กันยายน 2559

 
 
 
 
1
3
 
 
16 กันยายน 2559
All Blog
การครองเรือน 2



การครองเรือน 2

โดยทั่วไปคู่สามีภรรยาเมื่อแต่งงานกันแล้วมักจะแยกตัวออกมาสร้างครอบครัวกันเองโดยการซื้อหรือเช่าบ้านอยู่เพื่อความเป็นส่วนตัวและความสบายใจของกันและกันแต่ก็จะมีบางคู่ที่ยังต้องอาศัยอยู่กับพ่อแม่ด้วยเหตุผลบางประการดังนั้นการเป็นเขย หรือสะใภ้ในบ้านที่เป็นครอบครัวใหญ่จึงต้องมีการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับคนในบ้านให้ได้ทุกคนการเรียนรู้ในเรื่องของการปรับตัวฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชายอาจจะเคยคุ้นหน้าคุ้นตากับคนในบ้านพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายมาพอสมควรแล้วก่อนที่จะแต่งงานกันแต่เมื่อมาอยู่ร่วมกันจริงๆในครอบครัวใหญ่จะรู้สึกได้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยเพราะในแต่ละครอบครัวอาจจะมีการดำเนินวิถีชีวิตที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงอีกทั้งสมาชิกภายในบ้านที่แต่ละคนก็จะมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันไปเมื่อต้องเข้าไปเป็นสมาชิกใหม่การเรียนรู้พฤติกรรมของแต่ละบุคคลในบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆเพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับคนเหล่านั้นให้ได้

คุณแม่ที่เคารพฟังดูแล้วต้องบอกเลยว่าบุคคลนี้สำคัญสุดในบ้านเพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกินการอยู่อาศัย การใช้จ่ายคุณแม่เป็นผู้รับหน้าที่นี้หมดลองมาดูความคิดเห็นของคุณแม่ฝ่ายหญิงแน่นอนว่ายังไงก็เข้าใจหัวอกของลูกผู้หญิงเหมือนกันแม่ของฝ่ายหญิงหลายๆคนคงไม่อยากให้ลูกสาวของตนลำบากขอยกตัวอย่างจากประสบการณ์ของผู้เขียนเองสักนิดหลังจากแต่งงานแล้วผู้เขียนเคยขอคุณแม่แยกไปอยู่กับพ่อแม่ของสามีแต่ก็ถูกปฏิเสธเนื่องจากเหตุผลว่าเป็นห่วงกลัวว่าจะเข้ากับทางแม่ของสามีไม่ได้ดังนั้นจึงอยู่กับครอบครัวของตนเองต่อไปกลับกลายเป็นว่าปัญหาไปเกิดกับสามีแทนเพราะสามีปรับตัวเองเพื่อให้เข้ากับคุณพ่อคุณแม่ของผู้เขียนเองไม่ได้เนื่องจากว่าสามีจะชอบฟังเพลงเสียงดังชอบดูทีวีจนดึกถึงแม้จะตื่นเช้าก็ตาม เมื่อมาอยู่ในบ้านของผู้เขียนจึงมักจะโดนคุณแม่ของผู้เขียนตำหนิอยู่บ่อยครั้งเรื่องนี้ทำให้เราเครียดด้วยกันทั้งคู่การตัดสินใจแยกตัวออกมาจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายมากไปกว่านี้และเรามีข้อตกลงกันว่าในหนึ่งเดือนเราทั้งคู่จะต้องไปเยี่ยมพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายเดือนละสองครั้งเป็นอย่างน้อยเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างระหว่างเรากับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายมากเกินไปนักและเหตุผลที่ว่าทำไมจึงไม่ไปอยู่กันที่บ้านของสามีก็เพราะเหตุผลคล้ายกันคือ “พ่อแม่ย่อมรักและห่วงใยในตัวของลูกอยู่เสมอไม่ว่าลูกจะเติบโตมากเพียงใด เป็นต้นว่าการดูแลเอาใจใส่ลูกที่แม่เคยปฏิบัติอยู่เป็นประจำเมื่อลูกมีครอบครัวพ่อแม่ก็หวังว่าคนที่ลูกแต่งงานด้วยจะดูแลลูกของตนได้ดีเสมอที่แม่เคยทำและเมื่อแม่ของแต่ละคนมองว่าลูกเขยหรือสะใภ้ยังดูแลลูกของตนได้ไม่ดีเท่ากับที่ตนเคยดูแลซึ่งพ่อแม่อาจจะกังวลจริงๆว่าลูกของตนจะไม่สามารถทำให้ชีวิตแต่งงานประสบความสำเร็จ”ในทัศนคติของแม่สามีผู้เขียนจึงถูกมองในด้านลบเช่นกัน ดังนั้นพอโดนพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายตำหนิเราทั้งคู่ต่างก็จะปกป้องพ่อแม่ของตนจึงกลายเป็นว่าเราต้องมานั่งเถียงกันเพียงเพราะว่าคำตำหนิจากพ่อแม่ของแต่ละคนนั่นเองที่สุดเราทั้งคู่จึงต้องแก้ปัญหาในขณะนั้นด้วยการเขียนในสิ่งที่พ่อแม่ของแต่ละฝ่ายชอบและไม่ชอบแล้วมาแลกเปลี่ยนกันอ่านผลคือความแตกต่างในความคิดของพ่อแม่แต่ละคนทำให้เราตัดสินใจแยกตัวออกมาสร้างครอบครัวกันเองและวิธีนี้ดูจะเป็นวิธีที่ดีสุดเพื่อรักษาความสัมพันธ์ของเราและพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายไว้นั่นเอง

การแต่งงานของบ่าวสาวบางคู่เมื่อแต่งงานกันแล้วและแยกครอบครัวออกมาอยู่กันลำพังอาจจะดูเหมือนเป็นการผลักไสความผูกพันระหว่างพ่อแม่กับลูกให้ห่างไกลออกไปเพียงเพราะต้องการความเป็นอิสระนั่นเองเมื่อเลือกที่จะแยกครอบครัวออกมาจึงควรที่จะแบ่งเวลาไว้สำหรับไปดูแลพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายเพื่อไม่ให้เป็นการทอดทิ้งพ่อแม่หลังจากมีครอบครัวเพราะแม้ว่าการแยกครอบครัวออกมาจะเป็นวิธีแก้ปัญหาเพื่อลดความขัดแย้งภายในครอบครัวเดิมก็จริงแต่การปรับตัวเพื่อให้เข้ากับครอบครัวของแต่ละฝ่ายก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยดังนั้นคู่แต่งงานจึงควรยึดคติว่า “ใจเขาใส่ใจเรา”เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการหย่าร้างตามมาภายหลังนั่นเอง

รวีวรรณ เกตุสุทธิ





คอนโดแมว , พัดลมมือถือ , หมอนผ้าห่ม , หมอนหัวทุย  , เก้าอี้หัดนั่ง




Create Date : 16 กันยายน 2559
Last Update : 16 กันยายน 2559 22:34:39 น.
Counter : 538 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 3067369
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



New Comments