ร้อยสีร้อยเรื่องราว...โปรดอย่าเดา

หรือเค้ามาเตือน!

วันนี้ปกติจะกินมัง แต่ว่าหาไรกินไม่ได้เพราะออกมาจากบ้านแต่เช้าไปส่งของ
ขากลับเลยแวะกินข้าวที่เซ็นทรัล

ออกมาไม่ทันไร ก็เจอรถเบียดจะแซงในที่คับขัน เราก็จะไป เค้าก็จะเร่งแซง
กะให้เราเบรคชะลอให้ เราก็เหยียบมาแล้ว จะเบรคก็ไม่ทัน ทำได้แค่เหยียบมิดให้เร่งพ้นไป
แต่จังหวะแซงกัน จะชนกันแล้ว ห่างไม่ถึงฟุต (นี่ครั้งที่ 1)

ออกมาอีกสักพัก จะต้องเบี่ยงเข้าขวา แต่รถคันหน้าเกิดชะลอกะทันหัน
ทำให้รถต้องเบรค แต่ปัญหาคือ มันอยู่ตรงคอสะพาน รถพ่วงสิบล้อ
ลงจากสะพานมาด้วยความเร็วสูงมาก มองกระจกข้าง ถ้าไม่หักหลบก็คงจะชนหัวรถจังๆ
(รถหัวโผล่ไปเพื่อจะเข้าขวา) จังหวะนั้นเสียววูบ รีบหักพวงมาลัยหันหัวเข้ามาอย่างทันท่วงที 
รถพ่วงผ่านไป ห่างไม่เกินฟุตอีกแล้ว

ห่างมาอีกสักพักกำลังจะถึงยูเทิร์นอยู่แล้ว มอไซด์มาจากไหนไม่รู้ เบียดแทรกช่องเข้ามา
ชนหูกระจกข้างรถอย่างจัง เล่นเอาสะดุ้งสุดตัว ดีที่ไม่มีอะไรมาก

ปกติจะกินมังวันพุธทุกพุธ กินแบบนี้มาปีกว่าๆแล้ว จะทำได้ทุกๆครั้ง มีครั้งแรก
ที่เบี้ยว ปวดท้องอย่างสาหัส นี่ก็อีกครั้งที่ทำให้เสียววูบ ถึงแม้เราจะไม่ได้บอกว่า
เรากินเพราะอะไร แต่ก็ตั้งใจกินมาตลอด เหมือนว่ามีบางอย่างรับรู้ในการกระทำนี้
พอเราไม่ปฏิบัติตามก็คงแค่มาเตือน แต่อย่าให้มีคราวหลังอีก กลัวแล้วครับ

(ถ้าจะงดเว้น จะจุดธูปขอก่อนล่วงหน้าครับ)




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2562   
Last Update : 26 มิถุนายน 2562 15:45:29 น.   
Counter : 3355 Pageviews.  

เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย

การยืมมือคนอื่น โดยที่ไม่ได้ทำเอง มันทำให้ชีวิตวุ่นวายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

ด้วยความที่การมีคนยื่นมือมาช่วย มันก็ดีมาก แต่การที่เราจะเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการมาก มันก็ทำไม่ได้

สุดท้ายท้ายสุด การที่เราปล่อยให้มันเป็นไป เวลาก็ยิ่งเนิ่นนาน นานจนไม่กล้าทวงถาม

การโดนคำถาม ที่ถามบ่อยๆว่า เสร็จหรือยัง ก็เป็นคำตอบที่เรา กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เพราะการจะไปเร่ง มันก็ทำลำบากมากๆ 

ท้ายจริงๆ คืองานออกมาแล้วใช้ไม่ได้

แล้วใครล่ะ แล้วใครล่ะ

เวลาเอยที่เสียไป โอกาสที่พลาดพลั้ง สตางค์ที่ปลิดปลิว 

ต้องเริ่มนับศูนย์ใหม่ แต่คนที่รอ คงไม่รอแล้ว ที่ทำไปแล้วก็ต้องเริ่มใหม่ 

หากยังมีลมหายใจ ลุกขึ้นใหม่ อย่าท้อ มันมีทางแก้เสมอ เพียงแค่โอกาสไม่ได้มาบ่อยๆแค่นั้นเอง
 




 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2562   
Last Update : 30 พฤษภาคม 2562 15:53:17 น.   
Counter : 607 Pageviews.  

ไส้ติ่งช้านนนนนหายยยยไป

ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรือเปล่าที่ไส้ติ่งอักเสบวันนี้ ไม่รอให้แก่กว่านี้อีก
ไม่รู้เหมือนกันว่าแก่แล้วจะทำยากหรือไง แต่เห็นบอกว่ายิ่งแก่ยิ่งหายยาก
สรุปได้อย่างเดียวตอนนี้ยังไม่แก่วุ้ย

ไส้ติ่งมันทำพิษเอาตอนเที่ยงคืนวันศุกร์ ขณะกำลังเล่นอินเทอร์เนตอย่าง
สนุกสนาน กวนคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างเมามัน เค้าเรียกกรรมตามทันป่ะไม่รู้
อยู่ๆก็ปวดท้องลงไปชักดิ้นชักงอ ตัวงอเป็นกุ้งซะงั้น อาการท้องมันก็
เกร็งๆปวดๆเหมือนโรคลำไส้แปรปรวนทั่วไป คืนนั้นพยายามหาผู้เชี่ยวชาญ
แต่รู้สึกเวลานั้นผู้เชี่ยวชาญจะหายกันไปนอนหมดซะแล้ว วันนั้นได้
คำตอบมาว่า ท้องเสียเหรอเปล่าปวดท้องซ้ายหรือขวา แต่ก็ยังดียังมีคน
เป็นห่วง ซึ้งใจจริงๆ

การอดทนของเราทนได้แค่ถึงตอนเย็นวันเสาร์ หลังจากอาการทรงๆมา
ตลอดทั้งวัน ถึงจะบรรเทาลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่หาย เลยตัดสินใจไปหา
หมอที่โรงพยาบาล ไปถึงหมอก็กดท้องแล้วเอาเข้าห้องฉุกเฉินรอการ
พิสูจน์เพราะเวลานั้นหมอก็กำลังกลับบ้านกันหมดแล้ว แล้วเราก็ต้องนอน
พักคืนนี้แหละเอาล่ะหว่า นี่คือการนอนโรงพยาบาลครั้งแรกเสียด้วย
งั้นก็ต้องมีการให้น้ำเกลือสิเนี่ย อาการเดิมพุ่งเข้ามาครับ กลัวเข็มอ่ะสิ
เส้นเลือดหดหมดแล้วทำไงดี โอ๋ๆๆๆๆ คนดี ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ
เหอะๆ หวังไปไหมไอ้หนุ่ม พยาบาลจะพูดแบบนี้ ดูสิเส้นเลือดไม่มีเลย
กำมือหลับตาค่ะ จะแทงน้ำเกลือ แล้วน้ำเกลือก็เข้าไปจนได้
เฮ้อ ลำบากยากเย็นเสียจริง

ขึ้นไปพักบนห้องหมอที่ดูอาการก็มาในตอนห้าทุ่ม มากดท้องพิสูจน์
หลังจากรู้ผลเลือดปัสสะวะ เอ็กซเรย์เรียบร้อย คราวนี้บอกให้เราหันหลัง
หันก้น เฮ้ยจะทำไรตรูเนี่ย บอกหมอกดทวารหนัก เฮ้ย เสียตูดเลยเหรอเนี่ย
คิดในใจ แล้วสุดท้ายก็ต้องยื่นตูดให้หมอควักซะงั้น กดไปกดมาหมอ
ก็บอกว่า ไม่รอด เตรียมผ่าตัด บอกญาติไว้เลยนะ เดี๋ยวหมอมาใหม่
อะไรกันเนี่ย ยังไม่ทันตั้งตัวอะไรเลย จ๊าก เราก็รีบโทรกลับบ้าน
แต่เหมือนว่าจะไม่มีใครตกใจอะไรกันเลย

และแล้วเวลานั้นก็มาถึง หมอก็มาอธิบายวิธีการผ่าตัดว่ามีสองชนิด
เราก็บอกหมอว่า ผมอยากสลบดมยาไปเลยแล้วกันนะ หมอก็รับปาก
แต่ขณะนั้นตัวผมกลายเป็นลูกนกด้วยความตื่นเต้นไปเสียแล้ว
ตัวสั่นมาก ใครนึกถึงผีเข้าออกก็คงจะรู้สึกแบบนั้นแหละ แต่แล้วเมื่อ
เข้าห้องผ่าตัดผมก็ถูกหักหลังซะงั้น หมอบอกว่าบล็อคหลังปลอดภัย
สุดแล้ว ง่ะ หมอหลอกผม แล้วก็ทำตัวผมงอเข่าชิดอก จิ้มเข็มเข้าไป
ก่อนหน้านั้นหมอก็ต้องปลอบผมเสียยกใหญ่ ไม่เจ็บไปกว่าน้ำเกลือหรอก
เหอะๆ ปลอบผมยังไงก็ไร้ผล ตัวสั่นไปหมดแล้ว สุดท้ายร่างกายส่วนล่าง
ก็หมดความรู้สึก เชิญเลยหมอจะทำอะไรกับร่างกายผมก็เชิญเลย
เฮ้อ ชีวิตผมขึ้นกับมือหมอแล้วนะ อย่าลืมผ้าก๊อตไว้ล่ะ ไม่อยาก
ผ่าหลายหน ตลอดเวลาผ่าตัดหมอก็คุยกันจริงๆเลย ไอ้เราก็ฟัง
แต่แหมหมอคุยเรื่องน่าฟังหน่อยก็ไม่ได้ คุยกันแต่เรื่องซานติกา
จะคุยกันให้ผมหลอนนึกถึงภาพพวกนั้นเหรอ แหงะๆๆๆ

หลังจากผ่าเสร็จก็ลากเข้าห้องไอซียู ให้นอนอยู่อย่างงั้น
ไม่รู้สึกอะไรเลย อยากนอนก็นอนไม่หลับ ก็อยากรู้ว่าอะไรมันจะรู้สึกก่อน
รู้แค่ว่าขาขวาค่อยๆรู้สึกทีละนิด ขยับไปขาซ้าย แล้วลามขึ้นมา
ถึงก้น พอถึงก้นเท่านั้นแหละคันยิบๆเลยอยากจะกระดกก้นขึ้นมาบ้าง
แต่ก็ยังยันกายไม่ไหว ตอนเช้าปวดฉี่เต็มทีแล้ว แต่ว่าอวัยวะขับถ่าย
ยังไม่ทำงานนี่สิ ก็ต้องรอไปสักพัก เอาแหละ ตอนนี้อวัยวะส่วนนั้นทำงาน
แล้วหลังจากกังวลมาตลอดว่าถ้ามันไม่ทำงานตรูจะทำไงเนี่ย
เค้าเอาคอมฟอร์ตร้อยมาให้ฉี่โดยให้นอนฉี่ แต่แล้วกำลังเบ่งลมปราณ
เราก็ไม่ขึ้น ลองอยู่นานสองนาน สุดท้ายแล้วก็ต้องพึ่งวิธีสามัญทั่วไป
คือสวนปัสสะวะ อายเป็นอายสิ มันไม่ไหวแล้ว สุดท้ายแล้วก็พยาบาล
โฉมงามรูปหนึ่ง (ปล. พยายามนึกเข้าไว้ แต่ความจริงคือคุณป้าคนนึงนั่นเอง)
ค่อยๆแยงเข้าไป เฮ้อ ไม่ค่อยเจ็บเลยวุ้ย แล้วก็ถึงฉี่ออกมาได้
แต่แล้วผ่านไปช่วงสาย เราก็ปวดอีกรอบ ตอนนี้อวัยวะส่วนนั้นทำงานครบ
ถ้วนแล้ว แต่ก็ยังฉี่ไม่ออก เอาไงวะ ไม่อยากใช้วีธีเดิมแล้วนะ
สุดท้าย คราวนี้เป็นคราวที่อายที่สุด คนสวนเป็นผู้ชาย แล้วหมอก็มาตรวจ
ตอนสวนพอดีดันเปิดม่านไปตอนพยาบาลอยู่กันหลายคนด้วยสิ
เฮ้อ มองก็ไม่เห็นด้วยตอนนั้น เป็นช้างหรือว่าตัวหนอน

เสร็จแล้วก็ลากขึ้นมายังห้องพักเพื่อพักผ่อน หิวน้ำก็กินน้ำไม่ได้
ทรมานมากๆ กว่าจะได้กินน้ำก็ร่วมบ่าย กว่าจะได้กินข้าวก็วันรุ่งขึ้น
เฮ้อ ไม่เคยอดข้าวอดน้ำแบบนี้เลย ดีๆๆๆ จะได้ผอมเสียที กินน้ำเข้าไป
นิดเดียวฉี่ออกมาเพียบ รู้ไหมออกจากรพ น้ำหนักลดไปสามโล
ยิ่งกว่าไปเข้าสลิมมิ่งเชฟอีก เหอะๆ การนอนรพเป็นไปอย่างราบเรียบ
ไร้ผู้ควบคุม (ไม่มีคนมาเยี่ยมนั่นเอง) เหงาเหมือนกัน แต่ก็ยังดี
ที่มีการส่งเสียงผ่านสายมาเป็นระยะ ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะ
เอาล่ะ เล่าแค่นี้พอ ใครมีข้อสงสัยประการใด เชิญถามได้ที่คอมเมนต์
ข้างล่างครับ ขอบคุณที่ทนอ่านมาเพราะยาวมากๆ




 

Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2552   
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2552 15:05:40 น.   
Counter : 440 Pageviews.  

ของขวัญก่อนวันเกิด

ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจดีที่ได้รับของขวัญชิ้นนี้ การได้พบกับคนๆหนึ่ง
ซึ่งไม่ได้เจอกันนาน พร้อมกับคำที่ว่าไปก่อนนะกำลังรีบ แล้วก็เดินผ่านไป
อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งรอยยิ้มที่ทิ้งท้ายไว้ ผมอิ้งพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืน
นิ่งอยู่เป็นนาที ทำอะไรไม่ถูกเลยในวินาทีนั้น ดีใจที่ได้เห็นเค้ายิ้มให้ เห็น
ท่าทางมีความสุขที่ไม่รู้เบื้องหลังจะมีคราบน้ำตาหรือไม่ เสียใจที่เค้าจากไป
โดยทิ้งคำพูดไว้แค่นั้นเหมือนจะรีบๆเดินไปให้พ้นจากจุดนั้นไวๆ

เป็นของขวัญก่อนวันเกิดที่เราจะเกิดพรุ่งนี้ เราไม่เคยคิดหวังจะได้คำอวยพร
จากเธออีกแล้ว เพราะตอนวันเกิดเค้า เราพยายามโทรไป แต่เค้าก็ไม่รับสาย
ทิ้งคำสุดท้ายที่ว่า เราไม่ได้เป็นอะไรกันทำไมต้องรับสาย ปวดใจที่สุด
แต่วันนี้คนๆนั้นมาอยู่ตรงหน้า ครบหนึ่งปีแล้วสินะจากวันเกิดคราวที่แล้ว
ที่ฉันและเธอได้ไปฉลองกัน แต่วันเกิดปีนี้ของฉันคงจะโดนทิ้งไว้แค่ความทรงจำ




 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2551   
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2551 18:13:36 น.   
Counter : 355 Pageviews.  

ตู้เย็นมาแระ แต่เซ็งคนส่งของ

วันนี้ดีใจก็ดีใจ วันที่ 8 เดือน 8 ปี 8 ได้ตู้เย็นใหม่เสียที
หลังจากที่รอมานานแสนนาน เลือกแล้วเลือกอีก มันก็มาส่ง
ตอนส่งก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ตอนกลับเนี่ยล่ะ ไอ้พนักงงานส่งของ
มันพูดจาขัดหูพิลึก ไอ้ทางเราก็ำกำลังจะเอาของลงจากรถ
คนที่เค้ามาส่งของเรา เค้าก็จะรีบลงของเหมือนกัน
ไอ้ทางนั้นก็ดันมาพูด พี่ไม่ต้องรีบก็ได้นะ ผมต้องไปอีกหลายที่
มันจะพูดทำไม เงียบไว้ดีกว่ามั้งน้อง พูดแบบนี้แทนที่จะรีบ
เดี๋ยวยิ่งแกล้งให้ช้าซะเลย แต่ก็นะไม่อยากแกล้งคนด้วย
เลยเอาของลงเสร็จ ก็ให้เค้าขยับรถให้หน่อย จริงๆยังไม่เสร็จหรอก
เพราะยังต้องมีของต้องขึ้นรถไปต่ออีก แต่ตอนลงมันยังค้างอยู่ไง
ก็อยากให้เสร็จๆไปทีละอย่าง แต่รอนิดรอหน่อย ทำพูดประชด
ถ้าแค่บอกพี่ครับ เดี๋ยวผมต้องไปต่อ พี่ช่วยถอยรถให้ผมก่อน
ก็อาจจะยอมถอยก่อนก็ได้ แต่นี่นะ มีพูดประชด ยังไงก็ไม่ยอมหรอกเฟ้ย




 

Create Date : 08 สิงหาคม 2551   
Last Update : 8 สิงหาคม 2551 21:27:47 น.   
Counter : 302 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  

freqly
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add freqly's blog to your web]