|
|
|
|
|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
12 มิถุนายน 2557 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
นิรโทษรัก บทที่ 8 จับตัวจับใจ 2
นิรโทษรัก บทที่ 8 จับตัวจับใจ 2
หนังสือจำนวนมากถูกเรียงไว้ในชั้นเรียบร้อย ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือท่องเที่ยวและภาพถ่าย ทำให้รู้ว่าเจ้าของห้องน่าจะเป็นคนชอบถ่ายรูปไม่แตกต่างจากเธอ และตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเมญาดาหยิบหนังสือเหล่านี้มาอ่านหลายเล่ม วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เธอเลือกหนังสือแล้วมานั่งอ่านรับอากาศดีที่ระเบียงห้อง
หญิงสาวไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปนอกห้องมาตลอดทั้งอาทิตย์ เช้า กลางวัน เย็น ป้าศรีจะเป็นคนนำอาหารเข้ามาให้ ส่วนชายหนุ่มออกไปข้างนอกในเวลากลางวัน และกลับมานอนพักในเวลากลางคืนซึ่งเป็นช่วงที่เธอหลับแล้วเมื่อเขาแอบย่องเข้าห้อง เขาไปที่ไหนเธอไม่รู้เลย พอถามป้า ป้าก็มักจะบอกว่าไปดูเรือที่ฝั่ง แต่ไม่เคยให้ข้อมูลอะไรมากกว่านี้ แม้จะถามเกี่ยวกับเรื่องเกาะนี้ชื่ออะไร อยู่ส่วนใดของประเทศไทย ป้าก็ไม่ยอมตอบ ราวกับหุ่นยนต์ที่ถูกป้อนคำสั่งแค่ประโยคว่า ถึงเวลาทานอาหารค่ะ อยากทานอะไรไหมคะ ดังนั้นป้าจึงไม่สามารถพูดประโยคอื่นได้เลย !
วันนี้ชายหนุ่มออกไปแต่เช้า และคิดว่าคงกลับดึกเช่นเคย ถ้าเขาให้เธอเดินออกไปข้างนอกบ้างอาจจะดีกว่านี้ ที่สำคัญเธอจะได้มีโอกาสหาทางหนีบ้าง เมญาดาคิดถึงครอบครัว งาน และการถ่ายภาพ พ่อกับแม่คงห่วงเธอมากและสงสัยกับจดหมายที่เธอถูกบังคับให้เขียนทิ้งไว้ ในขณะที่บริษัทคงคัดชื่อเธอออกจากการเป็นช่างภาพแล้วเรียบร้อย ชีวิตของเมญาดาช่างเศร้ายิ่งนัก ทำดีทำไมถึงไม่ได้ดี หญิงสาวท้อกับผลลัพธ์ของการทำดี และยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม เธอตัดสินใจไปนอนแช่น้ำฟังเสียงคลื่นในอ่างจากุชี่ เผื่อจะสบายใจขึ้น และเป็นอย่างที่คิดไว้เมื่อนอนแช่น้ำ หญิงสาวรู้สึกสบายอารมณ์ เธอมองออกไปด้านนอกของห้องน้ำซึ่งเห็นทะเลชัดเจนด้วยการตกแต่งแบบเปิดโล่ง หญิงสาวมองลงเบื้องล่างเป็นโขดหินเล็กๆ ความสูงอยู่ในระยะที่น่าจะปีนลงไปได้ ถ้าเธอลองปีนออกไป อาจจะมีทางหนี!
แอ๊ด! สักพักใหญ่ๆเสียงประตูหน้าห้องเปิดขึ้น เสียงเท้าหนักๆเดินเข้าไปในห้อง เธอคิดว่าเป็นเสียงกันต์พิมุกต์อย่างแน่นอน ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา เมญาดาได้ยินเสียงฝีเท้าของเขายามวิกาลจนจำได้ ราวกับเธอฝึกทักษะของการเป็นสุนัขเฝ้ายามที่คอยฟังเสียงเจ้านาย! คุณเมญ่า ชายหนุ่มเรียกหา วันนี้เขากลับเร็วกว่าปกติ เสียงเท้าเดินตรงไปที่ห้องนอนแล้วกลับออกมายังห้องนั่งเล่น ก่อนจะเคาะประตูห้องน้ำ คุณเมญ่า อยู่ข้างในรึเปล่า? ในที่สุดเขาก็มายืนหน้าห้องน้ำ หญิงสาวไม่อยากจะตอบแต่ถ้าไม่ตอบเขาคงหาทางเปิดเข้ามาแน่ๆ
ฉันอยู่ในนี้
เป็นอะไรหรือเปล่าคุณ ให้ผมเข้าไปได้ไหม
บ้า! ฉันอาบน้ำอยู่อีตาบ้า! เมญาดารีบตอบทันควัน เธอรู้สึกหมั่นไส้กันต์พิมุกต์มากขึ้นทุกวัน ตั้งแต่คืนนั้นเขาก็หาเหตุผลถอดเสื้อผ้าเธอบ้าง หาเรื่องกอดเธอบ้าง วันนี้ยังจะเข้ามาในห้องน้ำอีก ทำซะอย่างกับเธอเป็นภรรยาของเขาจริงๆ ทั้งๆที่เธอแค่เกือบเสียทีเขาเท่านั้น!
รีบออกมาเร็วๆหล่ะ ผมรอทานข้าวอยู่ หิวจะแย่แล้วคุณ!
เชอะ หิ้วท้องรอไปเถอะ ฉันจะออกช้าๆ เมญาดาคิดแล้วแช่น้ำอย่างสุขอุราเพราะจะได้แก้แค้นคืนเขาบ้าง เวลาผ่านไปได้สักระยะ ระหว่างคนรอกับคนให้รอ เวลาคงต่างกันมาก เพราะชายหนุ่มกลับมาเรียกเธออีกครั้ง แต่เมญาดายังแกล้งเขาต่อไป
ผมหิวแล้วคุณ หิวจนจะเป็นลมแล้ว เขามาเคาะรอบที่สาม รอบที่สี่และห้าก็ตามมา หลังจากนั้นเสียงเงียบไประยะหนึ่ง เมญาดารีบแต่งตัวก่อนที่เขาจะมาเปิดประตูเข้ามาฉุดเธอออกไป จากหลายๆ วันที่เธอได้ใกล้ชิดกับเขา ทำให้หญิงสาวรู้ว่าชายหนุ่มเป็นคนเอาแต่ใจ คงเพราะเขาเป็นลูกชายคนเดียว ดังนั้นถ้าต้องการอะไรก็มักจะต้องได้เสมอ เมื่อถูกขัดใจเขาจึงยิ่งอยากเอาชนะ ถ้าเธอเงียบเขาจะหยุด แต่ถ้าดื้อกับเขาแบบนี้เขาจะไม่ยอมแพ้ ไม่นานนักผู้ชายหัวดื้อก็เอากุญแจมาเปิดประตู ในขณะที่เมญาดายืนรออยู่ โดยทำสีหน้าเป็นปกติทั้งๆที่ความจริงอยากจะหัวเราะขำกับท่าทีไม่สบอารมณ์ของเขา ชายหนุ่มขมวดคิ้วเข้มก่อนจะคว้าข้อมือหญิงสาวเพื่อดึงออกไปนอกห้องมุ่งตรงไปยังริมหาด เธอแอบยิ้มและคิดว่ามื้อนี้คงทานอาหารได้อร่อยเป็นพิเศษ เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาสูดอากาศและนั่งดื่มด่ำกับมื้อเย็นริมหาดของเกาะแห่งนี้ ป้าศรีจัดโต๊ะเล็กๆริมหาดด้วยโต๊ะสีขาวพร้อมอาหารมากมาย
ฝั่งนี้จะเห็นพระอาทิตย์ตกดินได้ชัดที่สุด ชายหนุ่มบอกหญิงสาวระหว่างที่เข้าใช้ส้อมจิ้มเนื้อชิ้นเล็กๆเข้าปาก เคี้ยวๆตุ้ยๆเหมือนเด็กเล็กๆที่หิวจัด เธอเห็นท่าทีของเขาแล้วอดไม่ได้ที่จะอมยิ้ม ชายหนุ่มเคี้ยวช้าลงแล้วจ้องตาเธอ เมญาดาแก้เขินด้วยการหั่นชิ้นเนื้อของตัวเองทานบ้าง ตั้งแต่คืนนั้นหญิงสาวแพ้สายตาของกันต์พิมุกต์อย่างไม่มีเหตุผล เธอไม่กล้าสบตาเขาเกินวินาที
แกล้งคนหิวนี่บาปนะคุณ ชายหนุ่มกล่าวอย่างรู้ทัน ฉันไม่ได้แกล้งอะไรคุณสักหน่อย เมญาดาฝืนไม่ให้ยิ้มออกมาพลางทำท่าเหมือนไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดถึงแล้วหันไปมองพระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน
สวยจัง ถ้ามีกล้องคงจะดี เมญาดาเปรยๆ เมื่อเห็นพระอาทิตย์ดวงโตกำลังตกดิน แสงส้มสวยงามทำให้เธอรู้สึกดีที่ได้ออกมานอกห้องบ้าง ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆสไตล์ของเขาก่อนจะหันไปมองพระอาทิตย์ตกดินเช่นเดียวกับเธอ
คุณออกไปไหนมาทุกวัน
ทำงานสิคุณ ผมทิ้งงานไปหลายเดือนเพื่อขึ้นกรุงเทพฯพอกลับมาเลยต้องรีบเข้าไปดู
ไปกรุงเทพเพื่อจะปลอมตัวหลอกจับฉันกลับมาสินะ หญิงสาวพูดแกมประชดถึงสาเหตุการละทิ้งงานทางนี้ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ตอบอะไร หันไปบอกป้าให้เอาลูกตาลลอยแก้วมาเสริฟเป็นขนมหวาน ส่วนตัวเขาขอกาแฟ
พรุ่งนี้ผมไม่มีงานด่วน คุณอยากไปเที่ยวที่ไหนรึเปล่า? เมญาดามองค้อนเขากับคำถามที่เธอตอบไม่ได้ อย่าว่าแต่เที่ยวที่ไหนเลย ที่นี่ที่ไหนเธอยังไม่รู้
ที่นี่คือที่ไหน เมญาดาไม่เคยเก็บคำถามไว้กับตัวได้นานมากนัก
บ้านผม ปกติผมอยู่ที่นี่
จังหวัดอะไร หญิงสาวถามเจาะมากขึ้น ตายังคงลุกวาวเหมือนลูกแมวรอคำตอบ
อยากรู้ทำไม ชายหนุ่มพยายามไม่ตอบและตั้งคำถามเธอแทน
ฉันจะได้รู้ไงว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน หญิงสาวตอบกวนกลับไป
นึกว่าถามเพราะจะได้หาทางหนี ชายหนุ่มกล่าวอย่างรู้ทัน เขาเป็นผู้ชายที่รู้ทันเธอไปทุกเรื่อง คงเพราะต้องคุมคนจำนวนมาก การอ่านใจคนจึงเป็นสิ่งที่เขาต้องทำให้ได้กระมัง
พรุ่งนี้ผมจะพาชมรอบเกาะ ถ้าคุณทำตัวน่ารัก ผมอาจจะพาไปเกาะใกล้ๆกัน ที่นั่นหาดทรายสวยกว่าที่นี่มาก เขาพูดราวกับเธอเป็นเด็กเล็กที่ทำตัวน่ารักไม่งอแงแล้วจะได้อะไรเป็นของตอบแทน
ฉันไม่ใช่เด็กนะยะ ไม่ต้องมีของมาล่อเพื่อให้ฉันทำตัวน่ารักอย่างคุณว่า เมญาดาค้อนชายหนุ่มขณะทานลูกตาลลอยแก้วที่แสนจะอร่อย พระอาทิตย์ตกดินแล้ว น้ำทะเลยังคงมีแสงระยิบระยับชวนมอง เหมือนดวงตาของชายหนุ่มที่ส่งแสงประกายให้กับเธอ
เช้าวันรุ่งขึ้นกันต์พิมุกต์พาเธอเดินรอบเกาะ ด้านหน้าหาดมีเพียงบ้านพักสีเขียวขาว เดินเข้าไปอีกนิดติดเขาจะเป็นบ้านพักของคนงาน เขาเล่าให้เธอฟังว่าส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวคนเดินเรือท่องเที่ยวและเรือข้ามฟาก เพราะเรือมีมากกว่าร้อยลำ ทำให้ต้องใช้คนขับเรือ ลูกเรือหลายร้อยคน แต่การดูแลจะต้องดูแลทั้งครอบครัว ดังนั้นเมียและลูกหลานของคนขับเรือและลูกเรือก็ต้องมีบ้าน มีการศึกษาให้เด็กๆ คนงานถึงจะอยู่ด้วยกันได้ ส่วนสำนักงานอยู่ที่ท่าเรือที่เมญาดาขึ้นสปีดโบ๊ทมา ด้านฝั่งตะวันออกของเกาะมีอู่ต่อและซ่อมเรือ ชายหนุ่มพาเธอเดินเลาะสะพานปูนริมผาไปดูอู่ต่อเรือ
เราต่อเรือเอง ผมมีช่างฝีมือดีอยู่หลายคน ทำให้สามารถต่อเรือขนาดเล็กและขนาดกลางได้เอง คุณคงไม่เคยเห็นการต่อเรือสินะ ชายหนุ่มหันมามองสาวข้างกายที่กำลังสนใจกับโครงเรือตรงหน้า ไม่เคยเห็น นี่กำลังจะทำเรืออะไรเหรอคุณ เมญาดาแปลกตากับเรือไม้ที่ขึ้นโครงแล้วบางส่วน
เรือข้ามฟากขนาด 40 คนนั่ง เพิ่งเริ่มทำแต่คงใช้เวลาอีกเป็นสักพักกว่าจะเสร็จ ชายหนุ่มพูดจบประโยค ก็เดินนำหน้าเธอไปที่ท่าเรือ ผมจะพาคุณไปทานข้าวที่เกาะใกล้ๆ วันนี้เราจะอยู่ที่นั่นทั้งวัน กันต์พิมุกต์มองสบตาเธอก่อนเดินตรงไปยังเรือสปีดโบ๊ทลำเล็กเบื้องหน้าที่มีชายหน้าเหี้ยมสองคนรออยู่บนเรือแล้ว ชายหนุ่มขึ้นไปนั่งรอที่หลังเรือ หล่อนเดินตามเขาไป แต่เลือกนั่งคนละฝั่งกับเขา
ตั้งแต่มาอยู่บนเกาะ เมญาดาเลือกที่จะไม่พูดเกี่ยวกับพ่อของกันต์พิมุกต์ หรือไม่โวยวายตีโพยตีพายที่เขาจับตัวเธอมามากนัก พยายามทำตัวให้เป็นปกติเพราะเมญาดาคิดว่าเธอจะต้องหาทางเก็บข้อมูลของที่นี่ให้มากที่สุดเพื่อจะได้หาทางหนีทีไล่ได้ถูก การโวยวาย ใช้อารมณ์ไม่รอบคอบอาจทำให้เธอตกอยู่ในภาวะที่อันตราย
แต่เป็นที่น่าแปลกใจสำหรับเธอเอง ทั้งๆที่ชายหนุ่มตรงหน้าจะเป็นลูกชายของฆาตกร เป็นคนที่โกหกและจับเธอมา แต่ลึกๆแล้วเธอยังรู้สึกไว้ใจว่าเขาจะไม่ทำร้ายเธอแม้กระทั่งวินาทีนี้ ทำไมนะ ทำไม! หญิงสาวตั้งคำถามในใจให้กับตนเอง
หาดทรายขาวทอดยาวไกล เมญาดาเลือกจะถอดรองเท้าทิ้งไว้บนเรือแล้วเดินเหยียบทรายละเอียดอ่อนนุ่ม ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่อยู่เบื้องหน้า บอดิการ์ดหน้าโหดสองคนรออยู่บนเรือไม่ได้ตามลงมาด้วย ทำให้เธอรู้สึกสบายใจที่ไม่ต้องถูกเฝ้าจับตามอง สำหรับเขาการมีผู้ติดตามคงเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับเธอรู้สึกไม่มีอิสระและอึดอัดอย่างบรรยายไม่ถูก อุปกรณ์ปิกนิคถูกวางเตรียมไว้ก่อนที่ทั้งคู่จะมาถึง เธอเดาว่าคงจะเป็นป้าศรีที่เตรียมไว้ให้ ชายหนุ่มหยิบเสื่อคลี่ออกใต้เงาร่มไม้ ก่อนจะจัดแจงอาหาร เครื่องดื่ม อย่างอารมณ์ดี เกาะนี้สวยนะคุณ มีหาดขาวยาวอย่างที่คุณเห็นและปะการังสวยมาก เอาไว้เย็นๆ เราไปดำน้ำตื้นกัน เขายิ้มให้เธอก่อนจะส่งเครื่องดื่มและแซนด์วิชให้หญิงสาว ไม่หล่ะ ฉันไม่ได้เตรียมชุดมาเปลี่ยน เมญาดาพูดจบก่อนจะกัดแซนด์วิชช้าๆ มองทะเลจนสุดลูกหูลูกตา ที่นี่มีแต่ทะเล เกาะ ทะเล และเกาะ ซึ่งมารู้ในภายหลังว่าเกาะส่วนใหญ่ไม่มีคนอยู่ และเป็นเกาะของอุทยานเกือบหมด ดังนั้นการจะกลับฝั่งได้จึงมีเพียงทางเดียวคือทางเรือเท่านั้น จะหนีได้ก็ต้องใช้เรือ ถ้าว่ายน้ำไปคงได้กลายเป็นผีเฝ้าทะเลเป็นแน่แท้ แต่ที่แย่กว่านั้นคือเธอขับเรือไม่เป็นแล้วจะหนีได้อย่างไรกัน! ป้าศรีเตรียมผ้าขนหนูและชุดเผื่อไว้ให้คุณแล้วหล่ะ ผมอยากให้คุณดูปะการังที่นี่นะ สวยมากกว่าเกาะแถบจังหวัดสตูล" กันต์พิมุกต์เปิดตะกร้าผ้าออกให้เห็นถึงของที่ป้าเตรียมไว้ ก่อนที่เขาจะหยิบกล้องตัวใหญ่พร้อมเคสกันน้ำออกมาจากกล่องใหญ่อีกใบข้างๆตะกร้าผ้า
ผมให้คุณ คิดว่าคุณอาจจะอยากถ่ายรูป เมญาดาตาลุกวาวเมื่อเห็นกล้องด้วยความดีใจ แน่นอนถ้ามีกล้องที่นี่ก็คงไม่น่าเบื่อเท่าใดนัก
อุ้ย กล้อง ดีเอสแอลอาร์ เป็นฟูลเฟรมรุ่นสูงกว่าของที่ฉันใช้ประจำเสียอีก หญิงสาวยิ้มกว้างสบตาชายหนุ่ม เขายิ้มเล็กๆตอบเธอเหมือนเคย รอยยิ้มของหญิงสาวทำให้หัวใจของเขาพองโตขึ้น เพราะหลังจากที่เขาจับเธอมา กันต์พิมุกต์แทบจะไม่เห็นเธอยิ้มอีกเลย
เมญาดานั่งสำรวจการใช้งานจนลืมอาหารตรงหน้าเสียสนิท ทำให้ชายหนุ่มต้องคอยจัดแจงตักอาหารให้เธอเป็นครั้งคราว และคุยกับเธอเรื่องกล้องใหม่ เรื่องการถ่ายภาพใต้ท้องทะเลอย่างไรให้สีสด คุยสักพักจนอาหารตรงหน้าหมด ทั้งคู่ช่วยกันเก็บอุปกรณ์ปิกนิกลงกล่องเหมือนเดิม ก่อนจะมานั่งริมต้นไม้ รอคอยเวลาที่แสงไม่แรงนักเพื่อจะว่ายน้ำดูปะการังใต้ท้องทะเล
หญิงสาวนั่งถ่ายรูปเรื่อยเปื่อย ในขณะที่ชายหนุ่มนอนหลับตาอยู่ข้างๆ
ที่กรุงเทพเป็นยังไงบ้าง..คะ เออ
คุณได้ข่าวบ้างไหม? เมญาดาลองเลียบเคียงถามชายหนุ่มที่ยังคงหลับตาอยู่
ก็ปกติดี
คุณอยากรู้ข่าวอะไรหล่ะ?
ก็เรื่องทั่วๆไป ครอบครัวฉัน ที่ทำงาน เรื่องคดี
เมญาดาไม่พูดแบบจงใจนัก จริงๆ เธออยากถามถึงข่าวรองสารวัตรธีร์ว่ามีการติดตามหาตัวเธอหรือเปล่า
ทุกคนก็คงหาตัวคุณกันให้วุ่นนั่นหล่ะ แต่คงหายากสักหน่อยนะ เพราะแม้ตำรวจหนุ่มนั่นจะเก่งแค่ไหน ก็คงไม่มีทางรู้หรอกว่าตอนนี้คุณกับผมมีความสุขกันอยู่ที่ไหน ชายหนุ่มลืมตาขึ้นและยิ้มกว้างให้หญิงสาวที่กำลังทำท่าทีประท้วงคำท้ายประโยคของเขา
เชอะ! ถามฉันมั่งเถอะคุณ..ว่าฉันมีความสุขรึเปล่า เมญาดาค้อนขวับทำท่าจะลุกไปถ่ายรูปรอบๆหาด แต่ไม่ทันจะลุกขึ้น ชายหนุ่มรีบคว้าเอวเธอไว้ แล้วหนุนหัวมาที่ตักหญิงสาว ว้าย! นี่คุณทำอะไรหน่ะ ลุกเลยนะลุกเดี๋ยวนี้! เมญาดาตกใจพยายามผลักหัวกลมผมสั้นๆ ออกจากตักเธอ แต่เขากลับยิ่งกระชับเอวบางเข้ามาจนหน้าซุกแนบชิดกายของหญิงสาว
"ไม่เห็นต้องถาม" ชายหนุ่มตอบสั้นๆ ตาประกายระยิบสบตากลมโตสวยของหญิงสาว ไม่สนใจที่เธอสั่งให้เขาลุกออกจากตักเธอ เมญาดาหน้าแดงระเรื่อเข้าใจในสิ่งที่เขาส่งผ่านมาทางสายตา แต่ไม่วายแก้เขินด้วยการผลักไสหัวแข็งๆออกไป ค่ากล้อง คุณต้องจ่ายค่ากล้องผมด้วยการให้ผมนอนหนุนตักแบบนี้ นี่ ออกไปนะ! หัวคุณหนักจะตาย ลุกออกไปเลย! หญิงสาวพยายามผลักศรีษะชายหัวดื้อออกจากตักเธอ แต่เขายิ่งกระชับแนบสนิทจนเธอต้องยอมแพ้ความดื้อของคนบนตัก
นี่ เวลาอยู่กับผม ห้ามพูดถึงผู้ชายคนอื่น ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม เข้าใจนะ
กันต์พิมุกต์พูดจบก็ขยับหัวในท่าที่สบายก่อนจะหลับตาพริ้มไม่สนใจคำประท้วง หรือการผลักไสใดๆของหญิงสาว สักพักใหญ่ ลมโชยเย็นๆ ทำให้เขาหลับสนิทบนตักนิ่มของเมญาดา ส่วนหญิงสาวยังสงสัยว่าเธอพูดถึงผู้ชายคนอื่นเมื่อไหร่กัน
ถ้าเวลา ณ ปัจจุบันที่ได้อยู่กับเขามันคือความสุข เธอก็คงไม่ปฏิเสธว่ารู้สึกเช่นนั้นถ้าคนตรงหน้าเป็นคุณกันต์ช่างภาพ แต่กับกันต์พิมุกต์ เธอกลับไม่แน่ใจ ตอนนี้สำหรับเธอผู้ชายตรงหน้าคือใคร ควรจะหนีให้ไกล หรือควรจะอยู่ใกล้ เธอตอบตัวเองแน่ชัดไม่ได้เลย แต่ทว่าสิ่งเดียวที่เริ่มแน่ชัดคือไม่ว่าจะคือคุณกันต์หรือกันต์พิมุกต์ ชายหนุ่มตรงหน้าค่อยๆเข้ามามีอิทธิพลกับหัวใจเธอมากขึ้นทุกวัน
---------------------------------------------
จบบทที่ 8 แล้วค่ะ ช่วงนี้ไม่ได้เข้ามาเขียนต่อเลย ไม่แน่ใจมีคนอ่านรึเปล่า เลยแอบท้อนิดหน่อย
แต่ด้วยความรักในการขีดๆ เขียนๆ ก็ต้องสร้างแรงใจแล้วกลับมาเขียนอีกครั้ง แหะๆ สักวันคงมีคนชอบนิยายของเราเนอะ
ตอนนี้เมญาดาเริ่มหวั่นไหวให้กันต์พิมุกต์เข้ามาในใจซะแระสิ แล้วอย่างนี้เธอจะยังกลับไปเป็นพยานให้รองสารวัตรธีร์สุดหล่อของเราหรือเปล่านะ อย่านะๆ สงสารตำรวจหนุ่ม
ยังไงก็รอติดตามบทที่ 9 นะคะ เข้มข้นเรื่อยๆแล้ววว (คนอ่านจะเข้มข้นกับเราปล่าวน้อ)
Create Date : 12 มิถุนายน 2557 |
Last Update : 12 มิถุนายน 2557 18:07:52 น. |
|
0 comments
|
Counter : 582 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|