ตอนที่3: ชีวิตไลฟ์การ์ดแอริโซน่า(เวิคแอนด์ทราเวล2014)
  กลับมาอีกครั้งตามสัญญา กลับมาในตอน "เรื่องราวหลังจากเงินเดือนก้อนแรก"


เงินเดือนก้อนแรกหลังจากหักค่าบ้านและภาษีต่างๆ $831.88 ประมาณ27,000 ณ ตอนนั้น (แอบเห็นค่าภาษีรวม$200 ค่าบ้าน$390!! อุต่ะ!!)
เงินเดือนก้อนแรกมาแล้ว พวกเราจะเอาไปทำอะไร ให้ทาย?..........

คำตอบก็คือ .....  ช็อปปิ้งงงงงง!!!!! 

พอถึงวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดของพวกเรา พวกเราก็จัดการเลย ซื้อตั๋วรถเมล์1 day pass ไปวอล์มาร์ท 
ด้วยความที่ขี้เกียดตื่นเช้าของพวกเรา ผู้ชายทุกคนจึงซื้อจักรยาน เพื่อปั่นไปทำงาน เพราะการปั่นจักรยานไปทำงานใช้เวลาแค่เพียง5นาที แต่ถ้าเดินไปต้องใช้เวลาถึง30นาที  เวลาทุกนาทีมีค่าสำหรับการนอน ส่วนผู้หญิงไม่อยากซื้อ จักรยานไม่สวยพอ ฮ่าๆๆๆ


จักรยานที่พวกผู้ชายซื้อกัน อิอิ

กลับมาจากวอล์มาร์ทก็มาลงรถเมล์ที่ Arizona Mill Mall เป็นห้างสรรพสินค้า ที่มีมีสวนสัตว์ อวาเรียม แล้วก็สนามเด็กเล่นด้วย


อย่างที่บอก สนามเด็กเล่น ผู้ใหญ่เล่นอาจจะพังได้
ระหว่างเดินเล่นช็อปปิ้งเสื้อผ้าหน้าผมไปเรื่อยๆ (มีความสุขกับเงินก้อนแรกไปเรื่อยๆ) เราก็เจอร้านขายเพนนีบอร์ด  บอร์ดที่เราอยากได้มานานแสนนาน ตอนอยู่ไทยก็ซื้อของปลอมเล่นเพราะของแท้แพงเหลือเกิน แต่มาถึงนี่แล้ว เงินเดือนก็เพิ่งออก รวยๆ อย่างนี้ก็ซื้อเลยแล้วกัน

เพนนีบอร์ดของเรา สีเรืองแสงอ่อนๆตอนกลางคืน น่ารักโน๊ะ (รูปสปอยนิดหน่อยอิอิ)

กลับมาจากมิลมอล์ล เราก็เอาเจ้าเพนนีมานอนแน่นิ่งอยู่ที่บ้าน ไม่กล้าเล่น ยังไม่โปรพอที่จะลงถนน 
พอเลิกงานพวกเราเริ่มปรับตัวได้ก็ไปว่ายน้ำกันเล่นต่อที่อพาร์ตเมนท์หรือไม่ก็เข้าฟิตเนส บางคนก็แช่จากุชชี่อย่างเดียว(เราเอง แฮ่ๆ) หรือบางวันเราก็เอาเจ้าเพนนีไปไถเล่นตามซอกซอยอพาร์ตเมนท์ แต่ไถคนเดียวมันก็เหงา ไถแปบเดียวก็เบื่อ แต่ก็พยามฝึกต่อไปเพื่อจะได้ไถไปทำงาน อยากตื่นสายขึ้นอีกนิด 
แล้ววันนั้นก็มาถึง ทุกคนพร้อมจะออกจากบ้านกันแล้ว แต่เรายังไม่ได้จัดกระเป๋า เลยบอกให้คนอื่นๆไปก่อนเลย เดี๋ยวเราไถตามไป  เราก็เอาเพนนีไปด้วย เริ่มด้วยไถออกจากหมู่บ้าน แล้วขึ้นไปไถบนฟุตบาท ด้วยความที่ต้องไถสวนทางกับที่รถวิ่งมา ทำให้เราตื่นเต้นทุกครั้งที่มีรถสวนมา ในใจคิดสารพัดว่า ถ้าล้มลงไปแล้วรถสวนมาทับเราพอดีจะทำยังไง แต่ไถอีกนิดก็จะตามเพื่อนทันแล้ว เห็นเดินกันอยู่ข้างหน้าไม่ไกล  แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น ขาก็เริ่มสั่น แล้ว แล้ว แล้ว โครมมมม!!!! เราก็ล้มจนได้ ข้อเท้าพลิกไปกับเพนนีบอร์ด เจ็บยังไม่มาก แต่ก็พยามยืนให้ได้ จำได้ว่าตอนจะล้มมีรถที่วิ่งตามหลังมาอยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นเหตุการณ์ตลอด ตะโกนมาว่า "ฟัคคคคคคค!!!" ไม่รู้ทำไมเวลาเกิดเหตุอะไรแบบนี้ภาพในหัวจะเป็นภาพสโลว์โมชั่น 

เรายืนขาเดียวขึ้นมา ด้วยความที่กลัวสาย ในใจคิดว่าคงไม่เป็นไรมาก ไถต่ออีกนิดเดียวก็ตามเพื่อนทันแล้ว แต่พอเอาขาข้างที่พลิกวางลงบนบอร์ด เท่านั้นแหละ โอ้ยยยยยย เจ็บมาก คงไถต่อไม่ได้ จะโทรไปบอกเพื่อนว่าลางานก็ไม่ได้เพราะไม่มีโทรศัพท์ เอาวะ เดินต่อแล้วกัน เราเดินแบบพยามไม่เอาน้ำหนักลงข้างนั้น แต่ยังไงมันก็ยังเจ็บ เราเดินใกล้ถึงแยกแล้ว แต่มันเป็นไฟเขียวพอดี เพื่อนๆจึงข้ามไปอีกฝั่งนึงเรียบร้อย เราติดไฟแดงต่อไป เพื่อนๆหันมาหาเรา เราเลยทำมือทำไม้บอกว่าไปก่อนเลย ไม่ต้องรอ เดี๋ยวสาย เพื่อนๆจึงหันหลังแล้วเดินต่อไป พอไฟเขียวเราก็รีบเดินข้ามไป เจ็บก็ต้องทน เพราะไฟเขียวสั้นมาก ขนาดขาไม่เจ็บยังเดินเกือบไม่ทัน นี่ขาเจ็บขนาดนี้จะทันมั้ยเนี่ย จะถูกรถชนตายมั้ย ลุ้นสุดๆ แต่ถ้าถูกรถชนตายคงมาเขียนบล็อกแบบนี้ไม่ได้ เอาเป็นว่าไม่ทัน แต่รถเค้าใจดี ไม่ชน เดินต่อไปเรื่อยๆ มีผู้หญิงคนนึงสวนทางมา ถามเราว่า Are you okay? Do you need help? ในใจนี่อยากจะบอกว่ากรูไม่โอเค ไปส่งกรูที่ทำงานได้มั้ย แต่กลัวว่าเค้าจะพาเราไปโรงพยาบาลแทนแล้วจะเป็นเรื่องใหญ่ เลยตอบไปว่า Okay Okay I'm okay Thank you. สุดท้ายเราก็เดินมาถึงที่ทำงาน  ทุกคนตอกบัตรไปเรียบร้อยแล้ว สก็อตเดินมาเจอเราพูดว่า Ice, you're late. เราก็ได้แต่ I know, sorry ไม่สังเกตเลยหรอว่าเราเดินกะเพลกแถมเนื้อตัวมอมแมม น้อยใจจริงๆ เราทนทำงานไปเรื่อยๆ แต่ด้วยความที่ไม่ได้นั่งอยู่กับที่เฉยๆแต่ต้องเดินเปลี่ยนจุดทุกๆ30นาที แล้วแต่ละจุดก็ค่อนข้างไกล พอขาเจ็บเลยรู้สึกไกล ยิ่งเดินยิ่งเจ็บ เราทนทำจนพักเที่ยง จึงไปบอกสก็อตว่าขาเจ็บ มีพวกที่พันแผลอะไรบ้างมั้ย สก็อตก็เรียกให้เราไปที่ห้อง ให้เรานั่งที่เก้าอี้ ส่วนสก็อตนั่งเก้าอี้อีกตัวนึง 
ถามเราว่า"ไปทำไรมา ไม่ได้เพิ่งเกิดตอนทำงานใช้มั้ย"
เราบอกว่า "เล่นสเกตบอร์ดแล้วล้มขาพลิก"
สก๊อต "แล้วไปพลิกมาเมื่อไหร่ พลิกท่าไหน"
เรา "พลิกเมื่อเช้านี่เอง"
สก็อต "อ๋อ เลยมาสายใช่มั้ย"
เรา "ขอโทษจริงๆ"
สก็อต "ไม่ต้องขอโทษหรอก ขาแกเองนะ"
แล้วบอกให้เรายกขาขึ้นมาวางบนตักแก (ตีนอย่างดำ กรูอาย กรูพันเองก็ได้นะ) สก๊อตเห็นเรายังไม่ยกไปวางก็เอามือตบตักแปะๆแล้วก็มองหน้าเรา เราเลยยกไปวางตามนั้น แต่ไม่กล้าลงน้ำหนัก คือเกร็งไว้ตลอด เมื่อยมาก ฮ่าๆ สก๊อตก็ดู แล้วบอกว่า ข้อเท้าบวมมากเลยนะเนี่ย แล้วเดี๋ยวอีกไม่กี่วันตรงนี้ก็จะturn blueแน่นอน (เอามือชี้ตรงแถวตาตุ่ม ซึ่งตอนนี้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับส่วนที่บวมแล้ว)  จากนั้นก็เอาผ้าพันยืดๆมาพันให้ไปก่อน แล้วถามเราว่ายังทำงานไหวมั้ย เราเลยบอกว่าไหวๆ จริงๆอยากกลับมากแต่เพื่อไม่ให้เสียชื่อคนไทย (ตรงไหน) สก็อตเลยบอกว่าเดี๋ยวเลิกงานแล้วให้มาหาที่ห้อง จะเรียกเจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลให้มาดูให้ก่อนกลับ เราก็โอเคๆ แล้วกลับไปทำงานต่อ

ยิ่งทำงานต่อก็ยิ่งเจ็บ เจ็บมากขึ้นทุกครั้งที่เดิน จนถึงเวลาเลิกงาน เราก็ไปหาสก็อตแล้วบอกให้เพื่อนๆรอก่อน รออยู่ในห้องการ์ดรูม สก๊อตให้เราไปนั่งที่ห้องแล้วก็โทรหาหน่วยปฐมพยาบาล เค้ามาถึงก็ดูข้อเท้าเรา บอกเราว่าให้เอาน้ำแข็งประคบไว้ตลอด กลับไปให้นอนยกเท้าสูง ถ้ายังไม่ดีขึ้นหรือปวดมากขึ้นให้ไปหาหมอ แล้วก็พันข้อเท้าให้เราใหม่ ระหว่างนั้นสก๊อตก็หันไปถามไคล์ เฮดการ์ด ว่ามีใครที่มีรถอยู่บ้าง จะให้ไปส่งเราที่อพาร์ตเมนท์ เราเลยรีบบอกว่าไม่เป็นไร เพื่อนๆเรารออยู่ที่ห้องการ์ดรูม ไคล์บอกว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวจะบอกเพื่อนๆให้เดินกลับไปก่อนเลยไม่ต้องรอ ไคล์กลับมาพร้อมกับบอกว่าตอนนี้มีสเตฟานที่มีรถแล้วเลิกงานพอดีให้สเตฟานไปส่งเราที่บ้าน จากนั้นเราก็เดินตามสเตฟานไปเพื่อไปขึ้นรถ เดินทะลุห้องการ์ดรูมออกมาก็มีรถกอล์ฟรออยู่ เราขึ้นรถกอล์ฟไปกับบุรุษพยาบาล ส่วนสเตฟานเดินไป เราไปถึงรถสเตฟานพร้อมกับสเตฟาน เนื่องด้วยความเร็วของรถกอล์ฟที่เท่ากันกับสเตฟานเดิน ขึ้นรถปุ๊บนางก็สตาร์ทรถ แล้วเพลงก็ดังกระหึ่ม นางรีบเบาเสียงทันที ไปถึงบ้านเราก็ขอบคุณร่ำลากับสเตฟานเรียบร้อยก็ถึงเวลาขึ้นบ้าน อยากให้บ้านอยู่ชั้น1เลยตอนนี้ ขึ้นไปเสร็จเราก็กินยาแก้ปวดแก้ยาอักเสบแล้วเดินไปนอนทันที ตอนนั้นความปวดมันรุนแรงมาก เราเกือบเดินไม่ถึงเตียง (อันนี้พูดจริงๆ) ถึงเตียงแล้วเราก็เอาทุกอย่างที่มีบนเตียงมารองขา เพื่อนๆไลน์มาบอกเราว่าจะไปเดินเล่นที่มิลมอล์ลต่อนะ เราก็โอเคๆตามสบาย แล้วเราก็หลับไป ตื่นมาอีกทีเพราะแม่โทรไลน์มา ถามว่าเราทำอะไรอยู่ เราไม่กล้าบอกความจริงกลัวโดนด่าซ้ำ เลยต้องบอกไปว่าเดินห้างอยู่!!  

ตื่นมาตอนเพื่อนๆกลับมา น้ำแข็งเริ่มละลาย เราเลยไปหาน้ำแข็งมาประคบใหม่ แล้วก็หลับไป วันรุ่งขึ้นเริ่มดีขึ้นแล้วแต่ยังเดินไม่ไหว เลยฝากเพื่อนๆไปลาป่วย1วัน วันนี้เรานอนทั้งวัน ตื่นมาก็เปลี่ยนน้ำแข็งอย่างเดียว จนเพื่อนๆกลับมา 

แอมป์มาดูขาเราแล้วบอกว่าให้แช่น้ำร้อนด้วย ไม่งั้นเลือดที่คั่งอยู่จะไม่หาย อาจต้องผ่าตัดออกกันเลยทีเดียว เราเลยโอเค แช่น้ำร้อน แอมป์ก็ไปเตรียมน้ำร้อนมาให้เรา ใส่ในถัง ควันนี่ลอยพวยพุ่งเชียว เราเอาเท้าแหย่ลงไปนี่ต้องรีบชักออกอย่างเร็ว สะดุ้งเฮือก ร้อนมากกกกกก แอมป์บอกว่าแบบนี้แหละเมิง เมิงต้องทนนะ เราเลยเอาวะ อีกที ทีนี้จุ่มมิดเลย ร้อนก็ทน มันร้อนอยู่สักพักก็เริ่มรู้สึกไม่ทรมานแล้วรู้สึกสบายขึ้นเรื่อยๆ อ่าห์ ดีจริงๆ เราก็ผลัดกันประคบร้อนเย็นร้อนเย็นไปเรื่อยโดยมีแอมป์คอยเตรียมน้ำร้อนให้ทุกครั้ง จนวันรุ่งขึ้นเราทั้งหมดก็ไม่ต้องไปทำงาน เพราะมันเป็นวันเสาร์อาทิตย์ เราเลยได้พักขาเราเพิ่มอีก2วันโดยไม่ต้องลางาน  เห้อออ


สก็อต (หรือที่พวกเราเรียกว่าอาเฮีย)


ไคล์
  หารูปสเตฟานไม่ได้จริงๆ ฮ่าๆๆ 

หลังจากผ่านพ้นวิกฤตการณ์ขาเจ็บของเรา ก็เป็นเวลาสองสัปดาห์ ซึ่งแปลว่า.. เงินเดือนรอบใหม่มาแล้ว!!  เย่ ไม่รีไม่รอ เอาเชคไม่เข้าเรียบร้อยก็กดออกมาทันทีพร้อมมุ่งหน้าไป Outletค่า ...ไม่มีที่ไหนจะละลายทรัพย์ได้ดีเท่าที่นี่อีกแล้ว 

พวกเราก็เดินชอปปิ้งกัน เสื้อผ้าหน้าผมเหมือนเดิม แต่รอบนี้มีโคช มีนาฬิกา มีน้ำหอมเสริมมาอีกมากมาย แล้ว แอมป์ก็เจอ เพนนีบอร์ดลดราคาถูกกว่าของเราครึ่งนึงแถมลายยังน่ารักมุ้งมิ้ง โพลก้าดอท แดง-ขาว  เราก็ดีใจได้เพื่อนไถไปทำงานแล้ว ยังไม่เข็ด ฮ่าๆๆๆ  อย่างน้อยก็ได้เพื่อนเล่นเพื่อนฝึกซ้อมมากขึ้น  เรากับแอมป์เริ่มโปรขึ้นเรื่อยๆชวนพริกกับบุ๊คมาเล่นด้วย เล่นไปเล่นมาจนพริกก็ไปถอยมาอีกอัน ฮ่าๆๆ

อาทิตย์ต่อไปพอดีเป็นช่วงวันแม่ของอเมริกาพอดี เราได้หยุด3วันรวมเสาร์-อาทิตย์  เราวางแผนกันว่าจะไปเวกัส  มันอยู่ไม่ไกลจากแอริโซน่า เป็นรัฐติดกันเลย พวกเราผู้หญิงสี่คน ตัดสินใจเช่ารถไป เพราะคิดว่าคงถูกกว่าไปรถประจำทาง แล้วยังสะดวกกว่าด้วยที่จะไปไหนมาไหนในเวกัส  เรากับแอมป์ขออนญาติเฮียเลิกก่อนเวลาเพื่อไปเช่ารถให้ทันก่อนเวลาปิดทำการ5โมง ซึ่งเราเลิกงานกัน4โมง เฮียก็บอกว่าไม่รับปากนะ ว่าจะได้รึเปล่า เพราะไม่รู้จะมีคนมาทำแทนมั้ย เราก็บอกว่าได้เถอะนะ มันสำคัญมากจริงๆ  เฮียก็โอเคๆ พอถึงเวลาบ่าย2 เรากับแอมป์ก็ไปลาเฮีย จะไปกันแล้ว  เฮียบอกไปได้คนเดียว อีกคนนึงต้องทำงานต่อ สรุปเราเลยไปคนเดียว ไปถึงก็ทำเรื่องจองรถ พอถึงเวลารูดบัตร บัตรเราไม่ผ่าน อ่าว ซวยแล้ว ทำไงดี เราเลยโทรหาแอมป์บอกว่าให้รีบตามมาเพราะบัตรรูดไม่ได้ เค้าให้ติดต่อธนาคารดู บัตรที่เอาไปจากไทยก็ไม่มีชื่อเราบนบัตรใช้ไม่ได้ ซวยจริงๆ เค้าก็รอจน5โมงกว่า ปิดร้านไปเรื่อยๆ เค้าถามเราว่า นี่เพื่อนเรามาจากนิวยอรค์ปะเนี่ย ทำไม่ยังไม่ถึงอีก เค้ากำลังจะบอกว่าพูดเล่น แต่เราแทรกขึ้นมาก่อนว่า เปล่า เพื่อนเรามาจากไทยแลนด์ ฮาแตกกันเลยทีเดียว เราเลยบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องรอแล้ว ปิดเลยก็ได้ แล้วเราก็เดินจากมา แอมป์บุ๊คพริกกำลังนั่งรถเมล์ตามมา เราเลยโทรไปบอกว่าไม่ทันแล้ว เสียเที่ยวเลยอ่ะ เสียใจจริงๆ ไม่เป็นไรค่อยไปเช่าพรุ่งนี้ก็ได้วะ

วันรุ่งขึ้นเป้นวันที่พวกเราจะออกเดินทาง เราจึงต้องไปเช่ารถแต่เช้าที่สนามบิน เนื่องจากมีหลายบริษัท คือถ้าพลาดจากบริษัทนี้ก็ไปบริษัทนู่น นั้น ต่อไปเรื่อยๆต้องได้ซักอันวะ เราก็จองบริษัทแรก ซึ่งไม่ได้อีก เพราะบัตรเราใช้ไม่ได้ คราวนี้ต้องใช้บัตรแอมป์ แต่บริษัทเดิมไม่ได้ เพราะชื่อคนจองกับบนบัตรต้องเป็นคนเดียวกัน เลยเปลี่ยนไปอีกบริษัท คราวนี้สำเร็จละ เฮ้อ ได้ไปเวกัสซะทีนะสี่สาว  (ส่วนผู้ชาย7คนที่เหลือ นั่งเกรฮาวด์กันไป คือจริงๆก็ดี แต่เสียเวลารอรถนาน พวกนั้นไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แล้วก็ไปถึงก่อนพวกเราไม่กี่ชั่วโมง)  เอารถมาได้เรากับแอมป์ก็ไปรับพริกกับบุ๊คที่บ้าน เตรียมสะเบียงระหว่างทาง จริงๆเป็นข้าวเช้าที่กินไม่หมด ใส่กล่องๆๆไปขนมนมเนยสารพัด เรียบร้อยก็ออกเดินทางเลยจ้า

ระหว่างทางก็แวะเติมน้ำมัน ที่นี่เป็นแบบเติมกันเองแล้วรูดบัตรเอาจ้า  เติมน้ำมันเสร็จก็เข้าห้องน้ำ ซื้อขนมกินกันอีก ถ่ายรูปเล่นนิดหน่อย แล้วก็ไปกันต่อ ระหว่างทางคือธรรมชาติมาก วิวสวยสุดๆ มีเป็นเขาบ้าง เป็นทะเลทรายบ้าง เป็นเหวข้างล่างมีแม่น้ำใสปิ้งบ้าง คือสวยมากจริงๆ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย ได้แต่เก็บภาพด้วยสายตา


พร้อม!!! ออกเดินทางได้


แวะปั๊มเติมน้ำมันหน่อย


ลมมันแรง!!


ต้นไม้เหมือนในเรื่องแรงโก้สุดๆ

เรื่องราวเวกัสของเรายังไม่จบเพียงเท่านี้ ยังมีเหตุการณ์ตื่นเต้นอีกอย่างแน่นอน ไว้มาเล่าต่อนะจ๊ะทุกคนนนนนนน
ขอบคุณที่อ่าน เป็นกำลังใจให้เราอยากเขียนต่อ
ขอบคุณค่าาาา

ปล. เม้นด่ากางเกงเราได้เลย ตามสบาย^^ ฮ่าๆ







Create Date : 13 กรกฎาคม 2558
Last Update : 3 กันยายน 2558 16:23:59 น.
Counter : 690 Pageviews.

2 comments
  
รออ่านค่ะน่าสนุกดี
โดย: Max Bulliboo วันที่: 14 กรกฎาคม 2558 เวลา:18:13:56 น.
  
อาเฮีย กะกางเกง ..!!!5555
โดย: Annie/fl IP: 192.99.14.36 วันที่: 8 กันยายน 2558 เวลา:1:44:56 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 2471828
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]