 |
 |
 |
 |
 |
|
 |
 |
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
 |
12 ธันวาคม 2550 |
|
 |
 |
|
 |
|
|
|
 |
 |
 |
 |
|
 |
 |
 |
 |
|
หมออยากเล่า ตอน ใครว่าเรื่องสิวๆ
บางคนมีเรื่องที่คิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆไม่สำคัญ เรามักจะพูดว่าเรื่องสิวๆ แต่จริงๆสำหรับหลายคนเรื่องสิวไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ทำให้ขาดความมั่นใจ กังวล หรือ เครียดและมีผลต่อบุคลิกภาพได้ค่ะ คนเป็นสิวมักสงสัยว่าทำไมเราถึงเป็นสิว เพื่อที่จะหาทางแก้ได้ถูกต้อง
คนไข้มักถามว่า "ทำไมหนูถึงเป็นสิวคะ ไม่ทราบแพ้อะไร" "ทำไมพี่ถึงเป็นสิวคะ พี่อายุตั้ง 40 กว่าแล้วค่ะ" หมอขอตอบว่าการเป็นสิวส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการแพ้นะคะ และคนที่เป็นสิวง่ายอาจมีสิวได้จนหมดประจำเดือนเลยค่ะ(คิดในแง่ดี คือคนเป็นสิวยังเป็นสาวอยู่) ในช่วงใกล้หมดประจำเดือนบางคนมีสิวขึ้นมากผิดปกติทั้งๆที่หายไปนานแล้วเป็นเพราะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนก่อนหมดประจำเดือน กลไกการเกิดสิวอธิบายง่ายๆ คือ 1. อุดตัน การอุดตันมักเกิดจากการใช้เครื่องสำอางโดยเฉพาะ make up แล้วทำความสะอาดไม่หมด บางคนเล่นกีฬาเกิดการอุดตันจากไขมันรวมทั้งสิ่งสกปรกบนใบหน้า แต่หลายคนถามว่าทำไมเพื่อนบางคนแต่งหน้า หรือ เล่นกีฬาทำไมไม่เป็นสิว หมอขออธิบายว่าผิวแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ บางคนมีการผลัดเซลล์ของผิวหนังผิดปกติ รวมทั้งต่อมไขมันสร้างไขมันเพิ่มขึ้น โดยเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนทำให้เกิดการอุดตันได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ความเครียด การนอนดึก อาหารและยาบางชนิดทำให้การผลัดเซลล์และฮอร์โมนผิดปกติไปจึงกระตุ้นให้เกิดสิวขึ้น 2. ติดเชื้อ และอักเสบ เกิดจากการเป็นสิวอุดตันก่อน แล้วมีการติดเชื้อจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ที่ผิวหนัง หรือในรูขุมขนตามมา ทำให้เกิดการอักเสบ การบีบหรือแกะสิวช่วยกระตุ้นให้สิวอุดตันเกิดการอักเสบได้มากขึ้น เคล็ดลับการรักษาสิว
1. การป้องกันและรักษาโดยทั่วไป ได้แก่ - การล้างหน้าและทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี
- ทานผัก ผลไม้และเลี่ยงอาหารพวกไขมัน แป้ง น้ำตาล
2. การรักษาโดยใช้ยา - การใช้ยาทาหรือเวชสำอาง ได้ผลกับสิวที่เป็นไม่มาก ได้แก่
clindamycin lotion มีฤทธ์ฆ่าเชื้อ ลดอักเสบ benzoyl peroxide มีฤทธ์ฆ่าเชื้อ ลดอักเสบ ลดอุดตัน vit A ช่วยผลัดเซลล์ ลดอุดตัน ยาสมุนไพรและน้ำมันหอมระเหยมีฤทธ์ฆ่าเชื้อ ลดอักเสบ - การใช้ยารับประทาน เช่น ยาแก้อักเสบ ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ และยากลุ่ม vit A ชนิดรับประทาน ได้แก่ Roaccutane
3. การกดสิว เป็นการเอาหัวสิวที่อุดตันออก 4. การฉีดสิว เป็นการฉีดสารสเตียรอยด์เข้าในสิว เพื่อลดการอักเสบ 5. การใช้น้ำยา TCA ที่มีฤทธ์เป็นกรด ทำให้หัวสิวแห้ง เป็นสะเก็ด แล้วหลุดออก ได้ผลดีแต่ในสิวอุดตันเล็กๆ
6. การใช้เลเซอร์รักษาสิว แบ่งเป็น
- การใช้เลเซอร์จี้เปิดหัวสิว วิธีนี้อาจทิ้งรอยดำและแผลเป็น
- การใช้เลเซอร์ช่วยลดการอักเสบ รอยแดง ฆ่าเชื้อ วิธีนี้ต้องทำหลายๆครั้ง ได้แก่ blue light, IPL, V beam , Smooth beam ,Ndyag เป็นต้น
เล่าชื่อยาและเครื่องมือมากๆ ปวดหัวหรือยังคะ จบก่อนดีกว่า เจอกันใหม่ครั้งหน้า--ต้นเดือนเมษายน2551--นานหน่อยนะคะ ติดภารกิจค่ะ หมอหนึ่ง


Create Date : 12 ธันวาคม 2550 |
|
4 comments |
Last Update : 12 ธันวาคม 2550 13:32:28 น. |
Counter : 8482 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: นู๋ ม. 12 ธันวาคม 2550 19:00:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: Meow~Mu 13 ธันวาคม 2550 12:20:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมูน้อย (magicaldogg ) 24 ธันวาคม 2550 20:31:26 น. |
|
|
|
| |
|
|
 |
 |
 |
 |
|
|
กำลังกิน acnotin อยู่ค่ะ