สวัสดีครับ พี่ๆ เพื่อนๆ ทุกท่านวันนี้ผมขออนุญาตทำตัวเป็น reviewer หน้าใหม่ไม่เคยเขียนรีวิวสินค้าอะไรมาก่อนเลย แต่ตัวนี้ต้องขอครับ เพราะใช้งานแล้วเห็นผลจริงแล้วก็ใช้ได้เป็นระยะเวลานานๆ โดยไม่แพ้ด้วย แต่ยังไงอย่าเพิ่งเชื่อผมนะครับลองอ่านดูกันก่อน ผมขอสัญญาว่าการรีวิวนี้จะเอาทั้งข้อดีและข้อเสียมาแยกแยะกันให้ดูกันทีเดียว^^

ก่อนอื่น เรามาดูกันก่อนครับว่าเจ้า Hair Building Fiber นี้มันเอาไว้ใช้ทำอะไร แล้วจะ Wow แค่ไหน 

(ดูตาม link VDO เลยนะครับ –picture is more than a thousand words)

อย่างที่เห็นเลยครับสินค้าตัวนี้เอาไว้ปิดหัวล้านครับ 555 แหม แต่จะว่าปิดหัวล้านอาจจะไม่ถูกสักทีเดียวเพราะจะปิดไม่ได้ทุกหัวครับ คือถ้าล้านแบบมันแพลบนี่ปิดไม่อยู่ครับอย่างน้อยต้องมีไรผมยู่บ้างพอสมควรที่จะทำให้ผงไฟเบอร์มันยึดเกาะ และสร้างะบบไฟฟ้าสถิตเล็กๆได้

การทำงานของกลุ่มสินค้าชนิดนี้ทำงานเหมือนๆกันครับ คือการใช้ระบบไฟฟ้าสถิต โดยที่ปกติเส้นผมของคนเราจะมีกระแสไฟประจุลบอยู่แล้วแค่เพียงโรยผงไฟเบอร์พวกนี้ลงไปแล้วก็เกลี่ยๆ หน่อยประจุบวกในผงไฟเบอร์ก็จะไปเกาะกับเส้นผมของเราเองครับเพียงแค่การเข้าไปยึดเกาะของมันนี่แนบเนียนมากๆ (ขอบอกว่ามองยังไงก็มองไม่ออกครับอาจมีแค่บางยี่ห้อที่พอออกแดดแล้วอาจเห็นสีเพี้ยนๆ บ้าง แต่เป็นส่วนน้อยครับ)

สินค้าตัวนี้ชื่ออย่างเป็นทางการและทั่วโลกเค้าเรียกกันว่า Hair Building Fiber ครับ ซึ่งมีมานานพอสมควรแล้วในเมืองนอก เริ่มตั่งแต่ USA, UK แล้วก็เข้ามาเอเชียจากทาง ญี่ปุ่นครับส่วนในไทยก็เริ่มเข้ามาได้สักปีนึงแล้ว บางคนอาจเคยเห็นผ่านตามาแล้วบ้างรายการของคุณสรยุทธก็เคยนำมาออกครับ เพราะการทำงานของมัน Wow จริงๆ

ส่วนยี่ห้องของ Hair Building Fiber นี้ก็มีอยู่หลายยี่ห้อครับ (ก็เค้ามีกันแพรหลายกันมาพอสมควรแล้วเลยมีการพัฒนาสูตรและยี่ห้อมาเรื่อยๆ) ถ้าลองค้นหาดูตามกูเกิ้ลก็จะพบยี่ห้อหลักๆเช่น Caboki, Samson,Toppik, Dexe ประมาณนี้ครับ ส่วนราคาก็มีตั่งแต่แพงมากอย่างเช่น Caboki เพราะเป็นยี่ห้อแรกๆ ที่ออกมา เค้าก็มีค่า R&D (ค่างบวิจัยและพัฒนา)สูงนะครับเลยแพง ส่วนยี่ห้อหลังๆ ก็เริ่มถูกลงมาเรื่อยๆจนตอนนี้พวกเราสามารถหาซื้อมาใช้ได้อย่างสบายๆ แล้วครับตกต่อการใช้ครั้งนึงไม่น่าเกิน 10 บาทครับ

ส่วนเรื่องคุณภาพนะหรอครับ อันนี้สิที่ผมกังวลมากๆส่วนตัวผมก็เป็นคนผมบางอยู่แล้ว ทั้งที่อายุเพิ่งจะ 30 ต้นๆ (30ขวบ กับอีก 60 กว่าเดือนเท่านั้นเอง) การจะหาผลิตภัณฑ์ใดๆมาใช้เกี่ยวกับผมนี่ก็ไม่อยากเสี่ยงครับ แต่ครั้งแรกที่ลองเพราะแฟนบังคับครับ(ไม่งั้นไม่มีทาง 55) แต่พอลองปุ๊บก็ซื้อปั๊บเลย เพราะผมดูหนาขึ้นทันทีภายในเวลาไม่ถึงนาทีครับแถมยังมองยังไง ก็มองไม่ออกครับ คือแยกไม่ได้เลยว่าอันไหนผมอันไหนผงไฟเบอร์เลยจัดมา 1 ขวด 850บาท ศีรษะผมไม่ได้บางมากเท่าไหร่ แค่น้องๆ ไข่ดาวครับ ยังใช้ได้ประมาณสองเดือนครับ

แต่ยังไม่จบครับ คนอย่างผม ไล่หาข้อมูลทางเนตเจออีกหลายยี้ห้อทั้งในและต่างประเทศ เลยสั่งมาลองครับ ทั้งแพงๆ ก็สู้(บางชิ้นค่าส่งแพงกว่าของก็มี เพราะสั่งจาก eBay เมืองไทยไม่มี) เรียกได้ว่าลองแทบทุกยี่ห้อที่ดังๆผลปรากฎว่าแทบไม่ได้แตกต่างครับ บางทียี่ห้อที่แพงกว่ากลับด้อยกว่ายี่ห้อที่ถูกๆ กว่าด้วยซ้ำ

โดยสรุปแล้วเท่าที่หาข้อมูลมานะครับ Hair Building Fiber ในโลกตอนนี้มีอยู่ 2ประเภทใหญ่ๆ ครับ โดยแบ่งตามชนิดของสารที่นำมาทำผงไฟเบอร์

โดยประเภทที่ 1 ส่วนประกอบหลักจะทำมาจากสารเคราตินซึ่งเป็นสารโปรตีนที่มีอยู่ในเส้นผมมนุษย์ โดย Hair Fiber รุ่นแรกๆ จะอยู่ในกลุ่มนี้ซะเยอะครับ ข้อดีคือมันดูปลอดภัย สบายใจครับเพราะเป็นสารชนิดเดียวกันกับเส้นผมเราอยู่แล้ว ซึ่งแต่ละยี่ห้อที่ใช้เคราตินเค้าก็จะเคลมกันว่าพอใช้แล้วจะแนบเนียนม๊ากแต่ผมกลับอ่านเจอบางคอมเม้นท์จากเมืองนอกว่า เวลาออกแดดผมส่วนที่ใช้ไฟเบอร์แบบนี้สีจะออกเหลื่อมๆ หน่อยอันนี้ไม่ทราบว่าเป็นเฉพาะบางยี่ห้อหรือปล่าวนะครับแต่ข้อเสียหลักของเคราตินคือเรื่องการยึดเกาะครับ อาจเป็นเพราะค่าประจุของเส้นผมกับผงไฟเบอร์เคราตินนี้ไม่มีความแตกต่างกันมากพอทำให้การยึดติดดูด้อยกว่าผงไฟเบอร์อีกประเภทนึง

ประเภทที่ 2 ส่วนประกอบหลักของเค้าจะทำมาจากเซลูโรสของต้นฝ้ายสายพันธ์ของโมร็อกโก(ไม่รู้ทำไมต้องโมร๊อกโกด้วยนะครับ สงสัยเพื่อเพิ่มมูลค่า 55) โดยผงไฟเบอร์ประเภทนี้จะเป็นยี่ห้อใหม่กว่าหน่อยครับข้อดีของผงไฟเบอร์ประเภทนี้คือการยึดเกาะครับเพราะค่าประจุของตัวผงไฟเบอร์ที่สกัดมากจากพืชน่าจะมีค่าความต่างไฟฟ้าที่แตกต่างจากเส้นผมของมนุษย์อย่างเห็นได้ชัดกว่าโดยประกอบจากการใช้งานจริงก็รู้สึกได้ครับว่าระหว่างวันมันจะไม่ค่อยหลุดร่วงมากเท่ากับประเภทแรก(อันนี้ดูได้จากการแอบนอนกลางวันครับ ตื่นมาแล้วไม่ทิ้งร่องรอยเท่าไหร่ตามปลอกหมอนแต่ทั้งสองชนิดก็ปัดออกอยู่แล้วนะครับ ไม่ได้ทำให้หมอนเราสกปรกแต่อย่างใด)ส่วนข้อเสียของผงไฟเบอร์ชนิดนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องความไม่มั่นใจว่าไอ้สารสกัดจากเส้นใยฝ้ายเนี่ยมันจะมีผลระคายเคืองกับหนังศีรษะเราหรือปล่าวบอกตามตรงครับ ผมเองก็คงไม่กล้าใช้หรอกครับตอนแรก ถ้าตัวสินค้าไม่ผ่าน FDA กับ อ.ย. ประกอบกับราคาขายที่รับได้ ซื้อมาลองถ้าไม่ดีก็ไม่เสียดายตังค์และสุดท้ายสำคัญที่สุด ถ้าแฟนไม่บังคับให้ลองครับ 555

แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าสบายเลยครับ ได้ของถูกใจสบายกระเป๋า หล่อมั่นใจขึ้น โดยไม่มี side effect เรื่องผมหลุดร่วงเพิ่มเลย ผมว่า Hair fiber นี้น่าจะเหมาะกับลุ่มผู้ชายที่ผมยังขึ้นไม่ครบ (ไม่อยากเรียกว่าผมบาง) หรือคนคิ้วต่ำ (ไม่ใช่หัวล้านนะ) หรือเท่าที่เห็นกลุ่มผู้หญิงผมบางก็ใช้กันนะครับน่าจะจำเป็นกว่าด้วยซ้ำเพราะเรื่องความสวยนี่เรื่องใหญ่เลยใช่มั้ยครับเท่าที่ลองแนะนำเพื่อนๆ ไปเค้าก็ใช้กันทุกวันครับ ถูกใจกันใหญ่บางคนมองจากทางด้านหลังนี่แทบจำไม่ได้ (ก็มันไม่คุ้นหนิครับ ใครวะผมหนาเชียว)หันหน้ามาถึงจำได้ 555 (แต่ไปทักกลางสาธารณะชนนี่ไม่ได้นะครับ เป็นความลับของพวกเรา)

ยังไงผมก็หวังว่ารีวิวนี้คงจะเป็นประโยชน์กับพี่ๆเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทนี้นะครับ นี่จริงๆยังเหลือเรื่องความคงทน วิธีใช้ และอุปสรรค์ในการใช้งานอีก เดี๋ยวไว้มีเวลาจะเล่าให้ฟังต่อนะครับวันนี้ขอแค่นี้ก่อน ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ ที่อ่านกันมาจนจบนะครับ เจอกันโอกาศหน้าครับ^^