Bara no nai Hanaya ร้านดอกไม้ไร้กุหลาบ


ชีวิตของเอจิ พ่อม่ายลูกติดที่แสนธรรมดา มีร้านดอกไม้ที่ไม่ได้ขายดีอะไรนัก แต่ก็พออยู่ได้ในการเลี้ยงชีพ เรื่องราวดูธรรมด๊า ธรรมดาแต่ไอ้ทีทำให้ไม่ธรรมดานั้นคือ เด็กผู้หญิงลูกเอจินี่อะสิ เธอใส่หน้ากากไปโรงเรียนและเกือบตลอดเวลา ทำให้เราสงสัยและอยากเห็นหน้าเธอเป็นที่สุด คำถามในใจคือทำไมต้องใส่ และหนังยังไม่บอกกันมาพักนึง หนังญี่ปุ่นมันบอกข้อมูลผ่านบทสนทนาของตัวละครเสมอและจากการคุยของเอจิกะป้าที่ชอบจัดดอกไม้ทำให้เราได้รู้ว่า ชิซูกุกลัวพ่อเสียใจที่ต้องเห็นหน้าตัวเองเพราะวันเกิดของเธอก็คือวันตายของแม่นั่นเอง แต่ในที่สุดเอจิก็มีวิธีพูดกับลูกสาวให้เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง ชิวิตคนเราจะไปมีความหมายอะไรถ้าอยู่ไปเพื่อตัวเอง การมีชิซูกุทำให้ชีวิตเอจิมีความหมาย ชิซูกุจึงจึงยอมถอดหน้ากากให้เห็นหน้าตากันเสียที คนดูอย่างเราอยากเห็นหน้าเด็กคนนี้มาก เธอร่าเริงสดในแม้ใส่หน้ากากแล้ว หน้าตาจะน่ารักเพียงใดและเราก็ไม่ผิดหวังเลย จิตใจที่น่ารักกะหน้าตาที่สดใส สูสีกันสุด ๆ ประทับใจมากฉากนี้และทำให้เราไม่สามารถหยุดดูเรื่องนี้ได้เลย



แม้ว่าเรื่องจะเรื่อย ๆ เนิบๆ แต่เรากลับชอบความเนิบช้าแบบนี้แฮะ และที่สำคัญมันมีความน่าสนใจเพิ่มเข้ามาในเรื่อง การมีสาวตาบอดเข้ามาในชีวิตเอจิ และภายหลังก็แอบบอกคนดูว่าแกล้งตาบอดมาหลอก แต่ก็ไม่บอกว่าทำทำไม นี่คงเป็นเอกลักษณ์เค้าละซีรีย์ญี่ปุ่น ทำให้คนสงสัยและคอยติดตามไปเรื่อย ๆ โดยใช้วิธีการค่อย ๆ ปล่อยข้อมูลสำคัญมาเป็นระยะๆ ให้คนดูคาดเดาไปต่าง ๆ นานา


ที่เราชอบที่สุดชอบที่สาวตาบอดคนนี้เรียกเอจิว่า “โอฮานายะซัง” คือแปละว่าคุณคนขายดอกไม้ เวลาเป็นภาษาไทยแล้วเนี่ยมันดูธรรมดาแต่เวลาได้ยินมิโอะเรียกในซีรีย์นี่เราชอบจริง ๆ จัง ๆ และเอจิเองก็ดูจะชอบที่มิโอะเรียกตัวเองแบบนี้ ครั้ง แรกๆ ที่เริ่มเรียกก็ดูจะเขินๆ ไม่ขานรับและในที่สุดก็ขานรับพร้อมกับยิ้มอาย ๆ ตลอดเวลาเอจิเชื่อสนิทใจว่ามิโอะตาบอดจริง ๆ มิชชั่นของมิโอะคือการทำให้เอจิมาหลงรัก เรารู้แค่นั้นในตอนแรกและไม่เข้าใจว่าทำไม ผอ. รพ. ต้องการให้เธอทำอย่างนั้น (แต่ก็แอบเดา ๆ อยู่ในใจ การดูหนังที่สนุกก็คือการเดาเรื่องนี่แหละ) และซีรีย์ก็ค่อย ๆ บอกทีหลังว่าแท้จริงเหตุผลคืออะไร



มิโอะพยายามเอาตัวไปพัวพัน ไปยุ่งวุ่นวายกะเอจิบ่อย ๆ และแล้วเธอก็พบว่าคนที่ผอ.บอกว่าไม่ดีที่ให้เธอมาปั่นหัวเค้านั้น เป็นคนดีอย่างเหลือเชื่อ มีจิตใจที่บริสุทธิ์ ไม่น่าแปลกใจเลยที่มิโอะจะเริ่มมีความรู้สึกพิเศษให้ เอจิเป็นคนที่พร้อมจะให้คนรอบข้างอยู่เสมอและมิโอะก็ไม่ใช่ข้อแม้ ความสัมพันธ์ดำเนินไปอย่างช้า ๆ เอจิเริ่มรู้สึกได้ถึงความรู้สึกพิเศษที่หญิงตาบอดมีให้ โดยไม่รู้เลยว่าเธอเข้าหาเค้าเพราะมีแผนการบางอย่าง ขณะที่มิโอะเองก็เริ่มสับสนในความรู้สึก หลายครั้งการตีสนิทกลายเป็นสิ่งที่มิโอะอยากทำเอง อยากออกมาจากเกราะหนาของตัวเองที่ทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้าเพื่อนๆ ก็เหมือนไปเป็นอีกคนนึง และกลายเป็นเรื่องสนุกที่ได้ลอง เราชอบฉากที่เอจิกะมิโอะเล่นเกมกันที่ให้ตามหากัน เกือบได้เจอกัน โดยเอจิมีหลักฐานยืนยันกว่าได้กลีบดอกไม้ที่มิโอะเด็ดปลิวมา เว่อแต่เอาน่ะเป็นการนำเสนอที่น่าประทับใจจริงเชียว



อย่างไรก็ดีในโลกใบนี้ ความลับไม่มีในโลก มันมักจะถูกเปิดเผยไม่ทางใดก็ทางนึง คนรอบตัวเอจิเริ่มรู้ความจริง แต่เราไม่เห็นการประชดประชันแรงๆ มีแต่การพูดคุยกันแบบธรรมดาว่าชั้นรู้แล้วแค่นั้น ตัวละครเค้าเหมือนคนธรรมดาในชีวิตจริง ๆ และเมื่อเอจิรู้ความจริงก็ไม่ได้โกรธ และปล่อยให้เธอหลอกเค้าต่อไป ตัวเองยอมเจ็บคนเดียว ไม่ทำอะไรที่จะทำให้คนรอบตัวเสียใจ เหมือนคำพูดที่เอจิชอบพูดคือ “ไม่เป็นไร”



ตลอดเวลาที่ดูก็เข้าใจมาตลอดว่าเอจิคือพ่อของชิซูกุและรักแม่ของชิซูกุมาก แต่หนังกลับมาหักมุมว่าวีดีโอของแม่ชิซูกุนั้นเอจิเป็นคนถ่าย เอจิเป็นเพื่อนของเธอตอนที่ถ่ายวีดีโอนี้ ไม่ใช่พ่อของเด็กที่ทิ้งไปตอนที่เธอท้อง เพราะช่วงวีดีโอที่ต่อจากที่อัด มิโอะดูแล้วไม่ได้ปิดกลับได้พบความจริงนี้ คราวนี้มีปมอีกอันคือ “แล้วพ่อชิซูกุเป็นใคร” และการเล่าเรื่องของเค้าไม่ได้ให้คนดูรอนานเลย ตัวละครต่อมาก็เปิดตัวเพื่อมาตอบคำถามนี้ในทันใด



ตัวละคร “ชุน”ที่ออกมาไม่กี่ฉาก คือ ตัวจุดกำเนิดของปมในเรื่องนี้ คนที่เล่นเท่มาก หนังสื่อตลอดว่าตัวละครนี้เห็นแก่ตัว มีความทะเยอทะยาน ไม่สนใจความรู้สึกใคร แต่ในบทสนทนา(อีกแล้ว) เราจะพบว่าจริง ๆ ชุนนั่นอ่อนแอมาก ๆ แต่เลือกที่จะทำร้ายคนอื่นก่อนที่ตัวเองจะโดยทำร้ายและเจ็บ ปมแบบนี้อธิบายได้ถึงเหตุและผลที่ชุนทิ้งแม่ชิซุกุไป เพราะ “กลัว” ผิดหวังนั่นเอง

ฉากสุดท้ายในเรื่อง ที่เอจิมีความสุขที่สุด ได้กลับมาขายดอกไม้ อยู่บ้านหลังเดิม ได้อยู่กะคนที่ตัวเองรักและเธอรักเค้า พร้อมหน้าตากับชิซุกุ และคนรอบตัวที่ผูกพัน ตัวละครนี้มีความเชื่อว่าถ้ามีความสุขมากๆ เดี๋ยวมันจะหายไปจากเรา เอจิร้องไห้ออกมาและพยายามจะเดินหนีไปจากที่ที่มีความสุขแห่งนี้จนทุกคนต้องบอกว่าไม่ต้องไปไหนหรอก โอ้ววววว จะลุกหนีจากความสุขเพราะกลัวมันจะหายไปอีกใช่มั๊ยอ่ะ สุดยอดละ



บอกได้เลยว่าเราได้ค้นพบแหล่งบันเทิงที่ถูกใจซะแล้วซีรี่ย์ญี่ปุ่น ลึกซึ้ง กินใจ จริง ๆ พี่น้องคร๊าบบบบบบ ไม่ว่าจะอีกสักกี่เรื่องก็จะให้อารมณ์ประมาณนี้ได้เกือบทุกเรื่อง อบอุ่น มีข้อคิดคม ๆ เพลงก็เพราะ เป็นธรรมชาติ ไม่เน้นเรื่องความรักมากเกินไปจนเลี่ยน โอ้ยหลงรักซีรีย์ญี่ปุ่น




Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2557 16:18:26 น.
Counter : 4398 Pageviews.

2 comments
  
เป็นซีรีย์น้ำดีอีกเรื่องที่เราชอบมากเลยค่ะ
ส่วนตัวแล้วเพิ่งได้มาติดตามงานแสดงของพระเอกคนนี้ (เราไม่ค่อยได้ตามงานเพลงเท่าไหร่ ส่วนมากดูแต่งานแสดงค่ะ^^)
เรื่องนี้เราร้องไห้ทุกฉากที่คุณพ่อพูดกับลูกสาว
เราชอบพลอตเรื่องในนัยยะที่ว่า

คนเราต้องหัดไว้ใจคนอื่นๆดูบ้าง
โลกเราจะแคบเกินไปถ้ารู้จักแต่คนในครอบครัว
ดังนั้น ลองหัดไว้ใจคนอื่นดู

เป็นซีรีย์ที่แนะนำใครต่อใครให้ดูเหมือนกัน ดีใจที่มีคนชอบซีรีย์เรื่องนี้เหมือนกันค่ะ
โดย: nobuta wo produce วันที่: 26 มีนาคม 2557 เวลา:22:10:39 น.
  
เข้ามาดูเพราะเป็นแฟนคลับชินโงและวงสแมปค่ะ อยากดูเรื่องนี้มานานมาก และหายากจัง(เจอแต่เรื่องที่ทาคุยะเล่น ดูจนจะหมดสต็อกแล้ว 555) และชอบคุณยูโกะด้วยค่ะ(เพิ่งมาดูเรื่องนี้ตอนที่เธอเสียชีวิตไปแล้วเกือบๆปี) คิดถึงรอยยิ้มของเธอมาก
น้องชิสุกุน่ารักมากกกก น่าเอ็นดูจริงๆลูกเอ๊ยยย
แต่ขัดใจนางเอกตอนที่เดินอยู่ในสวนสาธารณะที่เอจิจะไปส่งเธอที่ห้อง ระหว่างทางมิโอะคุยเรื่องภรรยาเก่าเอจิเสียชีวิต แล้วมิโอบอกว่าไม่เคยตกหลุมรักใครอีกเลยเหรอ ชีวิตคุณจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ คือเราไม่ชอบอะ ทำไมต้องตัดสินคนอื่นว่าชีวิตเขาจะต้องยังงี้ยังงั้นตามที่ตัวเองคิด การที่คนเราเสียคนรักเก่าไป จำเป็นด้วยเหรอที่เขาเปิดใจรับรักคนใหม่เพื่อจะให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้ คิดแทนคนอื่นเก่งจริง
การจะเปิดใจรับรักใครมาแทนคนเก่า ไม่ว่าจะกรณีเลิกราหรือตายจากก็ให้เป็นเรื่องของเขาเองเหอะ เรารู้สึกแบบนี้ ตอนดูฉากนี้เลยคิ้วขมวดหน่อยๆ 555 อินมากไป ขอโทษที
โดย: npsr_gb วันที่: 3 สิงหาคม 2564 เวลา:23:44:34 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

deepfaithful
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]