1.พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน มีไม้กลายเป็นหินที่มีอายุตั้งแต่ 800,000- 330 ล้านปีและไม้กลายเป็นหินเนื้ออัญมณี

   2.พิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ มีซากช้างดึกดำบรรพ์หลายสกุล ไม่ว่าจะเป็นช้างสี่งา ช้างงาจอบ ช้างงาเสียม และบรรพบุรุษของช้าง

   3.พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ มีชิ้นส่วนของไดโนเสาร์กินพืช และกินเนื้อ พร้อมทั้งวีดีโอแอนิเมชั่นให้ชมอีกด้วย

วันที่ไปมีเด็กๆมาทัศนศึกษากันด้วย เลยเจี้ยวจ้าวๆ ครื้นเครงกันดี เนื่องจากเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดใหม่ ทุกอย่างข้างในดูใหม่และทันสมัยดี แถมแอร์ยังเย็นเฉียบอีกด้วย แต่ไม่รู้จะอยู่ในสภาพอย่างนี้อีกนานไหม เพราะดูจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเท่าไหร่

เราเริ่มกันด้วยห้องแสดงความเป็นมาจากไม้เป็นหินว่าเป็นไปได้อย่างไร เพิ่งรู้ว่าไม่ใช้จะอยู่ๆจากไม้เป็นหินได้ จะเป็นได้เฉพาะบางที่เท่านั้นที่มีแร่ธาตุที่เหมาะสมที่มาเกาะเนื้อไม้และนครราชสีมาก็เป็นจังหวัดนึงที่มีไม้กลายเป็นหินมากที่สุด ส่วนนี้จะมีไม้ที่กลายเป็นหินหลากหลายรูปแบบมาให้ยลโฉมกัน







จากนั้นเราก็เดินไปส่วนที่สองคือพิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ มีการแสดงยุคสมัยของช้างยุคต่างๆตั้งแต่อดีตจนเป็นช้างไทยในปัจจุบัน แถมด้วยซากโครงกระดูกของช้างดึกดำบรรพ์ที่มีงายาวๆให้ดู โดยการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์นี้เพราะพบว่า ในจังหวัดนครราชสีมามีซากช้างดึกดำบรรพ์จำนวนมาก และหลากหลายชนิดกว่าจังหวัดอื่นๆในประเทศไทย













จากนั้นก็เป็นส่วนที่สามคือพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ มีการแสดงวิวัฒนาการของไดโนเสาร์ในยุคต่างๆ ซากฟอสซิล และโครงกระดูกไดโนเสาร์จำลอง พิพิธภัณฑ์นี้ก่อตั้งขึ้นเพราะพบว่า พื้นที่ตำบลโคกกรวดที่อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ หรือแม้กระทั่งตำบลสุรนารีที่เป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ มีชิ้นส่วนกระดูก และฟันของไดโนเสาร์ กระจายอยู่ทั่วไปและพบต่อเนื่องบนพื้นที่กว้างขวางกว่า 28,000 ไร่





ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีอีกที่หนึ่งทีเดียว เป็นแหล่งเรียนรู้อีกหนึ่งแหล่งสำหรับเด็กๆในด้านประวัติศาสตร์และชีววิทยา