|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ท่องกระบี่... แบบเหงาๆ
หลังจากที่ได้มาขอข้อมูลจากชาว BP ในที่สุดผมก็ได้เดินทางไปยังกระบี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กลับมาจากกระบี่ เลยขอเอาภาพจากที่ไปเที่ยวมาฝากชาว BP เพื่อขอบคุณสำหรับคำแนะนำต่างๆ ครับ
ผมไปกระบี่เมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ตรงกับช่วงเปิดบอลยูโรพอดี และเป็นช่วงที่ฝนกำลังตกทั่วประเทศ เลยทำให้การไปกระบี่ครั้งนี้ดูจะเหงาไปบ้าง เพราะไม่ค่อยมีคนไปเที่ยวกระบี่มากนัก ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ โรงแรมที่ผมไปพัก แทบจะไม่เห็นแขกที่มาพัก เวลาเดินอยู่ในโรงแรมจะเห็นแต่พนักงานต้อนรับ แม้แต่ตอนทานอาหารเช้าก็มีเพียง 2 โต๊ะแทบทุกวันที่พักอยู่ เลยทำให้มีความรู้สึกโล่งๆ แม้ตอนกลางคืนจะเงียบมาก...
วันที่เดินทางไปถึงกระบี่ ท้องฟ้าดูใส เป็นใจมากทีเดียว
สนามบินกระบี่ เป็นสนามบินไม่ใหญ่ครับ เครื่องบินจะเข้ามาจอดใกล้ๆ กับอาคารผู้โดยสาร ผู้โดยสารจะสามารถเดินจากเครื่องเข้าไปยังอาคารได้เลย หลาย ๆ คนรวมทั้งผมด้วย เลยเก็บภาพแบบเดียวกันนี้ไว้เป็นที่ระลึกในการมากระบี่...
ผมจองโรงแรมที่ร่วมรายการกับบัตรเครดิตที่ใช้อยู่ แต่วันหลังๆ ได้มีโอกาสไปถามโรงแรมหลายๆ ที่ที่ชาว BP แนะนำไว้ พบว่าราคาก็จะใกล้เคียงกัน
ทันทีที่ถึงโรงแรมที่ผมจองไว้ ก็จะรู้สึกแปลกๆ เพราะ Lobby ของโรงแรมตกแต่งแบบไทยๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวจากยุโรปอาจจะชอบลักษณะนี้มากกว่าผม แต่พอเข้าไปยังห้องพักก็ให้ความรู้สึกที่สบาย ๆ ต่างจากบริเวณ Lobby เสียแต่ว่า โรงแรมแทบจะไม่มีแขกมาพักเลย ชั้นที่ผมอยู่น่าจะมีห้องผมเพียงห้องเดียวเท่านั้น
คราวนี้ก็ได้เวลาเที่ยวแล้ว แต่เมื่อตื่นขึ้นมาวันที่สองก็ต้องเปลี่ยนโปรแกรมเพราะ ฟ้าที่ดูเป็นใจเมื่อวันแรก กลับกลายเป็นฟ้าหม่นๆ มัว ๆ เลยเลิกความคิดที่จะไปเที่ยวเกาะ เพราะคงไม่ได้เห็นฟ้าสวยๆ น้ำทะเลใสๆ ไปเที่ยวที่อื่นๆ แทนครับ
แทบจะทุกวัน ผมจะมีเวลาเดินเล่นแถวอ่าวพระนางและหาดนพรัตน์ฯ เพราะอยู่บริเวณที่พักและร้านอาหารเย็นประจำวัน เวลาน้ำลงหาดทรายยาว ๆ ก็จะปรากฎขึ้น คนที่มาเที่ยวก็จะเดินบนหาดทรายได้อย่างสบาย ๆ
เกาะต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ก็จะสามารถเดินไปได้ เกาะแห่งนี้ไม่แน่ใจว่าชื่อ เกาะสามหน่วย หรือเกาะเขาปากคลองครับ
<
ยามน้ำลด หาดทรายยาว ๆ ก็ปรากฏขึ้น เมื่อเดินไปทางด้านหลังของหาดนพรัตน์ ก็จะเห็นลำคลองสายหนึ่งที่บรรจบกับทะเลบริเวณหาดนพรัตน์ ได้ทราบชื่อคลองว่า คลองสน เนื่องจากคลองสนมาบรรจบกับทะเลบริเวณหาดนพรัตน์ เมื่อยามน้ำลดทำให้น้ำในบริเวณที่บรรจบกันแห้งไปด้วย คนท้องถิ่นเก่าๆ เลยเรียกหาดแห่งนี้ว่า หาดคลองแห้ง เป็นอีกชื่อหนึ่งของหาดนพรัตน์ฯ
จากที่เปลี่ยนใจไม่เที่ยวเกาะ ผมก็เลยไปเที่ยวตามอุทยานแห่งชาติที่เป็นป่าแทน เริ่มจากสระมรกต ที่ อ.คลองท่อม
การเดินทางก็ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านสนามบินกระบี่มุ่งหน้าไปทางจังหวัดตรัง
จากหน้าด่านเก็บเงิน จะมีเส้นทางให้เลือกเดิน 2 ทาง ทางแรกยาว 800 เมตร เป็นทางเดินเรียบๆ ไปจนถึงสระมรกต ถ้าเลือกอีกเส้นทางก็จะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ยาวประมาณ 1.4 ก.ม. ก็จะเป็นทางเดินคดเคี้ยวเล็กๆ แล้วต่อด้วยสะพานไม้ที่ทอดผ่านสระแก้วก่อนถึงสระมรกต ผมเลือกเดินทางแรก ถึงสระมรกตก่อน
ตอนกลับก็เปลี่ยนเส้นทางเป็นอีกเส้นหนึ่งผ่าน สระแก้ว ซึ่งก็ดูไม่แตกต่างกับสระมรกต ชื่อภาษาอังกฤษที่ติดไว้เรียกสระนี้ว่า Crystal Pool เลยขอแวะไปชมหน่อยครับ
สระมรกต จะมีน้ำที่ไหลมาจากบ่อน้ำผุด ผ่านลานหินมายังสระมรกต ทำให้มีความรู้สึกน่าเล่นน้ำ(สำหรับคนที่อยากเล่น) มากกว่าสระแก้วที่น้ำจะดูนิ่งๆ และถูกล้อมไปด้วยป่าพรุ น่าจะเหมาะกับการมายืนชมบรรยากาศมากกว่าเล่นน้ำ
ขากลับจากสระมรกต ก็จะมาเจอป้ายทางเข้าน้ำตกร้อน ซึ่งตอนที่เข้ามาก็จะเห็นป้ายนี้อยู่แล้ว แต่ผมเลือกไปสระมรกตก่อนเพราะยังเช้าอยู่มาก เลยแวะน้ำตกร้อนตอนกลับแทน
ทั้งสระมรกตและน้ำตกร้อนจะอยู่ในป่าทุ่งเตียว ซึ่งเป็นป่าที่ราบต่ำผืนสุดท้ายของไทย
ตลอดทางเดินสบายๆ จากด่านเก็บเงินของน้ำตกร้อน จะเห็นลำธารเล็กมีป้ายติดว่าน้ำร้อนห้ามลงเล่นน้ำ ก็คงเป็นลำธารที่ไหลไปยังน้ำตกร้อนนั่นเอง
น้ำตกร้อนจะมีนักท่องเที่ยวมายืนแช่น้ำอยู่ตลอดเวลา เดาจากที่เห็นคิดว่าคงจะให้ความสบายเหมือนกับไปนวดสปา....แบบธรรมชาติ กว่าจะรอให้คนหายไปจากภาพ ยืนรออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงทีเดียว
พอออกจากน้ำตกร้อน เดินทางเข้าตัวเมืองกระบี่ ท้องฟ้าก็มีแสงแดดออกมา เลยแวะเที่ยวสุสานหอย ก่อนกลับที่พัก
ใครที่ยังไม่เคยไปสุสานหอย ผมอยากแนะนำให้รีบไปนะครับ เพราะสุสานหอยถูกน้ำทะเลกัดเซาะ พังทลายลงเรื่อยๆ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ต้องเอาเชือกมาขึงกั้นไม่ให้คนเดินออกไปเพราะกลัวจะทำให้พังเร็วขึ้น
ออกจากสุสานหอย เห็นท้องฟ้ามีแสงแดดใส ก็คิดว่าพรุ่งนี้คงจะมีโอกาสไปเที่ยวเกาะ อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะได้ไปอ่าวไร่เลย์กับอ่าวถ้ำพระนาง แต่พอตื่นเช้ากลับกลายเป็นว่ามีฝนตกปรอยๆ และฟ้าก็มืดมัวตลอดเวลา โปรแกรมเที่ยวเกาะก็เลยต้องเปลี่ยนอีกครั้ง
ไปสุสานหอยมาแล้ว ก็เลยต้องแวะสถานที่อีกแห่งที่ถือเป็นสัญญลักษณ์ของกระบี่เช่นเดียวกับสุสานหอย คือ เขาขนาบน้ำ พอแวะเขาขนาบน้ำเสร็จก็เห็นมีร้านขายอาหารดูน่ากิน มีคนนั่งอยู่หลายโต๊ะ เลยได้ข้าวมันไก่สุดอร่อย กับหมูแดงนุ่มๆ เป็นอาหารเช้ากึ่งกลางวัน สบายท้องก่อนแวะไปยังที่หมายหลักของวันนี้คือ น้ำตกห้วยโต้
น้ำตกห้วยโต้ อยู่ในอำเภอเมืองกระบี่ ขับออกจากตัวเมืองไม่มาก ก่อนถึงทางเข้าวัดถ้ำเสือจะมีทางแยกและป้ายบอกเลี้ยวซ้ายไปอุทยานเขาพนมเบญจา น้ำตกห้วยโต้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยาน ขับรถเข้าไปประมาณ 20 กิโลโดยประมาณ พอถึงที่ทำการอุทยานก็เดินเข้าไปประมาณ 400เมตรถึงน้ำตกชั้นล่างสุด
เหน็ดเหนื่อยกับการปีนน้ำตก ก็เลยมานั่งซึมซับบรรยากาศของอ่าวพระนางและหาดนพรัตน์ และเก็บภาพยามเย็นก่อนท้องฟ้าจะกลายเป็นสีดำ ไม่รู้จะเรียกว่าภาพพระอาทิตย์ตกดินได้หรือเปล่า เพราะตลอดวันพระอาทิตย์ไม่ออกจากเมฆมาให้เห็นเลย แม้แต่ตอนกำลังลับขอบฟ้า แต่ก็ได้ภาพท้องฟ้าที่แปลกตาไปกว่าวันอื่นๆ
เมื่อท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง ฟ้าก็เปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปตามสภาพแสง ภาพนี้เป็นภาพที่ผมเก็บแสงก่อนสุดท้ายของวันก่อนกลับกรุงเทพฯจากหาดนพรัตน์ฯ จากนั้นก็เข้าที่พักเก็บสัมภาระ และหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
ตื่นขึ้นมาวันรุ่งขึ้นก็ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ
แม้จะเป็นการไปเที่ยวกระบี่แบบให้ความรู้สึกเหงาๆ แต่ก็ได้ความประทับใจกลับมาอย่างมากมาย มาลองคิดดูก็ไม่รู้ว่าถ้าให้เลือกเที่ยวแบบคนน้อยๆ อย่างนี้กับเที่ยวในช่วง Peak ที่มีนักท่องเที่ยวมาก ๆ ผมจะชอบอย่างไหนมากกว่ากัน
Create Date : 03 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 9 เมษายน 2553 9:49:47 น. |
|
4 comments
|
Counter : 5799 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: mrnext IP: 118.173.64.161 วันที่: 5 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:09:56 น. |
|
โดย: Lowepro วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:44:42 น. |
|
โดย: โรงเรียนบ้านทุ่งปรือ IP: 118.175.226.197 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:00:35 น. |
|
โดย: สมดุล IP: 125.25.175.149 วันที่: 6 กันยายน 2552 เวลา:21:33:25 น. |
|
| |
|
Lowepro |
|
|
|
|