**กองทัพประชาชนจะเป็นผู้ชนะ..หัวใจของแม่ทัพสุเทพใหญ่เกินกว่าจะต้านทาน**
ผมขอคารวะในหัวจิตหัวใจของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในการออกมาเคลื่อนไหวเพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณครั้งนี้ และผมเชื่อว่า กองทัพประชาชนที่นำทัพโดยนายสุเทพ จะประสบชัยชนะในที่สุด
ผมขออนุญาตจัดขบวนกองทัพของประชาชนในครั้งนี้ ดังต่อไปนี้..
ตำแหน่งแม่ทัพ--สุเทพ เืทือกสุบรรณ
แม่ทัพหนุ่มใหญ่ผู้คร่ำหวอดในการสู้รบมาแล้วหลายสนาม ผ่านศึกสงครามมานานหลายปีนับครั้งไม่ถ้วน มีชนะบ้างแพ้บ้างในตำแหน่งขุนพล แต่ไม่เคยดำรงตำแหน่งแม่ทัพเช่นครั้งนี้ สุเทพเป็นคนรูปร่างกำยำล่ำใหญ่ ผิวสีทองแดง มีจิตใจห้าวหาญ ถึงกับประกาศก้องว่า นี่เป็นสงครามครั้งแรกที่เขาเป็นผู้นำทัพและจะเป็นการออกรบครั้งสุดท้ายแล้วในชีวิต จึงไม่หวั่นแม้นจะต้องตายในสนามรบ
สุเทพมีหัวใจเป็นอาวุธ แม้ร่างกายจะโรยราตามอายุขัย แต่หัวใจของเขาแข็งแกร่งดุจดังหินผา ศาสตราวุธใดๆ ก็ทำลายหัวใจของเขาไม่ไได้โดยง่าย
หัวใจดวงนี้ยิ่งใหญ่กว่าของฝ่ายข้าศึกไม่ว่าจะเป็น ทักษิณ..เฉลิม..ยิ่งลักษณ์..จตุพร..ณัฐวุฒิ..อริสมันตร์..หมอเหวงและนางธิดา หรือแม้แต่อดีตจอมทัพพันธมิตรอย่างสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ตลอดมาแม้จะไม่ใช่ข้าศึกแต่ทำตัวเหมือนไส้ศึก..ปานนั้นแล
รองแม่ทัพคนที่หนึ่ง--ถาวร เสนเนียม
ถาวรถือเป็นมันสมองสำคัญระดับเสนาธิการกองทัพ เป็นกุนซือจอมวางแผน ว่ากันว่า ถ้าถาวรตาย สุเทพก็ไม่รอด ประสบการณ์ในสนามรบไม่ต้องพูดถึง ความจงรักภักดีต่อสุเทพไม่ต้องพูดถึงเช่นกัน
อาวุธสำคัญที่สุดของถาวร คือ มันสมอง เขารู้จักอาวุธทุกประเภทที่ข้าศึกใช้เป็นอย่างดี ว่ากันว่า ตัดแขน ตัดขา ถาวรไม่กลัว แต่อย่าไปยุ่งกับศรีษะของเขาอย่างเด็ดขาด
รองแม่ทัพคนที่สอง--สาทิตย์ วงศ์หนองเตย
คนตัวเล็กที่ดูเหมือนตุ๊กตาล้มลุกมากกว่าคนนี้ ห้ามดูถูกเป็นอันขาด เพราะเป็นคนตัวเล็กที่กัดได้เจ็บแสบนัก มีฟันอันแหลมคมและขากรรไกรเหล็ก เป็นอาวุธประจำกาย สามารถไล่งับเหล่าศัตรูที่ตัวใหญ่กว่าให้ขาดเป็นวิ่นๆ ได้อย่างไม่ยากเย็น
รองแม่ทัพคนที่สาม--อิสระ สมชัย
ขุนพลจากภาคอีสาน ถูกส่งมาอย่างเจาะจงให้เป็นหัวหมู่ทะลวงไส้ให้คนอีสานได้แช่มชื่นหัวใจที่เขาไม่ลืมถิ่นกำเนิดและหวังกอบกู้ภาพลักษณ์และศักดิ์ศรีของชาวอีสานที่หลงผิดมานานให้กลับคืนมา
อาวุธร้ายของอิสระ คือ ลำซิ่งทะลวงฟัน ฮ้วย..ย..ย!! แซ่บหลาย
รองแม่ทัพคนที่สี่--วิทยา แก้วภราดัย
ขุนพลท่านนี้เป็นอีกหนึ่งนักรบชำนาญศึกจากแดนใต้ อาสาเข้ามาร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชนก็เพราะเป็นผู้ที่สามารถใช้อาวุธได้หลากหลายประเภท เรียกว่า พิษสงรอบกายได้ทุกกระบวนท่า จึงสามารถนำทัพได้ทุกรูปแบบไม่ว่า จะเดินเท้า นั่งบนอานมอเตอร์ไซค์ หรือ ห้อยเท้าอยู่ท้ายรถกระบะ วิทยาทำได้หมด เวทีขาดคนพูดยังสามารถเป็นตัวแทนขึ้นมาปราศรัยปลุกใจได้โดยไม่ต้องเตรียมตัว
รองแม่ทัพคนที่ห้า--ชุมพล จุลใส
ขุนพลอารมณ์ร้อนจากแดนใต้ ฉายา ร็อดไวเลอร์หรือเตียวหุย2 เนื่องจากอายุยังน้อย ยังด้อยประสบการณ์ แต่ฝีไม้ลายมือในการรบไม่เป็นสองรองใคร หากเจอกับข้าศึกไม่ว่าหน้าไหนแบบตัวต่อตัว ไม่เคยแพ้ใคร ชุมพลเป็นคนหนักเอาเบาสู้ ยอมทำทุกอย่าง แม้ใ้ห้ล้างชามก็เอา ฟันฝ่าอุปสรรคนานับประการมามากมายจนแม่ทัพสุเทพให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ ให้เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันในแนวหน้า
อาวุธของชุมพล คือ ท่าไล่ขวิดเหมือนวัวกระทิง ยามใดที่ร่างกายกำยำใหญ่ยักษ์พุ่งเอาศีรษะเข้าชน ยากนักที่จะมีผู้ใดหลบพ้น
รองแม่ทัพคนที่หก--พุทธิพงศ์ ปุณณกัณต์
ขุนพลท่านนี้เป็นลูกผู้ดีเก่า หน้าตาเหมือนจะเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แต่กลับกล้าแกร่งไม่กลัวเกรงผู้ใดเช่นกัน ที่ผ่านมาเป็นคนพูดน้อยต่อยหนัก ออกรบด้วยความสุขุม ละมุนละไมอย่างยิ่ง ข้าศึกหน้าไหนประมาทเพราะคิดว่า ติ๋มๆ เจอฟันหัวแบะไปหลายคนแล้ว
ฉายาของเขา..นักรบเมียสวย
รองแม่ทัพคนที่เจ็ด--ณัฎฐพล ทีปสุวรรณ
ณัฐพลเป็นนักรบรุ่นใหม่ ยังไม่ค่อยได้สร้างชื่อเสียงให้กระฉ่อนไกลเหมือนรุ่นพี่ๆ ข้างต้น แต่อาศัยเป็นคน..ทำมากกว่าพูด จึงฝากผลงานเอาไว้มากมาย ถือเป็นขุนพลประเภท จับฉ่ายได้หมด ไม่ว่าจะเป็น สู้รบ เข้าครัว แม้แต่เป็นหมอนวดก็ไม่เกี่ยง มีณัฎฐพลไปร่วมทัพเหมือนได้หนีบแม่บ้านติดตัวไปด้วย
รองแม่ทัพคนที่แปด--เอกณัฎ พร้อมพันธุ์
เอกณัฎเป็นนักรบจากเมืองหลวง เป็นผู้ที่มีอายุและประสบการณ์น้อยที่สุดในบรรดาขุนพลของนายสุเทพ แต่กลับเป็นผู้ที่มีบารมีเปล่งประกายอย่างยิ่ง เนื่องจากได้ข้ามน้ำข้ามทะเลไปสำเร็จการศึกษามาจากสถาบันการศึกษาที่ได้ชื่อว่า ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง จึงได้รับสมญาว่า บัณฑิตหน้าซื่อ เอกณัฐเป็นผู้ที่สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างไม่ติดขัด ปกติสุเทพจะยังไม่ส่งลงสนามรบไปนำทัพ เนื่องจากหากขาดขุนพลท่านนี้ไป จะไม่มีใครสามารถส่งสารไปขอความช่วยเหลือจากนานาชาติได้
ผู้นำทัพกองหนุน--อัญชลี ไพรีรัก
หญิงเหล็กท่านนี้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งยวดในการทำศึก เป็นผู้ที่สามารถสยบมวลชนทุกฝ่ายไว้ได้ด้วย "ปาก" ของเธอ อยู่ที่ไหนใครๆ ก็รัก ใครๆ ก็ไม่อาจชัง นามสกุลของเธอก็บ่งบอกไว้ว่า แม้แต่ไพรีก็ยังรักเธอ
อัญชลีถือเป็นหมากเด็ดตัวหนึ่งของสุเทพที่ผมคิดว่า เธอฉลาดที่จะเลือกข้าง และเมื่อเธอเลือกอยู่ข้างใคร ฝ่ายนั้นจะ "ไม่แพ้"
ยามใดที่มวลชนตระหนก กลัว ขลาด เศร้า เสียใจ หมดหวัง เธอผู้นี้สามารถใช้วาจาปลุกขวัญ ปลุกเร้า และปลูกรอยยิ้มให้กับมวลชนและทหารกล้าได้ชื่นบานสราญใจ
เนื่องจากอาวุธสำคัญของเธอคือ ปาก ที่ทำให้ข้าศึกประหวั่นพรั่นพรึง และหลายครั้งก็นำพาตนเองเข้าไปสู่ตาจนของภยันตรายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เธอจึงได้รับฉายาว่า แกว่งปากหาเสี้ยน
ผู้นำกองหนุนอีกคนที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ --สำราญ รอดเพชร
นักรบบนเวทีผู้เจนจัด ฝีปากกล้า จิตใจมั่นคงและไม่หวั่นไหว แม้ภัยมามาก สำราญเป็นคนรักสงบและไม่นิยมใช้อาวุธในการประหัตประหารผู้ใด แต่เป็นผู้ที่ดูแลมวลชนให้เกิดความอบอุ่นได้ในทุกขณะ แม้จะมีภัยรออยู่ข้างหน้า แต่ถ้าได้เห็นหน้าสำราญ ผู้คนก็อุ่นใจได้
อาวุธของสำราญ คือ โคตรอึด ทนเป็นแรด ตีก็ไม่ตาย คือ สำราญ
ขอบันทึกไว้เพื่อเป็นเกียรติประวัติของการต่อสู้ของกองทัพประชาชนที่สามเสนและราชดำเนิน
นอกจากนี้ ยังต้องขอคารวะหัวจิตหัวใจอันห้าวหาญของท่านเหล่านี้.. อจ.เจิมศักดิ์..อจ.ไตรรงค์..อจ.เสรี..อจ.แก้วสรร..อจ.จักร..อจ.วรพรรณ..อจ.อนันต์..ท่านชูชาติ..นักรบอาชีวะทุกท่าน..นักรบตัวแทนจาก สรส. .หัวหน้าอภิสิทธิ์..สส.บัญญัติ..สส.เทพไท..สส.รังสิมา..สส.องอาจ..นพ.วรงค์..สส.บุญยอด..สส.อาคม..สส.ณัฐ..สส.แทนคุณ...สส.ศุภชัย..สส.รัชฎาภรณ์..สส.อรรถวิทย์..สส.สกลที..สส.แทน..สว.ไพบูลย์..จิตภัสร์..ลูกแนน..น้องพิมภัทรา..ถนอม..สันติสุข..วิชเยนตร์..หนิง นันทิยา..นุชนาถ..จั๊ด..ทีมงานบลูสกาย..สนธิญาณ ทีนิวส์..และช่องดาวเทียมอื่นๆ ที่ร่วมถ่ายทอดสด..อจ.ธนิต..อจ.เนาวรัตน์..และวงดนตรีเพื่อชีวิตทุกวงที่ร่วมกันให้ความบันเทิง คณาจารย์จากทุกมหาวิทยาลัยที่ร่วมกันขึ้นเวที ดารานักแสดงที่เป็นกำลังใจให้
Create Date : 27 พฤศจิกายน 2556 |
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2556 18:47:24 น. |
|
7 comments
|
Counter : 1661 Pageviews. |
|
|
|
น้องแตงโม ภัทรธิดา
หัวใจของเธอมันน่ากราบกรานเสียเหลือเกิน