กะลาชีวิต...กับ...ปลามังกร
....

ตู้ปลาขนาดใหญ่ ข้างในมีปลามังกรตัวเขื่องอาศัยอยู่ในนั้น

ผมนั่งมองปลาตัวนั้นมันว่ายอย่างช้าๆ ราวกับว่าอยากใช้เวลาให้มากที่สุดในการว่ายแต่ละรอบ หรืออาจเพราะไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไร ว่ายเร็วหรือว่ายช้าก็ถึงแค่ขอบของตู้กระจกแค่นั้น ไม่แตกต่างกัน ให้นึกสงสัยว่าปลาตัวนั้นคงใช้เวลาทั้งชีวิตในการว่ายน้ำอยู่ในตู้กระจกแห่งนี้ มันว่ายไปจนสุดด้านหนึ่งของตู้ปลาขนาดประมาณ 1 เมตรนั้น แล้วก็ว่ายกลับจนสุดขอบตู้อีกด้านหนึ่ง

แล้วจึงม้วนตัวกลับก่อนที่จะว่ายไปในทิศทางที่เพิ่งว่ายมาเมื่อครู่...เป็นแบบนี้อยู่ตลอดเวลา อย่างน้อยก็ตลอดเวลาที่ผมนั่งจ้องมองปลามังกรตัวนั้น จนบางครั้งอดสงสัยไม่ได้ว่าของจริงหรือของปลอม เหมือนหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมให้ทำอะไรซ้ำๆ
แบบนั้น

หรือบางทีอาจกำลังไม่พอใจที่รอบนี้ทำสถิติได้ไม่นานเท่ารอบที่ผ่านมา....ก็ได้


เกิดคำถามขึ้นมาเล่นๆ ว่า เจ้าปลามังกรตัวนี้มันเคยคิดจะออกมานอกตู้หรือไม่? หรือว่ามันเคยคิดอยากจะไปว่ายในสถานที่กว้างๆ กว่านี้หรือไม่? หรือแท้จริงแล้วมันแทบจะไม่รู้ความหมายของคำว่า "ที่ที่กว้างกว่านี้" หรือคำว่า "ข้างนอกตู้ปลา" เลยก็เป็นได้ เนื่องจากว่าทั้งชีวิตที่ผ่านมาก็อยู่แต่ภายในตู้ปลา อาจเล็กบ้างใหญ่บ้างตามขนาดของตัวที่ขยายขึ้นตามอายุ แต่แน่นอน มันก็คงจะทำได้แค่เพียงว่ายจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งเท่านั้น...ดังนั้น ปลามังกรตัวนั้นจะมีความคิดหรือไม่ว่า อยากปลดแอกตัวเองให้ออกจากสิ่งที่ทำซ้ำๆ มาตลอดเวลานี้

มันจะเคยคิดมั๊ยว่าข้างนอกกะลาที่ครอบชีวิตมันเอาไว้ มีเรื่องอะไรที่น่าสนใจบ้าง....

คำตอบมันอาจยากสักเล็กน้อย อันเนื่องมาจากว่าเราๆ(ตัวผมและคนที่หลงเข้ามาอ่านนี้)อาจไม่เคยเป็นปลามังกรมาก่อน แต่หากเราเอา "ความเป็นมนุษย์" ของเราไปคิดแทนปลามังกรตัวนั้น เราคงได้รับคำตอบที่..แบบว่าถ้าปลามังกรได้ยินได้ฟังคงอยากจะเอาท่ออ๊อกซิเจนมัดคอหรือกระโดดน้ำฆ่าตัวตายเสียให้ได้ในบัดดล อันเนื่องมากจากค้นพบว่าแท้จริงชีวิตของมันช่างแสนน่าเบื่อกระไรเช่นนี้

...โดยหวังว่าถ้าตายแล้วคงได้เกิดใหม่กลายเป็นคนบ้าง

คิดต่อไปอีกว่า หากมันรู้จักคำว่า "ที่อื่น" แล้วละก็...มันจะสามารถจินตนาการได้ไหมว่าที่อื่นที่ว่านั้น แตกต่างจากที่ที่มันอยู่อย่างไร?

ก็อย่างที่เดานั่นแหละครับว่ามันคงไม่รู้หรอกว่าอะไรคือ"ข้างนอก" หรืออะไรคือ "ที่อื่น" แม้กระทั่งมันอาจไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าปลามังกรเหมือนกับมัน แต่อยู่อีกที่ จนกว่าจะมีปลามังกรอีกตัวว่ายมาตบไหล่แล้วกระซิบบอกว่า "แกไม่ใช่ปลามังกร ชั้นนี่แหละ ปลามังกร" เชื่อว่า..มันคงตกใจไม่น้อยกับปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของชีวิต

จะว่าไปมันก็คงไม่ต่างจากชีวิตของคนเท่าไหร่นะครับ

หลายครั้งเราเองก็มักมีเรื่องราวที่คาดไม่ถึงเมื่อได้ไปยืนตรง "ที่อื่น" เหมือนเมื่อครั้งหนึ่งรายการ "หลุมดำ" ได้สร้างปรากฏกการณ์นั้นให้ผมมาแล้ว ผมอึ้งอ้าปากค้างกับเรื่องราวอีกด้านหนึ่งของสังคมที่ผมเองไม่เคยรู้มาก่อนในชีวิต นั่นก็หมายความว่าผมเองก็มีกะลาของชีวิตผมครอบอยู่เช่นกัน

ดังนั้นถ้าให้เดาอย่างไม่มีหลักเกณฑ์นะครับ...........

เราต่างก็มีกะลาครอบชีวิตกันคนละใบ บางคนมีใบใหญ่ บางคนมีใบเล็ก บางคนใช้กะลาชีวิตใบเดียวกัน ก็ว่ากันไป บางครั้งจึงไม่แปลกถ้าเราจะประหลาดใจบ้างเมื่อได้เห็นเรื่องราวภายใต้กะลาชีวิตของคนอื่น ก็เนื่องจากเราไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้นมาก่อนในชีวิต บางทีปรากฏการณ์ปลามังกรอาจเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ถ้าเราเดินออกจากะลาของเรา แล้วไปแง้มของคนอื่นดูบ้าง

แต่พูดก็พูดเถอะ จะมีสักกี่คนที่ก้าวพ้นขอบเขตกะลาของตัวเองบ้าง บางเรื่องที่เราเห็นว่าถูก บางทีมันอาจจะผิดสำหรับคนอื่น เช่นเดียวกันบางเรื่องที่คนอื่นเห็นว่าถูก เราอาจมองว่าผิด จนบางครั้งไม่ใครก็ใครก็อาจไม่แน่ใจว่าเรื่องใดกันแน่ที่ถูกต้อง

หรือความคิดแบบไหนกันแน่ที่ถูกต้อง

การกฏการณ์ในสังคมเรื่องต่างๆ ที่กำลังเกิดอยู่ในขณะนี้ก็คงไม่ต่างกันอะไรกับปรากฏการณ์ปลามังกร ส่วนหนึ่งที่มันวุ่นวายกันอยู่ก็เกิดจากการที่ต่างคนก็ต่างเข้าใจและเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นและเชื่อเท่านั้นจนมองข้ามความเชื่อของคนอื่นไปหมด จนบางครั้งละเลยและลืมสำรวจความถูกต้องตามหลักธรรมชาติไปเสียสิ้นจนบางทีก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ความถูกต้องในเรื่องๆ หนึ่งนั้นแท้จริงแล้วมีหลายแนวคิดได้หรือไม่? ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเลยถ้าเราจะมีแนวคิดที่แตกต่างกันทั้งๆ ที่มองเรื่องเดียวกันแท้ๆ ใช่หรือไม่?

จนนึกสงสัยในที่สุดว่า ภายใต้กะลาชีวิตของแต่ละคนได้สอนความถูกต้องในแต่ละเรื่องกันไว้อย่างไรบ้าง? แตกต่างกันมากน้อยเพียงไหน?

เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เพราะเข้าใจว่ามันคงไม่มี แต่ปรากฏการณ์ปลามังกรได้สอนให้ผมเข้าใจว่าชีวิตนอกเหนือจากที่เป็นอยู่ คิดอยู่ สัมผัสอยู่ ระลึกถึงอยู่ สำคัญและไม่สำคัญอย่างไร...และหลังจากนี้ ต่อไปผมจะไม่ประหลาดใจเลยถ้าหากมีใครสักคนเดินมากระซิบข้างๆ หูว่า

"แกไม่ใช่คน ชั้นนี่แหละคน!!!!"

ก็เพราะว่าเราอาจมาจากกะลาครอบชีวิตกันคนละใบ....


....




....



Create Date : 04 ธันวาคม 2551
Last Update : 4 ธันวาคม 2551 8:52:41 น.
Counter : 1513 Pageviews.

19 comments
BUDDY คู่หู คู่ฮา multiple
(3 ม.ค. 2567 04:49:04 น.)
พบเจอภาพอะไร? ส่วนหนึ่งของภาพน่าสนใจจึงตัดมาใช้ คุกกี้คามุอิ
(1 ม.ค. 2567 03:56:23 น.)
อุ้มสีมาทำบุญ ๙ วัด ในวันขึ้นปีใหม่ที่จ.อุบลราชธานี อุ้มสี
(3 ม.ค. 2567 19:10:02 น.)
ประสบการณ์ ทำพาสปอร์ตที่สายใต้ใหม่ newyorknurse
(2 ม.ค. 2567 17:45:17 น.)
  
รูปแบบความคิดที่แตกต่าง มันคงไม่ได้หมายความว่าการมอง "ความถูกต้อง" ของคนเราไม่เหมือนกัน..

ไม่ใช่หรือ?...

หรือในความจริงแล้ว ควาถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน...

ตอบพี่โดมเขาหน่อย พี่โดมเขาสับสน
โดย: ฤทัยนาวา วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:9:00:12 น.
  
มันขึ้นอยู่กับว่าเราอยู่ถูกที่ถูกเวลา หรือผิดที่ผิดเวลา
หรือด้วยนานาจิปาถะ เง้อๆๆๆ จับจ๋น อิอิ

ถ้าวันนึงมีคนมาบอกเราว่า เราไม่ใช่คน เราคง งง กับเค้ามากกว่า เพราะเรารู้ดีว่า เราคืออะไร นอกจากรอบตัวเรามีแต่คนที่พูดอย่างนั้น เมื่อนั้น เราก็คงต้องเตรียมตัวย้าย....ทุกสิ่งเลย 55+

เม้นมากสับสนค่ะ เอาเป็นว่า ชอบภาพส่งท้ายมาก คำในภาพก็ดูดีมีความหมาย แล้วอย่าลืมทานข้าวเช้านะคะ อิอิ
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:9:52:46 น.
  
พี่น้ำใจอย่างเพิ่งงงอยู่กะหลุมดำเลยคะ แต่ปลามังกรคงจะทราบชะตากรรมของตัวเอง แๆหะ คุยกันเรื่องเดียวเปล่าคะเนี้ย สวัสดดียามเที่ยงจ้ะ
โดย: Opey วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:11:34:32 น.
  
... ตราบใดที่เรายังใช้ตัวเองเป็นมาตรฐาน เราจะเห็นแต่กะลาของเราสวยเจ๋งกว่าคนอื่นเสมอ

โดย: SIMAKHA วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:17:43:47 น.
  
... ...เท่าที่จำได้ พี่ทากชมพูเคยตั้งฉายาพี่ว่า "พ่อจอมโอดครวญ" ไม่ใช่เหรอ

... คือว่า ... ไม่อยากเป็นจอมโอดครวญอะ ... ขอแค่พีรี้พิไร น่าจะฟังดูดีกว่า
โดย: SIMAKHA วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:17:57:26 น.
  
น้องอุ๋มครับ พิรี้พิไรก็ไม่ต่างกันเท่าใดเน่อ พี่อัยย์เขานิยามไว้ใกล้เคียงเสมอกันเว้วววว

เอิ้กๆๆ
โดย: ฤทัยนาวา วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:18:14:54 น.
  


ทำงาน ทำงาน ทำงาน

ไม่ได้หยุด ไม่ได้หยุด ไม่ได้หยุด

โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:19:03:54 น.
  
ยาวมากมาย.....อ่านดูคร่าว ๆ ยังไม่ได้คิดตามเป็นจริงเป็นจังนะคะอ้ายน้ำใจ...

ท่าทางจะหนักหัวพอควร....เอาไว้ก่อนเน๊อะกับเรื่องปรากฏการณ์ปลามังกรนี่อะ

เดี๋ยวกลับมา ละจะมาพิรี้พิไรตอบนะคะ....อิอิ ^^
โดย: แม่นู๋มี่ วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:19:35:30 น.
  
อ๊ะ...มีนิน มีนิน

...............................
...และหลังจากนี้ ต่อไปผมจะไม่ประหลาดใจเลยถ้าหากมีใครสักคนเดินมากระซิบข้างๆ หูว่า

"แกไม่ใช่คน ชั้นนี่แหละคน!!!!"

ก็เพราะว่าเราอาจมาจากกะลาครอบชีวิตกันคนละใบ....

........................................

ชอบมาก คมบาดใจเลือดไหลโกรก



เช่นเคย...จอมดาบพิรี้พิไร
ปลาว่ายอยู่เป็นชาติ...ม้วนหน้าม้วนหลัง...ตีลังกาอยู่ในสระ

.............................

ป.ล.พี่ลงรูปในบล็อก ไปดูด่วนจี๋เลยนะ

โดย: ทากชมพู วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:20:20:49 น.
  
หวัดดีท่านพี่
โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:13:43:47 น.
  
ยาริดสีดวงทวารตราปลามังกร....

นึกถึงยานี่ขึ้นมาซะงั้น...

ว่าไปเราก็ไม่ต่างจากปลามังกรเหมือนกันเนอะ

ยังดีมีเนตให้เล่น หายเบื่อได้หน่อย..
โดย: เด็กหัดเดิน วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:17:27:24 น.
  
อืมมมมม....นั่นสิเนอะ อ้ายน้ำใจ

สิ่งที่เราเชื่อ สิ่งที่เราคิด มันคงมาจากการเรียนรู้และสั่งสมจากเพียงใต้กะลาของเราเองเท่านั้นอย่างที่อ้ายน้ำใจบอกนั่นแหละ

แต่ยอมรับ ว่าเป็นคนนึงที่เชื่อในกะลาของตัวเองน่ะ แม้ว่าจะไปแอบแง้มดูของชาวบ้านเค้าบ่อย ๆ ก็ตาม....

ก็ได้แต่มอง รับรู้ แล้วก็วิ่งกลับมาใต้กะลาตัวเองอย่างเดิม ฮ่าๆๆๆ

ตอนนี้เริ่มรู้สึกอยากได้กะลาหลาย ๆ ใบจัง ^^"

โดย: แม่นู๋มี่ วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:22:46:36 น.
  
โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:10:38:40 น.
  
กลับมาจากเชียงรายยังจ้ะ สำหรับที่บ้านโอพีหิมะตกท่วมพรุ่งนี้กะตื่นเช้า
จะไปเก็บภาพมาฝากคะ
โดย: Opey วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:13:11:50 น.
  
ดีคร่า แวะมามองๆ ปลามังกรอีกรอบค่ะ เอิ๊กๆๆ
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:12:45:57 น.
  
อ่านไปอ่านมา ... นึกอยากเรียกอ้ายว่าปลามังกรซะงั้นนะ

รออ่านเรื่องต่อไปเน้อ
โดย: SIMAKHA วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:14:21:37 น.
  
หวัดดีจ้า

อืม... คงใช่เราเกิดมาพร้อมกะลา 1 ใบ แต่กะลาของเรามีไว้เปิดเข้าๆ ออกๆ เปิดบ่อยๆ เดี๋ยวก็ดีเอง*-*
โดย: ม๊ามี๊@มะหมี่ IP: 203.156.177.171 วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:19:15:46 น.
  
test test
โดย: ขอเป็น IP: 118.173.203.154 วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:22:37:42 น.
  
ติดตามคุณ ฤทัยนาวา มาจากห้องราชดำเนิน

ชอบ บทความที่คุณเขียนมากค่ะ เก่งจังเลยนะคะ

ปลื้มค่ะ..
โดย: ขอเป็น IP: 118.173.203.154 วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:22:39:47 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Vorkorn.BlogGang.com

ฤทัยนาวา
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด