Group Blog
 
All Blogs
 

นายกรัฐมนตรีคนที่ 24

และแล้ว เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็มาถึงวาระของมัน ซึ่งมันได้เป็นไปอย่างนี้จริง ๆ หลังจากที่การเมืองบ้านเราได้วุ่นวายยุ่งเหยิงอย่างมากทีเดียว และผมก็ได้ข้อสรุปจากการที่ติดตามข่าวสารการเมือง ปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการเมืองไทยในช่วงเหตุการณ์วุ่นวายตั้งแต่แรก มาถึง ณ วันนี้ มีหลายอย่างที่ผมคาดการณ์เอาไว้แล้วถูกต้องอย่างยิ่ง มันทำให้เวลาผมกลับมาอ่านบล๊อกนี้แล้ว แสดงว่าเราไม่ได้โดนหลอก เราตามทันเขาอยู่ เรารู้เราเห็นว่าเขากำลังทำอะไรกันอยู่

ซึ่งแน่นอนแหละว่า ผมไม่สามารถหรือไม่ได้เขียนชัดเจนไว้ในบล๊อกนี้จิง ๆ แต่ผมเข้าใจของผมก็แล้วกันว่า มันเป็นอย่างนี้จริง ๆ ทางเลือก ทางออกการเมืองไทย มันเดินตามเกมส์กันมาแต่ต้น แล้วก็ผลลงเอยเป็นอย่างที่เรา ๆ เห็น ๆ เข้าใจกันอยู่

นายทหารหัวเสธคนที่กำลังจะได้เป็นนายกฯ คนใหม่ คนที่ 24 ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงมาตั้งแต่ต้น เป็นคนที่ผมคิดว่าจะต้องได้เป็นตั้งแต่นายกพระราชทานแล้ว และถ้าจะ่ว่าไปแล้วเขาก็สมควรแล้วสำหรับตำแหน่งนี้ เพราะเก่งหลาย ๆ ด้าน มาถึง ณ เวลานี้ รางวัลตอบแทนความดีงามก็ต้องได้ไป แสดงว่าทำสำเร็จ เราก็ต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่เก่งมาก

บทสรุปตอนนี้ ก็คือ ผู้นำทางการเมืองที่ไ้ร้ซึ่งคุณธรรม และขาดการจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ เป็นจุดอ่อนของบ้านเมืองที่เีรียกว่า การเมืองระบอบประชาธิปไตยของไทย
ณ วันนี้ ถ้า 2 เรื่องนี้ ตรงไหนอ่อนแอ จะมีการทดแทน ผัดเปลี่ยนผู้นำได้โดยง่ายเสมอ และทหารคือผู้ที่อ้างตัวได้เสมอว่า ไม่ได้ทำเพื่อตนเองแต่ทำเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ แม้ว่าจะโดยความยินยอมเห็นพ้องด้้วยหรือไม่ก็แล้วแต่

ก็หวังว่า นายกรัฐมนตรีคนที่ 24 นี้ คือ ผู้ที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติ 2 ข้อนั้นจริง ๆ

คงไม่มีอะไรต้องเขียนต่ออีกแล้วกระมัง เพราะทุกอย่างน่าจะจบสิ้นแล้ว อ่านของเดิม ๆ ที่ผ่านมาน่าจะสนุกกว่าจริงไหมครับ




 

Create Date : 30 กันยายน 2549    
Last Update : 3 ตุลาคม 2549 21:26:29 น.
Counter : 358 Pageviews.  

อีกไม่นาน อำนาจยิ่งใหญ่อันแท้จริง จะออกมา


เอาเป็นว่า ตอนนี้ ตัวละครต่าง ๆ ออกมาเล่นกันจวนจะหมดแล้วกระมังครับ เหลืออยู่ก็คงแค่ว่าจะมีการเลือกตั้ง (หรืออีกแง่หนึ่งคือ จะปล่อยให้มีการเลือกตั้ง) ออกมาหรือไม่

เกมส์แย่งชิงอำนาจ เล่นกันมายาวนาน ถูกจุดกระแสมาตั้งแต่ครั้ง หนังสือพระราชอำนาจ ออกมา แล้วตามด้วย คุณสนธิฯ มาเล่นเรื่อง ทำบุญวัดพระแก้ว แต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชซ้อน แต่งตั้งทหารประจำปี เรื่อยมาจนกระทั่ง เปิดโปงการขายหุ้น การโกงภาษี จริยธรรม จนมาถึง นักวิชาการออกมาแสดงจุดยืนไม่เอานายกฯ ไล่เรียงมาเป็นม๊อบขับไล่นายกฯ ต่อมา สว. ออกมาร่วม ยุบสภา สส.ฝ่ายค้าน จับกลุ่มกันบอยคอต พล.ต.จำลองฯ ออกมาเสริมทัพม๊อบ กลายเป็นม๊อบธรรมะ

ต่อมาราชนิกุล รวมตัวกันต่อต้าน ไหนจะธงทรงพระเจริญอีก

เห็น ๆ แล้วใช่ไหมครับว่า กำลังแสดงว่า เป็นการรวมพล คนจงรักภักดีสถาบันกษัตริย์ และกำลังจะจุดกระแสนี้ขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่ที่ไม่จุดในตอนแรก ก็เพราะสังคมยังต่อต้านไ่ม่ให้นำมายุ่ง

หลังจากนี้ไป จะเห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้นหรือเปล่านะครับ และถึงตอนนั้นแล้ว ก็คือ ขั้นตอนสุดท้าย ดังที่ผมเคยคิดไว้และเขียนไว้ก่อนหน้านี้ไว้แล้ว เรื่อง ความจงรักภักดี

ไม่รู้ว่าถึงตอนนั้น คนไทยจะลืมต้นตอ สาเหตุของปัญหา กันหรือเปล่านะครับ ว่าเกิดจากการเรียกร้องของคนกลุ่มใดเป็นเบื้องต้น หรือว่า..จะยอมรับกันว่าสาเหตุของปัญหาอันแท้จริงนั้น คือ เรื่อง อำนาจพระมหากษัตริย์ กับ อำนาจผู้ปกครองในระบอบประชาธิปไตย

เหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งนี้ เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป บางสายบอกว่า เป็นการเลือกระหว่าง ทุนนิยมสุดขั้ว กับ อนุรักษ์นิยมสายกลาง บางฝ่ายบอกว่า เป็นการชิงชัยกันระหว่าง คนชั้นล่าง กับ คนชั้นกลาง ชั้นสูงในเมือง

จะเอาแบบไหนก็แล้วแต่เถอะ เริ่มเห็น ๆ กันชัดเจนแล้วว่า คนทั่วไปยังไงก็เป็นเบี้ยอยู่วันยังค่ำ

ซึ่งวิธีการสุดท้าย อันนำไปสู่ เป้าหมายที่ให้เลือกข้างว่า จงรักภักดีต่อสถาบันหรือไม่ ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้น หลังจากได้มีการทดสอบด้วยเรื่อง นายกพระราชทานกันแล้ว ไม่ได้ผลเท่าไหร่นักแล... คือ ไม่เอานายกพระราชทาน ยังมีเสียงดังอยู่ แต่ว่าฝ่ายไม่เอานายกพระราชทาน จะเสียงอ่อน ลงเรื่อย ๆๆ แล้วล่ะ


มันก็ต้องขับไปสู่ขั้นสูงอีกระดับ ที่ว่า เอาล่ะ ต่อไปคือ แยกให้ชัด ๆ กว่านี้ไปเลยว่า จะเอาสถาบันกษัตริย์ หรือไม่เอา จงรักใครมากกว่ากันระหว่าง คิง กับ คนชื่อทักษิณฯ

ก็เป็นอันว่า พังกันเละเทะไปหมด ไม่รู้เป็นความหวังดี หรือหวังร้ายกันแน่ หรือว่าเป็นการแย่งชิงอำนาจ ของพวกสายวัง กับนายทุน ซึ่งมีเบี้ยคนชั้นล่างเป็นฐานด้วยกันทั้งสองฝ่าย

จะจบลงเอยแบบไหน... ก็ตาม คนชื่อทักษิณฯ ต้องเจ็บปวดมากกว่าใคร

คุณป้าที่ญี่ปุ่น... บอกกับผมว่า ยังไงก็ตามฉันจะไปเลือกตั้ง ให้ผลเลือกตั้งออกมาว่า้ทักษิณฯ ชนะ... แล้วให้ลาออก หรือไม่รับเป็นนายกฯ อย่างนี้ซะเลยสะใจดี ว่างั้น... ไหน ๆ ก็จะต้องไปอยู่แล้ว

คงเป็นเพราะอย่างนั้นหรือเปล่า ที่ทักษิณฯ ต้องดันตัวเองให้ผ่านการเลือกตั้งให้ได้... ขณะที่อีกฝ่ายเริ่มกังวลว่าผลจะเป็นอย่างนั้น จะต้องล้มเลือกตั้งให้จงได้ ต้องดันนายกฯ พระราชทานออกมาก่อนให้ได้... ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็เหลืออีกไม่กี่วันแล้วล่ะซิ... คงจะรู้ผลในเร็ว ๆ นี้ รออีกหน่อยแล้วกัน






 

Create Date : 20 มีนาคม 2549    
Last Update : 20 มีนาคม 2549 17:57:43 น.
Counter : 217 Pageviews.  

ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองยามนี้ช่างตอ แ ห ล๋ใส่กันดีแท้


ไหน ๆ ก็ ไหน แล้ว... การชุมนุมก็ยืดเยื้อ การเลือกตั้งก็ร่อแร่ แล้วผู้ใหญ่ในบ้านเมืองของพวกเรา ก็ออกมาร่วมทยอยกันเล่นบท วาจาพิฆาตใส่กัน ตอ แห ล๋ หลอกชาวบ้านไปวัน ๆ

ผมเคยบอกไว้ตอนต้นแล้วว่า เหตุการณ์รุนแรงนั้นจะไม่เกิดขึ้น นับมาจนป่านนี้ ก็ยังไม่เกิดขึ้นจริง ๆ มันแปลกดีไหม หล่ะ???

ก็เพราะมันเป็นสงครามอันตอแห ล๋ ใส่กันนั่นเองแหละ

แต่ละคนที่ออกมาเล่นบทบาท ค่อย ๆ แทรกเข้ามา แทรกเข้ามาเรื่อย ๆ นั้น หมายความว่าอย่างไรล่ะ

โถ... ต้องลำบากชาวบ้านนอกคอกนา ให้ออกจากไร่จากถิ่นเข้ามาช่วยสนับสนุน ถึงในเมืองกรุง อย่างนี้มันหมายความว่าอย่างไรกันล่ะ?

สงครามแสดงพลังมวลชนนะหรือ? เปล่าเลยครับ มันเป็นทางหนีของ คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณฯ ที่ถูกบีบให้ต้องออกไปแบบนั้น

แสดงว่าในเมืองกรุง เนี่ย หาพันธมิตร ได้ยากเย็นแสนเข็ญเต็มที่แล้ว

ก็แสดงว่าถึงเวลาของทักษิณฯ จริง ๆ แล้วละครับ

อย่าคิดว่าจะไปหยุดคนเป็นหมื่นเป็นแสน ที่ออกมาขับไล่ ด้วยการยืดเวลาออกไปอีกเลย

ถ้าจะจัดการเอาให้อยู่จริง ต้องรีบเลยครับ ประกาศภาวะฉุกเฉิน กวาดให้เรียบ จัดวงจำกัดแคบ ๆ แล้วรีบทำไปเลย... แต่ไม่กล้าหรอก จริงไหม?

แต่ถ้ารอยืดเยื้ออย่างนี้ ก็รอวันเสื่อมลง และยิ่งเสื่อมลงเรื่อย ๆ

หมดหนทางแล้วล่ะครับ โดนรุกไล่แบบนั้น ทั้งจากคนของสถาบัน คนกรุง คนประท้วง ทหาร... เรียกง่าย ๆ คือ ชาวกรุงทั้งหลายนั่นแหละครับ

จะรอให้ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา ผมออกมาช่วย ก็คงไม่ไหวล่ะ จะจ้างมาอีกกี่รอบก็คงเหมือนเดิม เปลืองเงินเปล่า ๆ

ต้องยกเวทีนี้ ให้คนที่กำลังประท้วงในเมืองกรุงนี่เขาเล่นกันต่อไปล่ะครับ ส่วนคนที่คัดค้านการชุมนุมประท้วง แต่ไม่สามารถแสดงอะไรออกมาได้เต็มที่ ก็จงทำใจเสียเถอะ... การเปิดไฟหน้ารถ มันช้าไปตั้งนานแล้วครับ เพราะถ้าเขาเลือกปรองดองกันแต่แรก เขาทำไปนานแล้ว

เสียใจจริง ๆ ครับ ที่เมืองไทย มีการเมืองแบบนี้ มีผู้นำ ผู้หลักผู้ใหญ่ รวมหัวกันหลอกเด็ก หลอกลูก ๆ หลาน ๆ

ทุกคนกลายเป็นของเน่าของเสียไปหมดแล้ว หาใครดีไม่ได้แล้ว ความไว้วางใจหมดแล้ว หมดอีก หมดศรัทธา ไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว

...ทางเลือกที่ดีที่สุด ยามนี้ หลังจากเลือกยุบสภาแล้ว... ก็มีเหลือ แค่ ลาออก สถานเดียว สำหรับ รักษาการณ์นายกฯ และคงไม่ต้องพูดถึงว่าจะให้กลับเข้ามาเป็นนายกฯ อีกหรอกนะครับ ไปแล้วไปเลย.... เขาไม่ให้กลับเข้ามาอีกแน่นอนอยู่แล้ว มาอีกก็ไล่อีกนั่นแหละ ยกเว้น...ท่านจะเป็นนายกฯ ตามแผนใหม่ที่เขาเลือกชี้ทางให้ไว้เท่านั้น

ท่านไม่ใช่นักรบ ไม่ใช่นักสู้ตัวจริง ใจยังไม่ถึง คงไม่กล้าแลกด้วยวิธีอย่างอื่นแน่นอน ผมรับรองได้...

คิดว่าในไม่ช้า... อาจจะเห็น พ.ต.ท.ทักษิณฯ ประกาศแขวนนวมอย่างสิ้นเชิง ในเร็ววันนี้ก็เป็นได้ครับ

ถ้าออกมาแบบนั้น...จะเป็นชัยชนะของใคร ก็คิดกันเอาเองแล้วกัน




 

Create Date : 17 มีนาคม 2549    
Last Update : 17 มีนาคม 2549 0:57:11 น.
Counter : 238 Pageviews.  

เมื่อรู้ตัวว่าจะต้องเป็นกรรมการตัดสิน


ความพยายามของการต่อสู้กันตามระบอบประชาธิปไตยเมืองไทย ยามนี้ ไม่เหมือนยุคเก่าก่อนที่ผ่านมาแต่อย่างใดซะแล้ว

การต่อสู้เพื่อขับไล่บุคคลคนหนึ่ง ในข้อหาเป็นทรราช โกงกินบ้านเมือง มันยังเป็นข้อกังขาสำหรับคนไทยอีกหลาย ๆ คน

การต่อสู้ในตอนเริ่มแรกนั้น มีเป้าประสงค์เพียงเพื่อเรียกร้องสิทธิ และผลประโยชน์ของคนบางกลุ่มที่ได้เสียผลประโยชน์ไป โดยได้มีการชี้ให้เห็นว่า ผลประโยชน์ที่พวกตนสูญเสียไปนั้น กำลังลุกลามขยายตัวไปเกาะกินผลประโยชน์ชาติด้วยเช่นกัน และอีกไม่นานประเทศชาติจะต้องสูญเสียไปมากกว่านี้

นับไล่เลียงมาเรื่อย ๆ เป็นระยะเวลาของการชิงไหวชิงพริบกันทางการเมือง และทางมวลชนอย่างมากทีเดียว

การขับไล่ทรราชย์ที่ผ่าน ๆ มา เป็นการต่อสู้ของมวลชนเพื่อให้ได้กลับคืนมาซึ่งประชาธิปไตย แต่การต่อสู้ ณ วันนี้ ผมมองมุมไหนมันก็ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเสียเลย อาจจะมีแค่เพียงเสี้ยวเล็ก ๆ เท่านั้นที่พอจะมองออก เช่น ความเป็นกลางของคณะกรรมการ ผู้รักษากติกา

ผมคิดว่าระบอบประชาธิปไตยของเรานั้นสมบูรณ์อยู่ในตัวทุกอย่าง แต่เกิดปัญหาว่า ตัวบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งมีข้อขัดแย้ง ข้อพิพาท และถูกกล่าวหาในเรื่องต่าง ๆ จนนำไปสู่การสร้างมวลชนของความรู้สึกหวาดกลัว และเกลียดชังไปพร้อม ๆ กัน ณ วันนี้ คนไทยบางส่วน ถูกปลุกกระแสเกลียดชังเผด็จการ ทรราชย์ตัวใหม่ คือ เผด็จการทุนนิยมบ้าง เผด็จการความคิดบ้าง

ต้องยอมรับว่า บุคคลอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณฯ นั้น เป็นบุคลิกที่ไม่พึงประสงค์อย่างยิ่งของคนกลุ่มหนึ่ง แต่แปลกมากที่มีคนอีกหลายกลุ่ม ไม่ใช่แค่ ทหาร หรือ กลุ่มข้าราชการ ที่อยู่ข้างเขา หรือไม่แสดงอาการต่อต้านเขาแล้ว ยังมีคนกลุ่มใหญ่ฐานล่างสุดสังคม และคนกลุ่มเมืองที่รับข่าวสารผ่านสื่อหลาย ๆ ชนิด เช่น ผู้เล่นอินเตอร์เน็ต ผู้ติดตามข่าวสาร นักธุรกิจ และอีกหลาย ๆ กลุ่ม ให้การสนับสนุนเขาด้วย

สังคมไทย ณ ยามนี้ จึงเป็นสังคมของการหวาดระแวง มากกว่าจะถูกชี้ให้แบ่งแยกชัดเจนว่ามีคนฝ่ายใดมากกว่ากัน หรือฝ่ายใดกำลังกำชัยชนะนั้นอยู่

เพราะฉะนั้น การต่อสู้ ต่อต้าน ในลักษณะของการก่อม๊อบ ชุมนุม แบบขับไล่เผด็จการ เหมือนครั้งก่อน ๆ นั้น ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเต็มที่ สังคมจึงมีการเบี่ยงเบนหาทางออกไปสู่ทิศทางใหม่ ๆ เช่น กลุ่มคณาจารย์ผู้ออกมาแสดงความประสงค์ บอกทิศทางไม่สนับสนุนนายกฯ คนนี้ การเสนอฎีกาขอให้พระมหากษัตริย์เข้ามาปรับกระบวนการ

ดูแล้วมันไม่ง่าย อย่างที่ฝ่ายคัดค้าน ฝ่ายขับไล่คิดเอาเสียเลย การจะอาศัยพลังมวลชน พลังม๊อบกลางเมือง แต่เพียงอย่างเดียว ก็กลัวจะเป็นรอยด่างทางประวัติศาสตร์ไปอีก แถมการต่อสู้ของม๊อบนั้น ไม่ได้ต่อสู้กับทรราชย์คนเดียวเท่านั้น แต่ยังต้องต่อสู้หาความชอบธรรมให้กับตัวเอง ที่กำลังถูกมองอย่างรู้สึกไม่ดีจากกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วย ว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบอีกต่างหาก

ปัญหาของกลุ่มม๊อบ กลุ่มมวลชน ไม่ใช่สิ่งที่จะน่าหนักใจไปกว่า กลุ่มแกนนำม๊อบ เพราะกลุ่มนี้ คือ ผู้ที่จะกำหนดชะตากรรมและนำพามวลชนเดินไปในทิศทางเดิม ๆ อีกหรือไม่ แต่แม้จะพยายามทำก็ไม่ใช่ว่ากลุ่มมวลชนจะไม่รู้เท่าทัน พวกเขาก็กลัวจะถูกใช้เป็นเครื่องมืออยู่เหมือนกัน การทดลองนำมวลชนเคลื่อนที่ เพื่อสร้างความเคยชิน ครั้งแล้วครั้งเล่าจึงต้องเกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะต้องพาเดินไปทางไหนอีกบ้าง ประการหนึ่งนอกจากจะสร้างความลำบากใจต่อผู้เฝ้าดูแลสถานการณ์แล้ว ยังต้องพยายามไม่ทำตัวให้เป็นภาระน่ารำคาญแก่คนเมืองอีกด้วย จึงไม่ง่ายเลยที่แกนนำม๊อบจะนำพามวลชนบรรลุเป้าหมายได้

การออกมาประกาศ หาแนวทางใหม่ ๆ เสริม นอกจากการรวมตัวของมวลชนแล้ว จึงจำเป็นสำหรับการวางแผนกำจัดทรราชย์ของพวกเขา ด้วย ดังเช่น นักวิชาการ ชื่อ ธีรยุทธฯ ได้ออกมาเสนอไว้ เราคงจะได้เห็นมาตรการวิธีการต่าง ๆ นั้น อีกแน่นอน

ในเมื่อการต่อสู้ครั้งนี้จำเป็นจะต้องยืดเยื้อเพราะอีกฝ่ายไม่ยอม สำหรับกลุ่มแกนนำม๊อบครั้งนี้ แล้วนั้น จะต้องหาแนวทางวิธีการอันมากกว่า เรียกร้องให้คนออกมาชุมนุม แล้วชักชวนกันเดินขบวนเล่น ๆ สิ่งที่เขาต้องการก็คือ มวลชนเพิ่มจำนวนมากขึ้นหนึ่ง และอีกหนึ่งคือกิจกรรมที่สร้างแนวร่วมได้มากกว่าเดิม เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ประสงค์จะไปร่วมชุมนุม ดังตัวอย่างที่เคยเห็นสมัยรับร่างรัฐธรรมนูญ คือ การชูธงเขียว ธงเหลือง ออกมาเป็นสัญลักษณ์ ก็เป็นได้

นั่นเป็นวิธีการที่พวกแกนนำเขาจะต้องไปขบคิดกันใหม่ แต่...ถ้าหากพวกเขาอยากจะให้มันจบเด็ดขาดเร็ว ๆ เขาต้องทำอะไรที่พวกเราคาดคิดไม่ถึงซักอย่างเป็นแน่

น่าเสียดายครับ...เกมส์การเมืองครั้งนี้ ไม่สามารถหาทางประนีประนอมสานสัมพันธ์กันได้ แม้กระทั่งจะหาเป้าหมายหลักต้นตอของเหตุแห่งการขัดแย้งตอนนี้ ดูเหมือนหลาย ๆ คนมองข้ามไปหมดซะแล้ว ต่างมุ่งไปสู่การกำจัดคู่ต่อสู้แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

วันนี้ผมเขียนอะไรออกมาบ้าง..ก็งงงง เหมือนกัน ตอนนี้แม้จะดูการเมืองบ้านเราแบบชินชา ไม่ตื่นเต้นเหมือนเมื่ออาทิตย์ก่อนแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกเหนื่อยใจแทน กลุ่มบุคคลทั้งสองฝ่ายที่เผชิญหน้ากันอยู่ยามนี้เป็นอยู่มากทีเดียว

ประชาธิปไตยเมืองไทย... จะเป็นอย่างนี้อีกนานซักแค่ไหน คนที่เคยมีบทบาทในอดีต พยายามจะนำอดีตมาสั่งสอนคนอีกครั้งกระนั้นหรือ

เป็นเพราะ ห่วงชาติจะล่มจม ห่วงแผ่นดินจะถูกยึดครอง ห่วงอำนาจจะสูญเสียไป ห่วงตำแหน่งจะมีคนอื่นมาสวมแทน สุดท้ายก็คือ หวงแหนสมบัติส่วนตัว โดยเอาศรัทธา พลังมวลชนมาเป็นเครื่องมือ

ในเมื่อต่างฝ่ายเชื่อมั่นว่าตัวเองถูกต้อง แต่การต่อสู้ครั้งนี้ กลับไม่มีกรรมการกลางเข้ามาตัดสิน ถือเป็นภาวะอึมครึมอย่างยิ่ง แล้วกรรมการจะตัดสินให้ฝ่ายใดชนะ

หรือว่ากรรมการได้ให้คะแนนกับผู้ชนะไว้แล้ว เหลือแต่ว่าจะประกาศผลแค่นั้นหรือเปล่า หรือว่าตอนนี้รอให้แต่ละฝ่ายทำคะแนนสะสมไปเรื่อย ๆ ก่อน

เราเป็นคนดู ก็เชียร์กันไป ไม่มีหน้าที่ ไม่มีอำนาจใด ๆ ให้ไว้ จึงไม่อาจจะตัดสินได้ว่าจะให้ใครชนะ....

สุดท้ายแล้วเรารอกรรมการหรอกหรือนี่????

ถ้าหากเกมส์นี้ไม่มีกรรมการเลย...ฝ่ายได้เปรียบจะจัดการกับฝ่ายเพลี่ยงพล้ำพลาดท่าอย่างไร ดี

อาจจะเป็นไปได้ว่าไม่มีกรรมการหรอกสำหรับเกมส์นี้ มีแต่คนดู และคนเชียร์ เท่านั้น นอกนั้นขึ้นเวทีกันหมด

สำหรับผู้อยู่บนเวที ก็ห้ำหั่นกันไป เดี๋ยวคนดูจะเป็นคนตัดสินเอง....
ใครทำแต้มเก็บคะแนนตอนนี้ได้มากกว่า ก็จะช่วยให้คนดูตัดสินได้ง่ายขึ้น รับรองถ้าให้คนดูตัดสิน เป็นธรรมแน่ ต่อให้ติดสินบนหรือไม่ก็ตัดสินได้ทั้งนั้น

แต่ต้องแสดง ท่าทาง ออกลีลา ให้คนดู เห็นจะจะ ชัดแจ้งนะ
ใครถนัดท่าไหน แบบไหน งัดไม้ตายออกมาได้เลย

งานนี้ผมขอ..เป็นคนดูครับ




 

Create Date : 07 มีนาคม 2549    
Last Update : 7 มีนาคม 2549 4:40:38 น.
Counter : 197 Pageviews.  

การปรองดอง คือ ทางออกใหม่ร่วมกัน

เมื่อวาน พ.ต.ท.ทักษิณฯ ได้กล่าวปราศัย ในทำนองว่า ขอวิงวอน ขอร้องให้กลุ่ม ฝ่ายต่าง ๆ ที่ยืนประจันหน้ากับ นายกฯ หันมาพูดจากันคุยกัน จะเอาแบบไหน วิธีไหน ให้มาร่วมกันหารือ แก้ไขด้วยกัน ยกเลิกการประจันหน้าขัดแย้งกันเสีย

ฟัง ๆ ดูแล้วก็เคลิบเคลิ้มหลักการอันนี้ของนายกฯ เป็นอย่างยิ่งครับ และถือเป็นทางออกที่ดีอย่างหนึ่ง สำหรับการเมืองไทยยามนี้ นายกฯ ได้เสนอทางออกให้แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นทางเลือกของนายกฯ แต่ฝ่ายเดียวหรือไม่นะครับ

การเมืองไทย ณ ยามนี้ เวลานี้ จะไม่ถึงจุดแตกหัก เหมือนในอดีตอันเลวร้ายที่ผ่านมาแน่นอน ถ้าหากใช้การแก้ปัญหาที่เป็นอยู่นี้ ด้วย หลักของการปรองดอง ซึ่งผมสนับสนุนครับ เพราะจะเป็นแนวทางใหม่ให้เราเลือกใช้แก้ปัญหาจุดวิกฤติการเมืองไทย ในอนาคตได้ดีเป็นอย่างยิ่ง

แต่ก่อนเราแก้วิกฤติการเมืองอันเกิดจากการเรียกร้องภาคประชาชนขึ้นมา ด้วยเลือดบ้าง ด้วยนายกฯ พระราชทานบ้าง ต่อไปเราจะได้มิติใหม่ คือ การต่อสู้เมื่อจะถึงจุดวิกฤติ เราจะหยิบใช้วิธีแห่งการปรองดองกัน แทน

ถือว่าเป็นวิวัฒนาการทางการเมืองที่น่ายกย่องมากครับ... ผมขอสนับสนุนด้วยใจจริง

เป็นการช่วยกันคิดช่วยกันแก้ให้วิกฤตินี้ผ่านไปก่อน โดยจะมีการแก้ รธน. แล้วกลับเข้าสู่กระบวนการตามระบอบประชาธิปไตยกันต่อไป

การออกมาเรียกร้องการให้เข้ามาร่วมกันทำการเมืองใหม่แบบนี้ อาจจะเป็นการเสียเครดิตของกลุ่มคัดค้าน ต่อต้าน ที่อยากให้นายกฯ เลือกลาออกมากกว่า และเป็นการยอมรับเป็นรองต่อแนวคิดนายกฯ มากกว่า ก็ต้องมาคอยดูกันครับว่า คนอื่น ๆ จะเห็นด้วยกับแนวคิดนายกฯ หรือไม่

แสดงให้เห็นว่า นายกฯ เลือกใช้วิธีการหลาย ๆ อย่าง ลดระดับความรุนแรงของเหตุการณ์อยู่พอสมควรครับ ถ้าหากดูตั้งแต่ กรณีก่อนการชุมนุม ๒๖ ก.พ. มาสู่ ก่อน ๕ มี.ค.ที่จะถึงนี้

แต่ก็ไม่รู้ว่า การกระทำของนายกฯ ในตอนนี้ จะถือว่าเป็นการหลบหลีก หาทางออกอื่น เพื่อปิดประตูตายแทนการลาออกอย่างเดียว เหมือนอย่างที่ฝ่ายขับไล่ เคยกล่าวไว้หรือเปล่านะครับ เพราะหลาย ๆ อย่าง หลาย ๆ ครั้ง ที่นายกฯ ทำนั้นมีบางฝ่ายยังระแวงในความจริงใจต่อการแก้ไขปัญหาอันแท้จริง หรือว่าชิงความเป็นต่อทางการเมือง ของนายกฯมากกว่า หลงเหลืออยู่

สำหรับผมแล้ว... จะเอายังไงก็เถอะ ถึงแม้นายกฯ อาจจะมีจิตไม่สุจริต หลอกล่อให้ฝ่ายตรงข้ามตกหลุม เป็นฝ่ายตั้งรับ ก็ตามที แต่ถ้าหากมีการประนีประนอม ปรองดองกันจริง ๆ ผลประโยชน์น่าจะเกิดขึ้นกับสังคมยามนี้มากกว่า

แค่ผมอ่านข่าว ติดตามข่าว ก็ยังเหนื่อยใจแล้ว คนที่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผู้นำกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง น่าจะวุ่นวายหนักใจมากกว่าผมเป็นหลายเท่านัก

ขอสนับสนุนการดำเนินการการเมืองแก้วิกฤติด้วยหลักการประนีประนอมครับ เก็บแค้นไว้ครับ รอไปสักระยะคงไม่เสียหาย




 

Create Date : 04 มีนาคม 2549    
Last Update : 4 มีนาคม 2549 17:02:39 น.
Counter : 243 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

คนไม่เสียสิทธิ์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add คนไม่เสียสิทธิ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.