Dominant Chord Dominant Chord เป็นคอร์ดที่ไม่นิ่ง ซึ่งเป็นผลมาจาก คู่ Tritone ของมัน คือ ตัว 3 กับ ตัว b7 ซึ่งเป็นคู่เสียง Dissonance ที่มันอยากเดินทางเป็นคู่ 4 หรือ ถอยหลังครึ่งเสียง เป็นผลจากอาการ อยากที่จะเกลา ตัว Tritone ของมัน ด้วยความไม่นิ่งของมันนี่เอง ที่เราสามารถจะเติมอะไรลงไปอีก ซึ่ง อาการความไม่นิ่ง ก็จะเพิ่มขึ้นแรงขึ้นตามแต่ตัวที่เราเติมมันลงไป อย่างเช่น เติม b9 ลงไป ก็สร้างคู่ tritone เพิ่มมาอีกคู่คือ ตัว b9 กับตัว 5 ส่งไปหา Imaj7 ก็จะฟังกระโดด เช่น จาก G7b9 ไป Cmaj7 จะมีความรู้สึกกระโดด จาก Ab ไป B แต่กรณี เติม b9 แล้วส่งไป Im7 ก็จะฟังรื่นกว่า เช่น G7b9 ไป Cm7 ตัว Ab ไหลหา Bb ไหลเป็นStep ไม่กระโดด จริงๆ แล้ว แม้แต่ใน กรณี ของ Secondary Dominant เองก็มีการบังคับ ตัว Tension ไว้ ยกตัวอย่าง V7/II Tension b13 Mode Mixolydian b13 V7/III Tension b9 ,b13 Mode Mixolydian b9b13 V7/IV Tension Natural (เทนชั่นปกติ) Mode Mixolydian V7/V Tension Natural (เทนชั่นปกติ) Mode Mixolydian V7/VI Tension b9 ,b13 Mode Mixolydian b9b13 Sub V ทุกคอร์ด Mode Lydian b7 ข้างบนคือเทนชั่นที่ใช้ได้ตามทฤษฎี ที่มาคือ ความรู้สึกอยาก Approach เข้าหา Target Chord สำหรับในทางปฏิบัติ ใช้กันทุกตัว b9,#9 ,b5 ,b13 จนชินติดหู สำหรับการ Solo แต่กรณีที่เรา ต้องไป Voicing พวก 3 Parts , 4 Parts หรือ Spread ต้องคำนึงถึงมันเหมือนกันคือ ต้องใช้ Alteration ให้ถูกกับ คอร์ด dominant นั้นๆ ด้วย กลุ่มคนรุ่นแรกๆ ที่เล่น ฟิวชั่นเช่น แกรีเบอร์ตัน, Mile Devis ฯลฯ ซึ่งกลุ่มนี้ เล่น เพลง Standard มานานจนเบื่อ II-V-I เคเดนซ์ มากๆ เลยหา อะไรมาเล่นที่แหวกแนวในตอนคิดแนว ฟิวชั่น จึง ต้องคิดทั้ง Harmony , Melody , Rhythm ที่แตกต่าง จาก II-V หรือ II-V I พอมาพูดเรื่อง Harmony ก็เลย ต้องหาคอร์ดอะไรที่มัน ซาวน์แปลก แตกต่าง จากคอร์ด ทั่วไป แนวความคิด เกี่ยวกับ Forth Voicing เลยเกิดขึ้นมา (นี่คือที่มาพวกคอร์ด Sus 4 , Sus 2) คอร์ดที่นิยมใช้ ในเพลงฟิวชั่นก็มี พวก Triad Upper Structure , Triad Hybrid , Sus4 Sound Sus2 Sound , 4th , Cluster Voicing (Voice in Second) , Constant Structure ฯลฯ ผู้อ่านสามารถติดตามบทความดีๆได้ที่ Fanpage: www.facebook.com/KhonKaenJazzSociety ได้อีกช่องทางหนึ่งนะครับ^_^
|
บทความทั้งหมด
|