กรกฏาคม 2557

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
Solo Driving in Colorado, USA ตอนที่ 7 : Self Drive Day 4-5


กลับมาเขียนต่อตอนสุดท้าย หลังจากห่างหายไปนานจากตอนที่แล้ว
ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา อันตี้ได้มีโอกาสเดินทางไปอีกหลายแห่ง เอาไว้ จะมาเล่าในโอกาสต่อๆไปนะค้าา

วันนี้เรามาต่อที่การขับรถเที่ยวในรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกาต่อนะคะ 
วันที่ 4 ของการขับรถเที่ยวเอง ตื่นเช้ามาอากาศสดใสมาก โรงแรมที่พัก ดูไม่ค่อยมีคน หรือเขาจะออกไปกันแต่เช้าแล้วก็ไม่รู้  อันตี้เอาชิลๆ สบายๆ เลยตื่นแต่พอดี ไม่เช้าจนเกินไป แต่ก็ไม่สายมากสัก 8:30 เข้าไปห้องอาหาร ไม่มีคนเลย เราก็เลยกินเองสบายๆ อากาศยังเย็นอยู่เหมือนเดิม ประมาณ 23 องศาฟาเรนไฮด์ หรือ -5 เซลเซียส (แค่นั้นเอง... ><) 



แผนการเดินทางวันนี้ กะว่าจะขับไปตาม Route 24 (Midland Expressway) ไปทางตะวันออก มุ่งหน้าสู่ Colorado Springs แต่ตั้งใจว่าคงพักที่เมืองเล็กๆก่อนถึง เพื่อที่ราคาโรงแรมจะได้ไม่สูงมาก เพราะเมืองใหญ่ ค่าที่พักคงจะแพงกว่า ชื่อเมืองที่เล็งไว้คือ Manitou Springs




ระหว่างทางที่ขับรถก็จะแวะเที่ยวไปเรื่อยๆ 
เส้นทางที่ขับไปนั้นก็จะมีหิมะปกคลุมเป็นประปราย ได้ผ่าน Wilkerson Pass (เข้าใจว่าคำว่า pass หมายถึงช่วงถนน ที่เขาบอกว่า เป็น scenic route จะสวยงาม ขับรถชมจนเพลินไปตลอดทางด้วยธรรมชาติ ซึ่งช่วงนี้ก็จะเป็นหิมะเกาะบนต้นไม้และหิมะขาวปกคลุมเนินเขาซะเป็นส่วนใหญ่) และ Lake George ซึ่งก็ยังเป็นน้ำแข็งอยู่

มีบางช่วงก็จะมีสัตว์ป่าออกมาโชว์ตัวให้เราเห็นเป็นครั้งคราว รู้สึกอยู่กับธรรมชาติดีมากเลย







จุดท่องเที่ยวแรกที่ขับแวะไปถึงช่วงใกล้เที่ยงพอดีคือ Cripple Creek ซึ่งเป็นเมืองที่มีการทำเหมืองทองในอดีต ปัจจุบันเป็นเมืองเล็กๆ ประชากรไม่มาก ก่อนจะเข้าไปในเมืองก็เลยแวะ พิพิธภัณฑ์ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินก่อน (เมือง Cripple Creek จะต้องขับลงจากเนินไปในหุบเขา ซึ่ง Expressway ที่เราใช้จะตัดผ่านอยู่ด้านบนภูเขา) 

คนเข้ามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์น้อยดี เพราะคงไม่ใช่หน้าท่องเที่ยวของเขา เราก็เดินดูไปเรื่อยๆ จะเห็นว่าที่ Colorado นี้มียอดเขาหลายแห่ง ที่โด่งดังและอยู่ใกล้บริเวณนี้คือ Pike Peak ซึ่งได้ยินว่าเป็นการขับรถขึ้นบนเขาที่สูงมากและสวยงาม แต่คนที่พิพิธภัณฑ์บอกเราว่า ช่วงนี้หิมะยังปกคลุมถนนเยอะอยู่ การขับรถอาจลื่นและเป็นอันตรายได้ถ้าเราไม่ชำนาญ อันตี้เลยตัดสินใจว่าคงไม่ไปดีกว่าเพื่อความปลอดภัย งวดนี้ก็เลยอด...









หลังจากชมพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้ว ก็ขับรถเข้าไปในเมือง Cripple Creek เป็นเมืองเล็กๆ พอดีเห็นชาวเมืองกำลังเตรียมงานที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ เป็นงาน สลักก้อนน้ำแข็งโชว์ เสียดายที่เรามาเร็วไปวันนึง ได้แต่เห็นเขาเตรียมการ แต่ระหว่างที่เดินชมเมืองนั้น ลมหนาวก็พัดมาเป็นระยะๆ จนเริ่มทนไม่ไหว ประจวบกับเป็นเวลาเที่ยงพอดี ก็เลยเดินเข้าไปในร้านอาหารร้านนึง (กว่าจะเจอร้าน หาอยู่นานมาก) สั่งเป็นคลับแซนวิชมากินประทังหิว แล้วค่อยออกมาเดินเที่ยวต่อ 





เดินในเมืองอีกแป๊ปนึงก็ไม่มีอะไรดูละ ก็เลยขับรถขึ้นมา Route 24 เพื่อเดินทางต่อไป



จุดหมายต่อไปก็ Cave of Winds ต้องซื้อทัวร์ มี guide เดินนำลงไปที่ด้านล่าง พาเดินเข้าไปในถ้ำ เย็นๆ ชื้นๆ มืดๆ ประมาณ 45 นาที แล้วก็กลับขึ้นมา ถามว่าสวยไหม ก็เฉยๆนะ ประวัติของถ้ำนี้เขาบอกว่า มี 2 พี่น้องชื่อว่า John และ George Pickett เจอทางเข้าถ้ำ แล้วเมื่อจุดไฟ ก็มีลมพัดมาเป่าไฟนั้นดับ ทั้ง2 จึงเดินไปตามทางลมนั้นแล้วก็ค้นพบถ้ำแห่งนี้ขึ้นมา ด้านในถ้ำก็มีพวกหินย้อยต่างๆ ซึ่งเก็บรักษารูปเดิมไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวไปแวะชม 



นี่คือทางเข้าถ้ำที่เป็น original แต่ปัจจุบัน Guide tour จะเข้าอีกทางนึงที่ทำไว้เรียบร้อย เดินลงไปง่ายกว่า






เมื่อชมที่นี่เสร็จ อันตี้ก็ขับรถต่อไป จุดแวะชมต่อมาคือ Garden of Gods ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมือง Manitou Springs ละ ขับรถเข้าไปตามทางก็จะมีจุดจอดให้ลงไปถ่ายรูปเป็นระยะๆ ลักษณะหิน เป็นสีแดงๆ รูปทรงต่างๆ คล้ายๆกับที่ไปมาที่ Arch National Park ที่ Utah เมื่อช่วงแรกๆ แต่ที่นี่เล็กกว่ามาก เทียบไม่ได้กับที่ Utah เลย 









เดินเล่นขับรถเล่นใน Garden of Gods จนเริ่มจะเย็น ก็เลยขับเข้าเมือง แวะซื้อของกินที่ super แล้วก็ขับหาโรงแรมพัก เช่นเคย ตอนแรกจะพัก Best Western ปรากฎว่าปิด เอาละสิ ทีนี้จะพักที่ไหนดีละ ก็เลยขับไปตามถนน (โดยปกติโรงแรมที่พักจะอยู่ 2 ข้างทางของถนน) ก็ไปเจอโรงแรมนึง ดูน่าจะโอ ก็เลยเข้าไปถามราคา และตกลงเช่าพัก 1 คืน ด้วยความที่เป็นเมืองเล็ก และเราไม่คุ้นโรงแรมนี้ ขนกระเป๋าเข้าห้องเสร็จก็ปิด lock ทันที และเอาเก้าอี้มายันประตูไว้ ไม่รู้ละ กันไว้ก่อน ก็เราเดินทางผู้หญิงคนเดียวนี่นา ก็ต้องระวังตัวกันบ้าง สักพักก็มีคนมาเคาะประตูห้อง เราก็..เฮ้ย ปกติไม่น่าจะมีการมาเคาะประตูนะ เราก็ถาม "who is this?" คนข้างนอกก็ตะโกนถาม "do you know where is the receptionist" เราก็ตะโกนบอก "nop..sorry" คนนั้นก็เงียบไป สักพักก็ได้ยินเสียงรถขับออกไป เฮ้ออออ ตกใจหมดเลย แต่ก็ไม่มีอะไร คงเป็นคนที่มาหาที่พักเหมือนเรา แล้วอีตา receptionist ก็หายไปไหนไม่รู้ แต่ช่างเถอะ เราก็กินอาหารเย็นที่เราไปซื้อมาจากซูเปอร์ เสร็จแล้วก็รีบเข้านอน



เช้าวันรุ่งขึ้นก็เก็บของขึ้นรถ ขับเข้า Colorado Springs ขับวนๆดูเมือง แวะลงไปว่าจะเดินเล่นสักหน่อย ได้ถ่ายรูปตัวรูปปั้นหน้าตาตลกมา 1 รูปแต่อากาศหนาวมากจนไม่ไหวต้องขึ้นรถขับดูเมืองดีกว่า 





ก่อนกลับ Denver เพื่อไปขึ้นเครื่องตอนเย็น ก็แวะ Walmart เดินดูของจุกจิกมาได้หน่อยนึง แล้วก็แวะกิน pizza hut ปกติอันตี้นึกว่า pizza ต้องกินกันหลายคน ปรากฎว่าที่นี่มีเมนูกินคนเดียวได้ ซึ่งก็หั่นเป็น 4 ชิ้นเล็ก เลือกเอาหน้า Hawaiian จะได้ไม่เลี่ยนมาก ก็อร่อยดี เพราะเป็นอะไรที่คุ้นเคยอยู่แล้ว



หลังจากนั้นก็ซิ่งขึ้น Highway มุ่งหน้ากลับเข้า Denver เลยทันที 
เอารถที่เช่ามา ไปคืนที่สนามบิน แล้วเอากระเป๋าขึ้นรถบัสที่เขาจอดรออยู่แล้วมุ่งหน้าสู่ Terminal การเช่ารถส่งรถขึ้นเครื่องบิน ดูเป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่นี่มาก ตอนเอารถไปคืนมีคนที่เอารถมาคืนแบบเราเยอะมาก แล้วทุกคนก็หยิบกระเป๋า ขึ้นรถบัสมุ่งหน้าสู่สนามบินเหมือนเรา บางคนแบกแค่กระเป๋าใบเล็กๆ เหมือนแค่แวะมาทำธุรกิจที่เมืองนี้แล้วกำลังจะบินกลับบ้าน ยังไงยังงั้น ก็เลยดูเป็นอะไรที่เดินทางสะดวกมากๆ





ด้านบนนี้คือสนามบิน Denver

ออกจาก Denver ก็ใกล้มืดแล้ว บิน 2 ชม ก็ถึงสนามบิน Chicago O'Hare อันตี้ check-in พักที่ airport hotel ที่ Chicago เลย เพราะพรุ่งนี้ต้องบิน flight เช้าเพื่อกลับบ้านเราละ

ช่วงเครื่องบินกำลังจะลง land ที่สนามบินที่ Chicago จะเห็นเครื่องบินเข้าคิวกันบนฟ้า ทะยอยลง land เห็นเครื่องที่ละลำทีละลำค่อยๆผลุบลงไปในก้อนเมฆ เป็นภาพที่สวยมาก เสียดายเป็นช่วงกลางคืนค่อนข้างมืด จึงไม่สามารถถ่ายรูปมาให้เห็น



ด้านบนนี้คือห้องพักที่ airport hotel ที่ Chicago O'Hare

ตื่นนอนมาก็เจอข่าวหิมะตกรุนแรง แต่โชคดีที่เป็นทางฝั่งตะวันออกแถวๆ New York, New Jersey ส่วนของเราอากาศยังดีอยู่ และ flight ก็ออกเดินทางตามกำหนด Complete การเดินทางเที่ยวนี้อย่างสมบูรณ์อีกทริปนึง























Create Date : 19 กรกฎาคม 2557
Last Update : 19 กรกฎาคม 2557 16:22:50 น.
Counter : 3004 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อันตี้
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]