จิตเศร้า จิตโศก และความอนิจจังของข้าพเจ้า
อนิจจัง ชีวิตมนุษย์นั้นหรือ
มีทุกข์และมีสุขปะปน...มากมายเหลือเกิน

แด่...ไอรดา สถาบันที่ฉันรัก
บันทึกเมื่อ วันพุธที่ 1 กรกฎาคม 2552




ฉันยังคงมาทำงานในยามเช้าและเซ็นต์ชื่อทำงานในเวลาราชการเหมือนทุกวัน
และรับรู้ตลอดเวลาว่า...นี่คือวันสุดท้ายของการเข้ามาทำงานที่นี่แล้วนะ

ฉันมองทางเดินระหว่างห้องทำงานของแต่ละคน แต่ละห้องไปจนสุดสายตา
ก่อนจะค่อยๆ เดินผ่านไปทีละห้อง ทีละห้อง และ กลั้นน้ำตาเอาไว้
ฉันมองเพื่อนร่วมงานที่ฉันรักแต่ละคน อย่างอาลัย แต่น้อยคนนักที่จะรู้ใจฉัน ว่ามันทุกข์ขนาดไหน
อาจเป็นเพราะแก้มฉันฉาบไว้ด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา...ก็เป็นได้

น้องๆ บอกฉันว่า "ใจหาย" และพยายามเข้ามาพูดคุยด้วย
ฉันยิ้มพรายตอบ ก่อนที่จะเดินหนีออกจากบริเวณที่พบเพื่อนร่วมงานทุกคน ในวันนี้
เพราะฉันรู้ดีว่า หากฉันได้ยินได้ฟังอะไรที่มากไปกว่านี้
ฉากจากกันโดยไร้น้ำตาที่ฉันปรารถนาคงไม่เกิดขึ้นแน่ๆ
ฉันแค่ต้องการทิ้งรอยยิ้มให้ทุกๆ คนจดจำไว้แค่นั้นเอง
และฉันแค่ต้องการให้พวกเราจากกันโดยไม่มีน้ำตา



ฉันรู้ดีว่า ทุกคนคงแปลกใจ ที่วันนี้ฉันแทบไม่พูดจากับใคร
แต่เหมือนทุกคนจะรู้ทันฉันเสียแล้ว...จึงหลีกเร้นไปทันที เมื่อเห็นอาการของฉันดังกล่าว


ฉันใช้เวลาตลอดทั้งวันหมดไปกับการทำสไลด์นำเสนอเพื่อการประชุมร่วมกับทางจังหวัดกำแพงเพชรในวันพรุ่งนี้
และได้ผลดีเสียด้วยสิ เพราะฉันได้สไลด์นำเสนอมากถึง 80 กว่าแผ่น
และทุกๆ แผ่น มีภาพและเทคนิคประกอบมากมาย


เมื่อเวลาเลิกงานมาถึง
ทุกคนเริ่มทะยอยกลับบ้าน จึงเป็นเวลาที่ฉันเริ่มลงมือเก็บข้าวของ
ฉันเดินไป เดินมา และสูดลมหายใจลึกลึก
ก่อนจะบรรจงนำกล่องใบโตมาเปิดรอ
อุปกรณ์เครื่องเขียน ตุ๊กตาไขลานเสียงดนตรี รูปภาพระบายสีที่ฉันลงสีเอง สมุดจดบันทึก หนังสือที่ระลึกต่างๆ และของจิปาถะ
แต่ละชิ้นค่อยๆ เคลื่อนจากชั้นวางของด้านหลังโต๊ะทำงานลงสู่กล่องใบนั้น


ระหว่างเก็บของฉันนึกถึงคำถามที่ได้ยินบ่อยๆ ก่อนหน้านี้
"ที่ทำงานใหม่เป็นยังไงบ้าง"
"ที่ทำงานใหม่หรูมั๊ย"
คำตอบจากฉันมีเพียงสั้นๆ พร้อมรอยยิ้มคือ "น่าจะโอเคนะคะ"
น่าแปลก...ที่ฉันขึ้นไปดูที่ทำงานใหม่เพียงครั้งเดียว
และเป็นการไปดูภายใต้คำสั่งจากเบื้องบนเสียด้วยสิ
ฉันไม่สนใจใคร่รู้เลยสักนิด ว่าที่ทำงานใหม่จะเป็นยังไง
แม้จนกระทั่งพี่มีนา นำแผนผังที่นั่งมาให้ฉันจับจองลงนั่งในตำแหน่งที่ฉันต้องการ
ฉันมองแผนผังนั้น พร้อมกับบอกพี่มีนาไปสั้นๆ ว่า "หนูนั่งตรงไหนก็ได้ค่ะพี่ พี่ไม่ต้องเกรงใจนะคะ ทุกคนเลือกที่นั่งก่อนได้ตามสบายเลย เหลือตรงไหน ค่อยว่ากัน"

ผู้ใหญ่หลายท่านปลอบฉันว่า "นี่คือเกมส์การเมือง อย่าคิดอะไรมากนะ พยายามทำงานในหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็พอ"

ฉันยังคงหยิบเอกสารหลายๆ ฉบับที่ไม่ใช้แล้ว ขึ้นมาอ่านอีกครั้ง
ฉันได้แต่ละเลียด อ่านแล้ว อ่านอีก
ก่อนหยิบเอกสารเหล่านั้นวางลงในกล่องกระดาษไม่ใช้แล้ว
ในที่สุด...ฉันก็ตัดสินใจก้มหน้าก้มตาเก็บข้าวของให้เร็วขึ้น เร็วขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกบางอย่าง

แต่แล้ว.....ฉันก็ชะงักจนได้...เมื่อหันมาเห็นแฟ้มเอกสารที่เขียนติดหน้าแฟ้มว่า "นเรศวรวิจัย"
ฉันนิ่งไปสักพัก...และยอมจำนนต่อความรู้สึกที่มันอัดแน่นอยู่ภายในใจจนได้
ความรู้สึกอดทน อดกลั้น ที่ผ่านมาตลอดทั้งวันได้พังทลายลง
ฉันไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้อีกแล้ว เสียงสะอึกสะอื้น ดังก้องอยู่ภายในห้องเป็นเพื่อนฉันในยามเริ่มค่ำ
เนิ่น....นาน...
....เมื่อเวลาผ่านไปสักพักใหญ่...เสียงนั้นค่อยๆ จางลง และฉันเริ่มได้สติอีกครั้ง



ไอรดา....ฉัน รัก แก เหลือ เกิน
ฉันรักทุกๆ องค์ประกอบที่รวมกันแล้วเป็นแก
ฉันรักทุกๆ อณู ที่เคยได้รับรู้ว่ามีแกอยู่
และฉันจะรักแกอยู่แบบนี้...แกโปรดจำไว้นะ


ลาก่อน...นี่คือคำกล่าวลาจากฉัน
แต่การจากลาในครั้งนี้...ฉันขอให้แกรู้ว่า...เราจากกันเพื่อจะกลับมาพบกันอีก
ฉันจะรอวันนั้นนะ...ไอรดา

ป.ล. ขอเศร้าและโศกอีกครั้งก่อนจะเรียนรู้บทเรียนครั้งใหม่ค่ะคุณครู





.



Create Date : 05 กรกฎาคม 2552
Last Update : 5 กรกฎาคม 2552 22:30:51 น.
Counter : 615 Pageviews.

12 comments
: รูปแบบของการค้นพบตนเอง : กะว่าก๋า
(16 เม.ย. 2567 06:05:58 น.)
เรื่องนี้ไม่ง่าย แต่คนมักชอบอะไรที่มันง่ายๆ 121 235 เขาถาม - ตอบกัน 450 > คำถาม : ทำอย่างไ สมาชิกหมายเลข 7881572
(16 เม.ย. 2567 09:58:49 น.)
อยาก อยากได้ กฎที่ถูกที่ดี ปัญญา Dh
(14 เม.ย. 2567 05:37:27 น.)
ได้คะแนน ปัญญา Dh
(7 เม.ย. 2567 12:52:45 น.)
  
เข้ามาอ่านค่ะ
มีใครก็ไม่รู้เคยบอกไว้ว่า

สำหรับความสุข ถ้ามีคนมาร่วมสุขกับเรา
ความสุขนั้นจะขยายเป็น 2 เท่า

สำหรับความทุกข์ ถ้ามีคนมาร่วมทุกข์กับเรา
ความทุกข์นั้นจะลดลงเหลือครึ่งเดียว

ดิฉันยังไม่เข้าใจความทุกข์ของคุณดอกคูณที่จากไปได้ดีนักนะคะ
แต่ดิฉันก็ซึมซับมันได้ไม่น้อยเลย
ดิฉันรู้สึกได้ถึงความร้าวรันทด สะเทือนอารมณ์

แม้นว่าดิฉันจะไม่อาจแบ่งเบาความทุกข์ได้ถึงครึ่ง
แต่ขอให้แบ่งเบาได้บ้างนะคะ

ขอให้หล่อเลี้ยงพลังแห่งสติไว้นะคะ
พลังของสติแต่ละขณะ เหมือนน้ำแต่ละหยด
ให้น้ำนี้ค่อยๆ หยดไหลต่อเนื่องกันไป
ใจจะค่อยๆ ผ่องใสขึ้นค่ะ เมื่อน้ำเต็มเปี่ยมใจ
สมาธิจะตั้งมั่นและผสานใจที่ร้าวนี้
ความสุขจากภายในจะหล่อเลี้ยงคุณดอกคูณที่จากไป
ไม่ว่าสถานการณ์ภายนอกจะเป็นอย่างไร
คุณจะฝ่าข้ามไปได้ด้วยพลังความดีงามจากภายในค่ะ

ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข เจริญในธรรม
และบุญรักษานะคะ
โดย: oDaineo วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:51:05 น.
  


ขอบพระคุณกำลังใจที่มีให้ค่ะ
ดิฉันสัมผัสและรับไว้แล้วด้วยใจ
มองดูจิตแล้วเห็นเค้าอิ่มเอมขึ้นชั่วขณะทีเดียว ^^

ขอให้คุณ oDaineo เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป เช่นกันค่ะ


โดย: ดอกคูณที่จากไป วันที่: 15 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:07:53 น.
  
ใจเข้มแข็ง กายเข้มแข็ง..เข้าไว้นะคะ..จุดสิ้นสุดของบางสิ่งมักเป็นจุดเริ่มต้นของบางอย่างเสมอ อยู่ทีว่าเราจะเรียนรู้ที่จะ "เริ่มต้น" ให้ดี..ได้อย่างไรเท่านั้นเองค่ะ..

โดย: i'm not superman วันที่: 20 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:00:13 น.
  
ขอบคุณคุณ i'm not superman นะคะ
ชอบคำว่า "ใจเข้มแข็ง" มากๆ เลยค่ะ
เพราะเวลาเจออุปสรรคเข้ามาทดสอบแบบนี้ทีไร
ทุกครั้ง...ก็ได้แต่บอกให้ใจของเราเข้มแข็งเข้าไว้
สติ...ตั้งมั่นให้มากที่สุด

แต่ผลก็คือ...สอบตกทุกทีสิน่า เจ้าโหยง

ป.ล. ฝนตกที่พิษณุโลกแทบทุกวัน รักษาสุขภาพด้วยน๊า

โดย: ดอกคูณที่จากไป วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:06:31 น.
  
เขียนได้ดีจริงๆ (ภาษาไพเราะสละสลวย)
โดย: นายสมองมด IP: 112.142.40.33 วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:09:16 น.
  
แวะมาหาคุณ ดอกคูณที่จากไปค่ะ..^^ อากาศช่วงนี้ชื้นฝนทุกวัน แหม่มเริ่มไอกระด๊อกกระแด๊กแล้ว แหะ ๆ อย่าลืมรักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วยนะคะ
โดย: i'm not superman วันที่: 1 สิงหาคม 2552 เวลา:10:05:06 น.
  
กราบงามๆ แทบ อก หย่อนๆ ของคุณพ่อลูกอ่อนค่ะ ^___^
ไม่เจอกันนานเลย...พี่เป็ปสบายดีนะคะ
ฝากความระลึกถึงไปยังภรรยาและลูกสาวด้วยจ้า

สวัสดีอีกรอบค่ะ คุณแหม่ม
หวังใจว่าคงได้พบคุณแหม่มที่พิษณุโลกบ้างนะคะ...อิ อิ
เค้าจะแอบไปซุ่มอยู่แถวๆ มาเวลลัส ดีกว่า

โดย: ดอกคูณที่จากไป วันที่: 2 สิงหาคม 2552 เวลา:18:15:53 น.
  
อ่านแล้วนึกถึงกลอน

เก็บน้ำตาเอาไว้ เถิดคนดี อย่าให้มีออกมาคราพ่ายแพ้
อย่าให้ไหลออกจากใจ ที่อ่อนแอ สิ่งเลวร้ายมิได้ แก้ด้วยน้ำตา

พิษณุโลกเป็นเมืองใหญ่ที่น่าอยู่ นะครับ
ปล. คุณดอกคูณ ให้คะแนนผมเป็นคนแรกเลยหน่ะ อิอิ
โดย: ไร้น้ำตา IP: 58.64.116.63 วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:0:01:41 น.
  
โอ...

"เก็บน้ำตาเอาไว้...เถิดคนดี
อย่าให้มีออกมา...คราพ่ายแพ้
อย่าให้ไหลออกจากใจ...ที่อ่อนแอ
สิ่งเลวร้ายมิได้แก้...ด้วยน้ำตา"

กลอนไพเราะทีเดียวค่ะ คุณไร้น้ำตา
อาจเพราะไม่ค่อยได้เข้ามาเล่นบ่อยนักในช่วงนี้
พออ่านข้อความใดแล้วพึงใจ ก็คลิกกดไปที่กิ๊ฟทันที

คุณไร้น้ำตาเพิ่งเข้ามาในห้องศาสนาหรือเปล่าเอ่ย?
ปกติไม่ค่อยได้เห็นล็อคอินชื่อนี้เลย
หรือข้าพเจ้าตกข่าวอีกแล้วหนอ?

ขอบุญรักษาจ้า
โดย: ดอกคูณที่จากไป วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:15:23:03 น.
  
การพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์
การกระสบกับสิ่งที่ไม่รักไม่พอใจ ก็เป็นทุกข์
การปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นนั่น ก็เป็นทุกข์

โดย: พุทธะจิต วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:11:22:16 น.
  

คุณพุทธะจิตกล่าวได้ชอบแล้วค่ะ

ฮืออ...ข้าพเจ้าอยากยิ้มกว้างๆ แบบท่านบ้างจัง
โดย: ดอกคูณที่จากไป วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:9:03:44 น.
  
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เขียนได้ไพเราะมากเลยค่ะ อ่านแล้วจับใจจริงๆ แวะเข้ามาทักทายค่ะพึ่งเป็นสมาชิกใหม่ค่ะ ยังงัยก้ออย่าลืมดูแลสุขภาพ และก้อดูแลหัวใจตัวเองให้มีแรงทุกๆวันนะคะ มีกำลังใจให้กันเสมอค่ะ
โดย: หนึ่งลมหายใจ วันที่: 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:11:52 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Yong-yong.BlogGang.com

ดอกคูณที่จากไป
Location :
พิษณุโลก  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]