นอกจากเรื่องของเมคอัพและสกินแคร์แล้ว สาวๆเราสมัยนี้ยังคงชอบในเรื่องของอาหารผิวหรือว่า
อาหารเสริมที่เป็นตัวช่วยให้ทั้งหุ่นและผิวของเราดูสวยงามถือว่าเป็นตัวช่วยเสริมให้เราดูดีขึ้นมา
นอกเหนือกจากการทานอาหารที่มีประโยชน์
ทั้งนี้ทั้งนั้นอาหารเสริมส่วนมากก็จะหนีไม่พ้นในเรื่องของการทานแล้วทำให้ผิวขาวทานแล้วทำให้หุ่นดี ผอมลง
ซึ่งตอนนี้ก็ถือว่ากำลังเป็นที่นิยมสำหรับสาวๆรุ่นเราซึ่งหลายๆแบรนด์ก็ทำออกมาค่อนข้างเยอะ
วันนี้บุ้งจะมาแนะนำอีกแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือในเรื่องของความปลอดภัยและผลที่ได้รับ
จากโรงพยาบาลชื่อดังด้านสุขภาพและความงาม โรงพยาบาลยันฮีนั่นเองค่ะ
ตัวแรกที่บุ้งจะพรีวิววันนี้คือยันฮี กลูต้าพลัส (Gluta Plus)ตัวนี้บุ้งได้ลองกับตัวเอง
เดี๋ยวเรามาดูกันว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง
ยันฮีกลูต้าพลัส (Gluta Plus)
เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยในเรื่องของผิว
ข้อมูลสำคัญของกลูต้าพลัสที่แบรนด์เครมไว้คือ
1 กล่องจะมีอยู่3 ซอง
ซองนึงจะมีอยู่ 7แคปซูล
ราคา 99 บาท / ซอง
1ซองมี 7 เม็ด = 4000 mg/ซอง และมี 571.42mg/แคปซูล
เลขที่ใบรับแจ้ง12-1-48441-1-0103
มีส่วนผสมที่สำคัญคือ
แอล-กลูตาไทโอน250 มก. ,แมกนีเซียม , แอล-ซีสเตอีน , วิตามินซี , นิโคทินาไมด์,
วิตามินอี, วิตามิน บี6 , วิตามินบี1 และ กรดโฟลิค
ทั้งกล่องและซองด้านในจะมีบอกข้อมูลทั้งส่วนผสม วิธีรับประทาน รวมไปถึงวันหมดอายุบอกไว้
ครบถ้วนถ้าผิดไปจากนี้คือของเลียนแบบนะจ๊ะ
กลูต้าไธโอนเป็น tripeptides ของกรดอะมิโน 3 ตัว คือ ซิสทีน (cysteine), กรดกลูตามิค (glutamicacid) และไกลซีน (glycine)
ซึ่งร่างกายสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติและมีในอาหาร เช่น นม ไข่ ผลอะโวคาโด สตรอเบอร์รี มะเขือเทศ ผักบรอคโคลีส้มเกรปฟรุต และผักโขม
เป็นโปรตีนชนิดละลายน้ำได้เป็นสาระสำคัญที่ร่างกายสร้างขึ้น ดังนั้นการรับประทานกลูต้าไธโอน
จึงเป็นการรับประทานโปรตีนเพิ่มเติมในสิ่งที่ร่างกายมีอยู่แล้วแต่ไม่เพียงพอ
ดังนั้นผลที่ได้รับจากการกูลต้าคือช่วยให้ผิวดูขาวขึ้น ลดริ้วรอยจุดด่างดำ ป้องกันสิว
และริ้วรอยดำจากสิวและทำให้ผิวเนียนใสและเปล่งประกาย
ซองกลูต้าพลัสจะเป็นซองทึบมีซิบล็อคป้องกันอากาศเข้าได้เป็นอย่างดี
1ซองจะมีอยู่ 7 แคปซูล
วิธีรับประทาน: ทานหลังอาหาร วันละ 1 แคปซูล
จะถูกบรรจุอยู่ในรูปแบบของแคปซูลสีขาวค่ะ
วิธีการทานกูลต้าให้ได้ผลง่ายๆเลยคือการทานหลังอาหารมื้อไหนก็ได้ประมาณ30 นาทีค่ะ
ควรที่จะทานต่อเนื่องเป็นระยะยาว อย่างน้อย 2 เดือนขึ้นไปและควรรับประทานอาหารเสริมอื่นๆ
เช่น วิตามินซี ควบคู่กันไปด้วยจะช่วยให้ดูดซึมง่ายขึ้น และเห็นผลมากขึ้น
สำหรับบุ้งได้ลองตัวนี้ประมาณเกือบ 2 สัปดาห์ได้ค่ะทำให้ผลออกมาตอนนี้ก็เลยยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร
ยังบอกไม่ได้ว่าขาวหรือไม่แต่ลองทานแล้วไม่มีผลข้างเคียงหรือว่าเอฟเฟคใดๆ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
เหมือนการทานวิตามินซีทั่วไปเลย ไม่มีกลิ่นทานง่ายเหมือนกับทานยาแคปซูลทั่วไปค่ะ
มาถึงอาหารเสริมอีกตัวของโรงพยาบาลยันฮีที่บุ้งหยิบมาแนะนำให้ฟังกันในวันนี้ค่ะ
ยันฮีคาร์นิทีนพลัส (YANHEE CARNITINE PLUS)
แอล-คาร์นิทีนแอล-ทาเทรท ผสมสารสกัดจากเมล็ดกาแฟไม่คั่วและผงผักบุ้ง
อาหารเสริมแอลคาร์นิทีน(L-Carnitine) จะเป็นตัวช่วยในเรื่องของการเพิ่มการเผาผลาญไขมันให้
เป็นพลังงานและช่วยการสร้างมวลกล้ามเนื้อ ทำให้น้ำหนักลด กล้ามเนื้อฟิตกระชับรูปร่าง
ได้สัดส่วนสวยงาม ช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายแข็งแรง และสดชื่นกระฉับกระเฉง
ส่วนประกอบของยันฮี คาร์นิทีนพลัส ใน1 เม็ด ประกอบด้วย
แอล-คาร์นิทีนแอล-ทาเทรท 500 มก.
สารสกัดจากเมล็ดกาแฟไม่คั่ว 150 มก.
ผงผักบุ้ง 100 มก.
1กล่อง มี 3 ซอง ราคาซองละ 99 บาท
อาหารเสริมของยันฮีจะมีบอกส่วนผสมวิธีรับประทานและอื่นๆมาครบถ้วน ทั้งกล่องและซองด้านในค่ะ
แอลคาร์นิทีน(L-Carnitine) เป็นชื่อกรดอะมิโน 1ในจำนวน 20 ชนิดที่มีโมเลกุลที่เล็กที่สุด
ของสารอาหารจำพวกโปรตีนสามารถไปผลิตได้ที่ตับ โดยปกติแล้วจะพบในสัตว์เนื้อแดงชนิดต่างๆโดยเฉพาะในส่วนกล้ามเนื้อลายจะมากเป็นพิเศษ
พูดกันง่ายๆเลย หน้าที่หลักของแอลคาร์นิทีน จะไปช่วยให้เกิดการนำไขมันไปเปลี่ยนเป็นพลังงานนั่นเองค่ะ
ปกติแล้วแอลคาร์นิทีนในร่างกายของเราสามารถสร้างขึ้นได้เองประมาณ10 % ต่อวัน
ของปริมาณที่ร่างกายเราต้องการ ถ้าหากร่างกายเราขาดสารตัวนี้หรือมีไม่เพียงงพอ
ก็อาจจะทำให้ มีปัญหาสุขภาพอันเนื่องมาจากไขมันสะสม อ้วนการสะสมของไขมันตามหลอดเลือด ไขมันในเลือดสูง
ความดันโลหิตสูงตามมาได้มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแขนขา อ่อนเพลีย และอาจจะเกิดอาหารซึมและเหนื่อยง่าย
ที่เค้าบอกว่าเป็น3 in 1 ก็เพราะว่านอกจากจะมี แอลคาร์นิทีนแล้วยังมีส่วนประกอบที่ช่วยเรื่องของ
การเผาพลาญไขมันอีกสองตัวคือGreen Coffee Bean Extract (สารสกัดจากเมล็ดกาแฟสดไม่คั่ว)
และ Watermorning glory (ผงผักบุ้ง)
สารสกัดจากเมล็ดกาแฟสดไม่คั่วจะไม่ผ่านความร้อน ไม่มีคาเฟอีนและไม่รบกวนการทำงานของหัวใจ
เป็นเมล็ดกาแฟเขียวอะราบิก้าที่ไม่ผ่านการคั่ว เค้าจะนำมาสกัดให้ได้สารสำคัญคือ คลอโรจินิก แอซิดจะช่วยในเรื่องของ
วิธีรับประทาน: วันละ 1 เม็ดหลังอาหาร
ลักษณะของเม็ดจะเป็นสีเหลืองขนาดเท่ากับยาลดอาการปวดประจำเดือนที่เราทานบ่อยๆเลย
ส่วนตัวบุ้งยังไม่ได้ลองทานตัวนี้ค่ะเพราะจะเห็นได้ว่าบุ้งผอมอยู่แล้ว น้ำหนักตอนนี้ยังคงที่อยู่ที่ 42
ถ้าทานไปอาจจะเหลือแต่กระดูกเลยก็ว่าได้ ฮ่าๆถือว่าเป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์ให้สาวๆเอาไปคิดเป็นตัวเลือกแล้วกันนะคะ
ตัวนี้ไม่ได้มีแค่แอลคาร์นิทีนเพียงอย่างเดียวแต่ยังมีส่วนประกอบของสารสกัดจากเมล็ดกาแฟสดไม่คั่วและผงผักบุ้ง
ที่จะมาเป็นตัวช่วยในเรื่องของการเผาพลาญไขมัน เพราะเค้าได้มีการศึกษามาแล้วว่าผู้ที่กินอาหารเสริมลดความอ้วนจากสารสกัดเมล็ดกาแฟเขียว
โดยไม่ได้ออกกำลังกาย ไม่ได้ควบคุมอาหาร ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ
ผลคือสามารถลดน้ำหนักได้ 10.5% ของน้ำหนักตัว ภายใน 4 เดือน***จากสมาคมเคมีอเมริกันที่ซานดิเอโก***
ก็ถือว่าเป็นอีกตัวที่น่าสนใจแต่อย่างไรก็ตามการทานอาหารเสริมจำพวกนี้ถ้าจะให้ได้ผลที่ดี
เราควรควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย เพราะนอกจากน้ำหนักจะลดลงแล้ว
ร่างกายของเรายังมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมีประโยชน์ทั้งภายในและภายนอกต่อตัวเราทั้งนั้นเลยค่ะ
ยันฮี กลูต้าพลัส (Gluta Plus) และ ยันฮี คาร์นิทีนพลัส (CarniteenPlus)ก็ถือว่าเป็นอาหาร-เสริมที่ราคาไม่แพง
หาซื้อได้ง่าย ที่ 7-11 , 7-catalog , Home Fresh Mart
หรือสามารถสั่งได้ผ่าน www.medocine.co.th ได้เลยค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติมwww.faceebook.com/creamyanhee
**การเลือกทานอาหารเสริมเราควรศึกษาขอมูลของผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อน ดูฉลาก ดูอย.ให้
แน่ใจก่อนที่จะทานยิ่งถ้าเป็นตัวที่ช่วยลดความอ้วนด้วยแล้วสาวๆควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อนเลือกทานนะคะ ***
สำหรับวันนี้ไปแล้วค่ะบ๊ายบาย เจอกันบล็อกหน้าค่า
Disclaimer: Sponsored by ยันฮี