Photobucket
Group Blog
 
All blogs
 

สิงคโปร์เบาๆ กับเราชิลด์ๆ : 4 จะกลับแล้วนะ

DAY 4 วันนี้ต้องกลับแล้วนะ

วันแรกฝนตก วันที่สองแดดออก วันที่สามฝนตก และวันนี้วันที่สี่ส่งท้ายด้วยแดดแรงๆซักที

หลังจากเชคเอาท์เสร็จเราก็ฝากกระเป๋าไว้ที่ล๊อบบี้
วันนี้เราต้องไปเก็บตกกันหน่อยก่อนกลับ หลังจากที่อกหักมาจากวันที่สอง
เราเลยกลับไปดู Red Dot Museum กันอีกทีค่ะ (อ่านรีวิวได้จากบล็อคที่ 2)

จากนั้นก็ขอไปเหยียบตึกไฮโซอย่าง Marina bay ซะหน่อย
ขึ้น MRt มาลงที่สถานี Marina Bay เลยค่ะ เดินออกมาแล้วเดินไปทางตึกปลาช่อนนั้น
ฝั่งนี้มีแต่ตึกใหญ่ๆที่กำลังก่อสร้างเต็มไปหมด



ก่อนจะเดินไปที่ตึกปลาช่อน (Marina Bay Sands) ก็ต้องผ่านห้างนี้ก่อนเลยค่ะ
ห้างขายของสุดไฮโซ ให้นึกถึงเกสรพลาซ่าไว้ ทางเข้าด้านหน้าจะมีอ่างใหญ่ๆ
เขาบอกว่าให้เอาเหรียญมาขอพรแล้วโยนลงไป ถ้าโยนลงรูพรนั้นก็จะเป็นจริงค่ะ



อ่างนำโชค



เหรียญที่หล่นมาจะมากองรวมกันตรงนี้... คนโชคดีนี่มีเยอะนะเนี่ย



บรรยากาศด้านใน ตรงการจะเป็นคลองเล็กๆมีเรือรับจ้างพายเล่นด้วย



ตึกปลาช่อนมองใกล้ๆ

เดินผ่านห้างมาก็ข้ามถนนเข้ามาที่ตึก MARINA BAY SANDS ที่นี่เป็นโรงแรม 5 ดาว
เป็นแหล่ง Entertaintment ครบวงจร ทั้งผับ บาร์ คาสิโน
ที่ด้านบนจะเป็นสระว่ายน้ำที่มองเห็นวิวสูงๆ ถ้าไปดูในเวบก็จะสวยมาก
แต่ว่าเขาเปิดให้บริการแขกที่เข้าพักที่เท่านั้น เป็นอันว่าอดดูไป

ไว้คราวหน้าจะมาพักให้ได้!!!!!!

เราเดินเล่นได้เฉพาะด้านล่างของตึก ในนี้ก็จะมีของขายเกี่ยวกับ MARINA BAY SANDS
มีร้านอาหาร แล้วก็มีร้านเค้กด้วย ร้านนี้แพคเกจสวยอีกแล้ว เลยทำให้ต้องเสียเงินอีกแล้วววว







SweetSpot at Marina Bay Sands

หลังจากอิ่มหนำสำราญเป็นเวลาพอสมควร ก็ได้เวลากลับแล้วค่ะ

เรามาถึงสนามบินตอน 15:30 น. เหลือเวลาอีกนิดหน่อยเลยไปเดินเล่นที่ Terminal 3
เป็นอาคารผู้โดยสารใหม่ และครบวงจรมากๆ มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ร้านของฝาก แลแกลลอรี่



ปฎิมากรรม









เจอร้านช็อคโกแลตแพคเกจสวยอีกแล้ววว Chocolate Factory



อยากได้ของฝากเป็นช็อคโกแลตราคาถูกก็ต้อง CoCoa Tree



ส่งโปสการ์ดกลับบ้าน ไปรษณีย์อยู่ที่ Terminal 2 ชั้น 1

แล้วก็ได้เวลาเช็คอิน กลับบ้านโดยสวัสดิภาพค่ะ






 

Create Date : 17 ตุลาคม 2553    
Last Update : 17 ตุลาคม 2553 13:50:07 น.
Counter : 1793 Pageviews.  

ตะลุยต่อไปใน Universal!!!!!!

สิงคโปร์เบาๆ กับเราชิลด์ๆ : 3

DAY 3 Universal!!!!!

วันนี้ถือเป็นวันที่รอคอยของทริปนี้เลยค่ะ เช้าวันนี้อากาศแจ่มใสแดดออกจ้าเลย
วันนี้เราจะไป universal กันค่ะ อ่อ... ขอบอกก่อนว่าถ้าใครจะไป universal
จำเป็นต้องจองตั๋วออนไลน์ไปล่วงหน้าด้วยนะคะมิเช่นนั้น ตั๋วจะเต็ม!!!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันเสาร์ อาทิตย์
สามารถจองตั๋ว และเชคราคาได้ที่เวบนี้ค่ะ //www.asiatravel.com/universal_studios_singapore

UNIVERSAL STUDIO SINGAPORE
ตั้งอยู่บนเกาะ Sentosa เราเริ่มจากต้นทางของเรามาลงที่สถานี MRT Harbour Front
เดินไปตามป้ายบอกทาง Sentosa Express Vivocity L3
เลี้ยวเข้าตึก Vivocity แล้วขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 3 ต้องซื้อบัตรผ่านเข้าเกาะกันก่อน
ราคาไปกลับคนละ 3$ ซึ่งตอนนี้สามารถใช้บัตร EZ-Link ก็ได้ค่ะ
นั่งรถประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ ลงที่สถานีแรกเลย Waterfront Station
ลงมาจากสถานีก็เดินไปตามป้ายบอก หรือเดินตามคนกลุ่มใหญ่ๆ

เดินตรงเลี้ยวขวาไปก็จะเจอ เจ้าลูกโลก สัญลักษณ์ของ Universl Studios
ลูกโลกนี้หมุนไม่หยุด แล้วก็มีไอเย็นๆ ออกมาด้วย สามารถถ่ายจากมุมไหนก็ได้
ไม่ต้องไปแย่งกันถ่ายข้างหน้า



สำหรับคนที่ walk-in เข้ามาก็สามารถซื้อตั๋วได้ที่เคาน์เตอร์ด้านข้างเจ้าลูกโลกนี่แหละค่ะ
แต่สำหรับคนที่จองผ่านเวบไซต์ไว้ล่วงหน้าก็อย่าลืมปรินท์ใบจองเอามาด้วย
อันนี้ของเราจะจองผ่าน asia travel (ตามลิงค์ที่บอก) ก็ให้เดินมาทางข้างหลังลูกโลก
จะมีบันไดเลื่อนให้เดินลงมาที่ชั้นล่างไปทางซ้ายมือจะมีซุ้มเคาน์เตอร์ของ agent ต่างๆ
ของเรา counter 8 ค่ะ ยื่นใบจอง + Passport ให้เขาก็จะได้ตั๋วมาแล้ว
ทีนี้ก็ใช้บัตรนี่แหละค่ะเข้าประตูสู่โลกหรรษาได้เลยยยยยยยยยยยยยยยย

พอผ่านประตูเข้าไปแล้ว ห้ามลืมเลยนะคะ ด้านซ้ายมือจะมี Guest Service อยู่
ให้เราเอาตั๋วไปแลก Free Voucher สำหรับใช้ในสวนสนุก
ตั๋ว 1 ใบ จะได้ Voucher บัตรรับประทานอาหารฟรี 5 $
และ Voucher สำหรับซื้อของที่ระลึกทุกร้านอีก 5 $ เลยล่ะคะ


ที่นี่จะมีทั้งหมด 6 โซน เราค่อยๆไปเที่ยวกันตามนี้เลยนะคะ

MADACASSCAR



แต่เขาไปแล้วเจอกังฟูแพนด้าก่อนเฉยเลย???



มีโชว์เต้นพอดี น่ารักมากๆ



โซนนี้เราได้ดูแต่โชว์เต้นน่ะ น่าเสียดายเพราะเขากำลังปิดปรับปรุงเครื่องเล่นโซนนี้อยู่

FAR FAR AWAY



เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู เพราะฝนเจ้ากรรมดันมาตกซะนี่ (กล้วกล้องพัง) อิอิ

เมื่อเดินเข้ามาในโซนนี้แล้วจะพบกับ เครื่องเล่นชิ้นแรกด้านขวามือเลย
เรียกว่า Enchanted Airways รถไฟเหาะขนาดย่อมๆ

แล้วก็ทีเด็ดของโซนนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาดกับ Shrek 4-D Adventure
หนังการ์ตูน 4 มิติ แนวๆ (ข้างในห้ามถ่ายภาพจ้า)

ออกมาปุ๊บก็หิวโซ (เที่ยงพอดี) เลยแวะกินไก่ทอด



เซตนี้ราคา 8SGD มีไก่ทอด 3 ชิ้น มันบดถ้วยนึง
ข้าวโพด ขนมปังกระเทียมและน้ำส้ม ใช้ Voucher 5SGD ก็จ่าย 3SGD
กินกัน 2 คน ก็ยังเหลือ Voucher 5SGD อีก 1 ใบค่ะ


THE LOST WORLD



ที่โซนนี้จะมีเครื่องเล่น 3 อย่างค่ะ เริ่มแรกทางด้านซ้ายมือกับ Canopy Flyer
รถไฟห้อยขาเสียวนิดๆ แต่ก็ได้มุมมองแบบ Bird-Eyes-View นกบิน
เครื่องเล่นเบาๆ หมุนๆ แบบเด็กๆ กับ Dino-Sourin แล้วก็อีกหนึ่งทีเด็ดของโซนนี้
ล่องแก่ง Rapid Adveture คนเยอะพอสมควร อันนี้ให้นั่งล่องแก่งไปเรื่อยๆ แล้วจะมีไดโนเสาร์โผล่มาให้ตกใจเล่น ออกมาแล้วก็เปียกซก
เราได้เล่นแกรนด์แคนยอนแค่อย่างเดียวมันส์มากกกกก (รอคิวเกือบชั่วโมง)
และขอบอกว่ามันเปียกชัวร์ๆ เราเลยไปซื้อเสื้อกันฝนของ UNIVERSAL กันมาค่ะ
ไหนๆ ฝนก็ตกด้วย ราคาตัวละ 2SGD

จ่ายเงินที่ไอ้ตัวข้างล่าง



ANCIENT EGYPT

ของเล่นหวาดเสียวทีเด็ดของโซนนี้ คือ Revenge of the Mummy
รถไฟเหาะแบบ Indoor ภายในโดม แล้วก็จะมีพวกมัมมี่ โผล่ออกมาหลอกหลอน



แล้วมาผ่อนคลายกับเครื่องเล่นเบาๆ กันบ้างกับการนั่งรถล่าสมบัติใน Treasure Hunters

SCI-FI CITY

โซนแห่งโลกอนาคต Sci-Fi City โซนนี้โด่งดังจากเครื่องเล่นที่โดดเด่นที่สุดของ Universal Studios Singapore
คือ รถไฟเหาะตีลังกาสูงที่สุดในโลก (42.5 เมตร)

มี 2 ฝ่ายให้เลือกคือ Human (สายสีแดง) และ Cylon (สายสีน้ำเงิน)
จากการดูด้วยตาแล้ว Line ของสายสีน้ำเงินนั้นเทพกว่า เสียวกว่า
แถมยังต้องนั่งห้อยขาแบบไม่มีอะไรรองอีกด้วย พูดมาเหมือนไปเล่นแล้ว...
ไม่เลยค่ะโซนนี้เขาปิดพักเครื่องพอดีเลยอดเล่นไป



เก็บกดที่อดเล่น เลยมานั่งบิ๊วอารมณ์ที่เก้าอี้ตัวอย่างข้างหน้าเพียงลำพัง





เครื่องเล่นแบบเบาๆ Accelerator



NEW YORK



เหมือนอยู่อเมริกาเมื่อ 5o ปีก่อนโน้นจริงๆ





นอกจากนี้ก็ยังมีโซน WATER FRONT ที่มีโชว์สตั๊นด้วยนะคะ (ที่ไม่ได้เข้าไปดู)
เที่ยวครบหมดทุกโซนก็ยังมี Voucher เหลือเลยมาหาอะไรกิน และซื้อของที่ระลึกกันต่อ



ร้านตกแต่งแบบ RETRO
กิน Chicken Stick ราคา 4SGD
เลยใช้แค่ Voucher ไม่ต้องจ่ายเงิน

ถ้าอยู่กันจนดึกหน่อยก็จะได้ดูโชว์ แสง สี เสียง สวยๆค่ะ
น่าเสียดายจริงๆที่วันนี้เจออุปสรรคหลายอย่าง ทั้งฝนตก คนเยอะ แบตกล้องหมด
เลยมีรีวิวมาให้ดูได้ไม่มาก
แต่ก็มีถ่ายจากกล้องโลโม่ไว้บ้างถ้าล้างแล้วจะเอามาโพสให้ดูที่หลังนะคะ



ร้านช็อคโกแลตยี่ห้อโปรดเฮอร์ชี่~~






 

Create Date : 17 ตุลาคม 2553    
Last Update : 17 ตุลาคม 2553 12:34:18 น.
Counter : 635 Pageviews.  

สิงคโปร์เบาๆ กับเราชิลด์ๆ : 2

DAY 2 ตะลุยชมศิลป์

1 Aug. : 08.00 เราตื่นเช้ามาแบบอึมครึมนิดหน่อย ... ฝนตกแต่เช้าเลยค่ะ

วัตถุประสงค์หลักที่มาเลยก็คือมาดูงานดีไซน์ ฉะนั้นสถานที่ที่จะไปเป็นที่แรกเลย
ต้องเป็น Red Dot Museum พิพิธภัณฑ์ดีไซน์ที่ Artist ที่มาเยือนไม่ควรพลาด
เพราะที่นี่จะแสดงผลงานการออกแบบที่ได้รับรางวัลมาไว้ให้ชมกัน

Red Dot Museum : เปิด 11.00-20.00 ปิดพุธ-พฤหัส
Ticket : ผู้ใหญ่ 8SGD เด็ก 3SGD นักเรียนนักศึกษา 4SGD
นั่งรถ MRT สายสีเขียว มาลงที่สถานี Tanjong Pargar
ออกทางประตู Maxwell แล้วเดินเลี้ยวมาทางซ้ายมือค่ะ
พิพิธภัณฑ์นี้จะเป็นตึกสีแดงแปร๊ดดดดดด สวยเลยค่ะ

แหมะ...เกริ่นมาซะดิบดี แต่วันนี้เขาปิดเพราะมีสัมนาพิเศษ อดเลย....T^T
ปล.แต่วันสุดท้ายก็แวะมาเยี่ยมใหม่ค่ะ เลยได้ดูสมใจ ขอแอบโม้นิดนึงว่า
เราเสียค่าเข้าแค่ 4SGD เองคร่าาาาา สงสัยจะหน้าเด็ก
เขาถึงขายราคานักศึกษาให้ 5555555555



ตึกแดงโดดเด่น และ โคมไฟตัวใหญ่ที่ได้รางวัลระดับโลก

ถึงแม้ว่าจะอกหักไม่ได้เข้าไปดูข้างใน แต่ก็ยังได้ซื้อของดีไซน์เก๋ๆ
ดีกรีรางวัลจากร้านดีไซน์ในนั้นนะคะ

จากนั้นเราก็นั่ง MRT มาลงที่สถานี Dhoby Ghaut ให้ออกมาทางห้าง carrefour
เพื่อมาช็อปของดีไซน์ต่อ ร้านในนี้ที่ขอแนะนำสำหรับคนชอบงานฝีมือค่ะ
นั่นคือ Paper Market!!! ร้านนี้จะขายพวกกระดาษสวยๆ ของกิ๊ฟชอบต่างๆ
และที่นี่ยังสอนทำงานดีไซน์จากกระดาษด้วยค่ะ







ออกมาจาก Dhoby Ghaut แล้วย่านต่อไปที่ขาช็อปไม่ควรพลาดเลยก็ต้องที่นี่ค่ะ
Orchard Road แหล่งรวบรวมสถานที่ช็อปปิ้งต่างๆไว้มากมาย มีร้านค้าหลายแบรนด์ดัง
ถ้าใครมาก็เลือกช็อปกันตามสบายเลยจ้า



ห้างย่าน Orchard & Wheellock place



ห้างที่รวบรวมสุดยอดแบรนด์ดัง



ร้านขนมปังนี้อร่อยมากๆค่ะ แนะนำให้ไปลอง

แต่ที่อยากจะขอแนะนำเลยสำหรับใครที่รักในชอกโกแลต
ต้องนี่เลย Cholate Research Facilities ที่นี่ชอกโกแลตเขาแพคเกจสวยมากกกก
และยังแบ่งรสชาติออกเป็น Theme ต่างๆได้อย่างน่าสนใจ ทั้งแบบรสชาติทั่วโลก
อย่างของไทยก็มีรสชอกโกแลตต้มยำกุ้งอ่ะค่ะ แต่ไม่กล้าลองเหมือนกันว่าเป็นยังไง
รสผลไม้เจ้าของร้านเขาเห็นว่าเราเป็นคนไทย เลยลองแนะนำรสลิ้นจี่กับมะม่วงสุกให้ค่ะ
หรือจะเป็นรสแอลกอฮอลล์สำหรับขาเมาก็มี โอยเยอะแยะนะต้องลองแวะไปดูให้เห็นกับตา



ร้านอยู่ที่ Wheellock place ชั้น3



Alcohol series



Nutty Series



รวมสารพัดรสแปลกที่อยากรู้ต้องลอง



ถ้าซื้อเป็นเตจะใส่แพคเกจแบบนี้



ถุงของร้านสวยดี

พอเดินกันขาลากและกระเป๋าแฟบในย่านนี้แล้ว (เสียเวลาไปหลายชั่วโมงอยู่)
พวกเราก็ไปเที่ยวมิวเซียมกันต่อ ใครที่รักของเล่นต้องที่นี่เลยค่ะ Mint Museum of Toy
ต้องต่อ MRT มาลงที่สถานี City Hall เดินออกมาทาง Raffle Hotel



Raffle Hotel โรงแรมสุดไฮโซ

เดินเรียบๆเคียงๆข้างโรงแรมมาค่ะ มิเซียมจะอยู่บนถนน Seah Street
ข้างๆโรงแรมพอดี ที่นี่ก็เสียค่าเข้าอีกแล้วค่ะ คนละ 15SGD ที่นี่จะมีทั้งหมด 6 ชั้น
แบ่งตาม Charactor ต่างๆ เริ่มจากชั้น 6 หรือ Level 6 กันก่อน
เป็นบาร์ตกแต่งแบบ Retro Level 5 จะเป็น Outerspace ค่ะ ออกแนวอวกาศ
Level 4 Characters ก็จะมีพวก popeye batman etc. ต่อที่
level 3 childhood favourties เป็นแหล่งรวบรวมของเหล่า micky mouse
และ teddy bear จ้า ลงมาต่อที่ Level 2 : Collectables ที่น่าสนใจที่สุดต้องเป็น
collection ของวง The Beatle กรี๊ดๆ อยากได้ที่สุด >w<
และชั้นสุดท้ายชั้นใต้ดินค่ะเป็น cafe เก๋ๆให้จิบกาแฟชิลด์ๆ
อ่อที่นี่เขาเปิด 9.30-18.30 นะคะ
















แผนการต่อไปที่คิดได้คือเราจะกลับไปเริ่มต้นที่ merlion ค่ะ แต่เอ่อ ไปไงเนาะ????
กางแผนที่แล้วก็งง พวกเราเดินเตร็ดเตร่ไปตามสัญชาติญาณดิบสุดฤทธิ์ค่ะ
เดินไปเดินมาก็ไปเจอขบวนพาเหรดของทหารด้วย (วันนี้เป็นวันชาติของสิงคโปร์เขาค่ะ)
แถมข้างบนหัวก็มี airshow ของ F16 อีกต่างหาก ตื่นเต้นที่สุด....



เดินไปเดินมาเราก็ไปโผล่ที่ลานน้ำตกแห่งความมั่งคั่งเฉยเลยค่ะ งงเหมือนกัน
ไหนๆก็มาแล้วก็ต้องมาขอพรกันหน่อย (วันแรกก็ตั้งใจจะมาแต่หาไม่เจอ)
น้ำพุที่นี่เปิดเป็นรอบๆนะคะ ยังไงก็ลองเชครอบได้ตามหนังสือไกด์ค่ะ
ต้องขอโทษจริงๆที่จำไม่ได้





F16 บินโชว์ ระหว่างขอพรน้ำพุ

เราเดินต่อกันมาตามป้ายค่ะผ่านถนนโน้นเลาะตามตึกนี้ (ไปตามป้ายบอก)
ในที่สุดก็เจอ esplanard ซะที อย่างที่บอกค่ะว่าวันนี้เป็นวันชาติ
คนสิงคโปร์เขสออกมานั่งกันเต็มเลยเหมือนรออะไรซักอย่าง
ค่ะเขารอฉลองพร้อมหน้าพร้อมตากันที่โซนนี้







มีวงดนตรีเล่นโชว์ เจ๋งๆทั้งนั้น

หลังจากชมพลุเสร็จเราเดินต่อไปตามทางของคลองที่เชื่อมกับอ่าวเพื่อไปย่านท่องเที่ยวกลางคืนสุดฮิต
อย่าง Clarke Quay ที่นี่สวยเลยค่ะ คล้ายๆข้าวสาร แวะกินไอติมข้างทาง



วันนี้เป็นวันชาติ เค้าปิดถนนเลยเดินสบาย



แล้วก็เดินวนกลับมาที่ Esplanard อีกทีเพื่อมากินปู!!!! ตัวใหญ่เบ้งที่ร้านเดิม (ร้านในวันแรก)



ปูจานนี้ 4SGD จ้า มีตั้ง 4 ตัว



กินปูไม่ค่อยเป็น แล้วก็กินกันได้มูมมามสุดๆจนคนสิงคโปร์เค้าต้องมองกัน 55555

วันนี้เราเที่ยวกันดึกไปหน่อยค่ะ เลยไม่ทันรถเมล์เที่ยวสุดท้ายเลยต้องนั่งแท๊กซี่กลับซึ่งแพงมากกกกก
อยู่แล้วอีกทั้งถ้าขึ้นหลังเที่ยงคืนจะโดนชารต์จากราคาเดิมอีก 1 เท่าค่ะ

เรื่องราวของวันนี้ยาวเลย ยังไงเรายังมีทริปต่ออีกนะคะสำหรับวันถัดไปเป็นการเที่ยวใน Universal!!!!!
ติดตามได้ในบล็อคถัดไปอีกนะคะ ^________^





 

Create Date : 10 ตุลาคม 2553    
Last Update : 10 ตุลาคม 2553 19:14:17 น.
Counter : 1486 Pageviews.  

สิงคโปร์เบาๆ กับเราชิลด์ๆ

DAY 1 สำรวจบรรยากาศ

สิงคโปร์ถือเป็นประเทศที่สองที่มีโอกาสได้เดินทางไปด้วยตัวเอง และก็เป็นทริปที่ชิลด์มากๆ ถึงมากที่สุด
เพราะสิ่งที่เตรียมไว้สำหรับการเที่ยวนอกบ้านครั้งนี้มีเพียง ตั๋วราคาถูก + ที่พักสุดประหยัด
และบัตร Universal!!!!!!!!!! แน่นอนว่าไม่มีแผนการใดทั้งก่อนเดินทาง และในระหว่างเดินทาง
ทุกอย่างเป็นไปตามสถานการณ์และอารมณ์แนวๆ.....

แต่สำหรับเที่ยววาไรตี้ทริปนี้ หรรษาขอแนะนำเป็นทริปเที่ยวแบบเบากระเป๋าแบบสุดๆไปเลยค่ะ





DAY 1 30 07 10

09:20
เริ่มต้นวันแรกด้วยการเดินทางอันเช้าตรู่ พวกเราเดินทางโดยสารการบิน Jetstar
(Low-cost จากออสเตรเลีย... ถูกสุดๆ 1,100 (include vat) เป็นราคาแบบไม่โหลดกระเป๋าค่ะ
สามารถนำสัมภาระขึ้นเครื่องได้ 5 กก.แต่ถ้าต้องการจะโหลดของ 20 กก.ก็บวกเพิ่มประมาณ 700 บาท
ค่ะ สามารถเชคราคาได้ที่ //www.jetstar.com) เนื่องจากเป็น Low-cost
พวกเราเลยไม่หวังอะไรมากจริงๆ ยังไงก็บินแค่ 2 ชั่งโมงเอง ชิลด์มั๊ยล่ะ....แต่ก็โอเคนะ ^_^


12:30
เดินทางถึงสนามบิน Changi แบบสวัสดิภาพสุดๆ มาถึงปุ๊บฝนก็ตกปั๊บ ประจวบกับหิวมากๆ
พวกเราเลยต้องหาอะไรกินกันก่อน แล้วก็เดินชิลด์อยู่ในสนามบินสักพัก


ที่สนามบิน Changi นี้มีทั้งหมด 3 Terminal พวกเราลงเครื่องกันที่ Terminal 1 แต่ละ Terminal
ก็จะมีรถไฟฟ้าเชื่อมถึงกัน ใช้เวลารอประมาณ 2 นาที
แน่นอนด้วยความทะเล่อทะล่า หรือว่าจิตวิญญาณแห่งนักผจญภัยก็ไม่รู้ ทำให้พวกเราเดินดุ่มๆขึ้น
รถไฟฟ้าไปถึง Terminal 2 แล้วไปออก ต.ม. ที่นั่น
อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่าพวกเรามาจาก Terminal 1 ตอนตรวจคนเข้าเมือง ต.ม. ก็ทำหน้างงๆใส่
ว่าหล่อนหลุดมาได้ยังไง???


หลายคนบอกว่า ต.ม. ที่โน่นโหด ก็มีหวั่นๆบ้าง แต่เราก็มาโดยสุจริต มีที่พักเรียบร้อย สบายๆ ...แต่
ที่ไหน ดันลืมเขียนที่พักให้เรียบร้อยซะนี่ (บวกกับยังฟังสำเนียงคุณป้า ต.ม.ไม่ค่อยออก )เลยต้องเสีย
เวลากรอกข้อมูลซักพัก คุณป้าเธอทำหน้าดุใส่ด้วยอ่ะ T^T
เอาเหอะ...เราก็อาศัยโลโก้คนไทย "ยิ้ม" ยิ้มเท่านั้นเข้าสู้ ยังไงก็ชิลด์อยู่แล้ว


หลังจากที่ผ่านเข้ามาเป็นนักท่องเที่ยวในสิงคโปร์โดยสมบูรณ์
ขั้นตอนต่อไปก็ต้องไปซื้อบัตร EzyLInk ซึ่งเป็นบัตรทีสามารถใช้กับระบบคมนาคมของที่นี่ได้เกือบทุกประเภท
ราคาบัตรอยู่ที่ 12 SGD ในบัตรนี้เราจะใช้เงินในบัตรได้ 5 SGD ค่ามัดจำบัตร 5 SGD
ที่เหลือเป็นเงินกินเปล่าค่ะแต่ขอบอกว่าใช้บัตรนี้คุ้มสุด


จาก MRT สนามบิน Changi (สายสีเขียว) มาประมาณ 2 ป้าย เรามาลงที่สถานี Tanah Merah
เพื่อต่อรถเมล์สาย 14 (อันนี้แอบดูทางผ่าน google Map มา)
โรงแรมของเราตั้งอยู่ในเขต East coast ชื่อ Le'parannakran เป็นโรงแรมสไตล์จีนโบราณ
ถึงแม้ว่าห้องจะเล็ก แต่ก็สวย สะอาด เลยทีเดียวค่ะ ที่สำคัญราคาถูกเพียงคืนละพันต้นๆเองค่ะ
(สามารถดูรายละเอียด และเชคราคาได้ที่ //www.agoda.co.th)




บรรยากาศโรงแรมด้านนอก เป็นตึกดูเก่าๆคลาสสิค



บรรยากาศห้องพักแบบ Chinese Boutique


14:00
หลังจากเก็บของและชื่นชมความสวยงามของห้องแล้ว พวกเราก็มาวางแผนทริปของวันนี้กัน
Singapore Flyer + Merlion + Esplanard + Marina bay + น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง เพียงเท่านี้ = =
พวกเราลงมากินข้าวกันที่โรงอาหารข้างๆโรงแรมค่ะ มื้อแรกของวัน และมื้อแรกของการเดินทาง
เป็น Chicken rice Rosted = ข้าวมันไก่ย่าง ราคาที่ 2 SGD แล้วสั่งน้ำส้ม ราคา 1SGD
อ่อถ้าสั่งน้ำส้มแล้วขอแนะนำว่า no ice นะคะ ไม่งั้นจะโดนค่าน้ำแข็งอีก 1SGD...



ข้าวอบไก่ย่าง มื้อแรกในสิงคโปร์

โรงแรมที่เราอยู่ค่อนข้างจะไกลจากรถไฟฟ้าอยู่พอสมควร แต่ดีที่ว่าด้านข้างโรงแรมมีรถเมล์สาย 15
ที่วิ่งผ่านสถานี Bedok (สายสีเขียว) การเดินทางของเราทุกครั้งจึงเริ่มที่นี่

จากสถานีต้นทาง (ของเรา) มาลงที่สถานี CityHall เดินออกไปทาง Esplanard ตรงทางเดินใต้ดินนี้มี
ร้านค้าขายของเยอะเลย รวมถึงร้าน Charles & keith ที่คำนวนแล้วราคาถูกสุดๆ อยู่ด้วย
(อย่าเพิ่งรีบซื้อก็ได้นะคะ เพราะร้านนี้เค้ามีหลายสาขา ตามโซนรถใต้ดิน) เดินออกมาจนถึงทางออก
ของ Esplanard เราก็จะเห็นงานดีไซน์ อยู่ตามทางเดินเลยค่ะ




บนรถเมล์ 35 จากโรงแรมถึง MRT ประมาณ 20 นาที



ทางเดิน City Hall ที่จะมีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย



มุมถ่ายภาพยอดนิยม ด้านหลังเป็นตึก Marina Bay มองไกลๆเหมือนถาดปลาช่อนลุยสวนนะเนี่ย



Merlion ไม่มาดูแสดงว่ามาไม่ถึงสิงคโปร์

มาถึงสิงคโปร์ก็ต้องของลองลงเรือชมวิวดูทัศนียภาพ แะผังเมืองอันสวยงามที่เลื่องชื่อซะหน่อย
ท่าเรือชมเมืองนี้จะตั้งอยู่ด้านขวาของ Merlion ค่ะ ราคาค่าขึ้นเรือก็ 15SGD ต่อคน 30 นาทีค่ะ





บรรยากาศระหว่างล่องเรือ

อีกที่ ที่คนไปเยี่ยมสิงคโปร์ไม่ควรพลาดเลยคือ Singpore Flyer ค่ะ ชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
อันนี้ก็ต้องเสียเงินกันอีกแล้ว สำหรับผู้ใหญ่ 29.50SGD เด็ก 20.65SGD อันนี้จะเป็นแบบชาวบ้าน
ธรรมดาที่ขึ้นไปดูวิวเฉยๆค่ะ แต่ถ้าใครอยากจะเป็น VIP ไป DINNER ชมวิวเป็นการส่วนตัว
นี่ก็อีกราคา สามารถดูรายละเอียดได้ตามเวบนี้เลยค่ะ //www.singaporeflyer.com



วิวจากที่สูง

20:10
พอลงจาก Singapore Flyer มาได้ ท้องก็ร้อง ตีกลองเป็นจังหวะร็อคกันเลยค่ะ
พวกเราเลือกหาอะไรกินกันที่โรงอาหารกลางแจ้งข้างๆ Esplanard เน้นขายอาหารทะเล มีปูตัวใหญ่
เบ้งๆ ตรงนี้คนสิงคโปร์เขาก็มาหาอะไรกินกันเยอะทีเดียวค่ะ ริมทะเลด้วย เราเลือกกินข้าวผัดสับปะรดค่ะ
ราคา 8SGD จานใหญ่เบ้งกินได้ 3 คนเลยทีเดียว พอหลังจากกินเสร็จก็เดินถ่ายรูปเล่นกันซักพักก่อนจะ
ไปหาซื้อน้ำดื่มขวดใหญ่ ราคา 1 SGD มาไว้แบ่งใส่ขวดเล็กค่ะ ประหยัดอีกแบบ แต่แนะนำว่าไม่ต้องทำ
ถึงขนาดกรอกน้ำประปากินหรอกนะคะถึงแม้ว่ามันจะสะอาดก็ตาม
เสียดายที่ลืมถ่ายรูปข้าวผัดสับปะรดมาเพราะหิวมากจนทนไม่ไหว

เสร็จสรรพ เราก็กลับห้องนอน อาบน้ำอุ่นสบายยยยยย~

รอติดตามวันต่อไปได้ในบล็อคถัดไปนะคะ ^_________^









 

Create Date : 07 ตุลาคม 2553    
Last Update : 10 ตุลาคม 2553 19:01:11 น.
Counter : 780 Pageviews.  


หรรษาโนวา
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หรรษาโนวา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.