|
SlumdogMillionnaire ไม่ใช่อัจฉริยะ....ก็รู้ได้
ยอมรับว่าเพิ่งจะได้ดูหนังดีกรีออสการ์แรงเรื่องนี้เมื่อช่วงที่ผ่านมานี้เอง ทั้งๆที่ได้ทำความรู้จักผ่านหลายช่องทางมาพอสมควรแล้วกับหนังอินเดียกลิ่นฝรั่งเรื่องนี้ เรื่องราวที่ไม่น่าซับซ้อนจนต้องเร่งรอยหยักของสมองเพื่อรองรับการชมเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มชาวบุมไบผู้ได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขัน เกมส์เศรษฐีของอินเดีย ด้วยความที่เป็นเพียงเด็กที่โตมาในสลัม และหน้าที่การงานเพียงเด็กชงชาบริการพนักงานในศูนย์คอลเซนเตอร์ ทำให้เป็นที่น่าสงสัยว่า เหตุใดเด็กหนุ่มผู้นี้จึงสามารถฝ่าฟันการตอบคำถามมาได้จนกระทั่งถึง....ข้อสุดท้าย หนังได้ตัดสลับเรื่องราวในวัยเด็กของเด็กหนุ่มผูนี้ ไปพร้อมกับการตอบคำถาม ที่หลายคงคงสงสัยว่า เหตุใดเด็กสลัมจึงสามารถตอบคำถามบางคำถามได้ สุดท้ายประเด็นที่ทิ้งได้ดี และถูกใจผมที่สุดก็คือสิ่งที่หนังได้พูดเอาไว้และผมจะขอทึกทักสรุปเอาเองว่า
เรื่องบางเรื่อง...มันไม่จำเป็นต้องเป็นคนอัจฉริยะ เราก็สามารถรู้ได้ หากแต่ว่าเราเองนั้นจะเก็บเกี่ยวสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตเรา เอาไว้เพื่อเป็นคำตอบ ในการรอคำถาม ที่มันจะเข้ามาในอนาคตแล้ว...หรือยัง
 
Create Date : 23 ตุลาคม 2553 | | |
Last Update : 23 ตุลาคม 2553 13:49:22 น. |
Counter : 1051 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ขวัญ-เรียม ภาพยนตร์สะท้านใจคุณแม่
"เรียมเหลือทนแล้วนั่น...ขวัญของเรียม" บทเพลงอันคุ้นหู จากภาพยนตร์เรื่อง แผลเก่า ตำนานรักของไอ้ขวัญ กับ อีเรียม แต่ที่ผมจะเล่ามันไม่ได้เกี่ยวเลย
เรื่องมันก็คือ หนังเรื่องนี้ ถูกสร้างและออกฉายใหม่ในชื่อ ขวัญเรียม

ผมได้ชวนคุณแม่เข้าไปดู เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องราวที่ค้นเคยกันมาเพราะคุณแม่อาจจะชอบ(ปกติ แม่ชอบอยู่บ้าน ไม่ไปไหน) ก็เลยพาไปดูซะเลย เชื่อไหม จากวันที่ผมพาแม่ไปดูขวัญเรียม ในวันนั้น จนถึงวันนี้ ก็คงมากกว่า 3 ปีแล้วมั้ง แม่ผมไม่เคยลืมเลยเรื่องการดูหนังในวันนั้น
เพราะอะไรรู้ไหม คุณแม่ไม่ได้รู้สึกอินกับหนังนะ แต่เวลา ชวนคุณแม่ไปดูหนังที่ไร จะได้ประโยคนี้กลับมาทุกที
" ถ้าไอ้เรื่องที่ชวนไปดู มันมีคนทั้งโรงแค่ 4 คน มรึงไม่ต้องมาชวนกรูไปดูเด้อ"
Create Date : 12 มิถุนายน 2552 | | |
Last Update : 12 มิถุนายน 2552 16:51:45 น. |
Counter : 1064 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ปรากฏการณ์ "นางนาก" ถล่ม "Episode 1"
เป็นหนึ่งในปรากฏการการชมภาพยนตร์ในชีวิตผม ที่ทำให้ผมได้เห็นว่าหนังไทย ยังไม่ได้ถูกทอดทิ้งไปจากใจคนไทยจริงๆ
ย้อนไปเมื่อร่วม 10 ปี เห็นจะได้ ช่วงนั้นยังเป็นช่วงที่หนังถูกให้ปรับโปรแกรมเข้าวันพฤหัสในช่วงแรกๆ 2 โปรแกรม ที่ชนฉายกันในสุดสัปดาห์นั้น คือ ภาพยนตร์ไทย เรื่อง นางนาก กับ ปฐมบทแรกแห่งดวงดาว Starwars Episode 1
โรงหนังในจังหวัดผม ช่วงนั้นยังมีแค่ 2 โรง โดยอยู่ภายให้เครือข่ายธนาซินีเพล็กซ์ 1 โรงฉาย นางนาก
1 โรงฉาย Starwars
เช้าวันเสาร์ คิดและบอกตัวเองละ ว่าจะไปดูนางนาก ก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร ไปตามปกติ แต่พอมาถึงบันไดเลื่อนที่กำลังจะขึ้นมานี่สิ ชักยังงัยละ คนทำไมมาตอแถวอะไรกันหนักหนา ยาวมาจนถึงบันไดเลื่อน พอเดินเข้าไปดู
อ้าว เฮ้ย อะไรวะเนี่ย คนมารอซื้อตั๋วดูนางนากเยอะขนาดนี้เลยหรือวะเนี่ย
เป็น 1 ครั้ง ที่เกี่ยวกับความประทับใจของผม ที่ยังเห็นคนไทย มองเห็นหนังไทยอยู่
 
Create Date : 12 มิถุนายน 2552 | | |
Last Update : 12 มิถุนายน 2552 11:20:02 น. |
Counter : 934 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
"สติแตกสุดขั้วโลก" หนังเรื่องแรกที่ทำให้ผมต้องเสียน้ำตา
ในสมัยเด็ก วัยที่ม้วนวีดีโอ มีคุณค่าเทียบเท่ากับแผ่นบลูเรย์ ในยุคปัจจุบัน การที่จะได้ดูหนังแต่ละเรื่องนั้นล้วนเป็นเรื่องลำบากยิ่ง สวรรค์ปลายทางอันรำไรของเด็กน้อยคนหนึ่ง จึงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เสีย นอกจาก หนังกลางแปลง หนังกลางแปลง เป็นเหมือนสิ่งที่ช่วยจรรโลงใจให้เด็กน้อยคนหนึ่ง ซึ่งโอกาสในตอนนั้นที่จะได้ดูหนังจอใหญ่กับเขาสักทีล้วนยากยิ่ง เสียงเพลงที่เปิดเรียกคนในตอนหัวค่ำ เล่นเอาเราหัวใจตุ้มๆต่อมๆ ทุกที ด้วยเกรงว่าจะไม่ได้เห็นหนังตัวอย่างที่จะต้องฉายก่อนร่วมครึ่งชั่วโมง เพราะบางทีคนฉายหนังก็ชอบมาเทสฟิล์มในขณะเปิดเสียงหนัง ซึ่งภาพที่ได้ก็คือ ตัวภาพของหนังจะดำเนินไป ควบคู่กับเพลงที่กำลังเปิด(ซึ่งเป็นเพลงลูกทุ่งเสียด้วย) เล่นเอาเด็กน้อยอย่างผม เทียวขี่จักรยานไปมาระหว่างจอหนัง กับ บ้าน เป็นประจำร่วม 3 ชั่วโมงก่อนที่หนังฉายจริง วันนั้น มีหนังกลางแปลง 3 จอใหญ่ ฉายชนกัน ห่างจากบ้านผมไปประมาณร่วม 3 กิโล ซึ่งด้วยในวัยตอนนั้น ทางเดียวที่จะไปได้ก็คือ ให้พ่อกับแม่พาไป พอไปถึง สุดยอด หนังกลางแปลง 3 จอ เรียงติดกัน ฉายจอละ 3 เรื่อง ตัวผมรีบไปสำรวจยังกล่องฟิล์มหนังเสร็จสรรพ อะไรบ้างไม่รู้ แต่ที่จำได้แม่นสุดคือ หนึ่งในนั้น มีหนังเรื่อง "สติแตก สุดขั้วโลก" ที่มีคิวฉายอยู่ด้วยในหนึ่งจอนั้น ตอนนั้น หนังเรื่องนี้ ดังถึงขั้นที่ว่า ผมเห็นโฆษณาหรืออะไรไม่ได้ ต้องเกิดอาการอยากดูทุกที ด้วยทั้งที่ตัวเองยังไม่สามรถที่จะดำเนินการอะไรได้ด้วยตัวเองในวัยนัน จึงเป็นเรื่องน่าดีใจยิ่ง ว่าสิ่งที่ผมต้องการพบเจอได้มากองอยู่ตรงหน้า แต่ เวลาคือปัจจัยสำคัญ เพราะหนังเรื่องนี้ถูกวางคิวฉายไว้เรื่องสุดท้าย ถ้าหนังเริ่ม 3 ทุ่ม ผมจะได้ดูหนังเรื่องนี้ ตอนตี 1 แล้วพ่อกับแม่ผมจะยอมหรือ
สุดท้าย มันก็จบลงที่การได้ดูหนังเรื่องเดียว แล้วกลับบ้านพร้อมพ่อแม่ ตอน 5 ทุ่ม เพราะว่าพ่อแม่ต้องไปทำนาแต่เช้า แต่สิ่งที่ผม จำได้และจดจำมาตลอดเส้นทางการเดินทางกลับบ้านร่วม 3 กิโลเมตร คือ สภาพของเด็กน้อย ที่ร้องให้ปริ่มจะขาดใจ ที่ไม่มีโอกาสได้ดูหนัง ที่ตัวเองต้องการดูที่สุดในชีวิตช่วงเวลานั้น
Create Date : 11 มิถุนายน 2552 | | |
Last Update : 12 มิถุนายน 2552 7:28:15 น. |
Counter : 2785 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|