ส่วน Weighted Moving Average (WMA)  คือ ค่าเฉลี่ยฯถ่วงน้ำหนัก ณ วันปัจจุบัน โดยมีสูตรดังข้างล่างนี้

Pt   คือ ราคาที่เลือกใช้ในการคำนวณ (เช่น ราคาปิดหรือราคาเฉลี่ยฯ) ณ วันปัจจุบัน

Ptt-k  คือ ราคาที่เลือกใช้ในการคำนวณย้อนหลังไป k คาบเวลา

n   คือ จำนวนห้องของค่าเฉลี่ยฯ

วิธีการสร้าง Volume oscillator จาก indicator ทั้งสองตัว คือ การ add indicator "On Balance Volume" เข้าไปในกราฟหุ้นที่เราจะดู และเลือก add indicator "Weighted Moving Average" โดยใช้จำนวนวันประมาณ 233 วัน (ถือตามตำราฝรั่ง)

ถ้า Time Frame เล็ก เช่น 4 ชั่วโมง อาจใช้ WMA 60 นาที และถ้าเป็น 1 ชั่วโมง ใช้ WMA 15 นาทีแทนได้ นั่นคือ การใช้ฐาน 4 น่ะเองในการหาร Time Frame ที่ใหญ่กว่า

การใช้คือ เกิดสัญญาณซื้อเมื่อ เส้น OBV โค้งตัดขึ้นเหนือ WMA และเกิดสัญญาณขายเมื่อ เส้น OBV โค้งตัด WMAลง น่ะเอง นอกจากนี้ การที่เกิดสัญญาณ Bullish Divergence หรือ Bearish Divergence ในสัญญาณ OBV ก็สามารถเป็นสัญญาณซื้อหรือขายได้เช่นเดียวกัน แต่การนำ WMA เข้าช่วยทำให้สามารถเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นถึงความเปลี่ยนแปลงของปริมาณซื้อขาย ซึ่งดีกว่าการใช้ OBV เพียงตัวเดียว

จากภาพจะเห็นว่า IVL นั้นมีสัญญาณการตัดกันของ OBV กับ WMA ตั้งแต่หุ้นยังไม่วิ่ง และเป็นจุดที่ RSI เกิดสัญญาณ Oversold และ cross เส้น value line 0 ขึ้นมา จากนั้น ปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้นตลอด และไปเกิดสัญญาณ Bearish Divergence เมื่อราคาถึงเป้า 161.8% ที่ แถว 34.5 มีสัญญาณ Divergence ทั้งในส่วนของ RSI และ OBV จากนั้นราคาก็ย่อตัวลงมา จะเห็นว่า OBV กับ WMA ให้สัญญาณล่วงหน้าก่อนหุ้นวิ่งขึ้น หรือลง ในขณะนี้ IVL ยังไม่เกิดสัญญาณซื้อใดๆต่อจากนั้น ถ้าจะเกิดสัญญาณซื้ออีกที OBV ต้องโค้งขึ้น และเกิดสัญญาณ Set up ในแท่งเทียน

visit our page at https://www.facebook.com/iknowstock/