TokyO CalLinG(day2) ตะลอนทัวร์@Senso-ji Shrine ,Nakamise Shopping street and Tokyo skytree^^
คอนนิจิวะค่า เพื่อนๆนักเดินทางชาวบล๊อคทุกคน มาชวนไปสนุกกับการเดินทางสู่กรุงโตเกียวในทริปเดย์ 2 กันต่อค่า ติดตามทริป TokyO CalLing (day1) CLICK LiNK ด้่านล่างเลยค่ะ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=diary-prizella&month=02-2014&date=08&group=19&gblog=5 หลังจาก Check-In ฝากสัมภาระและรับ Wifi Pocket ที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว เราเริ่มตะลอนทัวร์กันเลย จากสถานี Ueno (G16) นั่งสาย Ginza Line(สีส้ม) ไป 3 สถานีลงที่ Asakusa(G19) พุทรามีบัตร 1Day Tokyo Motro Pass แล้ว สะดวกสบายไม่ต้องมาวุ่นวายแลกเหรียญหยอดตู้ซื้อตั๋วนะคะ แค่เอาพาส scan ผ่านที่กั้นก็เข้าสู่ภายในสถานีกันเลยค่ะ ยังงัย เพื่อนๆวางแผนการเที่ยวและคำนวนค่ารถไฟโดยประมาณก่อนว่าใน 1 วัน จะใช้คุ้มกับการเดินทางมั้ย?? แล้วค่อยตัดสินใจซื้อตั๋วก็ได้ค่ะ Information TOKYO METRO SUBWAY Click Link ด้านล่างค่ะ //www.tokyometro.jp/en/index.html ใช้เวลาแค่อึดใจ เราก็มายืนอยู่หน้า Asakusa Station กันนะคะ อย่างที่เกริ่นไว้แล้วในบล๊อคก่อนว่า ทริปนี้ พุทรารวมแกงส์ออนทัวร์กับพี่ๆน้องๆ ที่เดินทางมาล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อวานค่า พอมาถึงจุดหมายที่นัด เราก็ไลน์แจ้งพิกัดบอกเดอะแกงส์กันก่อนน๊า แล้วเดินมุ่งสู่ด้านใน ไปยัง Senso-ji Temple ค่า บรรยากาศเช้าวันเสาร์ที่ Asakusa Nakamise Shopping Street เห็นแล้ว...โอว์ ช่างเต็มไปด้วยคนพร้อมใจกันมาเที่ยวมากมายเจรงๆค่า เดินชม แชะ ชิลด์ผ่านถนนนากามิเซะมุ่งสู่ด้านใน เห็นโคมแดงขนาดใหญ่ด้านหน้า เย่ๆ เรามาถึงวัดอาซากุสะกันแล้วค่ะ ขอเก็บภาพโคมแดงขนาดยักษ์ที่เป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่น หน้า Hozomon Gate กันก่อนค่า เข้ามาภายในวัดแล้ว ตามธรรมเนียมของคนญี่ปุ่น เราต้องไปชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์ก่อนนะคะ โดยนำกระบวยตักน้ำด้วยมือขวาตักน้ำล้างมือซ้าย แล้วสลับมาใช้มืออีกด้านตักน้ำล้างมือขวา จากนั้น ให้ตักน้ำใส่มือซ้ายเพื่อบ้วนปากค่ะ เรียบร้อยแล้วจึงวางกระบวยเก็บดังเดิมค่า ต่อมา คือ การจุดธูปขอพร โดยให้โบกควันธูปเข้าหาตัว เพื่อนำโชคลาภและความเป็นสิริมงคลมาสู่ตัวเราค่ะ หมวยแทรกตัวฝ่าด่านผู้คน เข้าไปโบกควันธูปที่ลอยอบอวล ขอให้โชคดี มีสุขภาพที่แข็งแรงค่า จากนั้น ก็ขึ้นไปสักการะขอพรเทพที่ศักดิ์สิทธ์ รวมถึงองค์เจ้าแม่กวนอิมด้านบนกันค่ะ เริ่มต้นให้โค้งคำนับเทพเจ้า แล้วโยนเหรียญ 5 เยนผ่านช่องลงแท่นที่บริจาค โค้งคำนับอีก 2 ครั้ง พร้อมกับปรบมือ 2 ทีแล้วตั้งจิตอธิษฐานขอพร แล้วโค้งลาเป็นอันจบการสักการะองค์เทพเจ้าค่ะ ออกจากตัวโบสถ์ ผ่านประตูสายฟ้าคามินาริมอน(Kaminarimon) ก็พบพี่ๆน้องๆ ยืนโบกมือทักทายกันค่า งานนี้ ไม่รอช้า สาวๆ เกริลแกงส์ดี๊ด๊า ลั้ลลา แชะกันสนุก เม้ากันสนั่น เหมือนไม่เจอกันมานานแสนนานนนน ฮ่าๆๆ ระหว่างทางเดินบนถนนสายนักช๊อป Nakamise หนาวแค่ไหน เราก็ต้องหม่ำมัตฉะวนิลลาซอฟครีมค่า **ทางร้านจะมีป้ายให้เราอ่านก่อนซื้อนะคะว่า เราจะทานขนมหรืออาหารในที่ที่ทางร้านจัดไว้ค่ะ ถ้าโอเคร ทางร้านถึงจะขายให้ค่า เห็นว่า ปท.ญี่ปุ่น มีระเบียบ โดยไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินทานค่ะ** เดินออกมาถึงด้านหน้า ก็ได้เวลาสำหรับมื้อกลางวัน ไปหม่ำโด้ยกันเรยยยย ได้ Solf Cream รองท้องกันไปเบาๆ แล้ว เรามาจัดหนักกันต่อที่ร้านด้านหน้า ใกล้ๆกับสถานีอาซากุสะค่ะ พุทราสั่ง ข้าวหน้าเทมปุระ(1700Y) ส่วนสาวกซาซามิแบบพี่ช่างภาพ เอร็ดอร่อยกับข้าวหน้าปลาดิบ(1650Y)ค่า เติมพลังกันอิ่มแล้ว มีแรงออกเดินทางต่อค่ะ เดินออกมาตรงแยกไฟแดง เห็นสัญลักษณ์รูปอุนจิสีทอง ซึ่งจริงๆแล้ว คือ ประติมากรรมรูปฟองเบียร์ ที่ตั้งอยู่บนตึกสูง ติดกับสำนักงานอาซาฮี เบียร์ชื่อดังของที่นี่ค่า ++ Our Next Station 's TOKYO SKYTREE ++ จากแยกด้านบน เราเลี้ยวไปทางด้านซ้าย เห็นเป้าหมายเป็นตัวตึก ชื่อ EKIMISE Asakusa แล้ว เดินข้ามถนนเข้าไปด้านใน เป็นสถานีรถไฟ ที่จะนำเราไป Tokyo Skytree ค่า Tobu skytree line (สายสีแดง) นำเรามาสู่ Tokyo Skytree Station ค่า เดินออกจากสถานี ว้าววว เห็นร้าน Tokyo Banana Tree ชื่อดัง ตั้งอยู่ตรงข้าม station ด้วยค่า แต่ว่า พุทราและเดอะแกงส์ไม่ได้อุดหนุนหรอกนะคะ คือตามแพลนเราต้องไปเที่ยวที่อื่นต่ออีก เลยไม่อยากหอบหิ้วอะไรพะรุงพะรังมากมาย ค่อยซื้อที่เดียวตอนกลับที่ Narita Airport ก็ได้ค่า จากหน้าสถานี เห็นบันไดเลื่อนเข้าไปตัวตึกตรงหน้าแล้ว เราเดินไปด้านข้างเลือกใช้บริการลิฟท์สะดวกกว่าค่า ขึ้นไปยัง 4F เป้าหมายคือ หอคอยสูงระฟ้า Tokyo Sky Tree ค่า ++TOKYO SKYTREE++ //www.tokyo-skytree.jp/en/ ข้อมูลโดยคร่าวๆ โตเกียวสกายทรี เป็นหอคอยที่เปิดตัวให้บริการเมื่อปี 2012 มีความสูงถึง 634 เมตร ซึ่งนับว่า เป็นหอคอยที่สูงเป็นอันดับ 1 ของโลกค่ะ (ณ.ปัจจุบันปี 2014) ทริปนี้ น่าเสียดายที่พุทรา&เดอะแกงส์ไปกันแบบ short time เราลยตัดสินใจไม่รอต่อคิวซื้อบัตร (ระบุไว้ว่า 2 Hours) เพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบน ว้าววว!! He Almost Touch The Sky....พี่ช่างภาพเล็งมุมกล้อง(Iphone) เพื่อเก็บภาพหอคอยที่สูงตระหง่านฟ้าค่า แล้วก็ได้เวลาบอกลา Tokyo Sky Tree มาขึ้น Tobu Skytree Line กลับมาที่สถานี Asakusa ค่ะ จาก Asakusa metro station(G19) เราขึ้น Ginza Line(สายสีส้ม) กลับไปที่สถานี Ueno(G16)ก่อนค่ะ นำของมากมายไปเก็บที่โรงแรม พร้อมกับไลน์หาน้องสาวถามหาพิกัดร้าน Bao Bao ตามที่นางออร์เดอร์ ได้พิกัดเป็นแหล่งช๊อปแบรนด์เนมย่าน Ginza ซึ่งดูแล้วน่าจะหาไม่ยาก ไปตามล่า Issey Miyake กระเป๋าแบรนด์ออริจิกันต่อค่า (อันนี้ เคยมีเพื่อนๆหลังไมค์มาถามแหล่งที่พุทราซื้อเบาเบา ตอนไปเที่ยวฮากาตะ เลยขอบอกพิกัดร้านนี้อีกครั้งที่ย่าน Ginza ค่ะ) @Bao Bao Issey Miyake@GINZA MATSUYA@ จาก Ueno Station(H17) นั่งสาย Hibiya line(สีเทา)ไป 9 สถานีลงที่ Ginza Station(H8)ค่ะ ถึงกินซ่าแล้ว ให้หาทางออก Matsuya Dept Store A12-A13 เดินตามป้ายไปไกลพอสมควร มาถึงห้างแล้ว ก็ขึ้นไป 3Flr จะพบร้านกระเป๋า Bao Bao Issey Miyake กันค่า แต่ว่า งานนี้ เสียเวลา เพราะรุ่นที่น้องพุทราออร์เดอร์ ดันหมดก็อดไปตามระเบียบ น้องอีกคนไลน์สั่งเสื้อกอมอีก พุทราลองถามพิกัดจาก พนง. ที่ร้านอิเซ่แล้ว นางบอกว่าต้องเดินไปอีกมุมถนน เฮ้อ... เราก็ไม่ไหวจะเดินแล้วค่า งานนี้เลยชวด ไม่ได้สอยสื้อสวยๆลาย Polka Dot ของ Comme des garcons มาให้ชมกันค่า จาก Ginza Station เรามาขึ้นสายสีแดง Marunouchi Line(M16)ไปลงที่ Shinjuku (M8) ค่า Trip Tokyo D2... ต้องขอซาโยนาระกับบรรยากาศยามราตรีที่ย่านชินจูกุนะคะ NEXT BLOG...ชวนอร่อยกับ curry รสชาติล้ำๆที่ร้านดัง มีเวลา แวะมาหม่ำโดยกันคร่า
Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2557 |
Last Update : 27 มีนาคม 2558 19:16:18 น. |
|
6 comments
|
Counter : 5671 Pageviews. |
|
|