BlogGang.com : : ChutaSila : การดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรังที่บ้าน ตอนที่ 1 การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

มิถุนายน 2559

			1	2	3	4
5	6	7	8	9	10	11
12	13	14	15	16	17	18
19	20	21	22	23	24	25
26	27	28	29	30

17 มิถุนายน 2559

การดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรังที่บ้าน ตอนที่ 1 การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

การดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรังที่บ้าน ตอนที่ 1 การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

ปัจจุบันนี้โลกเรามีวิวัฒนาการดีขึ้นในทุก ๆ ด้านไม่แม้แต่ทางด้านการดูแลสุขภาพทำให้คนมีอายุยืนยาวขึ้น แต่ก็พบว่า ผู้สูงอายุหลาย ๆ คนมีอายุยืนยาว แต่มักประสบปัญหาเรื้อรังทำให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมักเกิดกับผู้ดูแลและครอบครัว จากประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยเรื้อรังและผู้สูงอายุมากว่า 20 ปี นั้น พบว่ามีหลักการ ที่ใช้ในการดูแลผู้ป่วยเรื้อรังหรือผู้สูงอายุได้ดังนี้

1. ป้องกันภาวะเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นแก่ผูู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ ไ้ด้แก่ การติดเชื้อ การเกิดอุบัติเหตุ การยึดติดของข้อหรือกล้ามเนื้อ ภาวะทุพโภชนาการ

2. ส่งเสริมสุขภาวะทั้งด้านร่างกายตามระบบต่าง ๆ รวมไปถึงจิตใจของท่านเหล่านั้นด้วย

3. ลดความรุนแรงของภาวะเรื้อรังที่ผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุประสบอยู่

ซึ่งเราจะมาพูดถึงหัวข้อแรกกันก่อนคะ คือ ภาวะเสี่ยงที่เกิดจากการติดเชื้อ การติดเชืือ ระบบที่สำคัญและพบได้บ่อยคือ

ระบบทางเดินปัสสาวะ

สาเหตุแรก เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะควบคุมการถ่ายปัสสาวะอุจจาระเองไม่ได้ หรือได้ไม่ดีเท่าที่ควร จึงต้องได้รับการใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่หรือผ้ารองกันเปื้อนไว้ เพื่อความสะดวกของผู้ดูแลและผู้ป่วยเอง ซึ่งเราอาจพบว่าเมื่อผู้ป่วยถ่ายอุจจาระแล้วไม่ได้ทำความสะอาดโดยทันทีไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็จะทำให้เกิดการปนเปื้อนของอุจจาระเข้าไปในช่องทางเดินปัสสาวะได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิง ซึ่งมีท่อทางเดินปัสสาวะสั้นกว่าเพศชาย เมื่อมีการปนเปื้อนเข้าไปในช่องทางเดินปัสสาวะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียได้
ข้อควรระวัง ส่วนมากจะพบว่าหลังผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสียมักจะพบว่าเกิดการติดเขื้อในระบบทางเดินปัสสาวะตามมาได้

สาเหตุที่สอง การที่น้ำปัสสาวะมีค่าความเป็นด่างในปัสสาวะสูงเกินทำให้แบคทีเรียในช่องทางเดินปัสสาวะเจริญเติบโตได้ดีและกลายเป็นเชื้อก่อโรคได้ ซึ่งก็อาจเกิดเนื่องจากอาหารที่รับประทานเข้าไปเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้น้ำปัสสาวะเป็นด่าง เช่น การรับประทาน ผักหรือผลไม้ที่มีความเป็นด่างมากเกินไป

สาเหตุที่สาม การได้รับยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานทำให้เชื้อราบริเวณอวัยวะเพศซึ่งเป็นซอกอับเจริญเติบโตได้ดีขึ้นและสามารถติดเชื้อเข้าไปในทางเดินปัสสาวะได้เช่นกัน

อาการของการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะได้แก่

1. มีไข้สูง มากกว่า 38 องศาเซลเซียส กรณีที่มีเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ ถ้าไม่มีก็สามารถสัมผัสจากบริเวณหน้าผาก ซอกรักแร้ จะพบว่าร่างกายร้อนกว่าปกติ
2.สังเกตลักษณะของปัสสาวะ จะสีเข้ม ขุุ่น หรือสีคล้ายน้ำล้างเนื้อ
3. ผู้ป่วยมักบ่นว่าถ่ายปัสสาวะลำบาก ขัด

การดูแลเบื้องต้น

1. ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 3000 cc หรืออย่างน้อย 12 แก้ว กรณีที่ผู้ป่วยไม่ได้มีการจำกัดน้ำ
2. ดูแลทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศให้ทุกครั้งหลังการขับถ่ายโดยไม่เช็ดย้อนมาจากก้นมาด้านหน้า
3. เพิ่มความเป็นกรดในปัสสาวะเพื่อช่วยให้แบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโดได้ โดยการดื่มน้ำผลไม้ที่มีฤทธิ์ทำให้น้ำปัสสาวะเป็นกรด เช่น น้ำกระเจี๊ยบ หรือน้ำผลไม้ในกลุ่มเบอรรี่ต่างๆ ซึ่ง มีงานวิจัยว่า การดื่มน้ำกระเจี๊ยบช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้
4. กรณีที่ผู้ป่วยบอกการขับถ่ายได้เองไม่ควรใส่ผ้าอ้อมไว้ตลอดเวลาเพราะจะทำให้เกิดการอับชื้นได้
5. ไม่ซื้อยาปฎิชีวนะมาให้ผู้ป่วยรับประทานเองเพราะอาจทำให้เกิดการดื้อยาปฎิชีวนะ หรือทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้

ผลข้างเคียงที่เกิดตามมาหลังการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะแล้วไม่ได้รับการรักษาคือ การติดเชื้อจากระบบทางเดินปัสสาวะจะลุกลามเข้าไปในกระแสเลือด ซึ่งหากได้รับการรักษาที่ไม่่ถูกต้องและทัีนเวลา ก็อาจทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตได้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานต่่ำ

ส่วนการติดเชื้อในระบบต่อไปก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โปรดติดตามในตอน การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ

Thank you for picture from //www.whiteley.com.au

Create Date : 17 มิถุนายน 2559

Last Update : 17 มิถุนายน 2559 16:30:59 น.

1 comments

Counter : 1309 Pageviews.