Tempting Heart หัวใจเต้น เป็นเสียงเธอ
เล่าหนัง : Tempting Heart (หัวใจเต้นเป็นเสียงเธอ) หนังดีที่มาแนะนำกันในฉบับนี้เป็นหนังฮ่องกง เก่าพอสมควร ประมาณปี 1999 ชื่อ Tempting Heart (หัวใจเต้นเป็นเสียงเธอ) แต่ยังพอหาได้ตามแผงหนังแผ่นราคาถูก เป็นหนังที่ผมรับรองได้ว่าถ้าใครได้ดูแล้ว จะรู้สึกอิ่มในความรัก แม้บทสรุปคู่พระนาง จะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม ดูเรื่องนี้แล้วขอให้ดูหนังไทย เรื่อง สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก ต่อเลย เพราะผมต้องการรู้ว่ามีผมคนเดียวหรือเปล่า ที่รู้สึกว่า สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก มีกลิ่นอายของ Tempting Heart อยู่ หนังใช้วิธีเล่าเรื่องแบบเป็นชิ้นๆของช่วงเวลา ทำให้การดำเนินเรื่องไม่น่าเบื่อ เพราะคนดูจะอยู่กับ คำถาม ความสงสัย เผลอคิด และคาดเดาไปโดยอัตโนมัติ แต่พอเวลาของหนังผ่านไปเรื่อยๆ ภาพที่เป็นชิ้นๆต่างๆ ข้ามไปข้ามมา จะค่อยๆมาเติมเต็มช่วงเวลาที่หายไป เฉลยคำถามและความสงสัยไป ทีละช่วง ทีละช่วง ถือเป็นวิธีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจมากๆ แกนการเล่าเรื่องหลักๆ มีเพียง 3 ตัวละคร คือ ฮ่าวกวาน เสี่ยวเหยา และเฉิงลี่ ภาพของหนังสับไปสับมา ตั้งใจให้คนดูสับสนว่าเป็นเรื่องที่มีตัวตนจริง หรือเป็นเรื่องที่นักเขียนบทละครสองคนกำลังเขียนขึ้นร่วมกัน ความสัมพันธ์ของทั้งสาม เกิดขึ้นในสมัย มัธยมปลาย ฮ่าวกวาน เป็นหนุ่มมาดเซอร์เล่นกีตาร์ เรียนไม่เก่ง ส่วน เสี่ยวเหยา และเฉิงลี่ เป็นนักเรียนสาว ม.ปลายที่เป็นเพื่อนรักกัน เรื่องก็ดูเหมือนเป็นนิยายรักสามเศร้าทั่วไป เสี่ยวเหยา และเฉิงลี่ ดูเหมือนจะชอบผู้ชายคนเดียวกัน คือ ฮ่าวกวาน สุดท้าย ฮ่าวกวานก็ตกลงคบกันเป็นแฟนกับ เสี่ยวเหยา ทำให้ เฉิงลี่ ไม่พอใจ แต่ก็ไม่ถึงกับเลิกคบกับ เสี่ยวเหยา ความสัมพันธ์ เสี่ยวเหยา กับ ฮ่าวกวาน พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วตามแบบฉบับรักของวัยรุ่น จนดำเนินไปถึงจุดที่ทั้งสองแอบหนีที่บ้านไปนอนค้างอ้างแรมด้วยกันที่เกาะ ซึ่งก็น่าจะเดาได้ว่าทั้งสองคงต้องมีอะไรกัน แน่ๆ แต่ระหว่างที่เข้าด้ายเข้าเข็มกันอยู่ หนังก็แสดงให้เห็นถึงสัญชาติญาณ ความรักนวลสงวนตัวของ เสี่ยวเหยา และความเป็นสุภาพบุรุษ ของ ฮ่าวกวาน ทำให้ทั้งสองไม่ได้มีอะไรกัน (หาได้ยากในยุค 2012) สุดท้ายก็มีเหตุให้ ทั้งสองต้องแยกทางกัน ตามสไตล์แม่นางเอกไม่ชอบคนไม่มีอนาคต ช่วงที่ เสี่ยวเหยา กำลัง เฮิร์ท นี่แหละ หนังได้เฉลยว่า รักสามเศร้าของสามคนนี้เป็นรักสามเศร้าที่ไม่ธรรมดาจริงๆ ฮ่าวกวาน บินไปสู้ชีวิตที่ญี่ปุ่นเพราะเอ็นไม่ติด ส่วนเสี่ยวเหยา ก็เดินไปตามเส้นทางการเป็น Designer ด้วยพรหมลิขิต ทำให้ทั้งสองกลับมาเจอกันอีกครั้งที่ญี่ปุ่น ฮ่าวกวาน เป็นไกด์นำเที่ยว เจอกันครั้งนี้ต่างคนต่างเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก น่าจะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 25-30 ปี ตอนนี้หนังทำออกมาให้เห็นว่าทั้งคู่ต่างมีเส้นแบ่งกันอยู่ แม้นั่งใกล้กันก็เหมือนห่างกัน แต่ยังมีกลิ่นอายความรักของทั้งคู่ตลบอบอวลกันอยู่ แต่พอสักพักเส้นแบ่งนั้นก็ถูกทำลายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นที่เกาะสมัย ม.ปลาย กลับมาเกิดขึ้นในตอนนี้ เสี่ยวเหยา ยังไม่แต่งงาน แต่ ฮ่าวกวาน แต่งงานแล้ว เสี่ยวเหยา กลับมาที่ฮ่องกง แต่ทั้งคู่ก็ยังติดต่อกันทางจดหมาย ไม่นาน ฮ่าวกวาน ก็บินมาหา เสี่ยวเหยา เพื่อบอกว่า เค้าหย่าแล้ว และขอ เสี่ยวเหยา แต่งงาน เรื่องก็คงจบกันง่ายขึ้นถ้า เสี่ยวเหยา ตอบตกลง แต่กาลกลับไม่เป็นเช่นนั้น คงมีคำถามว่า แล้ว เฉิงลี่ หล่ะ หายไปไหน ตอนนี้แหละที่หนังเฉลยว่า เฉิงลี่ อยู่ไม่ไกลจากสองคนนี้เลย ตอนนี้แหละที่หนังเฉลยว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นแค่บทหนัง บทละคร แต่ตัวละครทั้งหมดมีตัวตนจริงๆ เสี่ยวเหยา ก็คือ หนึ่งในสองคนที่เหมือนคุยกันเพื่อร่วมกันเขียนบท ที่หนังตัดภาพไปมาให้เหมือนเป็นการแต่งเรื่อง ช่วงสุดท้ายของหนัง เสี่ยวเหยา และ ฮ่าวกวาน อายุน่าจะอยู่ในช่วง 40-50 ปี เสี่ยวเหยา แต่งงานแล้ว มีลูกสาวหนึ่งคน ส่วน ฮ่าวกวาน หลังจากหย่ากับภรรยา ก็กำลังคบกับผู้หญิงคนใหม่และจะแต่งงานใหม่ในเร็วๆนี้ ทั้งคู่มาพบกันที่ญี่ปุ่น อีกครั้งเพราะ เฉิงลี่ คนทำหนัง และนักแสดง ตัวพระ ตัวนาง (ทั้งช่วงหนุ่มสาว และช่วงกลางคน) ในเรื่องนี้ มีความสามารถในการทำให้คนดูได้รับกลิ่นอายของความรักอบอวล อยู่ทุกครั้งที่ เสี่ยวเหยา และฮ่าวกวาน ได้มาเจอกัน ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ทำมาได้ซึ้ง และทำให้เราสัมผัสได้ว่า ความรักเหนือกาลเวลา และระยะทางจริงๆ ช็อต เด็ด ส่งท้ายของหนังเรื่องนี้ อยู่ในกล่องที่ ฮ่าวกวาน มอบให้ เสี่ยวเหยา เพื่อเอาไว้เปิดดูบนเครื่องบิน ประโยคเด็ด - ถึงฮ่าวกวาน จะเลี้ยง เสี่ยวเหยา ไม่ได้ แต่เราเลี้ยงได้ - เราสองคน รักผู้หญิงคนเดียวกัน - ฉันมีความสุขที่ได้รู้ว่าเธอปลอดภัย Key Takeaways: - วัยรุ่นไม่มีอะไรสำคัญกว่า แฟน และ เพื่อน (เสี่ยวเหยา เลือก ฮ่าวกวาน ถึงขั้นยอมให้ตัดแม่ตัดลูก) ถ้าเข้าใจตรงนี้ ใครที่เป็นพ่อเป็นแม่ ก็ต้องเหลือช่องว่างให้กับลูกที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นบ้าง พยายามทำความเข้าใจ และพยายามเป็นเพื่อนของลูก อย่าให้ลูกคิดว่าเราเป็นคนนอก - ตอนที่เรายังไม่มีอะไร ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีหน้าที่ เรายอมแลกทุกอย่างเพื่อความรัก แต่พอเราโตขึ้น มีตำแหน่ง มีหน้าที่ มีความมั่นคง ความรัก มีค่าน้อยลง - ความรัก เหนือกาลเวลา และระยะทาง - รักแท้ ถ้ามาไม่ตรงกับจังหวะของชีวิต มันก็เป็นได้แค่เพียง รักแท้ เท่านั้น
Create Date : 15 กันยายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 15 กันยายน 2555 23:37:57 น. |
Counter : 4968 Pageviews. |
|
 |
|