|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
แพ๊คกระเป๋าไป UK (ตอน 2)
ตอนที่ 1 กับตอนที่สองก็คล้ายๆกันนั่นแหละ เพียงแต่เก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆนะค๊ะ
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรนำติดตัวไว้อย่าได้ห่างแม้ยามอยู่บนเครื่องบินไปเข้าห้องน้ำ ไปนู้นไปนี่ คือเอกสารต่างๆ ดังนี้ค่ะ
- Passport and Visa - Offer letter and acceptance letter - เอกสารการตรวจปอด ตรวจร่างกายต่างๆนาๆ -Offer letter accomodation - Home Stay detail หรือที่อยู่ที่ๆเราจะไปอยู่ - ตั๋วเครื่องบิน - รูปถ่าย ที่พื้นหลังเป็นสีขาว (เอามาเยอะๆค่ะ เพราะถ่ายที่นู้นไม่สวยเท่าไหร่) - Transcrip (เผื่อเอาไว้ตอนเราจะเข้ามหาลัยค่ะ) - IELTS certificate, GMAT, or GRE (ถ้ามี) - เช๊กเดินทาง ดร๊าฟ เงินสด บัตร เครดิต - ปากกา ลิควิด - ยาดม ยาลม ยาหม่อง - โทรศัพท์ มือถือ
* พวกเอกสารต่างๆนี่ ทำสำเนาไว้ให้ญาติโกโหติกาเก็บไว้ก็ได้นะค๊ะ กันเหนียว แล้วอีกส่วนนึงก็ ซีร๊อกส์ไว้ที่ตัวเอง เยอะๆที่นู้นค่า ซีร๊อกส์แพงเกิ๊น ที่สำคัญ เอา เรซูเม่ resume' ไปเยอะๆๆๆๆนะค๊ะ เผื่อเราไปสมัครงานจะได้ง่ายๆ
เตรียมกระเป๋าใบเล็กๆ 5-10 กิโลไว้ลากขึ้นเครื่องติดตัวเราค่ะ
ในส่วนนี้ แนะนำให้ใส่ของสำคัญไว้กับตัวเราเพราะเราจะอยู่กับมันไม่ได้ห่าง เช่น พวก หนังสืออ่านเล่น เอกสารสำคัญ เครื่องเล่นวิทยุราคาแพง แจ๊กเก๊ท กันหนาวบนเครื่องบิน หรือของที่น้ำหนักเกิน จากกระเป๋าใหญ่
กระเป๋าใบใหญ่ไว้โหลดใต้เครื่อง
อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศหรือสายการบินนะค๊ะว่าเค้าจะให้เราเอาไปได้กี่กิโลสำหรับโหลดใต้เครื่อง สำหรับตัว จขบ ใช้บริการสายการบิน อิทิหัท เครื่องโบอิ้งลำเบ้อเร้อ เอาไปได้ สามสิบกิโล ส่วนสายการบินอื่นๆก็ลองสอบถามดูนะค๊ะ
ขอแบรกไปสวดมนก่อนนะค๊ะ ได้เวลาสวดมนแล้ววว ยังเหลือที่ต้องเขียนอีกยาวเลยค่ะ
มาแล้ว อัพอีกที ก็วันรุ่งขึ้น สวดมนต์นานไปหน่อย ^^
ใบสั่งยา, คอนแทคเลนส์ และแว่นตา
ถ้ามีโรคประจำตัว ให้คุณหมออกใบแสดงรายการเกี่ยวกับยา (Prescription) ไปด้วยค่ะ เพราะที่อังกฤษ อยู่ดีๆเราจะเดินเข้าร้านขายยาไปซื้อยามั่วตั้วไม่ได้นะค๊ะ ต้องมีใบสั่งยาค่ะ ไม่งั้นเค้าไม่จ่ายยา ส่วน คอนแทค และน้ำยา ก็เตรียมไปด้วย แว่นก็เหมือนกันค่ะ อย่าลืมให้คุณหมอ เขียนรายละเอียดของเราเป็นภาษาอังกฤษจะได้ไม่ต้องเสียค่าปรึกษาแพทย์ตอนตัดแว่นนะค๊ะ มันแพง (มากก)
ถ้าคุณผู้หญิง ไปช่วงหน้าหนาว อย่าลืม ซื้อถุงเท้า ถุงน่อง ถุงมือ อะไรพวกนนี้ด้วยนะค๊ะ เวลามันหนาวแล้วทรมานนนนน ยืนสั่นไม่เป็นอันทำ อะไรเลย แต่ก็ไม่ต้องเอามาเยอะหรอกค่ะ ที่อังกฤษมีขายเยอะเยะ เอามาแค่ประทังช่วงแรกๆ
----เครื่องนอน---
ไม่ต้องเอามานะค๊ะ ผ้าห่มหมอนมุ้ง ที่นี่หาซื้อไม่ยากค่ะ แล้วผ้าห่มเค้าก็ใช้ผ้าห่มไฟฟ้ากัน คือมันหนาวมาก ผ้าห่ม ธรรมดา นอนไม่หลับแน่
----Dictionary------- ใครมี talking dict ก็ถือไปได้เลยค่ะ เผื่อเราทำการบ้านในห้องคนเดียว ส่วนเวลาที่เรียนในห้องส่วนมากเค้าจะไม่อนุญาติให้ใช้ talking dict กันหรอกค่ะ เค้าให้พกเล่มใหญ่ๆไปเปิดกัน
---อาหารกระป๋อง---
หรืออาหารบรรจุหีบห่อด้วยวิธีสุญญากาศ (ต้องไม่ใช่ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ หรือสัตว์ปลีกต่างๆ) สามารถนำเข้าได้ แต่ต้องเป็นการนำเข้าไปเพื่อบริโภคส่วนตัวเท่านั้น
--จาน ชาม---
เอาติดตัวมาซักใบ เป็นพลาสติกเบาๆก็ได้ค่ะช้อน ส้อม หนึ่ง คู่ ที่ต้มน้ำ เผื่อกินมาม่าในช่วงแรก เอากาต้มแบบอันกะทัดรัดก็พอค่ะ
---ผลิตภัณฑ์ปลา-----
สามารถนำเข้าได้ ถ้าเพื่อบริโภคส่วนตัว
เครื่องประกอบอาหารก็นำไปเพียงเล็กน้อยในช่วงแรกที่ยังไปไหนไม่เป็นค่ะ พอชินพื้นที่แล้วไปหาซื้อแถว China Town ได้ตามสบายเลยค่ะ
เตรียมเงิน
เงินติดตัวแนะนำไม่ต้องพกไปเยอะก็ได้ค่ะ เจ้าของกระทู้ใช้วิธี แลกเป็นเงินปอนด์ไปแค่นิดๆหน่อยๆ เผื่อลงเครื่องบินแล้วเราต้องใช้ในส่วนนึง ส่วนที่เหลือก็ฝากไว้ในบัญชี ธ กรุงเทพ (หรือ ธนาคารอื่ก็ได้ที่มี ATM กดเงินได้ทั่วโลก) แล้วทำ เอทีเอ็มที่กดเงินได้ทั่วโลกค่ะ ไปถึงก็กดได้เลย ที่ตู้ที่มีสัญลักษณ์ที่เค้าโคกันอ่ะค่ะ เสียค่ากด 100 บาท กดเงินได้สูงสุดต่อครั้ง แสนกว่าบาทค่ะ
--เตรียมแลกเงิน-- คอยแช๊คเรททุกวัน จนได้เรทที่คิดว่าดีที่สุด เราให้เพื่อนเราที่อยู่แบงก์คอยเช็คเรทให้ แล้วก็รีบไปแลกตามสาขาที่มีสำนักต่างประเทศ อะ ได้เรทดีกว่า superrich อีก ตอนที่ไปแลกได้ 49.89 ต่อ 1 ปอนด์ เรทดีมาก
----การจองตั๋วเครื่องบิน----
จัดการจองตั๋วเครื่องบินเสียแต่เนิ่น ๆ เพราะบางช่วงมีคนเดินทางมากอาจหาซื้อตั๋วได้ยาก ควรกำหนดให้ถึงที่เรียนอย่างน้อย 3 - 7 วันก่อนวันลงทะเบียนเรียน
--Period of grant ของ Entry Clearance (ระยะเวลาที่อณุญาติให้อยู่ใน UK)
-ระยะเวลา คอร์ส 12 เดือน หรือมากกว่า อนุญาติให้เข้าประเทศก่อนวันเริ่ม คอร์ส 1 เดือน อนุญาติให้อยู่ต่อในประเทศหลังวันจบคอร์ส 4 เดือน
-ระยะเวลา คอร์ส 6 เดือน หรือมากกว่าแต่ไม่เกิน 12 เดือน อนุญาติให้เข้าประเทศก่อนวันเริ่ม คอร์ส 1 เดือน อนุญาติให้อยู่ต่อในประเทศหลังวันจบคอร์ส 2 เดือน
-ระยะเวลา ของคอร์ส Pre-sessional course ที่น้อยกว่า 6 เดือน อนุญาติให้เข้าประเทศก่อนวันเริ่ม คอร์ส 1 เดือน อนุญาติให้อยู่ต่อในประเทศหลังวันจบคอร์ส 1 เดือน
-ระยะเวลา ของคอร์ส ที่น้อยกว่า 6 เดือน แต่ไม่ใช่ Pre-sessional course อนุญาติให้เข้าประเทศก่อนวันเริ่ม คอร์ส 7 วัน อนุญาติให้อยู่ต่อในประเทศหลังวันจบคอร์ส 7 วัน
-ระยะเวลา ของคอร์ส Postgraduate doctor or dentist อนุญาติให้เข้าประเทศก่อนวันเริ่ม คอร์ส 1 เดือน อนุญาติให้อยู่ต่อในประเทศหลังวันจบคอร์ส 1 เดือน
ในการสำรองที่นั่งกับสายการบิน ให้ตรวจสอบด้วยว่าได้มีการสำรองที่นั่งไว้เรียบร้อยทุก ๆ ช่วงที่มีการหยุด หากนักศึกษาจำเป็นต้องต่อเครื่องบินจากเมืองแรกที่เข้าประเทศไปยังเมืองอื่นในประเทศ ควรเผื่อเวลาสำหรับผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของประเทศนั้น ๆ ไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง
--เตรียมหาหมอฟันให้เรียบร้อย--
ไปตรวจสุขภาพฟันเลยค่ะ เจ้าของกระทู้ ทั้งอุด ทั้งขูดหินปูน สารพัดจะทำให้ฟันสวยนิ้ง ไม่มีปัญหาเรื่องฟันเวลาไปอยู่ที่นู้น เพราะที่อังกฤษ ค่าทำฟันแพงอย่างกับอะไรดี ทำไปให้เรียบร้อยจากเมืองไทยเลยค่ะ
---ยา----
แนะนำอย่างยิ่งว่า ของดังต่อไปนี้ ควรเอามาจริงๆ
1. ยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบิน ขวดขาวๆ ฉลากสีเขียวอ่อน บอกตามตรง ไม่เคยกินยาอะไรแก้โรคทางเดินอาหารได้ดีเท่าตัวนี้เลย
2. โวลทาเรน อีมัลเจล ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ อันนี้ก็เป็นอีกตัว ที่ใช้แล้วได้ผลชะงัก สงสัยเพราะยาแรง อีกทั้งเราไม่สามารถซื้อหา ตัวยานี้ (ไดโคลฟีแนค) ได้ตามปกติที่นี่ จะต้องมี pescription เท่านั้น จึงจะซื้อได้
3. ยาแก้แผลในปาก Kenalog ที่มีรูปฮิปโปบนหลอด ที่นี่ก็มี แต่ว่าแพงกว่าที่ไทยประมาณ 4 เท่า แถมมันยังหลอดจิ๋วเดียว ดังนั้น ก็เอาติดมาเถอะ ไม่เสียหลายหรอก
4. ยาแก้แพ้อากาศ ที่นี่อากาศหนาวมากอาจจะมี อาการ คัดจมูก ไซนัส ไอ จาม ตามมา
5. ยาแก้อักเสบ ลดอาการเจ็บคอ
6. ยาแก้ท้องเสีย
7. น้ำเกลือชง ทดแทนการเสียน้ำ
เท่าที่อยู่ ๆ มายาเป็นปัจจัยที่สำคัญจริง ๆ อย่างอื่นพอหาซื้อได้ถ้ารู้แหล่ง ของดีราคาไม่แพง อาหารก็ไม่แพงจนจดไม่ลง ยา บางอย่างหาซื้อที่นี่ได้ไม่แพงมาก แต่.....อย่างพวกแก้อักเสบ ถ้าต้องใช้ก็หาหมออย่างเดียวเลย
ที่หาไม่ได้เลยก็ข้างล่างนี่คะ บางอย่างพอหาได้ ชื่อไม่เหมือนกันแต่สรรพคุณไม่ต่างกันคะ Amoxicillin,Cloxacillin,Norfloxacin,Betadine, Volteren gel
---คำถามที่ว่า เรื่องการนำยาพวกแก้อักเสบ,ลดน้ำมูก,พาราต่างๆเนี่ยต้องมีใบจากแพทย์แนบไปกับยาหรือเปล่า--
สำหรับอังกฤษนะคะ ถ้าที่ฉลากยามีชื่อการค้าและคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องค่ะ คืออ่านรู้ได้ว่าคือยาสามัญประจำบ้านธรรมดา แต่ถ้าไปซื้อแบบที่ไม่มีฉลากหรือคำบรรยาย หรือดันไปทิ้งกล่องซะแล้วเหลือแต่เม็ดยา ดูน่าสงสัย ถ้าไม่โดนเรียกตรวจก็อาจจะผ่านได้ค่ะ แต่ถ้าโชคไม่ดีโดนเรียกสุ่มเปิดกระเป๋าแล้วถ้าไม่มีใบรับรองแพทย์ก็อาจมีปัญหาได้นะคะ
----ฉีดยาก่อนไป----
สำหรับอังกฤษ ควรฉีดยา ไข้กาฬหลังแอ่นกับไข้หวัดใหญ่ค่ะ ฉีดได้ที่ศูนย์ตรวจคนเข้าเมือง แถวสาธรค่ะ เพราะไม่เช่นนั้น ไปถึง เค้าจะถามคุณว่าฉีดโรคนี้มารึยัง ถ้ายัง โดนจับฉีดแน่ๆ
**ใครที่สวดมนต์ก็อย่าลืมเอาหนังสือสวดมนต์มาด้วยนะค๊ะ บางทีคุณอาจเหงาจนต้องพึ่งธรรมะ**
--ประกันสุขภาพ--
แนะนำว่าควรมีประกันเอาไว้เพื่อความปลอดภัย หากเจ็บป่วยคุณหมอจะได้กล้ารักษา ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ค่ารักษา แต่การรักษาจะครอบคลุมแค่ความเจ็บป่วยที่มาจากอุบัติเหตุ เท่านั้น หรือหากเจ็บป่วยก็เสียค่าชดเชยเป็นบางส่วน เพราะค่าประกันที่เราจ่ายนั้นไม่ได้มากมายอะไร แค่ประมาณ 80 ปอนด์ ต่อ 6 เดือน เท่านั้น แต่ถ้าหากว่า คุณมีประกันในเมืองไทยอยู่แล้ว ที่สมารถนำไปใช้ที่ต่างประเทศได้ ก็ไม่จำเป็นต้องทำนะค๊ะ
ระวังของมีค่า
พยายยามอย่านำของมีค่าติดตัวมา ฝากไว้ทีบ้านหรือที่เจ้าของกระทู้ก็ได้ค่ะ lOl เวลาจะขึ้นรถลงเรื่ออะไรจะได้ไม่ต้องมานั่งพะวง แต่ถ้าอยากเอาไปเราก็ต้องคอยระวังอยู่ไม่ห่างนะค๊ะ
Create Date : 21 ตุลาคม 2552 |
|
10 comments |
Last Update : 22 ตุลาคม 2552 12:28:51 น. |
Counter : 1927 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: Aoy (AoYSpA ) 21 ตุลาคม 2552 18:54:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: AoY (AoYSpA ) 21 ตุลาคม 2552 18:55:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: tRechin 22 ตุลาคม 2552 11:18:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: Un-Sunny 24 ตุลาคม 2552 13:57:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: จูน IP: 86.149.162.199 24 ตุลาคม 2552 19:33:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: M IP: 58.136.227.20 12 ธันวาคม 2552 23:09:30 น. |
|
|
|
|
|
|
|