space
space
space
 
กุมภาพันธ์ 2559
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
2829 
space
space
3 กุมภาพันธ์ 2559
space
space
space

รวมมุขหลอกผีใน office...ส้มโอ เหยื่อรายแรก

              เมื่อประมาณ 8 ที่แล้ว ตอนที่บริษัทที่ผมทำงานอยู่พึ่งตั้งขึ้นใหม่ ยังมีพนักงานไม่มาก ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่ช่วงแรกๆ คนยังน้อยมีอะไรก็ช่วยกันทำ โดยมีผมเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่มน้องๆ ที่นั่งทำงานกันดึกๆดื่นๆ ซึ่งวิธีที่จะทำให้การทำงานในตอนดึกๆไม่น่าเบื่อ ก็คือการหากิจกรรมบ้าๆ บอๆ มาแกล้งกัน ตอนดึกๆจะมีอะไรสนุกเท่ากับการแกล้งหลอกผีพวกน้องๆ ผู้หญิงล่ะครับ หลอกพวกผู้ชายด้วยกันมันอันตรายครับ บางคนตกใจ วิญญาณนายขนมต้มมันเข้าสิงทันที เจออีแบบนี้ไอ้คนที่ไปหลอกเขาอาจจะโดนเข่า เขย่าศอก ตอกด้วยหมัด และอาจต้องออกไปนอนโรงพยาบาลเอาได้แบบไม่รู้ตัว

มุขที่ดูเชยๆแต่ได้ผลทุกครั้ง ก็คือยืนหลบมุม หรือย่องเดินตามหลัง แล้วตะโกนหรือทำเสียงดังไล่หลัง ร้อยทั้งร้อยล่ะครับ ได้กรี๊ดแตกกันเป็นแถว แถมบางคนยังมีของแถมโดยการอุทานวลีแปลกๆที่ร้อยวันพันปี คนที่ดูเป็นกุลสตรี ไม่น่าจะพูดจาอะไรได้ขนาดนั้น แต่เพราะการตกใจที่โดนหลอกทีเผลอนี่แหละครับทำให้คำพูดในจิตใต้สำนึกหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากของเหล่าสาวๆ เหล่านี้

ในบรรดาการสร้าง event หรือสร้าง plot เรื่องในการหลอกผีของผมนั้น มีอยู่ 2 เหตุการณ์ที่ผมภูมิใจนำเสนอมากเจอไอ้น้อง 2 คนนี้ทีไร เอามาเล่ารื้อฟื้นความหลังกัน ก็ฮากันขี้แตกขี้แตนทุกครั้งโดยเรื่องแรกนั้น ทำให้ รปภ.ของตึกเอามาเล่าเป็นตำนานการหลอกผีของบริษัทได้เลยลองมาอ่านเรื่องแรกกันก่อนนะครับ

               มุขหลอกผีเรื่องแรก เกิดขึ้นกับน้องส้มโอครับก่อนที่จะไปอ่านเรื่องราวหลอกผี ผมขอแนะนำน้องส้มโอให้รู้จักกันก่อนนะครับ ส้มโอเป็นสาวชาวใต้ ที่เรียนจบวิศวะไฟฟ้าจากประเทศอังกฤษ แต่ด้วยหน้าตาที่ไม่ละม้ายชาวใต้แต่ค่อนไปทางญี่ปุ่นเล็กน้อย ผมจึงตั้งชื่อญี่ปุ่นให้ว่า “คารูอึ”ซึ่งกว่าส้มโอจะไหวตัวทันชื่อคารูอึจัง ก็กลายเป็น second nameไปเรียบร้อยแล้ว

ก่อนที่ส้มโอจะมาร่วมงานกับผมนั้นส้มโอเล่าว่าเคยทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งมาก่อน แต่โดยส่วนตัวแล้ว ส้มโอสนใจงานด้าน commercial มากกว่างานด้าน technician ดังนั้นหลังจากอิ่มตัวกับงานในโรงงานส้มโอก็มาทำงานในตำแหน่งนักวิเคราะห์โครงการ และต้องมาปรึกษางานกับผมบ่อยๆเนื่องจากสายงานของผมเป็นสายงานด้านบัญชี การเงิน จึงมีเหตุต้องให้ความรู้เกี่ยวกับศัพท์แสงหรือ technical term ด้านบัญชี/การเงิน รวมถึงการแปลความหมายงบการเงินเพื่อที่ส้มโอจะได้เอาไปใช้ประกอบการทำ model ทางการเงินเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล

มองภายนอกส้มโอดูเป็นสาวมั่น ดูแมนๆ ในบางครั้ง แต่พร้อมจะใส่มารยาหญิงให้ได้ครบ 500 เล่มเกวียนทันทีที่อยากเป็นสาวหวานขึ้นมาซึ่งถ้าใส่มารยาครบ 500 เล่มเกวียนต่อหน้าพวกผมเมื่อไหร่ ส้มโอมักจะเป็นสาวหวานที่ไม่แนบเนียนเพราะจะเรียงลำดับเกวียนทั้ง 500 เล่มมั่วไปหมด เรียกว่าเรียงลำดับไม่เป็นระบบซึ่งผิดกับวิชาชีพวิศวะที่เรียนมา เพราะพวกที่เรียนวิศวะมา มักจะมีการจัดลำดับความคิดหรือลำดับงานให้เป็นระบบได้ดี ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมหรือเหตุใดส้มโอถึงพยายามจะเป็นสาวหวาน เอาไว้มีโอกาส จะเอามาเล่าสู่กันฟังนะครับแต่บอกได้เลยว่า เจ้าส้มโอ คนนี้ มีเรื่องฮาๆเล่าได้เป็นซีรี่ส์หลายตอนได้เหมือนกัน

กลับมาที่เหตุการณ์หลอกผีที่ผมจัดให้ส้มโอดีกว่าครับเรื่องก็คือเวลาที่พวกเราทำงานกันอยู่ดึกๆ ผมกับลูกพี่ของส้มโอ (ลูกพี่ของส้มโอชื่อ เคโระ ซึ่งเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนของผมอีกที)มักจะออกจาก office พร้อมกัน เพราะจอดรถที่เดียวกัน เมื่อก่อนก็ไม่สังเกตหรอกครับว่าส้มโอมันกลัวผีเวลาที่ผมเดินไปชวนเจ้าเคโระกลับบ้านด้วย ส้มโอก็จะบอกให้รอด้วยอ้างว่ากำลังจะกลับอยู่เหมือนกัน ผมกับเคโระ ก็แบบว่า ส้มโอเป็นผู้หญิงรอหน่อยก็แล้วกัน ทั้งที่ส้มโอจอดรถในตึก แต่ผมกับเคโระต้องเดินไปอีกตึกนึงเนื่องจากที่ทำงานของผมมีที่จอดรถไม่พอความมาแตกเอาตอนที่มีอยู่ครั้งหนึ่งซึ่งดึกมากแล้ว ผมกับเคโระก็กำลังจะกลับบ้านแต่คราวนี้ไม่รอส้มโอแล้ว ส้มโอมันก็บอกว่า “....ไรวะพวกพี่รอส้มโอไม่ได้เหรอ”

ไอ้เราก็บอกว่า “มันดึกมากแล้วพวกพี่ต้องเดินไปอีกตึกนึงซึ่งไกลมาก ส้มโอลงลิฟท์ไปก็ถึงที่จอดรถแล้ววันนี้พวกพี่ขอไปก่อนก็แล้วกันนะ แล้วฝากปิดแอร์ปิดไฟฟ้าให้ด้วยล่ะ”แล้วพวกผมก็เดินออกจากห้องไปยืนรอลิฟท์ส้มโออ้อนยังไง พวกผมก็ไม่รอ เพราะตอนนั้นมันดึกมากๆเท่านั้นแหละครับส้มโอมันรีบพับฝาเครื่องโน้ตบุ๊ค ไม่ยอม shut down แล้วถือกระเป๋าวิ่งตามพวกผมมาทันที แอร์ และไฟฟ้า ไม่ปิดด้วย ซึ่งตอนนั้นผมรู้แล้วว่าส้มโอมันกลัวผีแน่นอน หลังจากวันนั้นทุกครั้งที่ผมกับเคโระจะกลับ ผมก็จะใช้วิธีส่ง MSN นัดแนะให้รีบปิดเครื่องแล้วค่อยเดินแบบเนียนๆออกไปที่ลิฟท์ ซึ่งทำได้เพียงครั้งเดียวพอวันรุ่งขึ้นส้มโอก็มาต่อว่าว่าทำไมไม่ชวนมันกลับด้วย หลงนั่งทำงานอยู่จนมารู้ตัวอีกทีว่าเหลืออยู่คนเดียวกลัวจนฉี่เกือบแตก หลังจากวันนั้นส้มโอมันจะระแวงว่า ถ้าเคโระหายไปมันจะเดินมาที่ห้องผม หรือถ้าผมหายไปมันก็จะเดินไปที่โต๊ะเคโระ ถ้ายังมีคนใดคนหนึ่งอยู่มันก็จะยังทำงานต่อไป

ผมเริ่มแกล้งเบาๆก่อนด้วยการที่บางครั้งก็เดินไปปิดสวิทซ์ไฟ (ต้องบอกว่าความที่อยู่ดึกและเดินปิดไฟฟ้าเกือบทุกวันทำให้จำได้ว่าสวิทซ์ไหน เป็นดวงไฟฟ้าของห้อง/บริเวณไหน) ในโซนของส้มโอ ซึ่งมันก็จะร้องโวยวายแล้วรีบปิดฝาเครื่องโน้ตบุ๊คพร้อมกับถือกระเป๋า วิ่งออกมารอหน้าลิฟท์ก่อนเลยกะว่าถ้าพวกผมกลับมันกลับด้วย ทำอย่างกะฉากในหนังเรื่อง Titanic ตอนที่แจ๊คบอกกับโรสว่า "You Jump, I Jump"

ต้องบอกก่อนว่าหลายๆ ครั้งผมจะกลับก่อน เพราะสมาชิกครอบครัวรออยู่ที่บ้าน กลัวเขาจะเป็นห่วงว่าหายศีรษะไปไหนไม่ยอมกลับบ้าน( ฮ่าฮ่า) ส่วนเจ้าเคโระมันจะกลับหลังผม แต่ก็มีบ้างที่เคโระต้องกลับก่อน แล้ววันที่ชะตาของส้มโอ(เกือบ)ถึงฆาตก็มาถึงคืนนั้นดึกมากแล้ว ส้มโอมันคงอยากเอาคืนผมบ้าง มันก็แอบเดินมาที่แผงไฟฟ้าและสับสวิทซ์ไฟฟ้าที่โซนของผม กะว่าผมคงตกใจ และโวยวาย แต่ผิดคาดครับ ผมกลับนั่งเฉยๆและทำงานต่อแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส้มโอมันเลยเปิดไฟ แล้วเดินมาแซวผมประมาณว่าที่เงียบไป เพราะ “กลัวจนพูดไม่ออกใช่ไหม ฮ่าๆๆๆ แกล้งส้มโอดีนักเป็นไงล่ะ” พอส้มโอเดินกลับไปทำงานต่อ ผมสาบานเดี๋ยวนั้นเลยว่าจะต้องให้บทเรียนที่สาสมกับส้มโอย่างฉับพลันทันทีในคืนนั้นในฐานที่กล้ามาแหย่พญาราชสีห์อย่างผม....

ตึกที่ผมทำงานอยู่นั้นเป็นอาคารเก่ามากมีอยู่ทั้งหมด 8 ชั้น สภาพตึกค่อนข้างเก่าดังนั้นจึงมักจะมีบรรยากาศในบางชั้นที่ดูน่ากลัวเอามากๆ โดยเฉพาะชั้น 2 ซึ่งปิดตายไว้ตอนกลางวันถ้าใครออกจากลิฟท์ที่ชั้น 2 ก็จะเห็นว่าประตูกระจกทางเข้าถูกปิดและใช้กระดาษทึบปิดกระจกไว้อีกทีซึ่งบรรยากาศตอนกลางวันก็ดูธรรมดา แต่ถ้าตกดึกละก็ มันจะมืดสนิทเพราะจะไม่มีการเปิดไฟหน้าลิฟท์ และก็ไม่มีใครกล้าลงมาที่ชั้นนี้เลยทุกคนจะกดลิฟท์ตรงดิ่งไปที่ชั้นล่างสุดและก็มักจะมีเรื่องเล่าจริงบ้างไม่จริงบ้างว่าที่ชั้น 2 ตอนกลางคืนเฮี้ยนเอามากๆ

หลังจากที่ส้มโอมันนั่งกลับไปทำงานต่อผมก็ MSN ไปบอกเคโระว่า คืนนี้ขอให้นั่งทำงานให้ดึกที่สุดดึกจนส้มโอมันต้องกลับบ้านก่อน และทันทีที่มันเก็บของ ขอให้รีบ  MSN มาบอกผมทันทีคืนนั้นผม กับเคโระนั่งเคลียร์งานไปเรื่อยๆ จนกระทั่งส้มโอ บอกว่า “หนูต้องกลับก่อนแล้วนะพวกพี่ไม่กลับกันเหรอ” หุหุ จะกลับก่อนทำไมล่ะ พี่รอเวลานี้มานานแล้ว เคโระรีบ MSN มาบอกว่า “เป้าหมายเก็บของแล้ว….เปลี่ยน”ผมรีบเดินจากชั้น 6 ลงไปที่ชั้น 2 ทันที บรรยากาศที่ชั้น 2 มันวังเวงจริงๆแต่ความมุ่งมั่นในการจัดการเจ้าส้มโอของผม ทำให้ความวังเวงทำอะไรผมไม่ได้ผมยืนรอสักครู่ สัญญาณไฟบอกชั้นของลิฟท์ก็วิ่งขึ้นไปที่ชั้น 6 เป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าส้มโอเป้าหมายของผมเป็นคนกดเรียกลิฟท์ขึ้นไปนั่นเอง

เคโระมาเล่าให้ผมฟังในภายหลังว่าตอนที่ผมหายไปจากห้องทำงานนั้น ส้มโอมันก็ระแวงว่าผมหายไปไหน มันไปถามเคโระว่าผมหายไปไหน เคโระก็บอกไปเนียนๆว่า อยู่ในส้วม เพราะพึ่งเข้าห้องน้ำมาเจอผมกำลังเข้าส้วมพอดี ส้มโอก็เลยไม่ได้คิดอะไรมากเดินออกมากดเรียกลิฟท์เพื่อเตรียมจะลงไปข้างล่าง

ตัดกลับมาที่ชั้น 2 ครับ พอลิฟท์ขึ้นไปถึงชั้น 6 ปั๊บ ผมก็กดเรียกลิฟท์ เพื่อให้ลงมาจอดที่ชั้น 2คราวนี้คงเดาได้นะครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมเดินหลบไปข้างๆ ประตูลิฟท์ จากนั้นลิฟท์ค่อยๆ เลื่อนลงมาจนถึงชั้น 2 และประตูก็ค่อยๆเปิดออก ผมโผล่ออกมาจากด้านข้าง และกระโดดเข้าไปในลิฟท์ พร้อมกับพูดว่า “เฮ้ย ส้มโอจะกลับบ้านแล้วเหรอ” เท่านั้นล่ะครับ ส้มโอ กรี๊ดลั่นตึก ไม่ใช่กรี๊ดลั่นลิฟท์แหกปากร้องตะโกนไม่เป็นภาษามนุษย์ พร้อมกับสีหน้าที่แทบไม่เหลือสีเลือดยกมือขึ้นมาและเริ่มเกร็ง ผมต้องรีบบอกว่า “เฮ้ย ส้มโอตั้งสติดีดี นี่พี่...เองนะ” พอลิฟท์ลงไปถึงชั้นล่าง รปภ. ก็หน้าตาตื่นนึกว่าเกิดเหตุร้าย ผมต้องรีบอธิบายให้ฟัง ตอนนั้นส้มโอมันตั้งสติได้แล้วพอลำดับเหตุการณ์ได้ คราวนี้มันหัวเราะลั่นตึก ก็เพราะมันหัวเราะได้นี่แหละครับรปภ. ถึงไม่ได้มาซิวตัวผมไป แต่เพื่อให้แน่ใจว่า ส้มโอไม่ได้เป็นอะไร ผมก็เลยชวนขึ้นลิฟท์กลับไปที่ชั้น6 ไปนั่งสงบสติอารมณ์ทานน้ำให้หายตื่นเต้นก่อนซึ่งก็พบว่า ไอ้เคโระ นั่งหัวเราะน้ำหูน้ำตาไหลมันบอกว่านึกแล้วว่าส้มโอไม่รอดจากการถูกหลอกของผมและที่น่าตกใจคือเสียงกรี๊ดของส้มโอ ดังขึ้นมาถึงชั้น 6

ส้มโอสารภาพว่าตอนที่ลงลิฟท์มาคนเดียว ใจก็ไม่ค่อยดีเหมือนกัน พอลิฟท์มาหยุดที่ชั้นสองตอนนั้นมันคิดอยู่อย่างเดียวว่า “เอาแล้วสิไปแกล้งพี่....สงสัยเจ้าที่เจ้าทางในตึก คงจะสั่งสอนแน่ๆ” ก็เพราะมันจินตนาการไปก่อนไงครับพอผมกระโดดเข้ามาในลิฟท์ มันก็แหกปากร้องเสียงหลงไปก่อน นี่แหละหนาพระท่านถึงสอนให้มีสติเข้าไว้อย่าได้ประมาท แน่ะ กลายเป็นความผิดของส้มโอไปซะอีก

เรื่องนี้จบลงแบบฮาน้ำตาเล็ดกันทั้งผม เคโระ และส้มโอ รวมไปถึง รปภ. ซึ่งเวลาคุยกันเรื่องนี้ทีไรก็เรียกเสียงหัวเราะได้ทุกครั้งแม้จะผ่านมา 8 ปีแล้วก็ตามแต่ยังไม่จบครับ มีเหยื่อรายแรก ก็ต้องมีเหยื่อรายที่สอง ซึ่งเหยื่อรายนี้ ส้มโอมันร่วมวางแผนเล่นด้วย เอาไว้ติดตามตอนต่อไปนะครับ ตอนนี้ขอลาไปก่อนครับ




Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2559 23:23:49 น. 0 comments
Counter : 353 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

ลี้น้อยมีดบินไม่พลาดเป้า
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add ลี้น้อยมีดบินไม่พลาดเป้า's blog to your web]
space
space
space
space
space