บันทึกการจัดฟัน ครั้งที่ 6 "ถอนครั้งสุดท้าย สาหัส"

19/06/15

วันสุดท้ายแล้วสินะ สำหรับการเคลียร์ช่องปาก (ดีใจสิครับแหม่Smiley)

วันนี้นัดคุณหมอจิ้มลิ้มไว้ 17:30น.

พอมาถึงคลินิก พี่ผู้ช่วยก็เรียกเราขึ้นไปห้องหมอตามสเต็ป ไอ้เราก็ชิลๆเพราะมันเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว จะได้จบๆซะที ดังนั้นกำลังใจล้นเปี่ยม ประกอบกับคิดเอาเองว่า ถอนฟันซี่ง่ายๆงี้ คงไม่มีไรเจ็บเท่าผ่าฟันคุดอีกแล้วแหละ แน่นอนว่า.... เราคิดผิดมหันต์ (อีกแล้วเรอะะะะะะ???Smiley)

หมอบรรจงเปิดเพลงวง coldplay ไว้รอเรา เริ่มด้วยเพลง paradise ที่หมอก็ยังคงฮัมผิดๆถูกๆอย่างน่าขบขัน หลบเสียงสูงปรี๊ด และคราวนี้เราหัวเราะออกไปจริงๆ "ขำไรครับ?" หมอถามด้วยความสงสัย "ป่าวครับ ...ผมแค่คิดไรขำๆจะได้ไม่กลัวตอนถอนอ่ะครับ" เราโกหกหมอพร้อมกลั้วหัวเราะ และต้องหัวเราะหนักขึ้นเมื่อหมอยังคงร้องเพลงต่อไปSmiley

"ไหนขอดูแผลฟันคุดหน่อยซิ ลัลล้า ลาลาSmiley" หมอบอกเป็นทำนอง เราก็อ้าปากอย่างสนุกสนาน "ตัดไหมกันหน่อยนะ" หมอพูดและเอากรรไกรตัดไหมมา ตัดกรึ๊บๆ แว๊บๆ จั๊กจี้เหงือกดีครับ

"เอาล่ะวันนี้เราถอนฟันล่าง 2 ซี่นะครับ ขอฉีดยาชานะ"  การฉีดยาชาก็ยังคงเจ็บอยู่ แม้ว่าจะป้ายยาชาไว้พักนึงแล้วก็ตาม มันรู้สึกเจ็บจี๊ดๆตอนเข็มจิ้ม และปวดหวึ่งๆตอนเดินยาเข้าเหงือก ....แต่ก็ยังธรรมดานะ ชิลๆSmiley

หมอเตรียมเครื่องมือเสร็จปุ๊บ "มาเริ่มกันเลย เอาข้างซ้ายก่อนนะ" หมอว่าพลางเอาสิ่งแหลมๆมาเจาะข้างๆเหงือก ให้เหงือกหลวม จากนั้นเอาคีมมาดึง เราก็นอนหลับตาสบาย หมอเริ่มดึง เปรี๊ยะ แกร๊กๆ มีการให้ผู้ช่วยมาจับหัวเราไว้อีกครั้ง "จับแน่นๆเลยนะ" หมอสั่งพี่ผู้ช่วย

โยกนานกว่าปกติ จนเรารู้สึกนิดๆว่าเจ็บที่ปลายฟัน ก่อนจะเจ็บกว่านั้นได้ยินเสียง กึก !!!! และ เคร๊งงงง เดาได้เลยว่าฟันเราบินออกจากเหงือกและออกจากคีมของหมอไปแล้ว น่าจะหล่นอยู่ที่ไหนสักแห่งไม่เกิน 5 เมตร "ไม่เจ็บใช่มั้ยครับ คือรากยาวมากเลย หมอต้องค่อยๆดึง กลัวรากหักครับ" หมอคุยกับเรา เราก็พยักหน้าตอบเป็นเชิงว่าไม่เจ็บ

มาถึงซี่ข้างขวา หมอไม่รอช้า เอาคีมมาดึงหลังเปิดเหงือก เรารีบยกมือ !!! มันเจ็บจี๊ดดดดดดดSmiley เจ็บเหมือนยาชาไม่ออกฤทธิ์ หมอก็หยุด แล้วเอายาชาแบบทามาทาให้ จากนั้นรอสัก 5 นาที ก็เริ่มกันต่อ ระหว่างโยก มันเจ็บอีกแล้ววว !!!Smiley เรายกมืออีกครั้ง "หมอครับ คงต้องฉีดเพิ่มดีกว่าครับ เจ็บมากเลย" ตอนนี้เราเริ่มตัวสั่น "ใช่ๆหมอก็คิดจะเพิ่มยาอีกสักเข็ม" หมอพูดพลางฉีดยาเข้าเหงือกอีกเข็ม ทีนี้ชาถึงหน้าผากเลยครับ ชาจนไม่รู้ตัวว่าอ้าปากหรือหุบปากSmiley หมอรีบจัดแจงดึงฟันซี่นี้ออกมา สาบานว่าตอนดึงออกไป เรายังรู้สึกเจ็บอยู่นิดๆเลย แต่ในที่สุดมันก็ออกไปละ.....Smiley

ลุกไม่ขึ้นสิครับ ตัวสั่นอีกครั้ง ไม่นึกเลยว่าฟันซี่เล็กๆแบบนี้ ก็ปวดเหมือนกัน หันไปดูในถาด โอ้ พระเจ้า !!! นั่นฟันหรือตะปู รากยาวเฟื้อยยยยยย และแอบรู้สึกเศร้า เพราะสองซี่นี้ไม่ผุเลย สวยสะอาดมากๆ พักผ่อนนะลูกSmiley
https://scontent-sin1-1.xx.fbcdn.net/hphotos-xpa1/v/t1.0-9/10305177_10153416699713514_1712874105531628654_n.jpg?oh=d902b1f68f52dcefcfd9b99d8c750713&oe=5630021D

หมอให้กัดผ้าก๊อซตามปกติ ทีนี้แหละครับที่เป็นเรื่อง พอดีฟันบนเพิ่งติดเครื่องมือไปได้สามวัน มันระบมมาก พอกัดผ้าก๊อซเท่านั้นแหละ ร้าวไปทั้งปากกกกกSmiley ฟันบนแทบหลุดออกจากเหงือก ถ้ากัดไม่แน่นเลือดก็ไม่หยุดอีก ทรมานจริงๆ

เดินน้ำตารื้นลงมาข้างล่างSmiley จ่ายเงิน 1,600 บาท นัดอีกทีวันพุธที่ 24/06/15 มาติดเครื่องมือฟันล่าง รีบบึ่งกลับบ้านทันที

ความเจ็บในครั้งนี้ เราว่าเจ็บฟันบนมากกว่า เพราะมันอยู่ในระหว่างการปรับตัวด้วยแหละ แล้วพอให้มากัดอะไรแน่นๆแบบนี้ มันเลยยิ่งระบมกันไปใหญ่

กลับถึงบ้านรีบกินอาหารเหลวและกินยา ผ้าก๊อซแอบหลุดเพราะกัดไม่แน่น เลือดสิครับทีนี้ ไหลออกมามากมายชนิดที่ดูในกระจกแล้วสยองแท้ ไหลลงมาตามคางเป็นสาย น่ากลัวมากครับSmiley เรารีบจัดแจงผ้าก๊อซและฝืนกัดแรงๆแน่นๆอีกครั้ง ปวดโคตร พร้อมเช็ดเลือดที่ไหลออกมานอกปาก งานนี้ทำให้เราสามารถกินอาหารชนิดนึงขึ้นมาได้เลยครับ ....... ลาบเลือด ซกเล็ก Smiley

จากนั้นจึงสังเกตความผิดปกติในเคสเราได้อีกหนึ่งอย่าง จำได้มั้ยครับ ฟันด้านบน ผมถอนซี่ถัดจากหลังเขี้ยวไป 1 ซี่(เรียกว่ากรามน้อยซี่ที่สอง) ดังนั้นฟันด้านบนจะเหลือฟันกรามสองซี่ ถัดจากนั้นก็เป็นซี่ที่ถอนเลย นับจากด้านในนะ

แต่พอฟันล่าง หมอกลับถอนฟันที่ไม่ใช่คู่สบของมันครับ ถอนซี่ที่อยู่ตรงกับซี่หลังเขี้ยว(หรือกรามน้อยซี่แรก) เพราะงั้นช่องห่างของฟันผมจึงสับหว่างกัน ไม่สามารถใช้เคี้ยวได้ เอาอีกแล้ว หมอทำให้ผมรู้สึกว่าหมอถอนผิดซี่อีกแล้ว

*จากเคสของเรา มีเพื่อนๆคนไหนเคยโดนถอนฟันที่ไม่ใช่คู่สบของฟันซี่นั้นๆมั้ยครับ? สงสัยมากเลย


หลังจากทำใจว่าคงถอนไม่ผิดหรอกมั้ง ก็มานอนกัดผ้าก๊อซประคบเย็นไป ถอนเสร็จ หกโมงเย็น เลือดหยุดไหลตี 1 ครับ จริงๆไม่ได้หยุดนะ แค่ไหลช้าลง คืนนั้นเลยไม่กล้านอนราบ จึงเอาหมอนมาพิงกับหัวเตียงแทน



**ในกรณีแบบนี้เตือนเพื่อนๆที่ถอนฟันนะครับ อย่าไปยุ่งกับแผล ในรูแผลจะมีเลือดเป็นลิ่มๆขึ้นมาคลุมไว้ อย่าเอาออกเด็ดขาด มิเช่นนั้น จะเกิดปรากฎการณ์ Dry socket ครับ ทีนี้ความปวดชนิดวัวตาย ควายล้มจะบังเกิดกับเพื่อนๆนะครับ

และแล้วก็จบลงกับการเคลียร์ช่องปากมหาโหดภายในเวลาไม่ถึงเดือน เฮ้ออออ





 

Create Date : 20 มิถุนายน 2558   
Last Update : 21 มิถุนายน 2558 0:45:45 น.   
Counter : 3886 Pageviews.  

บันทึกการจัดฟัน ครั้งที่ 5 "ติดเครื่องมือครั้งแรก ฟันบน"

17/06/15

วันนี้นัดหมอใส่เครื่องมือฟันบนครั้งแรก 13:00น.

เอาล่ะสิครับ ตื่นเต้นอีก ตื่นเต้นกับสิ่งแปลกปลอมที่จะอยู่กับเราไปอีกนาน ตื่นเต้นกับการเจ็บปวดรูปแบบใหม่ Smiley

มาถึงคลินิค ก็นั่งรอสักพัก พี่ผู้ช่วยก็ให้เลือกสียางโอริง ซึ่งเราตั้งใจไว้แล้วว่าจะใส่สีน้ำเงิน ก็เลยเลือกสีน้ำเงินไป จากนั้นพี่ผู้ช่วยก็นำเราขึ้นไปยังห้องเดิม แต่คราวนี้เจอกับหมอจัดฟันซึ่งเป็นผู้หญิง "นอนลงเลยค่ะ แล้ววันนี้หมอมีแว่นให้ใส่เทห์ๆด้วยนะ" หมอพูดอย่างสนุกสนาน "แว่นนี้ไว้ทำอะไรครับหมอ" เราถามพลางใส่แว่นสีแดงใหญ่ครอบเกือบทั้งหน้า "อ๋อ...ไว้กันรังสีค่ะ มันจะมีแสงสีฟ้า เร่งให้วัสดุยึดกับผิวฟันเร็วขึ้นตอนติดแบร็คเก็ต" หมอตอบ

ระหว่างทำก็จะมีการล้างฟัน ขัดฟันก่อน ซึ่งวันศุกร์ที่แล้วเราเพิ่งถอนฟันฮาร์ทคอร์มา 4 ซี่ เผอิญหมอล้างฟันเพลิน พ่นไปโดนแผล เรางี้สะดุ้งเลย สำลักน้ำเกลือ หมอกับพี่ผู้ช่วยก็ขอโทษขอโพยกันใหญ่ "ไม่เป็นไรครับหมอ มันแค่เสียวว้าบขึ้นมา ไม่ได้เจ็บครับ แค่ตกใจ" เราโกหกหมอไป จริงๆเจ็บนั่นแหละคร้าบบบบ Smiley

พอทำความสะอาดฟันเสร็จ ก็เอาแบร็กเก็ตมาติดทีละซี่ๆๆๆ แล้วใช้เครื่องอะไรไม่รู้มาส่องฟันแล้วมันจะดังตื๊ดๆ จากนั้นหมอก็เอาลวดมาร้อย ตอนร้อยไม่เท่าไหร่ ตอนที่ดึงแล้วตัดลวดกรึ๊บๆนี่สิครับ โอววว มันไม่เจ็บแบบผ่าฟันคุดนะ คนละแบบกัน อันนี้มันจะปวดร้าว หวึ่งๆ รู้สึกเหมือนกับฟันทุกซี่มันผุไปหมด Smiley

พอติดเสร็จหมอก็ให้ลองกัดฟันดูว่ามีอะไรบาดปากมั้ย เราก็ลองขยับทุกท่าแล้ว ไม่มีอะไรบาด แต่พอเอาฟันบนกระทบฟันล่างเท่านั้นล่ะ แก๊งงงงงงงงงงง เสียวจี๊ดดดด ถึงหู Smiley

ถามหมอเรื่องทำไมฟันที่เราถอนจึงไม่ใช่ซี่หลังเขี้ยว แต่เป็นซี่ถัดไปอีก หรือเรียกว่ากรามน้อยซี่ที่สอง หมอชี้แจงว่า "คนไข้มีรูปหน้าที่เล็กและเรียวอยู่แล้วค่ะ การที่จะถอนฟันหลังเขี้ยว มันอาจส่งผลให้หน้าของคนไข้เล็กลงไปอีก แก้มตอบลง อีกอย่าง ฟันด้านล่าง 4 ซี่ข้างหน้าเกค่อนข้างเยอะ จึงต้องใช้พื้นที่ขยับขยายภายในกว้างหน่อย หมอจึงเลือกถอนกรามน้อยซี่ที่สองค่ะ" ได้ยินดังนั้นก็สบายใจครับ เพราะวันนั้นหลังจากถอน ก็คิดมาตลอดว่าหมอต้องถอนผิดซี่แน่ๆ ในอินเตอร์เน็ตมีแต่คนถอนกรามน้อยซี่หลังเขี้ยวกันทั้งนั้น เครียดจนนอนไม่หลับเลย (อีกละ)

เดินลงมาข้างล่าง พี่พนักงานต่างๆ พากันชมว่าติดเครื่องมือแล้วเหมาะกับใบหน้ามาก ดูเด็กลงเหมือนเด็กมัธยมเลย Smiley(คงเป็นคำพูดที่ต้องพูดกะคนไข้ทุกคนสินะ) เราก็ยิ้มแหยๆ ละก็จ่ายเงิน

ครั้งนี้การจ่ายเงิน จ่ายเป็นราคาเดียวตลอดการจัดฟันนั่นคือ 34,000 บาท ฟรีรีเทนเนอร์ และมีข้อตกลงว่า หากไม่มาตามนัดภายในเดือนที่กำหนด มีค่าปรับ 1,000 บาท (แต่เลทภายในเดือนนั้นๆได้) มีการเซ็นเอกสารยินยอมเรียบร้อย และได้อุปกรณ์ดูแลความสะอาดสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะมาด้วย มีน้ำยาบ้วนปาก แปรงสีฟัน ไหมขัดฟันพร้อมตัวนำเส้นไหม ขี้ผึ้งสำหรับปั้นอุดอุปกรณ์ที่มาขูดในปากเรา และต้นสนขัดฟัน(ไม่รู้เรียกอะไรง่ะ)

พี่ผู้ช่วยนัดเราไปตัดไหมและถอนฟันล่างอีกทีวันศุกร์ (19/06/15) ฮือๆๆๆ ถอนฟันอีกแล้ววว แต่เอาวะ ครั้งสุดท้ายละ พอกันทีรสเลือด กัดผ้าก๊อซ และประคบเย็น และนัดใส่เครื่องมือฟันล่างในวันพุธหน้า (24/06/15) โหดไปมั้ยยยยยยยยยย แง๊ Smiley

กลับมาบ้าน ...ไม่สามารถกินอะไรได้จริงๆ มันปวดร้าวไปหมด โดนฟันไม่ได้เลย ก่อนหน้านี้ผ่าฟันมันยังพอเลี่ยงซี่ที่ถอน ใช้ซี่อื่นๆเคี้ยวได้ อันนี้คือ ไม่ได้เลยยยยยย ขนาดของนุ่มๆยังเคี้ยวไม่ได้เลย ต้องใช้การอมและใช้เพดานปากบดกับลิ้นเอา เรียกว่าฟันเดี้ยงไปเลยครับ อย่างที่เขาว่าไว้จริงๆ "การถอนฟันเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น ใส่เหล็กเมื่อไหร่ละจะรู้สึก" รู้ซึ้งเลยครับ Smiley

วันที่สองหลังใส่อุปกรณ์ รู้สึกการสบฟันแปลกไป (มันเร็วขนาดนั้นเลยหรอ) ซี่ที่เป็นเขี้ยว เหมือนมันถูกดึงลง ไม่ก็มันหมุน เวลาเรากัดฟัน มันจะโดนซี่นั้นก่อนเพื่อน(และแน่นอนเจ็บที่สุด) ปกติฟันซี่นี้ไม่เคยสบกับฟันล่างด้วยซ้ำ อืม... แปลกใหม่อีกแล้วสินะ เย้ Y__Y

หน้าตาหลังใส่เหล็ก อย่างกะก๊อตซิล่า Smiley





 

Create Date : 19 มิถุนายน 2558   
Last Update : 21 มิถุนายน 2558 0:43:58 น.   
Counter : 1153 Pageviews.  

บันทึกการจัดฟัน ครั้งที่ 4 "ผ่าฟันคุดครั้งที่ 2 + แถม"

14/06/15

วันศุกร์ที่ผ่านมา เรานัดกับหมอว่าจะไปผ่าฟันคุดต่อ เวลา 17:30น. ข้างซ้ายบนและล่าง

แต่ในใจเราคิดไว้แล้วว่า มันต้องไม่ใช่แค่นั้น....

พอไปถึงคลินิก เราก็ถามพี่ผู้ช่วยทันทีว่า "ขอถอนทีเดียว 4 ซี่ได้มั้ยครับ" ?? พี่ผู้ช่วยอึ้งไปสักพัก แล้วบอกว่า "แล้วคนไข้จะไหวหรอคะ ฟันคุดของคนไข้ขึ้นแนวนอนด้วย" เราก็คิดไว้แล้วว่า มันต้องทนอีกนาน แต่อยากให้ทนทีเดียว เจ็บทีเดียวไปเลย หรืออย่างน้อยก็ให้ได้มากที่สุด เท่าที่ร่างกายรับไหว เพราะไม่ชอบการถอนฟันเลยจริงๆ

"งั้นเดี๋ยว พี่ลองไปปรึกษาหมอดูก่อนละกันนะคะ" พี่ผู้ช่วยพูดหลังจากลังเลอยู่นาน....


วันนี้รอไม่นาน หมอก็มา หมอหน้าตาจิ้มลิ้ม ตัวอวบๆนิดนึง แต่ใจดีและใจเย็น(กับคนไข้) ก็แอบมีโหดๆบ้างกับพี่ผู้ช่วยเท่าที่ได้ยิน "เชิญข้างบนเลยครับ" หมอเรียกเราขึ้นไป

เฮ้ออออ... เอาวะ ...

ขึ้นมาบนห้องที่คุ้นเคย หมอก็ให้เรานอนลงเลย พร้อมกับขอดูแผลฟันคุดที่เว้นระยะ ไว้ 6 วัน "ไหนหมอดูแผลหน่อยซิครับ" เราก็อ้าปากอย่างว่าง่าย "อืมมมม..แผลปกติดีนะ" เป็นอันว่าที่เรากังวลเรื่อง dry socket หรือติดเชื้อเป็นหนองนั้น กังวลไปเองเท่านั้น


หมอทำการตัดไหม ชึบๆ เจ็บบ้างแว๊บๆ พอตัดเสร็จ หมอก็เอาเข็มฉีดยามาเลย!!! ดีที่เราเห็นผ่านผ้าเขียวๆที่คลุมหน้า รีบหุบปาก "หมอครับ ขอยาชาป้ายก่อนครับ!" "เออ จริงด้วย ขอโทษที หมอลืม ฮ่าๆๆ" แหม่ หมอ หัวเราะไรไม่ทราบ กลัวนะหมอออ ระหว่างหมอป้ายยาชารสขมปี๋ "คนไข้คะ เดี๋ยวป้ายยาแล้วขอคุยด้วยหน่อยค่ะ" พี่ผู้ช่วยคงไปปรึกษาหมอจัดฟันมาแล้วสินะ ป้ายยาเสร็จ ก็ปรับเตียงขึ้น พบกับพี่ผู้ช่วย ถือโมเดลฟันเรามาด้วย "พี่ปรึกษาคุณหมอมาแล้วค่ะ คุณหมอบอกว่าถ้าคนไข้ไหว ให้ถอนฟันคุดข้างซ้ายบนล่าง และฟันหลังเขี้ยวด้านบนอีก 2 ซี่ค่ะ เท่ากับ 4 ซี่" พร้อมกับจิ้มให้ดูว่า จะถอนซี่ไหนบ้าง "ครับได้ครับ แล้วผมจะเคี้ยวอะไรได้เมื่อไหร่ครับ ในเมื่อถอนทั้งข้างซ้ายข้างขวาแบบนี้" เราเริ่มกังวล "ซี่บนจะไม่กระทบต่อการบดเคี้ยวเท่าไหร่ครับ และแผลหายไวกว่าซี่ด้านล่างด้วย" หมอผ่าฟันตอบแทน "อ่า..ครับๆ งั้นก็ตามนั้นเลย"

หลังจากนั้นก็ฉีดยาชาตามสเตป เจ็บเหมือนเดิม แต่พยายามไม่สนใจมัน ซี่บนเอาออกได้ ง่ายดาย เอาคีบหนีบ แงะๆไม่ถึงสองนาที เปรี๊ยะๆ หลุดแล้ว ซี่ล่างนี่ทำกันนานและใช้พลัง มากเหมือนเคย หมอกรอแบ่งฟันแล้ว งัดแงะดึงฟัน มีพี่ผู้ช่วยมาจับหัวเราให้แน่นแล้วดึง ได้ยินเสียงหมอหายใจถี่ๆรัวๆแบบคนใช้แรงเยอะๆ ในที่สุดผ่านไปราว 40นาทีก็เย็บแผล "เอาล่ะ แฮ่กๆ เดี๋ยวเรา แฮ่กๆๆ จะเย็บอะไรให้ แฮ่กๆ เรียบร้อยก่อนนะ แฮ่กๆ แล้วค่อย ถอน แฮ่กๆ สองซี่ที่เหลือ แฮ่กๆ" ถึงตอนนี้เราขำเลย หมอหอบแฮ่ก น่าสงสารมาก


สองซี่ที่เหลือตามมาอย่างรวดเร็ว ด้วยการฉีดยาชา และเริ่มที่ข้างขวาก่อน ใช้เวลาไม่ถึง สองนาทีก็ออกมาเรียบร้อย บอกลาฟันซี่ที่ไม่ได้มีปัญหาไป 1 ซี่ (โถ น้องฟันของพี่ T^T) พอมาข้างซ้าย ก็เอาออกง่าย แต่มีอะไรผิดปกติ "เอ๊ะ มันแปลกๆนะ เดี๋ยวหมอขอ x-ray ซี่นี้หน่อยนะ" เราก็ใจไม่ค่อยดี ถอนผิดซี่ป่าวอ่ะหมอ ไม่นะ ...ระหว่างนั้นหมอก็ x-ray แอบมีดุพี่ผู้ช่วยบ้างเป็นภาษาหมอ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง "หมอต้องขอกรอกระดูกนิดนึงนะครับ เพราะกระดูกแน่นมาก จะได้ไม่มีปัญหาตอนเคลื่อนฟัน" ไม่พูดพล่าม หมอก็เอาเครื่องมือ กรอมารออยู่แล้ว กรอทันที แอบเสียวเล็กๆเหมือนกัน คือมันคงกระเทือนมากขนาดยาชา ยังเอาไม่อยู่ แต่ก็พอทน..... เสร็จแล้วหมอก็ล้างแผลอะไรเรียบร้อย เป็นอันเสร็จ


เปิดผ้ามาเจอหมอเหงื่อแตก ตลกมาก ฮ่าๆๆ แต่ขำไม่ออกจริงๆ รู้สึกหน้าหวึ่งๆกว่าครั้งที่แล้วมาก อาจเพราะฉีดยาชาทั้งด้านซ้ายด้านขวาเลยมั้ง "ขอฟันด้วยนะครับ" เราไม่ลืมที่จะขอฟันกลับไปสำรวจที่บ้านตามเคย ยิ่งฟันซี่ที่ดีๆแล้ว ยิ่งอยากเก็บไว้เดินลงมาข้างล่างเจอพี่เคาเตอร์ ก็จัดยา น้ำยาบ้วนปาก c-20 ไว้ให้พร้อม และนัดว่าวันพุธหน้า (17/06/15) มาติดเครื่องมือฟันบนครั้งแรก เราก็จ่ายเงิน (6,080บาท แพงจุง) และรีบกลับบ้านทันที


กลับมาบ้านมากินอาหารเหลว และรีบกินยาฆ่าเชื้อ และยาแก้ปวดทันที ระหว่างนั้นก็เทฟันออกมาเชยชม ซี่นึงอ้วนๆรากยาวๆ อันนี้ฟันคุดซี่บนแน่ๆ บ๊ายย อีกอันแตกเป็นเสี่ยงๆ แถมผุด้วย อันนี้ฟันคุดแนวนอน บ๊ายยย ไหนมาดูอีกสองซี่ซิ โอววว...นี่น้องซี่ขวาบนนี่นา น้องช่างสมบูรณ์ ไม่มีส่วนผุใดๆ น่าสงสารเหลือเกินขอบใจนะที่ช่วยบดเคี้ยวมาตลอด ไม่เคยงอแง พักผ่อนนะลูก.... T^T

และไหนอีกซี่ เอ.... มันมีอะไรเทาๆติดอยู่ข้างๆหว่า ก็ลองเอาเล็บไปเขี่ยๆๆๆ "ผลั๊วะ!" มันแตกเข้าไปในกลางฟัน เป็นโพรงใหญ่มาก สีดำๆเทาๆดูโสโครก เละๆด้วยที่สำคัญครับ มันเหม็นมากกกกกกกกกกกก มากชนิดที่ต้องรีบทิ้ง รีบไปล้างมือแล้วใส่ถุงมือยาง มาหยิบดูอีกครั้ง คือ คงจะเรียกว่าฟันผุอ่ะครับ แต่มันผุจากด้านข้าง ซึ่งเรามองไม่เห็น แถมผุลึกมาก และเน่ามากจริงๆ ก็เลยนึกย้อนไป เออว่ะ... ซี่ด้านซ้ายหลังเขี้ยวนี้ กินอะไรก็เสียวฟันตลอด แถมเคยมีกลิ่นแปลกๆออกมาจากซี่นี้ด้วย คิดแล้วก็ดีใจมาก ในขณะที่เรานึกว่าเป็นฟันที่สมบูรณ์ กลับเป็นฟันที่ผุมากขนาดนี้

และตอนนี้มันไม่ได้อยู่ในปากเราแล้ว เย้!! ......เฮ้อ อย่างน้อยก็มีเรื่องดีๆละนะ


ดูความเน่าครับ


.
.
.
.
.

รักษาความสะอาดเหมือนเดิมครับ คราวนี้มากกว่าเดิมอีก เพราะถอนทีเดียว 4 ซี่เลย และคราวนี้หน้าบวมครับ แต่บวมไม่มาก บวมแบบอมลูกอมไว้ในแก้มอะไรประมาณนั้น เวลากินลำบากพอควร เพราะไม่รู้จะกินยังไง เพราะกินเข้าไปตรงไหนก็เจอแผลถอนฟัน ก็เลยกินมันกับฟันหน้าและกลางลิ้นนี่แหละ จะว่าไปก็ทรมานเรื่องหิว มากกว่าเรื่องเจ็บอีกนะเนี่ยยยย จะไหวมั้ยเรา ^^'





 

Create Date : 19 มิถุนายน 2558   
Last Update : 21 มิถุนายน 2558 0:42:40 น.   
Counter : 2357 Pageviews.  

บันทึกการจัดฟัน ครั้งที่ 3 "ผ่าฟันคุดครั้งที่ 1"

06/06/15


ในที่สุด วันแห่งความกลัวก็มาถึง เมื่อคืนนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย เช้านี้ลุกจากเตียงแบบมึนๆ ต้องยอมรับกันตรงนี้เลยว่ากลัวมาก และไม่เคยถอนฟันมาก่อน คำว่าถอนฟัน เราถูกขู่มาตั้งแต่เด็กๆ ว่าถ้าดูแลฟันไม่ดี จะถูกถอนฟันเจ็บมากกกก เฮ้อ .... เอาวะ 😤

ลงมากินข้าว แบบผะอืดผะอม แล้วก็กินยา amoxy + ibuprofen + tramadol ดักความเจ็บปวดไว้ก่อนเลย (ซึ่งมารู้ทีหลัง หมอบอกว่ามันไม่ได้ช่วยอะไร😑) แล้วรีบบึ่งไปคลินิก

พอถึงคลินิก ก็คุยสนุกสนานกับน้อง(รึพี่?)ที่เคาเตอร์ สักพักตามตัวเริ่มมีผื่นแดง คัน เอ๊ะๆๆนี่มันอาการแพ้ยานี่หว่า เรารู้จักดี!!! รีบแจ้นออกไปหายาแก้แพ้ cpm มากิน ประกอบกับถึงเวลาขึ้นเขียงพอดี .... ซวยจริงๆ 😩

ขึ้นไปชั้นสาม ถึงห้องทำฟัน หมอมาถึงก็เอายาชาแบบทามาทาให้ก่อนบริเวณที่จะฉีดยาชา และถามเราว่า "จะเอาข้างไหนก่อนครับ เพราะมันเหมือนกันเลย" อืมม์ มันแย่พอๆกันเลยใช่มั้ยครับหมออออ ...สรุปเราเลือกข้างขวาก่อน

และก็เริ่มฉีดยาชา เจ็บครับ ใครว่าไม่เจ็บ ผมเจ็บ มันไม่เหมือนมดกัดซะหน่อย มันหวึ่งๆเวลายาเดินเข้ามาในเหงือก ฉีดไปทั้งหมด 3-4 เข็ม รอสักพักก็ชา รู้สึกหนาๆไปครึ่งหน้า แปปเดียวหมอทำท่าจะเอาฟันออก เราตกใจรีบลุก แจ้งหมอว่า "มันยังไม่ชาเต็มที่มั้งครับ!!" หมอขำ แล้วเอาเข็มมาจิ้มๆ ถามว่าเจ็บมั้ย เราบอกว่า "ไม่เจ็บแต่รู้สึกได้ครับ" หมอบอกว่า "นั่นแหละครับ แปลว่ามันชาแล้ว^^"

ไม่พูดพล่ามทำเพลง หมอเอาเครื่องมือมาดึงฟันคุดซี่บนก่อน ระหว่างแงะมีเสียงดังครึ่กๆ แกร็กๆ เปรี้ยะๆ สักพักหมอแจ้งว่าหลุดแล้ว ไอ้เราก็ อ่าว มันไปตอนไหนแว๊?? ฮ่าๆๆๆ😝

ไม่รอช้า หมอบอกว่าเดี๋ยวซี่ล่างมาเริ่มกันเลยนะ เอาเครื่องมือ(มีด)มาเปิดเหงือก ได้รสเลือดทันที😰 สักพักหมอเอาเครื่องมือคล้ายๆเลื่อยไฟฟ้าเล็กๆมาแบ่งฟันให้แตก ตอนกดลงไปนี่สะเทือนไปถึงกะโหลก คือต้องหลับตา เพราะถ้าเปิดตา จะโฟกัสอะไรไม่ได้เลย แย่กว่าคือตอนที่แงะซากฟันออก หมอแทบจะขึ้นขี่บนตัวเรา ใช้แรงเยอะมาก ได้ยินเสียงหมอหายใจถี่ ระหว่างนั้นที่รู้สึกได้คือ ข้างปากฉีกแล้ว😖

แงะกันอยู่ราวๆชั่วโมงก็หมด หมอก็เย็บแผล ทำความสะอาด เอาผ้าก็อซให้กัด ....เราลุกไม่ขึ้นเลย แขนขาสั่นไปหมด จนหมอต้องปรับเตียงให้นั่ง มองไปรอบๆเห็นเศษซากแห่งความอัปปรีย์กองอยู่ในถาด ซี่นึงเป็นฟันอ้วนๆ ดูสมบูรณ์ดี แต่แอบผุตรงกลาง ผู้ช่วยบอกว่าอันนั้นเป็นฟันซี่บนค่ะ ข้างๆกันมีซากฟันที่แตกละเอียดประมาณ 4 ชิ้น และรากยาว ไม่ต้องให้ผู้ช่วยบอก เราก็ทราบทันทีว่านี่คือซี่ล่าง ฟันคุดแนวนอนที่พบเพียง 3% ของคนไข้ (ทำไมเราต้องอยู่ใน 3% นี้ด้วยฟระ) 😡

เราขอเอาฟันกลับบ้าน ผู้ช่วยรีบจัดแจงคีบฟันใส่ผ้าก็อซให้ หมอสั่งยา Clindamycin ให้เราแทน amoxy จากนั้นผู้ช่วยให้ก้อนน้ำแข็งมาประคบ ลงมาข้างล่าง จ่ายเงิน ซี่บน 800 ซี่ล่าง 3400 รวมเป็น 4200 เหอๆ แพงดีแท้


ขับรถกลับบ้านรีบกลับมาชงอาหารเหลวกิน จะได้กินยาแก้ปวด กินอาหารเหลวเสร็จ แอบส่องแผลสักนิด ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มันดูเรียบร้อยดี เพียงแต่มีเลือดออกเลยดูสยองๆ สิ่งที่หนักกว่าคือมุมปากที่ฉีก ฉีกเยอะมาก พออ้าปากแล้วแผลแยกเห็นได้ชัด เลยรีบเอา kanalog มาทา(ยารูปฮิปโป) จากนั้นก็กินยา แล้วประคบเย็น นอนนิ่งๆ

อาการปวดแทบไม่มี มีแต่มันหวึ่งๆเป็นพักๆ ไม่ได้ร้ายแรงอะไรมาก แต่เรารู้ว่านี่มันยังไม่หมดฤทธิ์ยาชาหรอก ถ้าหมดละมึงเอ๊ยยยยยย!!!😵 เสร็จแล้วก็หลับไปด้วยฤทธิ์ยา tramadol

ตื่นมาส่องแผลเอาผ้าก๊อซออก เลือดยังออกอยู่บ้าง ผ่านมาราว 4 ชั่วโมงแล้ว ยาชาน่าจะหมดฤทธิ์ไปแล้ว เพราะไม่ชาแล้ว แต่ก็ยังไม่มีอาการปวดรุนแรงให้รู้สึก(อย่าปวดเล๊ยยยยยย) พยายามไม่ยุ่งกับแผลเพื่อไม่ให้เกิด dry socket หรืออาการเส้นประสาทและกระดูกไม่มีก้อนเลือดปกคลุม ทำให้ยังเจ็บแผลไม่หายและแรงขึ้นๆ ดังนั้น เลือด...มึงไหลไปเลย 😓

ตอนนี้ถอนไปแล้ว 2 เหลืออีก 6 แค่คิดก็เสียววาบละ

แต่จะบอกว่า “การผ่าฟันคุด ไม่ได้เจ็บมากมาย สิ่งที่เรากลัวคือเสียง” เท่านั้นครับ 😊

ส่วนอาการหลังปวด แล้วแต่คนเลยครับ ของเราวันแรกไม่หนักหนามาก ปวดหวึ่งๆนิดหน่อย รอดูกันอีกทีพรุ่งนี้





 

Create Date : 18 มิถุนายน 2558   
Last Update : 21 มิถุนายน 2558 0:42:21 น.   
Counter : 1544 Pageviews.  

บันทึกการจัดฟัน ครั้งที่ 2 "เริ่มเคลียร์ช่องปาก"

04/06/15

วันนี้กังวลมากเพราะไม่เคยเอกซเรย์ฟันมาก่อนเลย ตื่น 9 โมงรีบออกจากบ้านไปโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) ไปถึงก็ยื่นเอกสาร คือ ใบสั่ง เอ็กซเรย์จากคลินิก และบัตรประชาชน จากนั้นก็รอเรียกไม่นาน ก็ได้เข้าห้องเอ็กซเรย์



สรุปว่าการเอ็กซเรย์ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด (คิดกลัวไปเองก่อนตลอด) แต่มีข้อปฏิบัติอยู่คือต้องถอดสร้อยต่างหูเข็มขัดหรืออุปกรณ์ใดก็ตามที่มีโลหะเป็นส่วนประกอบออกก่อน พอถึงห้องเขาก็จะให้ใส่เสื้อหนาๆหนักๆ แล้วเข้าไปในเครื่องแรก ต้องงับเงี่ยงเล็กๆด้วยฟัน จากนั้นก็จะมีเครื่องหมุนรอบๆหัว สนุกมาก ฮ่าๆ พอเครื่องแรกเสร็จก็ต่อเครื่องที่ 2 เครื่องนี้จะมีที่อุดหู และต้องให้ฟันบนกับฟันล่างสบกันสนิท และก็เช่นเคยมีเครื่องมาหมุนหมุนรอบหัวอีกครั้ง... เป็นอันเสร็จพิธีเอกซเรย์ รอรับฟิล์มไม่นาน จ่ายเงิน600฿ แล้วก็ไปคลินิกต่อเลย


พอถึงคลินิกก็ถอนใจก่อนลงจากรถเพราะกลัวการอุดฟันมากโดยเฉพาะการกรอฟัน วี๊ วี๊~~~

ยื่นฟิล์มเอกซเรย์ให้หมอ พอหมอดูฟิล์มปึ๊บ หมอบอกว่า "ฟันคุดของคนไข้ซี่ล่างทั้งสองข้าง เป็นฟันคุดที่ขึ้นแนวนอน ดังนั้นจะต้องใช้การผ่าฟันคุดไม่ใช่การถอน ซึ่งต้องใช้เวลาและแรงมากกว่าฟันคุดแบบขึ้นตรง จะต้องทำให้ฟันแตกเป็นชิ้นชิ้นก่อนจึงจะนำออกมาได้" ฟังละเข่าทรุดเลยครับ... 😭

"แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ หมอฉีดยาชาให้ ตอนทำจะไม่รู้สึกอะไรมาก อาจจะได้ยินเสียงกึกกักบ้าง" แค่คิดถึงเข็มจิ้มไปบนเหงือก บนเพดานปากก็สยองแล้วคร้าบหมอ ไหนจะตอนเดินยาอีก 😖

 "เอาล่ะ งั้นวันนี้เรามาเริ่มตามโปรแกรมกันเถอะค่ะ นอนลงเลย เดี๋ยวหมอจะขูดหินปูนก่อนนะคะ จากนั้นค่อยอุดฟันค่ะ" เราก็นอนตัวสั่นเลย จิกแขนแน่น ผู้ช่วยหมอเอาผ้าเขียวๆมาปิดหน้าเหลือแต่ปาก ระหว่างนั้นหมอก็บอกให้เราผ่อนคลาย

การขูดหินปูนคือเอาอุปกรณ์แหลมๆสั่นๆมากระเทาะผิวฟัน เพื่อให้หินปูนหลุด แต่ในกรณีของที่คลินิกเป็นระบบ AirFlow ซึ่งจะใช้พลังลมและน้ำ ซึ่งจะเจ็บน้อยมากอาจมีเสียวฟันบ้าง แปปเดียวเสร็จ บ้วนปาก ลองเอาลิ้นวนๆรอบฟัน เออมันดูโล่งขึ้นแฮะ รู้สึกสะอาด

ต่อมาอุดฟันสามซี่ กลัวที่สุดคือเครื่องกรอฟัน แต่แปลก ที่นี่กรอฟันไม่เสียวเลย ทั้งที่กรอลึกด้วยนะ พอกรอเนื้อฟันจนได้รูป หมอก็เอาตัวอุดฟันสีเหมือนฟันเปี๊ยบมาอุดๆ ซึ่งเผอิญไปโดยลิ้น รสเปรี้ยวมากกกก หมอคงสังเกตเห็นปฏิกิริยาบางอย่าง หมอบอกผู้ช่วยว่า

" เอาสำลีมาซับข้างลิ้นหน่อยค่ะ คนไข้เปรี้ยวปากแล้ว" ฮ่าๆๆๆๆ รู้ได้ไงครับหมอ

จากนั้นก็ใช้เครื่องมือกดๆย้ำๆเพื่อให้ได้รูป มีเอาเครื่องคล้ายๆเครื่องกรอฟันมาทำซ้ำอีกครั้ง เป็นอันเสร็จ 

ต่อมาคือการพิมพ์ฟัน หมอจะเอาสิ่งเหนียวๆสีชมพูๆใส่ในถาดรองฟัน แล้วให้เราคาบไว้ให้ไอ้เจ้าสีชมพูๆเข้าไปแทรกตัวทุกซอกทุกมุมฟัน รสชาดเหมือนดินน้ำมัน ไม่เกิน1นาทีก็เอาออก ทำทั้งฟันล่างฟันบน ละก็เสร็จการพิมพ์ฟัน

สุดท้ายคือการถ่ายรูปฟัน ก็จะมีเครื่องมือมาง้างปากให้กว้างที่สุด แล้วก็ถ่ายทั้งฟันบนฟันล่าง ทั้งข้างนอกข้างใน ...เสร็จ ก็คุยกับหมอต่อเรื่องฟันคุด

"ต้องถอนฟันคุดทั้งหมด 4 ซี่นะคะอาจจะแบ่งถอนครั้งละข้างบนล่าง อีกข้างที่เหลือจะได้เอาไว้เคี้ยวได้ นอกจากนั้นก็ต้องถอนฟันกรามน้อยและฟันหลังฟันเขี้ยวอีกทั้งหมด 4 ซี่นะคะ" ....เข่าทรุดอีกแล้วครับท่านนนนนนน!! ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าก่อนการจัดฟันมันจะต้องลำบากขนาดนี้ นึกว่าคิดจะจัดฟันก็ใส่อุปกรณ์จัดฟันได้เลยจบ ....แต่ผมคิดผิดมหันต์😫

"ที่ต้องถอนอีก 4 ซี่ เป็นเพราะว่าฟันเราซ้อนกันเยอะ เลยต้องเพิ่มเนื้อที่ให้กับเหงือก ฟันจะได้เรียงตัวกันสวย" ประโยคนี้ผมแทบไม่ได้ยินแล้วครับ อึ้งกับการถอนฟัน 8 ซี่

กลับลงมาที่เคาน์เตอร์แบบไร้วิญญาณ เจ้าหน้าที่นัดให้มาผ่าฟันคุดวันเสาร์นี้ (06/06/15) 11โมงเช่นเคย ...ผมก็ตกลง จ่ายค่าเคลียร์ช่องปากวันนี้ 3,340฿ และขับรถกลับบ้านแบบงงๆ

พอถึงบ้านรีบเสิร์จข้อมูลการผ่าฟันคุดที่ขึ้นแบบแนวนอน โอววววววว.... เจอชาวพันทิปไซโคถึงความเจ็บปวดรวดร้าวไม่ว่าจะเป็นตอนฉีดยาชา ตอนหลังจากผ่าเสร็จแล้วยาชาหมดฤทธิ์ นรกชัดๆ อ่านไปร้องไป(จริงๆ) ในใจคิดว่านี่เราจะรอดชีวิตกลับมาหลังจากถอนครั้งแรกหรือเปล่านะ




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2558   
Last Update : 21 มิถุนายน 2558 0:49:02 น.   
Counter : 1234 Pageviews.  

1  2  

madonnaeii
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ขอเขียนบล็อคไว้เพื่อบันทึกการจัดฟันนะครับ
[Add madonnaeii's blog to your web]