ตื่นแต่เช้าแล้วรีบออกมาเที่ยวเก็บตกลูเบียน่า เช้านี้อากาศหนาวจัง




ผ่านโบสถ์ Cathedral of St Nicholas มีตั้งแต่ศตวรรษที่13


ประตูโบสถ์บรอนซ์ถูกเพิ่มเข้าไปในปี1996 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการมาเยือนของโป๊ป John Paul II


เดินเล่นจน 10 โมง Funicular เปิดทำการซะที เราขึ้นรถ Funicular
ไปยัง Castle hill กัน


Castle Hill เรามีเวลาไม่พอเลยอยู่แต่ข้างนอก


วิวจาก Castle Hill


แวะตลาดกลางแจ้งก่อนออกเดินทางต่อ สตรอเบอร์รีลูกใหญ่น่ากินมาก
ราคาไม่แพงด้วย


จากลูเบียน่า เราขับรถใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ก็ถึงถ้ำ Postojna หนึ่งในถ้ำหินงอกหินย้อยที่ใหญ่ที่สุดในโลก
และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของสโลเวเนียด้วย
เราซื้อตั๋วรวมดูเจ้าตัว human fish ราคา 27.9 Euro เดือนเมษายนทัวร์มีรอบทุก 2 ชม.ตั้งแต่ 10 โมงไปจนถึงบ่าย 4 ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งในการสำรวจถ้ำระยะทาง 5.7 กม. แต่ดีที่มีรถไฟภายในถ้ำ เหลือเดินจริงๆประมาณ 1-2 กม.ภายในถ้าอากาศเย็นและชื้นมาก ควรเตรียมเสื้อหนาวและรองเท้าดีๆไปด้วย


เห็นทางเข้าแล้วก็แอบคิดว่าถ้ำเนี้ยหรอใหญ่ที่สุดในสโลเวเนีย
แต่พอเข้าไปนี่โอ้วววว ยกให้เป็นอภิมหาถ้ำเลย คือมันทั้งกว้างทั้งลึกทั้งชัน


รถไฟภายในถ้ำ จริงๆก็วิ่งเร็วอยู่นะ แต่เราว่าก็เกือบครึ่งชม.ได้กว่าจะถึงกลางถ้ำ เวลาวิ่งผ่านโขดหินงอกหินย้อยก็แอบเสียวหัวนิดหน่อยแต่ก็สนุกดี






ยังกะเทียนไข










ชม.ครึ่งผ่านไปเร็วมาก ทัวร์จบพร้อมกับความตื่นตะลึงในธรรมชาติ เคยได้ยินว่าหินย้อย 1 มม.ใช้เวลาตั้ง 30 ปี ถ้ำนี้ต้องมีอายุเป็นล้านๆปีเลยนะเนี่ย
ตั๋วของเรารวมค่าเข้า Proteus Vivarium เพื่อดูสิ่งมีชีวิตที่พบได้ในถ้ำ Postojna รวมทั้ง human fish หรือ Proteus หน้าตาคล้ายปลาไหลผสมงูบวกจิ้งจกแต่มีสี่ขา เป็นสัตว์ตาบอดแต่ที่จริงถ้ำมันก็มืดอยู่แล้วน่ะนะ แล้วเจ้าตัวนี้มันยังสามารถอยู่ได้เป็นสิบปีโดยไม่กินอะไรเลย   

ถ่ายจากภาพถ่าย


ถ่ายจากของจริง (หยึยมาก ถ่ายรูปไปขนลุกไป)


เอิ่มมมม!!!


ออกจาก Postojna cave ขับรถไปหน่อยเดียวก็ถึง Predjama Castle สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1274 ในช่วงศตวรรษที่ 15 ปราสาทเป็นที่พำนักของทหารเอก Knight Erazem Lueger เขามักจะโขมยของคนรวยไปแจกคนจนประมาณโรบินฮูด ช่วงสงครามระหว่างออสเตรียกับฮังการี Erazem สนับสนุนฝ่ายฮังกาเรียนและได้ใช้ปราสาทนี้เป็นฐานต่อสู้ หลังจากต่อสู้กันได้ซักพักปราสาท Predjama ก็โดนยึดปิดล้อมทางเข้าออกปราสาท แต่ Erazem ก็สามารถอยู่รอดได้ถึงหนึ่งปีโดยได้รับการส่งเสบียงอาหาร จากทางลับทางถ้ำโพสทอยน่า แถมฮียังกวนทหารฝ่ายตรงข้ามโดยการโยนเชอร์รี่ใส่จากปราสาทเป็นการเยาะเย้ย  แต่ฝ่ายออสเตรียนหัวเราะทีหลังดังกว่า Erazemถูกโจมตีโดยปืนหินขณะที่เข้าห้องน้ำที่ชั้นบนสุดของปราสาท   






จากนั้นเราก็มุ่งหน้าต่อไปยังเมือง Piran เมืองทางออกทะเลที่สำคัญของสโลเวเนียซึ่งมีชายฝั่งเพียง 47 กม. เท่านั้น เมืองนี้ถูกปกครองโดยชาวเวเนเชี่ยนมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 13 เป็นเวลา 500 ปี
สถาปัตยกรรมจึงได้รับอิทธิพลจากเวนิส

เนื่องจากว่าไม่มีที่จอดรถในย่าน old town และถนนในเมืองก็แคบแถมผู้คนเดินกันให้ควั่กทำให้การจอดแปะแบบบ้านเรายากอยู่ การเอากระเป๋าลงจากรถก็เลยแอบวุ่นวายไม่ใช่เล่น เราพักที่โรงแรม Hotel Tartini ตั้งอยู่ตรงจตุรัส Tartinijev Trg เลย โรงแรมดูเก่าอยู่สักหน่อยแต่ก็ถือว่าเป็นการแลกกับวิวสวยที่ได้จากที่พัก



หลังจาก check-in เราย้ายรถไปจอดบนตึกจอดรถที่ห่างจากตัวเมือง old town นิดหน่อย แล้วค่อยนั่งรถเมล์ฟรีกลับเข้ามาเที่ยว เริ่มจากจตุรัสที่โรงแรมเราตั้งอยู่นั่นแหละ


บ้านเมืองสีลูกกวาดน่ารักมากเลย มีอนุสาวรีย์ Giuseppe Tartini นักประพันธ์เพลงและนักไวโอลินคนสำคัญของเมืองนี้


Municipal Hall


บ้านสไตล์เวเนเชี่ยน สร้างในศตวรรษ15 พ่อค้าผู้ร่ำรวยชาวเวนิสมอบเป็นของขวัญให้แก่ภริยา(น้อย)ชาวเมือง Piran หลังจากที่เธอโดนชาวบ้านเมาท์กระจาย สังเกตุดูจะมีป้ายภาษาละตินสลักว่า Lassa pur dir แปลว่า "Let them talk"  จุดนี้ชาวบ้านก็คงเงิบกันไป




รู้สึกเหมือนเดินอยู่อิตาลีเลย




เดินขึ้นไปแถวโบสถ์ Cathedrar of St George ชมวิวเมือง Piran จากมุมสูง


Punta Lighthouse อยู่ตรงจุดแหลมสุดของเมือง Piran


cisten สร้างปลายศตวรรษที่18 เพื่อใช้เป็นที่เก็บน้ำ


กินข้าวเย็นพักเหนื่อยก่อนดีกว่า วันนี้เดินเยอะตั้งแต่ที่ถ้ำแล้ว


เรากินมื้อย็นที่ Riva Piran อาหารอร่อยดี วิวสวยติดทะเล แต่นั่งไปเรื่อยๆชักจะหนาวแฮะ






อิ่มละเดินต่อ สังเกตบ้านแถวนั้นอยู่ดีๆก็พากันเอาถุงขยะมาวางหน้าบ้าน เดินๆไปถึงได้เห็นรถเก็บขยะคันจิ๋วของเมืองกำลังวิ่งทะลุซอยจิ๋วเก็บขยะทีละบ้าน ซอยแคบขนาดนี้ก็ยังวิ่งผ่านได้เนอะ


เดินกลับไปแถวโบสถ์ Cathedral of St George อีกครั้งเพื่อชมวิวยามค่ำคืน สวยไม่แพ้กลางวันเลย


Bell Tower สร้างปี 1609 ตามแบบที่เมืองเวนิสเลย 








ไอติมก่อนนอน ไม่อ้วนให้มันรู้ไป


คืนนี้ส่งท้ายด้วยวิวจตุรัสค่ะ