Group Blog
 
All blogs
 

1 ปี 7 เดือน ที่ห่างหายไป วันนี้แอนดี้ได้เป็นนายแบบโฆษณาในทีวีแล้วคับ ^^

เป็นนายแบบโฆษณาซีรีแล็ค 2012






 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 5 พฤษภาคม 2555 8:44:07 น.
Counter : 1345 Pageviews.  

แอนดี้อายุครบ 3 เดือนแล้วคร๊าบ มารายงานตัวพร้อมประสบการณ์ โรคมือเท้าปาก ในเด็กทารก

Smileyเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกดังเค้าว่า  แอนดี้คลอดมาครบ 3 เดือนแล้วเหรอนี่ แต่กว่าจะผ่านมาถึงวันนี้ได้ก็หนักหนาเอาการอยู่เหมือนกัน ตั้งแต่คุณแม่คิดว่าจะเลี้ยงลูกเองด้วยตัวเองไม่ต้องจ้างคนช่วย แต่พอกลับจากโรงพยาบาลไปบ้านก็เลี้ยงคนเดียวได้เองแค่ 3 อาทิตย์ เพราะลูกหลับไม่นานตื่นแทบทุกชั่วโมง บางทีครึ่งชั่วโมงยังมี แผลผ่าตัดก็เจ็บต้องลุกๆ นั่งๆ อุ้มลูกตลอด วันๆ นอนได้ไม่ถึง 4 ชั่วโมง แบบไม่ติดต่อกันอีกด้วยนะ เลี้ยง 2วันแรก นั่งร้องไห้ฮือๆ เหมือนโลกจะถล่มทลาย นึกในใจ โรคซึมเศร้ามาเยือนแน่ๆ แถมน้ำหนักลดไป 10 กิโลภายใน 3 อาทิตย์เลยเชียว แต่ยังโชคดีอยู่หน่อยที่เค้าไม่ค่อยร้องและไม่เป็นโคลิค


สุดท้ายก็ตัดสินใจหาคนมาช่วยเลี้ยง โชคดีได้น้าสะใภ้มาช่วยเลี้ยง เบาแรงไปเย้อะ เพิ่งรู้ว่า การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งนี่ไม่ได้งานเลย ไม่นึกว่าการมีลูกที่หลับไม่นานไม่จะเหนื่อยได้ถึงปานนี้ เหนื่อยจนแบบเดินไปไหนเหมือนตัวลอยๆ


ช่วงแรกพาลูกไปหาหมอค่อยข้างบ่อยไม่ว่า เดี๋ยวตาแฉะ เสียงดังครืดคราดตอนกลางคืน ผื่นที่หน้า สารพัดจะมีเรื่องให้กังวลใจไม่ได้ขาด


เหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อน้องแอนดี้อายุได้เดือนครึ่ง พ่อป่วยหนักอยากเห็นหน้าหลานขึ้นมา เราต้องหอบลูกจาก กทม ไปเชียงใหม่ จ้างรถตู้ไป เลี้ยงลูกในรถกันไป ใจจริงก็ไม่อยากไปแต่ทำไงได้เราก็ต้องทำหน้าที่ลูกด้วย ทีนี้กลับมาจาก กทม ลูกก็ไม่สบาย เป็นไข้ หอบไปหาหมอกันอีก


เรื่องนี้เด็ดกว่า ตอนลูกอายุได้ สองเดือนครึ่ง ลูกมีไข้สูง กินนมน้อย งอแง พาไปหาหมอปรากฎว่ามีแผลร้อนในบนเพดานปาก หมอก็ให้ยาแก้อักเสบมาทาน ทานไปสามวัน ก็มีผื่นเหมือนยุงกัดเต็มเท้าไปหมด ตอนแรกนึกว่ายุงกัด พาไปหาหมออีกคนหนึ่ง เพราะหมอเจ้าของเด็กไม่อยู่ หมอก็บอกยุงกัดเอายาแก้แพ้มาให้ทาน กับยาทา วันรุ่งขึ้นผื่นขึ้นมาอีก นึกในใจว่ามันต้องไม่ใช่ยุงกัดสิ มันจะกัดคืนเดียว ห้า หก ทีเลยเหรอ ก็พาไปหาหมออีกท่านหนึ่ง เพราะหมอเจ้าของไข้ไม่อยู่อีกแล้น หมอบอกว่า ลูกเป็นโรค มือ เท้า ปาก ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อยมากกับเด็กทารก ทั้งๆ ที่ไม่ได้พาไปเที่ยวไหน ไม่มีพี่น้อง อยู่บ้านตลอด แต่หมอก็ว่ามันเป็นเชื้อไวรัสอาจจะมากับอากาศก็ได้ เราก็ใจไม่ดีกลัวจะมีโรคแทรกซ้อน แต่หมอว่า ไม่น่าจะเป็นอะไรมากแล้ว เพราะลูกแข็งแรง ร่าเริงดีแล้วอีก ไม่เกิน 7 วันก็คงหาย แต่ปรากฏว่า ผื่นก็ทยอยขึ้นเรื่อยๆ ที่แขน เราก็ทายาให้ลูก แล้วก็พาไปให้หมอดูเป็นระยะ ใช้เวลาสองอาทิตย์แน่ะกว่าผื่นจะหายหมด


พอ มือ เท้า ปาก หาย แม่ดันเป็นหวัดเอาไปติดลูกอีก วิ่งหาซื้อที่ดูดน้ำมูกอัตโนมัติวุ่นวายทีเดียว เนื่องจากตัวเองใช้ลูกยางแดงไม่เป็น แล้วก็สงสารลูกถ้าต้องดูดน้ำมูกเหมือนนางพยาบาลทำให้ ตอนนี้ลูกก็ยังมีน้ำมูกอยู่บ้างไม่เยอะเท่าเดิมอีกไม่กี่วันคงหายจากหวัด


ตอนนี้ลูกอ้วนท้วนสมบูรณ์ ทานนมแม่อย่างเดียว น้ำหนัก 7 กิโลกรัม สูง 62 เซ็นติเมตร


จบแล้วจ้า Smiley



Free TextEditor

อายุ 2 วัน


อายุ 1 เดือน


อายุ เดือน ครึ่ง



อายุ 3 เดือน




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2553    
Last Update : 29 ธันวาคม 2553 15:33:00 น.
Counter : 2475 Pageviews.  

บันทึกความทรงจำวันผ่าตัดคลอด


พรุ่งนี้ครบเดือนหนึ่งพอดี จากวันที่ผ่าคลอดเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2553 คลอดตอน 06.49 น

แม่อยากบันทึกประสบการณ์ผ่าคลอดเอาไว้ก่อนที่รายละเอียดความทรงจำบางอย่างจะหายไปกับกาลเวลา

จากการที่ลูกไม่ยอมกลับหัวทำให้แม่ต้องตัดสินใจผ่าคลอดตอนวีคที่ 38 บอกตรงๆว่า ตอนนั้นกลัวไม่อยากผ่าเลย สุดท้ายก็ถึงวันคลอด ไปแอดมิด ที่ บีเอ็นเอช ตอนกลางคืนวันที่ 27 กันยายน เพราะต้องเตรียมสวน โกน ประมาณ ตี 4 ของวันรุ่งขึ้น แล้วก็งดอาหารหลังห้าทุ่มเป็นต้นไป

คืนนั้นตื่นเต้นมากๆ สรุปนอนไม่หลับเลย ตีสี่เกือบตีห้า พยาบาลก็มาเตรียมแม่ให้พร้อมสำหรับการผ่าตัดคลอด อาบน้ำ โกน สวน เจาะเส้นเลือดที่แขน ใช้เข็มเบอร์ใหญ่สุดเพื่อเตรียมไว้สำหรับกรณีให้เลือด พยาบาลคงเจาะไม่ค่อยเก่ง เส้นเลือดออกจะชัดมักๆ แต่พี่ท่านเจาะไปซะห้าที เจ็บไปหมด

เจ้าหน้าที่ก็มาเข็นแม่ไปที่ห้องผ่าตัด ตอน 05.45 น. พ่อกะแม่ก็ไปรอที่หน้าห้องผ่าตัด ตื่นเต้นสุดๆ เพลียก็เพลีย สักพักคุณหมอก็ถามไถ่อาการก่อนเข้าห้อง เจ้าหน้าที่ Stem Cell ก็มาแล้ว

6 โมง เจ้าหน้าที่ก็มาเข็นแม่เข้าห้องผ่าตัด เค้าให้คุณพ่อรอข้างนอกก่อน พอเข้าไปพยาบาลก็ถอดเสื้อออก เตรียมหลังให้สัญญีแพทย์บล็อคหลัง ตอนนี้แม่เริ่มเพลียมากๆ เพราะไม่ได้นอนเลย สักพัก หมอก็ฉีดยาเข้าเส้นก่อน เป็นยาทำให้ Relax ฉีดเข้าไปแล้วบวกกับที่เพลียอยู่แล้วแม่รู้สึกเคลิ้มเลยล่ะ สักพักหมอก็บล็อคหลัง เจ็บเหมือนกันนิ สักพักช่วงล่างของร่างกายเหมือนกับถูกไฟฟ้ากระแสต่ำๆ ช็อต จนชาไม่รู้สึกไรเลย

สักพักคุณหมอก็ให้คุณพ่อเข้ามา หมอสูติก็เริ่มลงมือ ทำไปคุยไปทำให้เราไม่เครียด หมอยังติดขำ ถามแม่ว่าใช้ไรทาท้อง เพราะท้องไม่แตกเลยเทียบกับท้องทีใหญ่เบ้อเร้อ

ตอนหมอเริ่มลงมือผ่า หมอจะบอกเป็นระยะ ว่าถึงขั้นตอนไหนแล้ว อีกกี่เซ็นจะถึงตัวลูก ถึงตัวลูกแล้ว กำลังจะเอาก้นออกแล้วนะ หมอก็เอาอ๊อกซิเจนให้ดม เสียงดังตึกตักๆ สักพักก็ได้ยินเสียงลูกร้อง ตอนนั้นดีใจ แต่ไม่มีอารมณ์ร้องให้เลย เพราะง่วงและเหนื่อยสุดๆ หมอก็เอาลูกไปเช็ค สักพักหมอเด็กก็บอกว่า ลูกแข็งแรงดีนะคะ แล้วก็เอาลุกมาให้หอมแก้ม ถ่ายรูปกัน ถ่ายตอนที่แม่เริ่มจะหลับแล้ว

พอหมอเริ่มเย็บแผล คุณหมอก็ให้คุณพ่อออกไปก่อน เย็บเสร็จก็เข็นแม่ไปไว้ในห้อง Observe ดูอาการ ในห้องก็จะมีพยาบาลคอยดูอยู่อย่างใกล้ชิด แม่เห็นในเน็ตมีแต่คนบอกว่า ผ่าเสร็จจะหนาวจนสั่น ของแม่ตรงกันข้ามแฮะ แม่ร้อนมากๆ แล้วก็เกิดผลข้างเคียง คือ คันตามตัว และที่หน้า แม่ร้อนจนบอกให้พยาบาลเอาน้ำเย็นๆ มาเช็ดตัวให้หน่อย แล้วก็หลับไม่ลงเลย

สองชั่วโมงถัดมา เจ้าหน้าก็เข็นแม่กลับขึ้นห้อง พอถึงห้องก็ร้อนๆ กินน้ำก็ไม่ได้ ต้องร้องขอให้พยาบาลเอาน้ำในตู้เย็นมากลั้วปาก เพราะร้อนและปากแห้ง แล้วหมอก็ให้นอนราบ 12 ชั่วโมง

แม่พลาดอยู่อย่างหนึ่งคือไม่ได้ดูข้อมูลว่าหลังผ่าแล้วต้องทำไงบ้าง ปรากฎว่าเค้าไม่ให้กินอาหารอีก 24 ชั่วโมง พระเจ้าช่วยพลาดจริงๆ รู้งี้กินมื้อดึกก่อนงดอาหารอีกทีแล้วล่ะ ก็แม่กินข้าวเย็นตั้งแต่ 6 โมงเมือว่าอะดิ โห หิวล่ะสิ ทั้งที่ให้น้ำเกลือก็หิว เพราะไม่มีอาหารตกถึงท้องมาหลายชั่วโมงแล้วนิ

วันถัดมา วันที่ต้องถึงเวลาลุก โอพระเจ้ากว่าจะเปลียนจากท่านอนเป็นนั่งได้ ใช้เวลา 15 นาที เจ็บสุดๆ เหงื่อแตกพลั่กๆ เลย พอยืนได้ก็ไม่อยากนั่ง เพราะเปลี่ยนท่าทีนี่ทรมานสุดๆ

ที่นี้ตอนพยาบาลเอาลูกมาดูดนมแม่ แม่ก็ต้องขยับตัวใช่มะ แต่เหมือนช่วงนี้ร่างกายจะหลังสารวิเศษ ทำให้แม่ทำได้โดยไม่เจ็บเท่าไร ขอแค่ให้ได้เห็นหน้าลูกทุก ๆ 3 ชั่วโมง แล้วลูกก็มาดูดนมจากเต้า แค่นี้ความเจ็บก็ไม่ได้ทำไรแม่ไม่ได้แล้ว


Free TextEditor




 

Create Date : 28 ตุลาคม 2553    
Last Update : 28 ตุลาคม 2553 1:16:17 น.
Counter : 4376 Pageviews.  

37 weeks 4 วัน ตรวจครรภ์ครั้งสุดท้ายก่อนคลอด

Smileyเมื่อวานนัดตรวจครรภ์ครั้งสุดท้ายกับคุณหมอ Ultrasound ดูอีกทีว่าเจ้าตัวน้อยกลับหัวหรือยัง สุดท้ายก็เหมือนเดิม นอนท่าเดิมเลย หมอเลยบอกหมดโอกาสแล้ว มาวางแผนการคลอดเลยดีกว่า อีกอย่างลูกน้ำหนักเกิน 3 โลครึ่งแล้วด้วย


หลังจากมีแววว่าต้องผ่าจากการตรวจครรภ์อาทิตย์ที่แล้ว คุณแม่ก็เสาะหาฤกษ์หายามให้ลูกน้อย แต่อาทิตย์หน้าค่อยข้างหาวันยาก คุณแม่ก็ไม่ซีเรียส เอาวันที่คิดว่าพอโอเค เวลาก็เอาหมอสะดวกจะดีกว่า ตกลงก็เลยนัดคุณหมอเป็นวันอังคารที่ 28 คุณหมอบอก โอโห้ สงสัยวันดี คุณแม่นัดผ่าเพียบเลยวันนี้ ขนาดที่ BNH ที่จะไปคลอด คุณหมอก็มีคุณแม่รอคลอดวันนั้นอยู่แล้ว 3 คน คุณหมอบอกถ้าจะคลอดวันนี้แล้วไม่เจาะจงเวลา หมอก็ไม่มีปัญหา สรุปก็ได้คิวตอน 6 โมงเช้าซึ่งเป็นคิวแรกๆ ของคุณหมอ


เหลืออีก 3 วันเท่านั้นเองแล้วสินะจะเจอลูกน้อยแล้ว ตื่นเต้นสุดๆ  Smiley


 






Free TextEditor




 

Create Date : 24 กันยายน 2553    
Last Update : 24 กันยายน 2553 15:01:41 น.
Counter : 925 Pageviews.  

ตรวจท้อง 36 weeks 4 days สรุปต้องผ่าจริงๆ หรือนี่

Smileyวันนี้ไปหาคุณหมอบุญชัยเพื่อ ultrasound ดูว่าลูกกลับหัวหรือยัง และแล้วก็เป็นดังคาดว่าลูกยังไม่กลับหัว คุณหมอแซวว่าลูกเป็นคนหัวสูง เพราะหัวอยู่ตรงลิ้นปี่อยู่เลย เอาก้นลง นอนเป็นรูปตัว V ซึ่งคุณหมอบอกว่าถ้าลูกอยู่ท่าก้น V shape ลูกจะกลับหัวลงลำบาก ที่สำคัญตอนนี้ลูกโตคับพุงแม่แล้ว น้ำหนักลูกวันนี้โดยประมาณอยู่ที่ 3.312 กิโลกรัม


คุณหมอแนะนำให้ผ่าออกเนื่องจากลูกเอาก้นลง และแม่ตัวเล็ก คุณหมอนัดผ่าหลังจากครบ 38 สัปดาห์ แต่ก็บอกว่าถ้าช่วงนี้เกิดเจ็บท้องขึ้นมาให้รีบโทรหาเลย เท่ากับว่าถ้าแม่ไม่เจ็บท้องก่อน ก็เหลืออีก 10 วันกว่าจะครบกำหนดผ่า แม่จะไหวมั้ยนี่ ทุกวันนี้ก็อึดอัดสุดๆ แย่แล้ว แล้วแม่ก็รู้ว่าลูกก็อึดอัดอยู่ในพุงแย่แล้วเหมือนกัน เอาเป็นว่าถ้าครบ 37 สัปดาห์ ลูกอยากออกมาก่อนก็ลุยเลยนะ แม่พร้อมเสมอจ้า Smiley






Free TextEditor




 

Create Date : 16 กันยายน 2553    
Last Update : 16 กันยายน 2553 22:46:35 น.
Counter : 1087 Pageviews.  

1  2  3  

teerana
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




This is all about me and my baby boy!
[Add teerana's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.