็ถือว่า เค้าจัดการดีนะ สถานที่แต่ละที่ สะอาด มีถังขยะเยอะแยะ และมีคนคอยทำความสะอาด ใช้ได้เลยหล่ะ
ทางขึ้นของ Kbal Spean ต้องปีนขึ้นเขาไปกิโลครึ่ง อารมณ์คล้ายๆกับไปเดินภูกระดึงแต่ไม่มีของขายระหว่างทาง เหนื่อยมว๊าก เดินไปตามทางไม่ต้องกลัวหลง จำได้ว่า ตอนที่เหลืออีก 100 เมตร เดินสวนกับหนุ่มขแมร์ คุณชายบอกว่า Only 5 mins 55555 สงสัยหน้าตาเราคงจะหมดสภาพอ่ะ ใช้เวลาเดินเกือบๆชม.เลยอ่ะ ไปถึงอย่างแรก พักเหนื่อยก่อนเลย ปวดขามาก



Kbal Spean โดดเด่นที่หินสลักตามลำธารเป็นรูปต่างๆ โดยเฉพาะศิวลึงค์ เป็น 100 เป็น 1000 อยู่ใต้น้ำ กำลังงงว่า ทำกันยังงัยวะ Amazing มากอ่ะ เราก็เดินไป ถ่ายรูปไป สถานที่ท่องเที่ยว คนเยอะ ไม่เปลี่ยว ไปคนเดียวสบายๆ ระหว่างที่เดินถ่ายรูปไป มีลุงใส่เสื้อสีฟ้า เหมือนจะเป็นเจ้าหน้าที่ ลุงดูกระตือรือร้นที่จะพาไปดูโน่นดูนี่ ลุงพูดภาษาไทยปนภาษาอังกฤษแบบงูๆปลาๆ แต่เราก็สามารถเข้าใจได้ ต้องขอบคุณลุงเลยอ่ะ ถ้าไม่เจอแก ไม่มีทางเจออะไรดีๆพร้อมคำอธิบายแน่ๆ เลยให้ Tip ไป 1$


ดูเวลาพร้อมกับได้ยินเสียงฟ้าร้องเลยรีบเดินลงมาดีกว่า เผื่อฝนตก ทางยิ่งเป็นดินแดงๆด้วย ฝนตกนี่ดูไม่จืดอ่ะ
ได้เวลากลับเข้าเมืองเลยให้พี่ตุ๊กๆพาไป Old market โชคดีกลับมาก่อน 5 โมง เลยมีเวลาไปเดินหาซื้อของฝาก สินค้าส่วนใหญ่เหมือนบ้านเรา แต่ที่มีเยอะ ราคาไม่แพงคือผ้าคลุมไหล่ไหม แต่ตัวเองมีหลายผืนละ ไปพนมเปญคราวก่อน ลูกค้าก็ซื้อฝากให้ ก็เลยได้แต่ของคนอื่นๆ ร้านที่เราเลือก คนขายดูกระตือรือร้นอีกเช่นกัน หาโน่นหานี่ให้ ได้ของครบในร้านเดียวเลย ซื้อเสร็จก็ออกมารอพี่ตุ๊กๆที่เดิม ระหว่างที่ยืนรอมีคนมาจีบจะให้พาเที่ยวเยอะแยะ 55555 แต่วันนี้กรูเดินจนเมื่อยละ อยากกลับรร.มากเลย


ตึกละแวก Old market

ตอนเย็นตั้งใจจะไป Brown coffee อยู่แล้ว พี่ตุ๊กๆชี้ห้าง Lucky mall ให้ดู มันอยู่ใกล้รร.มากเลย แกบอกว่า เป็นห้างเดียวของที่นี่ เลยเดินไปดูก่อน



ไปหาของกินที่ Brown coffee เช่นเดิม
กำลังนั่งเขียน PC ระหว่างรอกาแฟ พนักงานมาเสิร์ฟ เห็นเขียน Thailand ก็เลยพูดภาษาไทย ชวนคุยสนุกสนาน


คนที่นี่เป็นมิตร น่ารัก เป็นทริปที่เหนือความคาดหมายในหลายๆอย่าง นครวัดงดงามแค่ไหน แต่มิตรภาพที่ได้รับ งดงามกว่ามาก ขอบคุณสิ่งดีๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เป็น Trip ต่างประเทศที่ดีที่สุดเลยหล่ะ 55555

Mamoo in Siem Reap day 4

จองตั๋วผิด ตั้งใจจะกลับตอนเย็นแต่ดันกลายเป็น Flight เช้า 😭😭😭😭😭😭
วันนี้เลยไม่มีอะไรมาก ตื่นแต่ไก่โห่ เพื่อจะได้กินข้าวเช้ากับ Check out เร็วๆ 55555 จากนั้นก็ลากกระเป๋าต้อกๆไป Brown coffee Siem Reap ตอนเช้า อากาศดีนะ คราวหน้าจะขยันตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นแล้วกัน
พนักงานที่ Brown เห็นลากกระเป๋ามา ก็เข้ามาคุยเป็นภาษาไทยอย่างเป็นกันเอง (แน่หล่ะ มาทุกวัน วันละ 2 รอบ 3 วันติด ไม่คุ้นเคยก็แปลกละ 55555)



มานี่ข้ามถนนเองได้เว้ย 5555555 ไม่น่ากลัวเหมือนที่พนมเปญ เมืองที่นี่ดูปลอดภัยพอสมควร สามารถเดินไปไหนมาไหนคนเดียวได้ มีตุ๊กๆวิ่งตลอด เรียกได้เลย
ต้องขอบคุณพี่ตุ๊กๆ ที่ดูแลอย่างดีตั้งแต่มาถึง จนมาส่งสนามบิน ไม่ได้ต่อรองราคาอะไรเลย แต่เราก็ให้ตามความเหมาะสม อย่างน้อย 4 วัน แกได้ไป 80 $ ละ รวยไปเลย 555555
ถ้าเพื่อนๆจะมาและอยากเดินทางกับตุ๊กๆ แนะนำพี่แกเลย แกจะจอดประจำแถว Brown coffee ไว้ใจได้นะ เพราะเราเองก็มาเที่ยวคนเดียว ก็โอเคอยู่ เบอร์โทร พี่ตุ๊กๆ 087-279732 รหัสประเทศ +855 ชื่อ บุญเถื่อน FB พี่แก Boutheoun Boutheoun นะ พูดไทยได้ชัดแจ๋ว แกอยู่ประจำแถวๆ Brown Coffee  ยังงัยลองเช็คข้อมูลดูก็ได้ ว่าโอเคมะ



พี่ตุ๊กๆคือคนนี้ค่ะ


แนะนำสบู่อันนี้นะคะ ใช้ดีมาก หน้าไม่มันเลยค่ะ มาทีไรจัดทุกที ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียนะคะ แค่อยากบอกต่อ



ใครสนใจดูรูปเพิ่มเติมของ Angkor wat นะคะ อัลบั้มนี้ถ่ายด้วย DSLR  canon 550D มือสมัครเล่นค่ะ

https://www.facebook.com/chavathida.thamolsan/media_set?set=a.1882135061815839.1073741929.100000580896664&type=3






 

Create Date : 20 สิงหาคม 2560    
Last Update : 10 กันยายน 2560 19:56:51 น.
Counter : 922 Pageviews.  

Familiy trip @Hongkong on 14-17 Jan 16



สวัสดีค่ะ เพิ่งจะได้ฤกษ์เขียน Blog เป็นเรื่องเป็นราวซักที 


แนะนำตัวเองก่อนนะคะ ชื่อ หมู ค่ะ ชื่อในโลกออนไลน์ Mamoonarak ค่ะ อาชีพก็ ดูแลในส่วน After sale service ค่ะ เลยได้มีโอกาสเดินทางไปทั้วประเทศ และต่างประเทศในบางครั้ง แต่ที่เขียนใน Blog ขอเริ่มจากการไปเที่ยวเองล้วนๆค่ะ 

Trip นี้เป็น Trip สบายๆตามใจ อยากทำอะไรทำ อยากไปไหนไป เริ่มจากเลือกประเทศก่อน ก็ได้คุยกับน้องสาวว่า เราจะพาพ่อกับแม่ไปเที่ยวใกล้ๆไปไหนกันดี ตอนนั้นมี Choice อยู่ 2-3 ที่ คือ Singapore,Hongkong และ Taiwan ช่วงปีก่อน Taiwan ยังต้องขอ Visa อยู่ก็เลยตัดไป เหลือ 2 ที่ แต่หมูชอบอากาศเย็นๆ และก็เป็นแฟนหนังจีนมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยตกลงกันว่า งั้นเริ่มจาก Hongkong ก่อนแล้วกัน 

Plan คือไปเดือน Jan 16 แต่เริ่มจองตั๋วเครื่องบินกับที่พักตอนเดือน Aug 15 หมูใช้บริการจองตั๋วเครื่องบิน+Hotel ของ Expedia  ค่าที่พัก 3 คืน+ตั๋วเครื่องบินไป-กลับราคาคนละ 10,277 บาท ค่ะ

สายการบินที่ใช้บริการคือ Hongkong Airline ขาไป 8:40 ถึง 12:40 ส่วนขากลับ 12:10 ถึงกรุงเทพ 14:05 ค่ะ

โรงแรมที่พัก พักเป็นแบบห้อง Family 4 คน ไม่มีอาหารเช้า ชื่อ Royal Plaza Hotel อยู่สถานี Mongkok East ค่ะ ออกจากสถานีมา เดินมาอยู่ติดกันเลย  

Internet หมูใช้บริการ AIS roaming 3 วัน ราคาประมาณ 1,000 บาท 

เราวางแผนเที่ยวโดยใช้รถไฟฟ้า MTR เป็นหลัก ก็เลยว่า จะซื้อบัตร Octopus กัน เพราะว่าสะดวกดี และใช้ซื้อของใน 7-11 ได้ด้วย หน้าตาบัตร Octopus นะคะ ซื้อที่สนามบินเลยค่ะ 



ตั๋วอื่นๆก็จองไปจากเมืองไทยเลย โดยใช้บริการ //www.hongkongfanclub.com ก็มีตั๋ว Airport express ลงสถานีเกาลูน  ซึ่งต้องระบุวันไปเลยตอนซื้อ ราคา 590 บาท/คน แถมขากลับ เราสามารถใช้บริการ In town check-in ได้ด้วย สะดวกมากเลยค่ะ 

ตั๋วกระเช้า Ngongping ค่ะ เลือกเป็นแบบกระเช้า Crystal ราคา 1,050 บาท/คน แพงแต่ว่าคนต่อแถวน้อยกว่าเยอะ ก็เลยเลือกแบบนี้ค่ะ ซึ่งก็ต้องระบุวันตอนซื้อเหมือนกันค่ะ 

ตั๋ว Sky 100 ราคา 540 บาท แบบระบุวัน ก็ซื้อไปพร้อมกันเลย  จ่ายเงินเสร็จ ทาง //www.hongkongfanclub.com ก็จะส่งเอกสารมาให้ที่บ้านค่ะ โดย AE เราต้องไปแลกตั๋วจริงที่ Counter หน้าสถานี กับ Ngongping ก็เหมือนกัน ต้องมาเปลี่ยนเป็นตั๋วจริงที่ Counter ส่วน บัตร Sky 100 เป็นตัวจริง สามารถใช้ได้เลยค่ะ  หน้าตาของบัตร Sky 100 



Day 1
พอถึงวันไปจริงๆ ก็ต้องตื่นแต่ไก่โห่เลย หมูในบริการ Advance booking ของ Grab Taxi ค่ะ ดีมากเลย คนขับก็มารับตรงเวลาด้วย ใครที่บินไฟล์เช้า แนะนำให้จองผ่าน Application ของ Grab เลยนะคะ บวกค่าเรียกแต่ทุกอย่าง Track กลับได้หมดเลยค่ะ 

สายการบิน Hongkong Airline บริการดี  Load กระเป๋าได้คนละ 20 กิโล มีบริการอาหารบนเครื่อง อร่อยด้วยค่ะ ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชม. ก็ไปถึง Hongkong ฟ้าเมฆเต็มเลย แต่ฝนไม่ตก อากาศเย็นกำลังสบาย น่าจะประมาณ 20 องศา ฟินมากเลยค่ะ Smiley

จากนั้นเรา พ่อแม่ลูก 4 คนก็เดินลากกระเป๋าไปที่ Counter ซื้อตั๋ว AE อยู่หน้าสถานีเลยค่ะ เดินไปให้สุด เจอสถานีรถไฟตรงไหน Counter ที่แลกตั๋ว AE ก็ตรงนั้นเลยค่ะ ยื่นเอกสารที่ทาง Hongkong fanclub ส่งให้พร้อมกับ passport เราก็จะได้ตั๋วหน้่าตาแบบนี้มา 



แล้วบัตร Octopus ก็ซื้อที่ Counter นี้ได้เลยเหมือนกัน ราคาเริ่มต้น 150 เหรียญ แต่ใช้ได้แค่ 100 เหรียญนะคะ มีค่ามัดจำบัตรค่ะ จริงๆเราสามารถใช้บัตร Octopus จ่ายค่ารถเที่ยวไปกลับสนามบินได้ แต่ที่หมูซื้อแยก เพราะต้องการใช้บริการ In town check-in  ขากลับเราก็มาแลกเงินคืนที่ Counter เดิมได้เลยค่ะ 

AE จะจอดแค่ 3 สถานีเท่านั้น เราลงสถานีที่ 2 คือ สถานีเกาลูนค่ะ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นก็ต่อรถไฟอีก 2 สาย ก็ถึงสถานี Mongkok East ซึ่งเป็นที่ตั้งของรร.ของเราค่ะ อ้อ!!  ก่อนออกจากสนามบิน หยิบแผนที่รถไฟฟ้ามาด้วยนะคะ หยิบที่ Counter ขายตั๋วได้เลย มีประโยชน์มากค่ะ 

ออกมาจากสถานีแล้วก็เดินงงๆ กว่าจะหารร.เจอ ก็ต้องพึ่งพาคนอื่นเล็กน้อย 55555  ภาพของที่พัก หมูพักชั้น 12 ค่ะ ห้องพักได้ 4 คน วิวดีเหมือนกัน







ตอนแรกตั้งใจจะไป Victoria peak เลย แต่พ่อกับแม่ดูเหนื่อย เราเลยตกลงกันว่า เราจะไปหาข้าวเย็นกินกันที่ Tsim Sha Tsui แล้วก็ไปรอดู Symphony of light พอละ ก็เลยนอนเล่นที่ห้องไปก่อน 

5 โมงเราก็นั่งรถ MTR ไป Tsim Sha Tsui  ค่ารถที่นี่ถูกมากค่ะ นั่งไปตั้งไกล ไม่กี่เหรียญเองอ่ะ แถมวิ่งเร็ว และการต่อเชื่อมแต่ละสาย ดีมากๆเลยค่ะ 

เราเดินไปมั่วๆจนเจอร้านอาหาร ชื่อร้านอะไรก็ไม่รู้ อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ จำได้แค่ว่า อยู่ในซอย 5555 อาหารจานใหญ่มากเลย อร่อยด้วย อิ่มมากๆ เราเลยต้องเดินย่อยมาเรื่อยๆจนถึงอ่าว Victoria ที่ๆเราจะมาดู Symphony of light 







บอกแล้วว่า เป็นแฟนหนังจีนทั้งหนังจีนกำลังภายใน และหนังจีนฮ่องกงทั่วไป ซึ่งมุมที่ถ่ายหนัง มันก็คืออ่าว Victoria และการที่ได้มายืนตรงจุดๆนี้ มันรู้สึกดีมากๆเลยอ่ะ ตรงอ่าวเป็นพื้นที่สาธารณะ มีหอนาฬิกาสุดคลาสสิก มีท่าเรือ ห้างและจุดรอรถเมล์อยู่ใกล้ๆกัน เวลารอรถเมล์คนที่นี่เข้าแถวแยกเป็นสายๆกันค่ะ ดูเป็นระเบียบมากเลย

เตร็ดเตร่ถ่ายรูป เดินห้างและเดินดูชีวิตผู้คนที่นี่ ดีเหมือนกันค่ะ พอฟ้าเริ่มมืด อากาศก็หนาวเลยค่ะ บวกกับลมที่อ่าวแรงมาก ฝนตกปรอยๆ กลัวพ่อจะไม่สบาย แต่ไหนๆก็มาแล้ว รออีกหน่อยก็จะได้ดูการแสดงที่ขึ้นชื่อของที่นี่แล้ว พอใกล้เวลาคนก็เริ่มเยอะ เราก็ไปจับจองที่ด้านหน้าก่อน หนาวก็หนาว ทรมานมากเลยอ่ะ  พอ 20.15 น. การแสดงก็เริ่มขึ้น ไฟจากตึกต่างๆก็เปิดตามจังหวะเสียงเพลง แต่ว่า อากาศไม่ค่อยดี ฟ้าปิด เลยไม่ค่อยเห็นแสงเท่าที่ควร แต่แค่ได้มาเยือนแค่นี้ก็ดีสุดๆแล้วค่ะ  การแสดงใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็จบ พอจบ เราก็รีบเดินมุดลงใต้ดินไปขึ้นรถ MRT กลับเพราะคนเยอะมากๆ ก็เลยรีบ ใช้เวลาแค่ 15 นาที ก็ถึงที่พักแล้ว เห็ยเตียงแล้วก็......555 นอนดีกว่า อากาศเย็นๆ เตียงนุ่ม ผ้าห่มอุ่นๆ จะมีอะไรดีกว่านี้อีก ไม่มี๊..ไม่มี 

-----------------------------------------

Day 2 

วันนี้เราจะไปไหว้พระกับที่ Ngongping กัน อย่างแรกคือไปหาข้าวเช้ากินกันก่อนเลย เราอ่านใน Review มา เค้าแนะนำร้านโจ๊ก Sea-view อยู่สถานี Mongkok เราก็เลยตามรอยซะเลย ง่ายดี  ลงรถไฟสถานี Mongkok ออกทางออก D2 แล้วเดินตรงมาเรื่อยๆ ร้านอยู่ติดกับ Mc donald ตรงข้ามกับ Starbucks
เราสั่งโจ๊กรวมมิตรกับปาท่องโก๋มากิน อร่อยดี 





จุดหมายเราอยู่ Ngongping ซึ่งอยู่แถวๆสนามบิน อีกฟากเมือง ฝนก็ตกพรำๆ เราก็เอาวะ มาแล้ว ก็ไปแบบฝนตกๆนี่แหล่ะ  ถ้าจะไปต้องไปลงสถานี Tung Chung สายเดียวกับทางไปดิสนีแลนด์ สายนี้แพง 5555 ราคาเป็น 100 เลย ไปถึงก็เดินงงๆ วนอยู่พักใหญ่ หาทางขึ้นไปกระเช้าไม่เจอ ถามคนนั้นคนนี้ สุดท้ายก็เดินตามคนที่ดูท่าทางจะไปที่เดียวกับเราแน่ๆไป 5555555 แค่ตึกบังอยู่เอง Smiley
 คิวของตั๋วล่วงหน้ากระเช้า Crystal คนน้อยจริงๆด้วย รอไม่เกิน 10 นาที ก็ได้เลย ภาพตั๋ว



พอออกจาก Counter ก็เดินไปตามทาง แยกกันเลยระหว่างกระเช้าธรรมดากับแบบ Crystal Staff ก็เยอะ การจัดการเค้าดีมาก รอกระเช้าอยู๋แป๊บเดียว เราก็ได้ไปกันละ ก่อนกระเช้าจะปิดประตู ก็ต้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซะหน่อย เดินเที่ยวแล้วค่อยเดินกลับมาเอาก็ได้ เพราะตั้งใจจะซื้ออยู๋แล้ว เสียดายวันนี้ฟ้าปิด ฝนตก เราเลยไม่ได้เห็นวิวแบบที่เราฝันไว้ แต่ไม่เป็นไร เด๋วคราวหน้ามาใหม่ 5555 

ไปถึงข้างบน ฝนตกแรงกว่าที่คิด ก็เลยต้องนอกแผน ซื้อเสื้อกันฝน Ngongping ราคาตัวละ 40 เหรียญ พลาสติกหน้าดี 55555 




เนื่องจากฝนตก คนเลยไม่เยอะค่ะ หมูเลยได้ภาพสวยๆมาเยอะเลย ทั้งพระใหญ่ ทั้งวัด Polin ชอบค่ะ ถ้าจะขึ้นไปไหว้พระใหญ่จะต้องเดินขึ้นบันไดไปสูงพอสมควร พ่อกับแม่ น้องขึ้นไม่ไหว หมูเลยเดินขึ้นไปคนเดียว แต่เดินขึ้นไปก็คุ้มนะ อากาศดีมากเลย ได้ออกกำลังกายแล้วตอนที่ขึ้นไป ฝนหยุดแต่อากาศก็ยังเย็นอยู่ เราเลยฟินอยู่คนเดียว 5555 













เดินเล่นซักพักก็เดินลงมาดีกว่า เด๋ว 3 คนนั้นจะรอนาน พอเดินมาถึงที่หมู่บ้านฝนแรงขึ้น เลยรีบเดินกลับไปดูของที่ระลึกกับนั่งกระเช้ากลับ พอกลับมาถึงฝั่งนี้ก็ไปเดินดูของที่ระลึก เป็นคนชอบของกระจุกกระจิก พอเจอร้านแบบนี้ ก็นะ...... กระเป๋าเบาเลย 

วันนี้ของกลางวัน เราใช้บริการที่ Food republic Citygate แถวๆสถานี Tung chung  ชอบอาหารที่ฮ่องกงมากเลย อร่อย กับจานใหญ่มากๆ กินทีอิ่มตื้อเลย 

ช่วงบ่าย เราข้ามกลับมาไหว้พระที่วัดกังหัน หรือวัดแชกง อันนี้ก็ต้องมา ฝนตกคนน้อย เลยได้มีเวลาฟิน ธูปอันใหญ่มาก มีคนจุดให้ด้วย เราก็ไปไหว้พระ หมุนกังหัน ขอให้สิ่งที่ไม่ดีให้ผ่านออกไปจากชีวิต หมูอธิษฐานแบบนั้นนะ  ฝนก็ยังตกไม่หยุด เราก็เลยกลับรร.เลยดีกว่า แล้วก็หาเดินเล่นแถวๆห้างติดรร.นั้นแหล่ะ 





Day 3 

วันนี้มี Plan ไปตึก Sky 100 กลับไปเดินเล่นฝั่งฮ่องกง ข้าวเช้าเราเปลี่ยนไปกินที่ร้านโจ๊กนาธาน อยู่ตรงข้ามกับรร. Novotel Nathan เลยค่ะ รสชาติก็ดี แถมป้าคนขายพูดภาษาไทยได้ด้วย 555555 ชอบตรงนี้แหล่ะ กินเสร็จเราก็ตรงไปตึก Sky 100 อยู่ที่สถานีเกาลูน วันนี้ฝนตกปรอยๆ ไม่หนักเท่ากับเมื่อวานแล้ว แต่ฟ้ายังไม่เปิด เราขึ้นลิฟท์ไป ชั้นที่ 100 ลิฟท์เร็วจนหูอื้ออ่ะ แต่ขึ้นไปแล้ว ไม่เห็นวิวอะไรเลย มีแต่หมอกสีขาวเต็มไปหมด เราเลยถ่ายรูปเล่นกับแค่ในตึก นั่งเล่นแป๊บนึงก็ลงมา แล้วก็ข้ามฝั่งไปเกาะฮ่องกง 




วันก่อนเล็งชิงช้าสวรรค์ไว้ วันนี้เราก็เลยพุ่งตรงมาที่นี่เลย ค่าขึ้นคนละ 100 เหรียญ คนแก่ได้ลด 50% ขนาด Hongkong observation wheel เล็กๆ ไม่ใหญ่เหมือน Singapore flyer แต่มันขึ้นกับที่ตั้งอ่ะ เล็กใหญ่ไม่สำคัญ แค่อยู่ที่นี่เราก็ฟินได้ วันนี้คนน้อย ปกติจะนั่งได้แค่ 2 รอบ แต่วันนี้พิเศษได้ 3 รอบเลย 5555 






ลงจากกระเช้าแล้วก็เดินมาต่อ Big bus ไหนๆมาแล้ว นั่งรถชมเมืองดีกว่า ราคา 250 คน ถ้าคนแก่ 220 เหรียญ จัดไป ไม่ได้มีแผนไรอยู่แล้ว เลยนั่งรถเล่น รถก็พาไปตามทาง มีตึกสวยๆเยอะเลย วันนี้ฟ้าปิด เลยไม่น่าจะมีอะไรดีไปกว่า นั่งรถเล่น ใช้เวลาประมาณชม.นึงก็ครบรอบละ











ได้เวลากินข้าว วันนี้ขอกินหรู 1 มื้อ เราเลือกไปกินห่างย่างที่ภัตตาคาร Yungkee มาถึงฮ่องกงไม่ลองกินห่านได้ยังงัย 555555 มื้อนี้โดนไป 6,xxx เลย SmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmiley

อิ่มแล้ว ได้เวลา Shopping เดินมาเจอร้านอะไรก็ดูไปเรื่อย ไม่มีแผน จนมาเจอ M&S จัดไปเต็มที่เลย ราคาถูกกว่าที่เมืองไทยเยอะเลย จากนั้นก็ข้ามมา Shopping ต่อที่ Ocean terminal เดินไปเดินมา เจอ Moomins cafe เราเป็นสาวกMoomins พลาดได้ไง จัดไปเบาะๆ ขากลับเดินไปถ่ายรูปที่ตึก 1881 heritage  ชอบตึกนี้ สวยดี ฝนหยุดตกแล้ว ก็เลยเดินเล่นไปเรื่อยๆ ไม่ได้รีบมาก 





วันนี้ Shopping จนหมดตูด กลับรร.เลยดีกว่า เหนื่อย เงินหมด 55555

-----------------------------------------


Day 4 

วันนี้กลับบ้าน ตอนเช้าก็ไป Check-in ที่สถานีเกาลูนก่อน จากนั้นก็ไปกินโจ๊กร้าน Seaview ร้านเดิม ชอบปาท่องโก๋ร้านนี้ กรอบ อร่อย เลยจัดไป 2 รอบเลย ตอนแรกจะไปแวะ Starbucks ที่ TSim Sha Tsui แต่ฝนมันตก เราก็เลยว่า งั่นก็ไปสนามบินเลยแล้วกัน อย่างน้อยก็มีที่นั่งเล่น 

ถึงจะเป็น Trip ที่เจอฝนส่วนใหญ่ แต่เราก็ประทับใจนะ ได้เจออากาศเย็นๆ เจอบ้านเมืองที่แปลกตา เดินไปไหนไม่มีคนรู้จัก ไม่ต้องรับโทรศัพท์ ได้ไปกับคนในครอบครัว แค่นี้ก็มีความสุขมากแล้วอ่ะ  

เจอกัน Review หน้านะคะ จะพาไป Siem Reap ค่ะ 

ฺBye Bye......






 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2559    
Last Update : 19 สิงหาคม 2560 23:09:44 น.
Counter : 440 Pageviews.  

 
 

mamoo_axela
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add mamoo_axela's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com