Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
9 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
Asagi Tempura@Ginza/Tokyo

ชื่อร้าน : Asagi Tempura@Ginza/Tokyo
รายการอาหาร : Tempura
เวลาเปิดบริการ : 17.30-20.30 น.
ที่ตั้งร้าน : Ginza/Tokyo, Japan
พิกัด GPS : 35° 40' 16.43" N 139° 45' 40.84" E


Photobucket



อาหารญี่ปุ่นสำหรับท่านที่ไปเที่ยวกับบริษัททัวร์ต้องเจอกันเป็นประจำต้องมี เทมปุระ อยู่ด้วยบ้างซักมื้อ อันที่จริงเทมปุระนั้นเป็นอาหารที่หาทานง่ายและดูเป็นอาหารญี่ปุ่นมากกว่าอีกหลายเมนู แต่ก็เป็นเมนูที่มีคนบ่นมากที่สุดเมนูหนึ่งเหมือนกัน เพราะบ่อยครั้งที่ไปกับทัวร์ก็ต้องไปกันเป็นหมู่มาก ทางร้านเค้าไม่สามารถรอให้ท่านนั่งเรียบร้อยแล้วค่อยทอดมาเสิร์ฟร้อนๆ ได้ เพราะมันจะไม่ทันการ ก็เลยทำให้ท่านขาดอรรถรสในการทานเทมปุระ เพราะการทานเทมปุระให้อร่อยต้องทานตอนร้อนๆ ครับ วันนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปลองทานเทมปุระกันอีกสักร้านครับ

ร้าน Asagi เป็นร้านเทมปุระขนาดเล็กที่ผมแวะเวียนไปหลายครั้งแต่ไม่เคยได้ทานเลยซักครั้ง เพราะปิดบ้าง เต็มบ้าง หมดเวลาบ้าง เพราะเค้าเปิดให้บริการในวันธรรมดาแค่ช่วง 1200-1300 น.และ17.30-20.30 น. เท่านั้น แต่ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์จะเปิดแค่ตอนเย็น และปิดทุกวันหยุดธนาคาร รวมทั้งช่วงวันหยุดยาวอย่าง Golden Week ปลายเมษา หรือ ช่วงเทศกาล Obon กลางเดือนสิงหา และหยุดยาวอีกทีช่วงปลายปีคร่อมไปถึงสัปดาห์แรกของปีใหม่ จนในที่สุดผมต้องวางแผนล่วงหน้าโดยการเดินไปจองแล้วอีก 2 วันให้หลังถึงจะได้ไปทาน วันที่นัดหมายก็ตื่นเต้นมากครับ เพราะนัดไว้ตอนเที่ยงตรง กลัวว่าถ้าไปช้าจะโดนยกเลิก ผมไปถึงตรงเวลาเป๊ะตามสไตล์ญี่ปุ่น เพราะถ้าไปถึงก่อนทางร้านก็ยังไม่พร้อมจะให้บริการ แต่ถ้าไปถึงทีหลังก็ผิดมารยาทแถมดูไม่ดีอีกต่างหาก แอบมองเข้าไปในร้านไม่เห็นใครซักคนก็หวั่นใจว่า เรามาผิดเวลาหรือเปล่า ตัดสินใจเดินเข้าไปถึงสังเกตุเห็นว่า คุณพ่อครัวกำลังเตรียมข้าวของอยู่หลังร้านที่มีม่านบังอยู่ พอผมส่งเสียงทักทายพ่อครัวก็กุลีกุจอออกมาต้อนรับและเชิญให้ผมนั่งในที่ๆ เค้าจัดเตรียมไว้ให้แล้ว

Photobucket



ในที่สุดผมก็จะได้มานั่งในร้านเทมปุระระดับ 1 ดาว Michelin กันเสียที ร้านนี้มีแค่ 8 ที่นั่งเท่านั้น ทุกที่นั่งอยู่บนเคาน์เตอร์ไม้ที่ทำจากไม้สนญี่ปุ่นเพียงแผ่นดียวไม่มีรอยต่อใดๆ ทั้งสิ้น และไปกันได้ดีกับความร่วมสมัยของอาคารคอนกรีตเปลือยและการตกแต่งภายในที่อบอุ่นเหมือนอยู่ในบ้าน คุณ Asagi Hiroshi ที่เป็นทั้งเจ้าของและพ่อครัวรวมทั้งภริยาช่วยกันทำช่วยกันบริการกันแค่ 2 คนครับ ทำไปยิ้มแย้มแจ่มใสไปอยู่ตลอดเวลา อัธยาศัยใจคอก็เป็นกันเอง แถมพูดภาษาอังกฤษได้ดีพอตัว เลยไม่มีอุปสรรคในการสื่อสาร พอนั่งแล้วคุณภริยาก็นำชามาเสิร์ฟ พร้อมนำเมนูมาให้เลือก เมนูมื้อกลางวันของที่นี่มีแค่ 2 ราคาเท่านั้นคือ 5,775 เยน และ 7,875 เยน แน่นอนว่าผมต้องสั่งของเยอะเข้าไว้ ส่วนผู้คุ้มกฎซ้ายขวาขอสั่งแบบไม่มาก เพราะมีประสบการณ์จากหลายร้านที่เหลือทุกครั้งที่สั่งเยอะ ระหว่างที่นั่งรอก็ดูพ่อครัวตระเตรียมเครื่องเทมปุระไปเพลิดเพลินดีครับ เหมือนได้เห็นศิลปินกำลังลงมือสร้างสรรค์งานศิลปะชั้นยอด การได้มานั่งดูเค้าทำมันทำให้เราได้เห็นเบื้องหลังการทำงาน ได้เห็นที่มาของความอร่อย และได้เห็นความตั้งใจของพ่อครัว

Photobucket



ร้านนี้มีกระทะใบใหญ่อยู่กลางเคาน์เตอร์ พ่อครัวจะผสมแป้งกับไข่และน้ำซุปก่อนจะทอดเท่านั้น น้ำมันที่ใช้เป็นน้ำมันงาซึ่งให้กลิ่นหอมและจะเททิ้งทุกรอบ น้ำมันที่ใช้ในมื้อกลางวันก็จะไม่นำกลับมาใช้ใหม่ในตอนเย็น จึงรักษาคุณภาพของเทมปุระทุกชิ้นไว้ได้เป็นอย่างดี ชิ้นแรกของผมเป็นกุ้งเทมปุระครับ พ่อครัวนำกุ้งลายเสือที่ยังเป็นๆมาล้างน้ำ แยกหัวแยกตัวออกจากเปลือก แล้วก็นำไปชุบแป้งลงทอดในน้ำมันร้อนๆ พอได้ที่ก็เสิร์ฟมาไว้ในจานที่วางอยู่ด้านหน้า ขอบอกว่า ไม่เคยทานเทมปุระที่ไหนอร่อยเท่าคำนี้มาก่อนเลยจริงๆ ครับ เนื้อกุ้งที่กรอบเด้งจิ้มกับเกลือที่ได้มาจากหมู่เกาะโองะซาวาระ (Ogasawara) กลางมหาสมุทรแปซิฟิค ให้รสชาติที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ใครจะหาว่าผมเว่อร์ก็ได้แต่มันอร่อยจนผมต้องขอบคุณพ่อครัวที่ตั้งใจทำอาหารดีๆ ให้ผมทาน พ่อครัวยิ้มรับแล้วลงมือทอดต่อ คำต่อๆ มาก็มีปลา ปลาหมึก หอยเชลล์ สลับกับดอกไม้ใบหญ้าอาทิ หน่อไม้ หน่อไม้ฝรั่ง มันเทศ หัวโกโบ และที่ตื่นตาตื่นใจก็คือดอกฟุกิโนะโตะ เป็นดอกไม้จากจังหวัดนีงาตะ ต้องขุดขึ้นมาจากใต้หิมะ ออกรสขมนิดๆ แต่พอจิ้มเกลือกลับให้รสชาติที่กลมกล่อม แต่ที่ติดใจสุดๆ ก็ต้องหัวกุ้งที่กรอบอร่อยจนนึกอยากให้กุ้งมีหัวซัก 2-3 หัว คำสุดท้ายในชุดจะเป็นปลาไหล Anago ที่เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มที่ทำจากบ๊วยและพริกไทยญี่ปุ่น แยกมาคนละถ้วย ช่วยเพิ่มรสชาติให้จัดจ้านขึ้น ก่อนจะจบด้วยกุ้งและหอยเชลล์สับชุปแป้งทอด (Kakiage) ที่ท่านสามารถเลือกทานกับข้าว หรือข้าวต้มก็ได้ และปิดท้ายด้วยไอศครีมชาเขียวคำเล็กๆ ราดด้วยถั่วแดงและวุ้นหวานเย็นชื่นใจ

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket



ผมใช้เวลาทานประมาณ 1ชั่วโมงครึ่งแต่ไม่รู้สึกว่านานเพราะเพลินไปกับการนั่งดูคุณ Asagi ทำอาหารพร้อมกับชิมรสฝีมือ บอกได้เลยครับว่าเยี่ยมยอดที่สุด ตอนยืนทอดนี่ผมมองคุณ Asagi ตลอดเวลา ใบหน้าของเค้าดูจริงจังมากและพอเทมปุระชิ้นนั้นเหลืองได้ที่ แกยิ้มอย่างมีความสุขและบรรจงเสิร์ฟให้ผมทาน มันทำให้ผมรู้เลยว่าเค้ามีความสุขกับอาหารที่เค้าทำ ตรงนี้แหละครับที่ทำให้รสชาติเทมปุระของคุณ Asagi อร่อยกว่าของคนอื่น นอกจากนี้ยังไม่ละเลยรายละเอียดต่างๆ เช่นกระดาษซับมันที่เปลี่ยนบ่อยจนผมเกรงใจ น้ำชาก็เปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ จึงได้ดื่มน้ำชาร้อนๆ ตลอดเวลา

ร้านนี้อยู่ที่กินซ่าบล็อก 6 (6-4--13) อาจจะหายากสักนิดเพราะอยู่ในซอยเล็กๆ ระหว่าง ถนน Ginza Corridor กับถนน Sotobori ปากซอยมีร้านขายยา เดินเข้าไปนิดเดียว จะเจอตึกปูนเปลือยอยู่ทางซ้าย ลองไปทานดูนะครับ รับรองว่าอร่อยจนตื้นตันเลยครับ



Create Date : 09 ธันวาคม 2554
Last Update : 9 ธันวาคม 2554 14:26:27 น. 2 comments
Counter : 2554 Pageviews.

 
Impressive review :)


โดย: manuka honey วันที่: 9 ธันวาคม 2554 เวลา:22:38:29 น.  

 
อยากทำงาน


โดย: อยากทำงาน IP: 110.49.249.142, 141.0.8.244 วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:8:43:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Patanainjapan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




Friends' blogs
[Add Patanainjapan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.