บุพเพสันนิวาส ฝีมือหรือว่าโชคช่วย คิดต่อ ดูแล้วได้อะไร
แต่วันนี้ละครเรื่องนี้ ดังมาก เพราะอะไรหนอ.. ๑. เรื่องนี้คนทำชอบหรือคนดูชอบ เเชื่อว่าบุพเพสันนิวาสแรกๆ ผู้สร้างคงคาดไม่ถึงว่าจะดังเปรี้ยงปร้างขนาดนี้เพราะเค้าโครงเรื่องก็ไม่ใช่ของใหม่ละครไทยหลายเรื่องก็เคยใช้พล็อตย้อนไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน เช่น ทวิภพ บ่วงบรรจถรณ์กระทั่งละครต่างประเทศก็ใช้พล็อตนี้เช่น ย้อนเวลาหาจิ๋นซี รักข้ามภพ เป็นต้น ซึ่งจะว่าสนุกก็สนุกจะว่าซ้ำก็ซ้ำ คิดจะทำ "บุพเพสันนิวาส" จึงไม่ง่ายนัก และถ้าจะทำให้เปรี้ยงปร้างแล้วยิ่งยากมากขึ้นหลายเท่า(แต่สำหรับ "บุพเพสันนิวาส" ฉบับหนังสือนิยายแล้ว ขายดีมาก) จริงอยู่แม้การโหมโฆษณาจากช่องช่วงก่อนออกอากาศจะทำให้ผู้ชมทางบ้านรู้ว่าจะมีละครเรื่องใหม่มาฉายแต่ก็ยังคาดเดาไม่ออกว่าจะดัง หรือดับ ก่อนหน้านี้ก็มีละครไทยๆ ออกมาหลายเรื่องแม้จะดังแต่ก็ไม่เปรี้ยงปร้างมากนัก ลูกทาส ดังช่วงแรกแล้วก็แผ่วๆ ไป บ่วงบรรจถรณ์ดังช่วงแรกแล้วก็แผ่วๆ ไป หรือละครอาจจะต้องมีบทจบแบบรักรันทด เช่น นาคีจึงจะเรียกคะแนนนิยม อือม์...ยากนะ..แต่วันนี้ก็ทำแล้ว และคิดว่าละครเรื่องนี้ ติดหูติดตามากมากจนรู้สึกผิดคาด เหลือแต่ว่า จะรักษาระดับ "Chat Cheer Share" ให้ต่อเนื่องไปจนถึงตอนจบได้หรือเปล่า ??? สรุปแล้วคนทำชอบ คนดูก็ชอบเรื่องก็โดน เลยดังสนั่น... ๒. บทยอด หรือนักแสดงเยี่ยม ยกนิ้วให้เลยสำหรับนักแสดงในเรื่องโดยเฉพาะคู๋พระเอก-นางเอก คู่พระรอง-นางรอง โดยเฉพาะ คู่พระ-นางโดดเด่นมาก คุณเบลลา ราณี (ราณี แคมเบล) เป็นนางเอกหน้าฝรั่งแต่เหตุใดจึงโด่งดังมากเมื่อเล่นเรื่องไทย เธอแสดงในเรื่องลูกทาส ก็ดัง แปลกไหม???..ฮา แต่เรื่องนี้ดูจะเหมาะสมมากเธอกลายเป็นหญิงย้อนยุค ผู้งดงามและมีลักษณะงามของหญิงไทยเดิมครบถ้วน คืออิ่มเอิบอ่อนโยน หวานเย็น และไมตรี สมเป็นกุลสตรี และมีลักษณะหญิงไทยใหม่ครบอีกเช่นกัน คือฉลาด เก่ง มั่นใจ และฮา ยามเธอสวมบทเป็นกุลสตรีใจร้ายก็ได้ใจ เป็นม้าดีดกระโหลกก็เหมาะครั้นจะพลิกบทเป็นกุลสตรีก็ประทับใจ เราก็เลยรับเธอมานั่งในใจโดยไม่รู้ตัว (ฮา)..ส่วนบทพระหล่อขี้เก๊ก เก่งแบบซ่อนคมในฝัก หงิมๆ แต่ไม่หน่อมแน้ม นี่เลยพระเอกละครโทรทัศน์น่ารักมากกว่าหล่อล่ำบึ๊ก กล้ามใหญ่หน้าสวย บทจะพิสดารหรือพื้นๆ แต่ถ้าผ่านการแสดงขั้นเทพ เรื่องก็สนุกมากดูแต่มะม่วงน้ำปลาหวานกับกุ้งเผาซีฟู๊ดปะไร พาลเอาคนทั้งเมืองต้องน้ำลายสอก็กลายเป็นเมนูวันพรุ่งทันที...(ฮา)...ดูไปอดคิดถึงอาหารฮ่องเต้จากห้องเครื่องฝีมือซัมกุงไม่ได้.ฟินมาก .คล้ายกันเลย...ฮา.... ๓. ผลิตดี หรือมีโชค ในฐานะดูคนติดตามชมที่กำลังจะเป็นแฟนคลับ..(ฮา)....ยอมรับว่ากระบวนการผลิตละครเรื่องนี้ หากเทียบกับอีกหลายเรื่องก็ถือว่าอยากให้ทุ่มเทมากกว่านี้ฉากหลายตอนยังบกพร่อง เทคนิคการซ้อนภาพดวงอาทิตย์ พระจันทร์ ยังไม่เนียนมุมภาพแปลกๆ ยังเกินจริงและกระด้าง ไม่งามเหมือนคำบรรยายในหนังสือการกำกับการแสดงยังก่อนซ้อมไปหน่อย ฉากปั๊มหัวใจ แม่การะเกดทำเหมือนคนทำไม่เป็นแต่ที่เอ่ยถึงมาทั้งหมดนั้น...ก็อภัยให้ได้ทั้งิส้น..(แหม..นะ...ก็เปิดรับเขาไว้ในใจแล้วนี่...ฮา..)แต่เพราะการเค้าโครงเรื่องความรักผิดฝาผิดตัว มีเรื่องราวที่เร้าใจให้อยากรู้มีเกร็ดชวนติดตาม อีกทั้งจังหวะบ้านเมืองก็เคร่งเครียด ลำบากลำบนดูอะไรที่ครื่นเครงชื่นใจ ก็น่าจะดี ห่วงแต่การวางจังหวะของบทอย่าเยอะ..อย่าแช่นานเกินอารมณ์นะ...ดูแต่เงินปากผีสิ..ลูกพุธ ด่าผีเลี้ยง เสริมตายแล้วฟื้นผีสู้ผี ซ้ำซากอยู่สองสามอาทิตย์แล้ว เรื่องยีงไม่เดิน ทำนองแบบนี้ Rating ก็ตกแน่นอน จังหวะขึ้นมันดีแล้วรักษาไว่อย่าให้ตก เชียวนะ.. ๔. ละครเรื่องนี้คนดูได้ หรือคนสร้างได้ ฟันธง คนดูได้คนสร้างได้ นักแสดงได้ ทีวีได้ เรียกว่า Win Win Win Win (4Wins) เลยนะ ทีวีหรือช่องได้ Rating ดีมากขึ้นมากชนิดที่คนหยุดรอชมกันจนเมืองว่าง ซึ่งปรากฏการแบบนี้นานๆ จึงจะเกิดสักครั้งความนิยมขนาดนี้ ช่องอาจถึงขั้นพลิกฟื้นภาพธุรกิจของข่องก็ได้และบทบาทการแข่งขันในเชิงธุรกิจโทรทัศน์ อาจจะต้องกลับมาทบทวนใหม่ให้ละครเป็นเรือธง (Flagship)แทนรายการเล่าข่าวหรือประกวดร้องเพลงก็ได้ เมื่อช่องได้ ผู้สร้างก็คงได้ตามไปด้วยละครเรื่องนี้คงสร้างรายได้และเครดิตกับผู้สร้างและทีมงานพอควรเราคงได้เห็นผู้สร้างใหม่ๆ เดินตามรอยนี้ และมีผู้ผลิตละครแบบนี้เพิ่มขึ้น (ผู้สร้างเรื่องนี้คือ Broadcast Thai ซึ่งเป็นผู้จัด/ผู้สร้างละครคุณภาพอยู่แล้ว)ทีวีหลายช่องที่จนแต้ม คิดสร้างสรรค์รายการไม่ออกและมุ่งมั่นที่จะทำให้ตลาดทีวีไทยกลายเป็นตลาดอินเตอร์ด้วยการซื้อ ซื้อซื้อรายการจากต่างประเทศ ก็อาจหันมามองการผลิตเรื่องไทยๆ เพิ่มขึ้นก็ได้การเปลี่ยนแปลงเชิงนวัตกรรมนี้ กสทช. เองก็ยังมองไม่ออกก็อาจจะได้อานิสงฆ์จากครั้งนี้บ้าง ก็เป็นได้ นักแสดงก็ได้รับความนิยมมีแฟนคลับมากขึ้น โอกาสทำมาหากินในวิชาชีพมากขึ้น เรื่องนี้มีนักแสดงรุ่นเก่ง ดีอายุมาก ที่แทบจะไม่มีผู้จัดรายใดนิยมจ้างแล้วหลายคน เช่น ชไมภร จตุรพุช(คุณหญิงจำปา) อำภา ภูษิต (ปริก) รัชนี ศิระเลิศ (คุณหญิงนิ่ม) นิรุตติ์ ศิริจรรยา(พระโหราธิบดี) ฝีมือการแสดงดีมาก แต่ก็หาบทดี ๆ เหมาะสมได้ยาก มีบท-เรื่องดีๆเช่นละครเรื่องนี้ เราก็จะได้เห็นการแสดงของเราเอง ได้แจ่มชัดขึ้น นักแสดงเก่งๆนั้นมักต้องมีอายุ หรือชั่วโมงบินในงานแสดงทั้งสิ้น บางครั้ง ความนิยมเฉพาะหน้าตาจำกัดวัยก็ทำให้บทประพันธ์เสื่อม เพราะต้องใช้ดาราอายุ ๓๐ เล่นบทพ่อแม่หรือลุงป้าเวลานั่งดู ก็อดคิดแปลกๆ ในใจ ไม่ได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือตัวผู้เขียนซึ่งกว่าจะเขียนหนังสือและประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ ก็นับว่ายากเย็นโขแต่คนไทยเดี๋ยวนี้ใจร้ายนัก ได้ข่าวว่าผู้เขียนถูกละเมิดลิขสิทธิ์หนังสือมาก และการสั่งซื้อหนังสือทั้งผ่านระบบE-book (ซึ่งสมัครสมาชิกแล้วซื้อได้ทันทีอย่างถูกกฏหมาย) และระบบสั่งจองจากสำนักพิมพ์ก็ถูกแอบอ้างจากหน้าเพจแย่ๆแรกแจ้งราคาว่าถูกกว่า เหมือนลดราคา แต่คงจะเชิดเงินไป เรื่องแบบนี้น่าเสียใจมากผู้เขียนตกเป็นแพะรับบาป คนไม่เข้าใจก็จะตำหนิว่าถูกผู้เขียน และตัวแทนโกง เห็นเพื่อนๆว่า งานสัปดาห์หนังสือนี้ก็คงมีจำหน่ายและคงแน่นแต่ถึงกระนั้นก็เถอะก็ยังชวนไปอุดหนุนหนังสือกันนะ หนังสือนี้ราคาถูกกว่า Pizza ห่วยๆ กับเสต๊กเหี้ย ๆ (ขออภัยขอใช้ภาษาแสลงวัยรุ่นนิดนึง แบบว่ามันได้ฟิล กว่าคำอื่นๆ น่ะ...ฮา..) คนดูได้ คนไทยได้มากนะ โดยตรงเลยคือการอ่านหนังสือเล่มมันดีมาก เรื่องราวความเป็นไทย ประวัติศาสตร์ไทย มันก็สนุกมากแต่ระยะหลังคนไทยอ่านเรื่องไทยน้อยลง ติดฝรั่ง เกาหลีมากขึ้น เคยถูกน้องๆที่ไม่สนิทกันนัก ตั้งคำถามเมื่อเอ่ยเรียกเขาว่าน้องแล้วถึงกับอึ้งเขาบอกว่าไม่ได้เป็นญาติกัน เรียกว่าคุณเฉยๆ ดีกว่า.หรือเคยได้ยินการตั้งคำถามในออนไลน์ว่า ทำไมสังคมไทย มีสรรพนามนับญาติเยอะ เช่นลุง ป้า น้า อา ทั้งที่ไม่เป็นญาติกันสักนิด...( .ฮา..ในเสียงฮานี้มีเสียงสะอื้นด้วย)หนังสือเป็นเครื่องมือของการสืบสานความรู้ ความคิดและวัฒนธรรมถ้าหนังสือไทยไม่มีคนเขียน ไม่มีคนอ่าน นานไปเราก็คงไม่รู้จัก"ภาษาและลักษณะไทย" เป็นแน่ อันที่จริงอุตสาหกรรมละครทีวีหนังสือและการผลิตรายการเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ และเป็นยิ่งกว่าดิจิตอล 4.0หรืออุตสาหกรรมสร้างสรรค์มาก และเป็นมานานแล้วด้วย แต่รัฐและหน่วยงานมองข้ามไปหนังสือทำให้เกิดละคร ละครทำให้คนดูอยากอ่านฉบับหนังสือทำให้ยอดขายหนังสือนี้เพิ่มขึ้น ยอดพิมพ์เพิ่มขึ้น ที่สำคัญการอ่านไทยมากขึ้น ภาพรวมของละครดัง ๆเรื่องหนึ่งก่อให้เกิดวงจรการผลิตหนังสือและการอ่านตามมามากมาย ถ้าในละครมึน้ำปลาหวาน มีกุ้งเผา ที่คนอยากกินก็คงจะเกิดความอยากกินอาหาร เกิดการสั่งซื้อ เกิดเมนูอาหารในละครแนะนำตามมาอีกมากมาย ถ้าในละคร มีเสื้อผ้าที่คนชอบ ก็คงจะเกิดการสั่งตัด เกิดการทอผ้า ย้อมสี และตลาดเสื้อผ้าอีกมากถ้าฉากในละครเป็นที่ประทับใจ เส้นทางท่องเที่ยวก็ต้องเกิดขึ้น ร้านอาหาร ขนมที่พักแรม และรถรับจ้างในพื้นที่ท่องเที่ยวก็ต้องเกิดขึ้น ..ทั้งหมดคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาหลังจากละครเรื่องหนึ่ง โด่งดัง มันผูกพันกันยิ่งกว่าเครือข่ายการผลิตที่รัฐฝันอยากให้มันเป็นจริงในวันนี้ และมันก็เป็นได้แล้วนี่คืออานิสงฆ์ ของละคนดัง ๆ เช่น บุพเพสันนิวาสนี้ แต่ทำนองเดียวกันเรื่องเสียๆแย่ๆ ก็คงมี เช่นการละเมิดสิทธิ์ ที่เขียนไปแล้ว..แต่ช่างเภิด วันนี้เรามองแต่เรื่องดี ๆกันนะ และช่วยเชิดชู เรื่องดีๆ แบบนี้กันเถิด..
Create Date : 09 มีนาคม 2561 | | |
Last Update : 9 มีนาคม 2561 12:31:32 น. |
Counter : 946 Pageviews. |
| |
|
|
|