ม้า แข็งแรง อดทน สง่า ว่องไว 2 3
4
5
6
ม้า เป็นสัตว์กินพืชเป็นอาหาร ตัวสูง ขายาว กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง จะเดินจะวิ่งโดยใช้นิ้วเท้าเท่านั้น ส้นเท้าจะไม่แตะพื้นเลย มีจำนวนนิ้วเท้าเป็นเลขคี่ น้ำหนักตัวจะตกลงบนนิ้วกลางซึ่งเป็นนิ้วที่มีขนาดใหญ่และยาวที่สุด ม้ามีความสามารถในการวิ่งได้เร็วกว่าสัตว์ชนิดอื่น และสามารถยืนหลับได้หรือล้มตัวลงนอนหลับก็ได้
การจัดชนิดของม้า จัดตามการใช้ประโยชน์ ได้แก่
1. ม้างาน เป็นม้าที่ใช้ทำงานในไร่นา ไว้เทียมเกวียน ลากของหนักๆ บางครั้งอาจใช้ขี่เข้าเมือง ม้างานตัวใหญ่ สูงประมาณ 15-17 Hands เมื่อโตเต็มที่ มีน้ำหนัก 614-1,000 กิโลกรัม
2. ม้าขี่ เป็นม้าที่ใช้สำหรับขี่เดินทาง เป็นม้าแข่ง เป็นม้าสำหรับกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง เป็นม้าสำหรับขี่แข่งกีฬาโปโล เป็นม้าขี่สำหรับเดินสวนสนาม ม้าขี่ สูงประมาณ 14-17 Hands เมื่อโตเต็มที่ มีน้ำหนัก 364-591 กิโลกรัม
3. ม้าโพนี่ เป็นม้าสำหรับขี่ของเด็ก หรือเทียมรถลากขนาดเล็ก ตัวเล็ก สูงประมาณ 11-14 Hands เมื่อโตเต็มที่ มีน้ำหนัก 180-386 กิโลกรัม
สีของม้า การตรวจสีของม้าทำได้ยาก เพราะสีขนมีผิดกันเพียงเล็กๆ น้อยๆ ขนม้าตัวเดียวอาจเปลี่ยนแปลงไปได้ตามอายุของม้า เช่น ตอนแรกเป็นสีแซม เมื่ออายุมากขึ้นกลายเป็นสีขาว หรือม้าดำ เมื่ออายุมากขึ้นกลายเป็นสีแซม ลูกม้าตอนเกิดใหม่ๆ มักจะมีสีขนผิดกว่าขนธรรมดาและยาวกว่า ต่อเมื่ออายุได้ 7-8 เดือน สีขนจึงเปลี่ยนเป็นสีธรรมดา สีธรรมดาแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด คือ ขนสีล้วน, ขนสีแซม, และ ขนสีผ่าน
1. ม้าขนสีล้วน เป็นม้าที่มีสีขนคล้ายคลึงกันทั่วตัว อาจจะมีผิดกันเล็กน้อยบางแห่ง เช่น บางตัวสีค่อนข้างดำ มีขาวบ้างบางแห่ง หรือมีรอยจุดเล็กๆ น้อยๆ ไม่โตนัก ก็นับว่าเป็นม้าสีดำ โดยม้าสีล้วน แบ่งออกได้เป็น 7 ชนิด คือ สีขาว สีปลั่ง สีเหลือง สีจันทร์ สีแดง สีน้ำตาล และสีดำ
2. ม้าขนสีแซม เป็นม้าที่มีขนขาวขึ้นปนกับขนสีอื่น ม้าขนสีแซมแบ่งตามสีขนที่ปนอยู่กับสีขาว ได้เป็น 3 ชนิด คือ แซมดำ แซมเหลือง และ แซมแดง
3. ม้าขนสีผ่าน เป็นม้าสีขาวเป็นพื้น แล้วมีสีอื่นเป็นสีผ่าน แบ่งออกได้เป็น 4 ชนิด คือ ผ่านดำ ผ่านแดง ผ่านเหลือง และ ผ่านแซมดำ แดง และเหลือง
ลักษณะของม้าที่ดี เป็นม้าที่มาจากตระกูลดี มีผิวหนังบาง มีขนสั้น มองเห็นรอยเส้นเลือดบนผิวหนังได้ชัดเจน ถ้ามีกล้ามเนื้อใหญ่ ขาใหญ่ คอหนา ศีรษะโต เป็นม้าที่แข็งแรง แต่ไม่ว่องไว ถ้าเป็นม้าที่ไม่ปราดเปรียว ส่วนมากจะแข็งแรง ซึ่งเรียกว่า ม้าเลือดเย็น แต่ถ้าเป็นม้าที่ปราดเปรียว จะเรียกว่า ม้าเลือดร้อน
ศีรษะของม้า แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนหน้า จากตาถึงปลายจมูก และส่วนกระหม่อม จากตาถึงท้ายทอย โดยม้าที่มีตระกูลดี ฉลาด ว่องไว และเลือดร้อน ส่วนหน้าจะเล็กกว่าส่วนกระหม่อม สำหรับสันจมูก ม้าที่มีสันจมูกตรงหรือแอ่นงอน จะเป็นม้าเลือดเย็น ม้าที่มีสันจมูกโค้งและนูนตรงกลาง จะเป็นม้าเลือดร้อน ม้าที่มีรูจมูกกว้าง เป็นม้าที่แข็งแรง ม้าที่มีปากกว้าง มุมปากอยู่ใกล้แก้ม เป็นม้าที่แข็งแรง ม้าที่มีปากเล็ก เป็นม้าว่านอนสอนง่าย ม้าที่มีตากลมโต เป็นม้าเลือดเย็น สอนง่าย ม้าที่มีตาเล็ก เป็นม้านิสัยโกง ม้าที่มีขากรรไกรหนาและโต มีนิสัยขี้โกง เกียจคร้าน ม้าตระกูลดี จะมีหูเล็ก บาง และชิดกัน ม้าตระกูลไม่ดี จะมีหูใหญ่ยาวปลายเรียว หรือมีหูสั้นหนา ม้าที่มีสันคอบาง เป็นม้ามีตระกูลดี วิ่งเร็ว แต่ไม่ค่อยแข็งแรง ส่วนม้าที่มีสันคอหนา เป็นม้าตระกูลไม่ดี วิ่งไม่ค่อยเร็ว แต่แข็งแรง ผมแผงคอ ม้าตระกูลดี ผมแผงคอจะเส้นบาง ม้าตระกูลไม่ดี ผมแผงคอจะหยาบ เส้นหนา
ส่วนหลังของม้า เป็นส่วนที่รับน้ำหนักของคนที่นั่งบนหลังม้า ม้าที่มีลักษณะหลังยาวและอ่อน แสดงว่าเป็นม้าที่ไม่แข็งแรง เพราะเมื่อใช้ขี่หรือบรรทุกของ จะรับน้ำหนักได้ไม่มาก แต่ม้าที่มีส่วนหลังสั้นก็จะทำให้ม้าเอี้ยวตัวไม่สะดวก เป็นเครื่องชี้ว่าปอดม้าตัวนั้นไม่ใหญ่ เวลาวิ่งจะเหนื่อยเร็ว เราแบ่งลักษณะรูปส่วนหลังม้าออกเป็น ม้าหลังโค้ง เป็นม้าที่รับน้ำหนักได้ดี มีความอดทนต่อน้ำหนักที่รับ แต่ถ้าใช้ขี่จะกระเทือนมาก ม้าชนิดนี้เหมาะสำหรับใช้บรรทุกสิ่งของ ม้าหลังตรง เป็นม้าที่มีลักษณะดี เมื่อเวลาบรรทุกของ หลังจะแอ่นลงเล็กน้อย ม้าชนิดนี้รับน้ำหนักได้ดี มีความอดทน และขี่สบาย ส่วนม้าหลังแอ่น หากใช้บรรทุกของจะทำให้หลังแอ่นมากขึ้น จะรับน้ำหนักมากไม่ได้ แต่หากใช้ขี่จะนั่งเรียบสบาย
ส่วนก้นหรือส่วนท้ายของม้า ม้าที่มีก้นหนาใหญ่ จะเป็นม้าที่มีกำลังมาก แข็งแรงและวิ่งได้เร็ว สำหรับหาง มีประโยชน์สำหรับป้องกันยุงและแมลงมารบกวน ไม่ควรจะตัดหางม้าให้สั้นเกินไป หางม้ายังบอกตระกูลของม้าได้ โดยดูตำแหน่งการติดของหาง หากหางติดสูง ติดได้ระดับเดียวกับก้นของม้า แสดงว่าเป็นม้าตระกูลดี หากหางติดต่ำหรือหางจุกตูด เป็นม้าตระกูลไม่ดี ไม่สวยงาม
ส่วนขา ขาหน้าทั้งคู่จะต้องไม่โก่งหรือแอ่น ควรตั้งตรง จึงจะเป็นม้าที่วิ่งได้ดี ม้าที่ปลายเท้าแคบ หรือยืนบิดปลายเท้า หรือยืนขาถ่าง มักจะวิ่งไม่เร็ว ส่วนประกอบของขาหน้าที่ควรพิจารณาได้แก่ โคนขา ควรจะมีกล้ามเนื้อแข็งแรง และค่อยๆ เรียวลงมา และผิวหนังบาง เห็นเส้นเอ็นได้ชัด จึงจะดี หน้าแข้ง ต้องเรียวเล็กลงตามลำดับ มีผิวหนังบาง ขนละเอียด ไม่ปุกปุย และม้าที่มีกีบเล็กจะวิ่งได้เร็วกว่าม้าที่มีกีบใหญ่ กีบที่ดีจะต้องเรียบ ไม่เป็นลูกคลื่น หรือมีรอยแตกร้าว ส่วนขาหลัง ต้องตั้งได้พอเหมาะ อยู่ห่างกันพอเหมาะ เวลาม้ายืน ขาหลังต้องเอนเข้าข้างในเล็กน้อย และข้อตาตุ่มของขาหลัง โตกว่าข้อตาตุ่มของขาหน้าเล็กน้อย เป็นต้น
(ข้อมูลจาก สารานุกรมไทยฉบับเยาวชน) 7
8
9
10
11
12
Rodeo เป็นกีฬาพื้นบ้านซึ่งมีพื้นฐานมาจากการพัฒนาทักษะการทำงาน มีการแข่งขันกันมากในรัฐทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ในรัฐทางตะวันตกของแคนาดา เมืองทางตอนเหนือของเม็กซิโก และในออสเตรเลีย พระเอกในงาน Rodeo คือม้า ทั้งการขึ้นขี่ม้าป่า การขว้างบ่วงบาศจับม้าป่า การขี่ม้าไปโค่นลูกวัว การเทียมม้าลากเกวียน และอีกมากมายหลายกีฬา
คลิปแรกของบล็อกในวันนี้ เป็นการถ่ายทำแบบสโลโมชั่นในงาน Rodeo แห่งหนึ่ง แต่ขอแจ้งว่าช่วงเวลา 2.20-3.45 นาที เป็นตอนที่คาวบอยขี่ม้าโค่นลูกวัวให้ล้มนอนกับพื้น เป็นภาพบาดตาทรมาน อาจจะไม่ต้องหยุดชม
ขอเชิญชม Horse Power ความยาว 4.46 นาที
13
14
15
16
17
18
กีฬาแข่งม้า มีแข่งขันกันอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก แต่ที่โด่งดังมากคือการแข่งขันที่ประเทศอังกฤษ มีมหาเศรษฐี และผู้มีชื่อเสียงระดับโลก ไปร่วมชมการแข่งขัน รวมทั้งระดับราชวงศ์ ม้าที่มีฝีเท้าเร็วระดับต้นๆ ของโลก จะไปชุมนุมกันอยู่ที่นี่ รวมทั้งม้าชื่อ Frankel ซึ่งวิ่งเร็วระดับ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอดทนมาก สังเกตม้าชื่อ Frankel ได้ไม่ยาก จ๊อกกี้สวมหมวกสีชมพู เป็นม้าหมายเลข 3
ขอเชิญชม Queen Anne Stakes - ROYAL ASCOT 2012 ความยาว 5.49 นาที
19
20
21
22
23
24
ทำไม คนรักม้า !!
เพราะ ม้าวิ่งเร็ว มีกำลังมาก กระโดดคล่องแคล่ว เลี้ยวฉับไว
เพราะ ม้ามีสง่า รักสันติ แต่ยามพยศ ม้าจะดุดัน ไม่เกรงกลัวใคร
เพราะ ม้าอดทนสูง ทรงพลัง รักเจ้าของ และ ไม่ขี้เกียจ คลิปสุดท้ายขอเชิญชม Horses in Dream ความยาว 10.42 นาที
25
26
27
28
29
30
31
ขอขอบคุณที่ติดตามจาก สิน yyswim ขอขอบคุณที่กรุณาโหวตให้ ในสาขา Best Topical Blog ขอขอบคุณครับ
ภาพสวยทุกภาพเลยค่ะ
ภาพที่ 5 ม้าขนเท้าปุยน่ารักจังเลย