Bloggang.com : อุ้มสี : ฝนตกบ่อยบ่อยดอกประดู่ก็บานเป็นรอบที่ 7 ของเดือนเมษายน 2564

ฝนตกบ่อยบ่อยดอกประดู่ก็บานเป็นรอบที่ 7 ของเดือนเมษายน 2564

ไม่ได้อัพบล็อกเกี่ยวกับดอกไม้มานานมากเป็นความสุขของการอยู่บ้านโดยไม่ออกไปรับเชื้อนอกบ้าน
เนื่องจากเมื่อวานฝนตกหนักทั้งวันคิดว่าดอกประดู่จะบานสั่งลาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ที่ไหนได้วันนี้บานพรึบพร้อมกันอีกส่งกลิ่นหอม (นั่นแปลว่าจมูกอุ้มยังรับรู้รูปรสกลิ่นสีโอค่ะออเจ้า)
จึงเป็นที่มาของเอนทรี่นี้เพียงแต่ว่าคราวนี้ไม่ได้มากับเพลง "ดอกประดู่" นะคะ
เพลงประกอบใส่เพลง "เพาะรัก" ของวงโฮปแปมิลี่ เพลงโปรด

"ประดู่" เป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศมาเลเซียและแถบอันดามัน มัทราช เบงกอล
ส่วนอีกข้อมูลระบุว่าต้นประดู่มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย
โดยต้นจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
ลำต้นมีความสูงประมาณ 20-25 เมตร หรืออาจสูงกว่า
จะผลัดใบก่อนการออกดอก แตกกิ่งก้านเป็นทรงพุ่มกว้างและปลายกิ่งห้อยลง
เปลือกลำต้นหนาเป็นสีน้ำตาลเทา แตกหยาบเป็นร่องลึก
มักจะขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและปักชำกิ่ง
เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยและต้องการน้ำปานกลาง
เนื่องจากเป็นไม้กลางแจ้งจึงชอบแสงแดดจัดและมักขึ้นตามป่าเบญจพรรณทางภาคใต้
แต่สามารถปลูกได้ประเทศไทยเรา

ใบของต้นประดู่ เป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคี่
ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปมนรี รูปไข่ หรือรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบมนหรือค่อนข้างแหลม
ส่วนขอบใบเรียบไม่มีหยักมีขนาดกว้างประมาณ 3-6 เซนติเมตร และยาวประมาณ 4-13 เซนติเมตร
แผ่นใบหนาเป็นสีเขียว ผิวใบมีขนสั้นๆ ปกคลุมด้านท้องใบมากกว่าด้านหลังใบ
ก้านใบอ่อนมีขนขึ้นปกคลุมเล็กน้อย เส้นแขนงใบถี่โค้งไปตามรูปใบเป็นระเบียบ
โคนก้านใบมีหูใบ 2 อัน ลักษณะเป็นเส้นยาว
ดอกออกรวมกันเป็นช่อๆ ใบออกเรียงสลับ แต่ละช่อจะมีใบย่อยประมาณ 7-13 ใบ

ดอกประดู่ ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะ โดยจะออกบริเวณซอกใบหรือที่ปลายกิ่ง
โคนก้านมีใบประดับ 1-2 อัน ลักษณะเป็นรูปรี กลีบเลี้ยงดอกมี 5 กลีบ ติดกันเป็นถ้วยสีเขียว
ปลายแยกเป็นแฉก 2 แฉก แบ่งเป็นอันบน 2 กลีบติดกันและอันล่าง 3 กลีบติดกัน
ส่วนกลีบดอกมี 5 กลีบ สีเหลืองแกมแสด

ลักษณะของกลีบเป็นรูปผีเสื้อ ดอกมีเกสรเพศผู้ 10 อัน ก้านชูอับเรณูติดกันเป็น 2-3 กลุ่ม
ส่วนเกสรเพศเมียมี 1 อัน
ดอกมีกลิ่นหอมแรงมากและดอกประดู่จะบานและร่วงพร้อมกันทั้งต้น
โดยจะออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน

สรรพคุณของต้นประดู่
1.เปลือกต้นมีรสฝาดจัด มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงร่างกาย
2.แก่นเนื้อไม้ประดู่ มีรสขมฝาดร้อน มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงโลหิต บำรุงกำลัง บำรุงธาตุในร่างกาย
3.แก่นเนื้อไม้ใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้ไข้ แก้พิษไข้
4.รากใช้เป็นยาแก้ไข้ แก้พิษไข้
5.แก่นเนื้อไม้ใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้เสมหะ แก้เลือดกำเดาไหลด้วยการใช้แก่นเนื้อไม้มาต้มกับน้ำกินเป็นยา
6.ใบนำมาตากแห้งใช้ชงกับน้ำร้อนเป็นชาใบประดู่ นำมาดื่มจะช่วยบรรเทาอาการระคายคอได้
7.ผลมีรสฝาดสมาน มีสรรพคุณเป็นยาแก้อาเจียน
8.เปลือกต้นใช้เป็นยาแก้ปากเปื่อย ปากแตก และเป็นยาสมานบาดแผล
9.ยางของต้นประดู่มีสรรพคุณเป็นยาแก้โรคปากเปื่อย ใช้เป็นยาแก้โรคท้องเสีย
10.ผลมีสรรพคุณเป็นยาแก้ท้องร่วง
11.เปลือกต้นมีสรรพคุณเป็นยาแก้อาการท้องเสีย
12.ยางมีสรรพคุณใช้เป็นยาแก้โรคบิด
13.ใบอ่อนนำมาตำให้ละเอียดเป็นยาพอกแผล พอกฝี ช่วยทำให้ฝีสุกหรือแห้งเร็ว
และใบอ่อนใช้ตำพอกแก้ผดผื่นคัน แก่นมีสรรพคุณเป็นยาแก้ผื่นคัน

คนไทยนิยมนำต้นประดู่มาปลูกเป็นไม้ประดับตามอาคารหรือสถานที่สาธารณะ
ไม่ว่าจะเป็นปลูกตามสวนหรือปลูกตามทางเดินเท้า
ซึ่งต้นประดู่ได้ให้ร่มเงาและมีความสวยงาม
อีกทั้งยังช่วยกำจัดอากาศเสีย กรองฝุ่นละออง และกันลมกันเสียงได้ดีอีกด้วย
มักจะพบเห็นตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศไทย

ในด้านเชิงอนุรักษ์ ต้นประดู่เป็นไม้เรือนยอดกลมโต มีความแข็งแรง
สามารถช่วยป้องกันลมและคลุมดินให้ร่มเย็นชุ่มชื้นได้ และยังช่วยรองรับน้ำฝนช่วยลดแรงปะทะหน้าดิน
ประกอบกับมีรากหยั่งลึกและแผ่กว้างที่ช่วยยึดหน้าดินไว้ไม่ให้พังทลาย
อีกทั้งรากมีปมขนาดใหญ่ช่วยตรึงไนโตรเจนในอากาศมาเก็บไว้ในรูปของไนโตรเจนที่เป็นประโยชน์
ส่วนใบที่หนาแน่นเมื่อร่วงหล่นก็จะเกิดการย่อยสลายกลายเป็นธาตุอาหารอินทรียวัตถุให้แก่ดินอีกด้วย

ในด้านข้อความเชื่อ หากบ้านใดปลูกต้นประดู่ไว้เป็นไม้ประจำบ้าน
มีความเชื่อว่าจะช่วยทำให้เกิดพลังแห่งความยิ่งใหญ่
เพราะประดู่หมายถึงความพร้อม ความร่วมมือร่วมใจสามัคคี มีพลังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
และสร้างเสริมสิริมงคลให้แก่บ้านและผู้อยู่อาศัยภายใน
และจะปลูกต้นประดู่ไว้ทางทิศตะวันตกและปลูกในวันเสาร์
เพราะคนโบราณเชื่อกันว่าผู้ปลูกที่เป็นจะทำให้เป็นน่าเคารพนับถือและจะมีสิริมงคลมากยิ่งขึ้น

ในด้านของการเป็นสัญลักษณ์ ดอกประดู่เป็นสัญลักษณ์ของกองทัพเรือไทย
และยังเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดอุตรดิตถ์
ส่วนต้นประดู่เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดภูเก็ต และโรงเรียนอีกหลายแห่งในประเทศไทย
และเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศพม่าอีกด้วย...สุดยอดเลยนะคะต้นประดู่

ขอขอบคุณ
เพลง : เพาะรัก : วงโฮปแปมิลี่
ที่มาของข้อมูลเกี่ยวกับต้นประดู่ : อากู๋-กูเกิ้ล
กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat
โค้ดแต่ง BLOG : ป้ามด & น้องดอกหญ้าเมืองเลย
ของแต่ง BLOG ทุกอย่างมาจาก : คุณป้าเก๋า ชมพร & น้องญามี่ & คุณเนยสีฟ้า

Create Date : 29 เมษายน 2564

Last Update : 6 พฤษภาคม 2564 15:22:28 น.

15 comments

Counter : 1627 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณเริงฤดีนะ, คุณทนายอ้วน, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณตะลีกีปัส, คุณTui Laksi, คุณmultiple, คุณกะว่าก๋า, คุณSertPhoto, คุณThe Kop Civil, คุณสองแผ่นดิน, คุณชีริว, คุณSweet_pills

ยังไหวจ้าทางนี้ ทางโน้นสบายดีนะคะ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ

โดย: โอน่าจอมซ่าส์

วันที่: 29 เมษายน 2564 เวลา:12:59:19 น.

ได้ฝนเที่ยงนี้ยิ่งสดชื่นๆ

โดย: เริงฤดีนะ

วันที่: 29 เมษายน 2564 เวลา:13:15:37 น.

ถเาบานเต็มต้นต้องสวยมากๆเลยครับ

โดย: ทนายอ้วน

วันที่: 29 เมษายน 2564 เวลา:14:03:22 น.

สวยงามโดยไม่ต้องปลูกเอง อิอิ
นึกถึงทหารเรือ นึกถึงเพลงดอกประดู่เลยค่ะ

โดย: ฟ้าใสวันใหม่

วันที่: 29 เมษายน 2564 เวลา:15:32:27 น.

ทุกแรกนึกว่าต้นคูณซะอีกครับพี่อุ้ม

โดย: จันทราน็อคเทิร์น

วันที่: 29 เมษายน 2564 เวลา:16:11:52 น.

สวยและสดชื่นมากจริงๆ ค่ะพี่
ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะค้าาา

น้องโหวตหมด แปะใจไว้แทน

โดย: nonnoiGiwGiw

วันที่: 29 เมษายน 2564 เวลา:17:01:45 น.

สวัสดีมีสุขค่ะ

หอมมากค่ะ ชอบๆ
ถ้าดอกเอามาทำขนมได้เหมือนดอกโสนก็ดีซินะคะ

โดย: ตะลีกีปัส

วันที่: 29 เมษายน 2564 เวลา:17:20:23 น.

สีเหลืองสดใส งดงามมากๆค่ะคุณอุ้ม

โดย: Tui Laksi

วันที่: 29 เมษายน 2564 เวลา:19:22:46 น.

ขอขอบคุณกำลังใจให้บล็อก - ครัวกำปั่น เขาใหญ่ ด้วยนะครับ

โดย: ทนายอ้วน

วันที่: 29 เมษายน 2564 เวลา:20:03:32 น.

จัดเป็นไม้สารพัดประโยชน์เลยนะครับนี่ สรรพคุณมากมาย ยิ่งถ้าเป็น ประดู่ป่าละก็ ต้นใหญ่ๆนี่ ทำเฟอร์นิเจอร์สวยงาม และมีราคาแพง ไม่ใช่เล่นเลยนะครับ

โดย: multiple

วันที่: 29 เมษายน 2564 เวลา:20:13:46 น.

โอ้โห...กล้องพี่อุ้มซูมได้ไกลจังเลยครับ
เห็นดอกประดู่ชัดเลย
ที่บ้านผมมีต้นนึง แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายภาพเก็บไว้เลยครับ
ระยะซูมของเลนส์ผมไปไม่ถึงครับ
ต้นสูงเกิน 555

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 29 เมษายน 2564 เวลา:20:50:59 น.