นมัสการพระพุทธบาท ณ เขาคิชฌกูฎ

หลังจากได้ยินจากคนอื่นและเพื่อนๆที่เคยไปเขาคิชฌกูฎ เริ่มมีความรู้สึกอยากไปมั่ง เลยเริ่มถามพี่ๆ เพื่อนๆ ที่ทำงานว่ามีใครอยากไปมั่ง เราก็ได้ผู้ร่วมชะตากับ โซ่ 5 คน (รวมตัวเองด้วย)



หลังจากได้คนไปแล้ว ก็ หาเส้นทาง และ ที่พัก ครบทุกอย่างแล้ว ถึงวันที่ 27 กพ. ตอนกลางคืนก็ ลุยกันเลย

โซ่ออกเดินทางจากกรุงเทพวันที่ 27 กพ ประมาณ 4 ทุ่มกว่า แวะโน้น แวะนี่ บวกหลง 5 5 5 ถึงที่วัดพลวง ประมาณ ตี 2 กว่าๆ ของวันที่ 28 กพ กว่าจะวนหาที่จอดรถกันได้ ก็เกือบๆ ตี 3 แล้ว แวะเข้าห้องน้ำกันนิดหน่อย หลังจากนั้นเดินหาที่ขายตั๋วขึ้นรถ เนื่องจากไม่มีใครเคยไปมาก่อนเลย พอเห็นคนก็ โอ๋ แม่เจ้า ทำไมคนเยอะอย่างนี้ พอหาที่ซื้อบัตรขึ้นรถได้ เค้าบอกว่า ได้ขึ้นรถ 6 โมงเช้า ง้า รอตั้ง 3 ชั่วโมง ทำไงดี เลยเช่าเสื่อกันนั่งรอ และให้พี่หน่อยนอนพักเอาแรง รอ รอ รอ รอ รอ หลับ หลับ หลับ



ฟังเค้าเรียกว่าจะถึงคิวเราหรือยัง ถึงแล้ว รีบวิ่งขึ้นรถเลย หน้าตาของรถที่รอเป็นแบบนี้นะคะ ทั้ง ขาขึ้นและขาลง



พอขึ้นรถได้ แนะนำว่าให้หาที่เกาะนะคะ เนื่องจากเส้นทางจะเหมือนนั่งรถไฟเหาะเลย (บางคนอาจจะเมารถได้) คนขับรถชำนาญเส้นทางมากๆ เก่งสุด นับถือเลย นั่งรถมาถึงขึ้นที่ 1 ต้องมาต่อ รถขั้นที่ 2 ครั้งนี้ไม่ต้องรอเลย พอซื้อบัตรคิวก็ขึ้นรถได้เลย เหวียง เหวียง โยก โยก มันมาพักนึง ก็ถึงแล้ว ไปซื้อธูปเทียน ดอกไม้กันก่อนเลย

จริงๆ ดอกไม้ ธูป ข้างล่างก็มีขายนะคะ แต่เราคิดกันแล้วว่าไม่อยากถืออะไรมากตอนขึ้นรถเลยไปซื้อข้างบนดีกว่า พวกโซ่ซื้อกันคนล่ะ 1ชุด ชุดล่ะ 110 บาท มีเทียน ธูป(ธรรมดา) ธูปสี (ตามวันเกิด) ดอกดาวเรือง ทองคำเปลว และ พลอย



ก่อนที่จะขึ้นไหว้พระ กับ พระแม่ธรณีก่อนนะคะหลังจากนั้นก็ขึ้นได้เลย จะมีจุดที่ไหว้เป็นระยะ บางคนก็โรยดอกดาวเรืองตลอดเส้นทาง ส่วนทางขึ้นก็เป็นปูนบ้าง เป็นดินบ้าง บางครั้งอาจจะมีลื่นต้องระวังกันด้วยนะ ตอนขาขึ้นไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่เพราะมือไม่ว่าง สำหรับคนที่กลัวว่าจะหิว ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ มีของขายตลอดเส้นทางค่ะ แต่ราคาอาจจะสูงกว่านิดนึงเพราะขึ้นมาลำบากนะ

เดินไปเดินมา หลงกับพี่ต๊อก กับพี่เชอร์รี่ ซะแล้ว ตอนนี้เหลือสมาชิกอยู่ 3 สาว เดินกันไปเรื่อยๆ ถึงประตูสวรรค์แล้ว คนเยอะจังเริ่มมีการเบียดกันเล็กน้อย แต่ยังไม่ถึงนะตะ ต้องเดินกันต่อ



เดินไปเรื่อยๆ จะถึงแล้ว ตรงจุดนี้คนจะเยอะมากๆ





ติดอยู่ตรงนี้นานพอสมควรเลย แถมโดนเบียด โดนดัน ไม่เข้าใจจะดันทำไมยังไงก็ต้องไปด้วยกันอยู่แล้ว

เกือบถึงแล้ว



ก่อนที่จะไปถึงรอยพระพทุธบาทต้องถอดรองเท้าด้วยนะคะ และแล้วเราก็มาเจอ พี่เชอร์รี่กับพี่ต๊อกแล้ว เย้ เย้



ทางตรงนี้ค่อนข้างลื่นและชัน เพราะเป็นหิน ต้องระวังกันด้วยนะ

รอยพระพุทธบาท มองไม่เห็นแล้ว เพราะดอกไม้เต็มเลย



รอยตรงก้อนหินใหญ่ คล้ายรูปพระพุทธรูปเลย



อยู่ตรงนี้กันพักนึง แล้วก็เดินออกกันมา เตรียมจะไปผ้าแดงกันต่อ





ออกจากตรงรอยพระบาทจะมีที่ทำบุญ และขายน้ำมันจะขึ้นข้างบนก็ได้ หรือว่าจะไปซื้อที่วัดกระทิง ก็ได้นะ

บางคนก็ทานเลยก็มีเหมือนที่เห็นในรูป

>

เดินกันต่อ

ไม่ต้องกลัวจะไปไม่ถูกนะ เพราะเค้ามีป้ายบอกตลอด ว่า ไปผ้าแดง 850 เมตร แต่ทำไมมันไกลจังเลย เดินไปเริ่มหมดแรง มีพักเป็นระยะ ระยะ แต่คิดกันเอาไว้ว่ามาทั้งที ต้องไปให้ถึงซิ ทางเดินไปผ้าแดงค่อนข้างโหด จะเป็นลักษณะขึ้นเขา ลงเขา และเป็นดิน + ก้อนกรวด ทำให้ลื่นได้ง่าย ก่อนถึงผ้าแดงก็จะมีจุดให้ไหว้พระหลายจุด พักได้เป็นระยะ ระยะ

จุดนี้เค้าเรียกว่าบาตรพระอานนท์ เวียนเทียนกันซะหน่อย





จุดนี้เป็นต้นตะเคียน ขูด ขูด ถู ถู อันนี้แล้วแต่ดวงใครดวงมันละนะ



เดิน เดิน เดิน เดิน และแล้วเราก็มาถึงผ้าแดงกันแล้ว เย้ เย้



เขียนชื่อกันซะหน่อย



ก่อนจะกลับจากผ้าแดง ทำบุญปีเกิดตัวเองนิดนึง



ช่วงขากลับดูเร็วกว่าขาไปนะเนี่ยะ แวะถ่ายรูปกันที่ระลึกกันนิดนึง (หน้าตาแบบคนไม่ได้นอน)





เดินลงล่ะ



ระหว่างทางน้องหมี ทางหลวงพ่อเลี้ยงไว้


เดินลงต่อไป



ถึงแล้ว ต้องไปซื้อบัตรคิวขึ้นรถก่อน ต้องไปซื้อ 2 ครั้ง เหมือนตอนขาขึ้นเขาแหละนะ

ตอนขาลงอาจจะเป็นความบังเอิญ หรือความโชคดีของพวกโซ่ก็ได้นะ เพราะจริงๆ แล้วเค้าต้องมีเรียกบัตรคิวขึ้นรถ แต่นี้เค้าบอกว่ารถคันไหนมาก็ขึ้นได้เลย เลยไม่ต้องรอคิวนาน พอลงมาถึงข้างล่าง ประมาณเที่ยงแล้ว คนไม่เยอะแล้ว เดินกลับรถ ไปซื้อน้ำมันที่วันกระทิง + หาของกิน เพราะไม่ได้กินอะไรกันเลย และ ไปที่พักที่เราจองไว้

ช่วงระหว่างซื้อน้ำมัน เจอน้องหมาน่ารัก ชื่อส้มจี๊ด





ดอกสาละ สวยจังเลย



ลูกของต้นสาละ



ซื้อของครบแล้ว ไปหาของใส่ท้องบ้างดีกว่า ตกลงกันว่าจะไปกินในอ.เมืองจันทบุรี ขับรถไป ขับรถมา ก็มาเจอร้านนี้ คนกินเยอะดี ชื่อร้านจำไม่ค่อยได้แล้ว แต่จำได้แค่ว่า " เจ๊..... เย็นตาโฟ "

สั่งเต้าหู้ทอด



เย็นตาโฟ ปู + กั้ง (กั๊งได้เยอะมากๆ) ชามล่ะ 60 บาทเอง



ก๋วยเตี๋ยวยำแห้ง ปู + กั้ง 60 เหมือนกัน



รสชาติอาหารโซ่ว่าค่อนข้างหวานไปนิด และสำหรับคนที่ใจร้อน ร้านนี้ บริการช้า ต้องใจเย็นๆนะคะ

เติมพลังกันแล้ว เดินหน้าไปที่พักกันเลย ..........................

-----------------------------------------------------
ข้อแนะนำนิดๆสำหรับคนที่จะขึ้นเขาคิชฌกูฎนะคะ

1. ใส่ร้องเท้าผ้าใบ

2. ไฟฉาย (ถ้าจะขึ้นตอนกลางคืน) เค้าเปิดให้ขึ้น 24 ชม. นะ

3. น้ำดิ่ม จะไปซื้อข้างบน หรือ ซื้อจากข้างล่างก็ได้

4. ค่ารถ คนล่ะ 200 บาท (ขาขึ้น 2 ครั้ง ครั้งล่ะ 50 บาท ขาลง 2 ครั้ง ครั้งล่ะ 50 บาท)

5. เวลาไหว้ไม่ต้องจุดธูป และ เทียนนะคะ

6. เวลาเดินต้องระวัง อาจจะลื่น เนื่องจาก ทาง และ ดอกดาวเรือง

7. เตรียมเหร๊ยญ + แบงค์เล็ก เวลาทำบุญ

8. ตั้งใจว่าจะขอพรอะไร ให้ข้อได้ 1 ข้อนะคะ ตั้งใจไว้ตั้งแต่รถออกเลยนะ

9. เวลาไหว้พระบาทเสร็จแล้ว ช่วงที่จะเดินออกมาระวังทางด้วยนะคะ อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ค่ะ

9. เตรียมใจ และ ร่างกาย ให้พร้อม อันนี้สำคัญมากๆ

สุดท้ายนี้ นับถือแรงศัทธาของคนทุกๆคน ทั้ง เด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน และ คนแก่ (อันนี้ทึ่งเป็นที่สุด) ที่ตั้งใจขึ้นมาไหว้พระพุทธบาท บางคนเดินขึ้นจากเขาข้างล่างเลย โดยที่ไม่ขึ้นรถ ยายบางคนใช้ไม้เท้า ก็ยังขึ้นได้ นับถือจริงๆค่ะ

และอันนี้อยากจะขอ ว่าคราวหน้า ถ้าไปกัน ไม่ต้องเบียดได้ไหมค่ะ ไม่เข้าใจว่าจะเบียดทำไม ยังไงก็ไปทางเดียวกัน เดี๋ยวก็ได้ไป ทุกคนมีความตั้งใจเหมือนกันแล้ว ค่อยๆเดินกันไป เดี๋ยวก็ได้ไหว้กันทุกคนค่ะ

สำหรับคนที่พาลูกหลาน วัยกำลังซนไปด้วย อยากจะให้ช่วยดูเด็กๆกันนิดนึง บางครั้งเด็กของท่านอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอืนได้ค่ะ

----------------------------------------------------------------

ขอบคุณรูปสวยๆ จาก พี่ต๊อก กับ พี่เชอร์รี่ ค่ะ

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=cherrytok&group=2

Create Date : 15 มีนาคม 2552 Last Update : 16 มีนาคม 2552 19:34:31 น. Counter : 2096 Pageviews.		9 comments
Share Tweet

	สงกรานต์หรรษา จันทราน็อคเทิร์น (18 เม.ย. 2567 11:24:41 น.)		春和歌山市 : My First Hanami @ Wakayama Castle mariabamboo (16 เม.ย. 2567 12:49:02 น.)
	วัดพระธาตุเสด็จ อำเภอเมือง ลำปาง tuk-tuk@korat (14 เม.ย. 2567 13:54:44 น.)		Mahar Shwe Thein Taw Pagoda, Royal Jasmine Hotel - Pyin Oo Lwin สายหมอกและก้อนเมฆ (11 เม.ย. 2567 16:06:34 น.)