ใครที่ย่างเท้าเข้าสู่ล็อบบี้ของโอเรียนเต็ล สิ่งที่สะดุดตานอกจากระฆังไม้สักใหญ่ยักษ์ ที่ห้อยระย้าจากเพดานสูงอันถือเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่แล้ว อีกสิ่งหนึ่งก็คือดอกไม้หลากสีสันชูช่อเบ่งบานอวดกลีบดอก ที่เพิ่มมนตร์เสน่ห์ให้กับโรงแรมที่มีอายุกว่า 100 ปีแห่งนี้ ทำเอาแขกที่มาเยือนทุกคนจะต้องเผลอยิ้มอย่างเบิกบานให้กับมวลดอกไม้ที่แย้มกลีบทักทาย
คนที่เติมเต็มความงามของดอกไม้ให้สมบูรณ์ขึ้น เขาคือ
.คือ เคน ฐิติวัชร์ ธนนท์นวนันท์ Florist Manager ของโรงแรม
เคน- ฐิติวัชร์ เป็นตัวอย่างของ ช่างจัดดอกไม้ มืออาชีพที่ยืนยันว่าเส้นทางสายนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เหมือนที่หลายคนคิดว่าคนทำงานเกี่ยวกับดอกไม้ สวย ๆ งาม ๆ นั้นจะต้องมีความสุขเสมอไป
ก่อนที่จะได้มีโอกาสมาจัดดอกไม้ ให้กับโรงแรมชื่อดังระดับโลกแห่งนี้ ชีวิตของเคน ซึ่งจบเพียงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก็ต้องค้นหาตัวเองอยู่นานกว่าจะมาพบว่าตัวเองชอบงานจัดดอกไม้
เป็นคนที่ไม่ชอบเรียนหนังสือ แต่รู้ว่าตัวเองชอบจัดดอกไม้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนเด็ก ๆ ชอบเด็ดดอกไม้ริมทางมาปักแจกัน พอโตขึ้นหน่อยก็ลงทุนซื้อดอกไม้ที่ตลาดปากคลองมาปักแจกัน เริ่มซื้อตั้งแต่ 50 บาทไปเรื่อย ๆ จนหนักมือถึง 3,500 บาท เพื่อมาปักแจกันที่บ้านตัวเอง
นอกจากชอบงานจัดดอกไม้แล้ว เคนก็เรียนและลองทำมาแล้วทุกอาชีพที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะการออกแบบไม่ว่าจะเป็นงานแต่งบ้าน ออกแบบเสื้อผ้า เพ้นต์กระเบื้อง หรือแม้กระทั่งทำผม
จนเพื่อน ๆ ทุกคนที่รู้จักเคนมักจะบอกว่า เขาเป็นคนมีพรสวรรค์ในการจัดดอกไม้ แม้จะไม่ได้ร่ำเรียนมาเป็นเรื่องเป็นราว แต่ถ้าเมื่อใดที่เคนได้หยิบดอกไม้ดอกใดขึ้นมาปักในแจกันแล้ว ทุกอย่างจะสวยขึ้นมาในบัดดล
ด้วยเหตุนี้เองเคนจึงยอมกลับมาเรียนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็น มานาโก๊ะ ฟลาวเวอร์ อคาเดมี ซึ่งเป็นสถาบันสอนจัดดอกไม้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศญี่ปุ่น และมาเปิดสาขาสอนที่อาคารธนิยะ
เกือบ 4 ปีที่เคนเรียนการจัดดอกไม้ตั้งแต่พื้นฐาน ไปจนถึงขั้นแอดวานซ์ เขาเริ่มเรียนรู้ศิลปะการจัดดอกไม้อย่างเป็นระบบเพิ่มพูนจากทักษะเดิม ๆ แบบ Born to be แล้วในที่สุดเคนก็ได้ลงสนามใหญ่แบบมืออาชีพเป็นครั้งแรก
งานแรกที่ทำคือไปจัดดอกไม้ที่หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งเป็นงานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถฯ เสด็จมาทรงเปิดตึก สก.แม้จะจัดกันเป็นทีมแต่ก็ปลื้มมากกับผลงาน
จากนั้นมาเคนก็เริ่มก้าวเข้าสู่อาชีพช่างจัดดอกไม้อย่างเต็มตัว ซึ่งเขาไม่เคยคิดว่าการจัดดอกไม้ก็ทำเป็นอาชีพหาเงินได้เหมือนกัน ยิ่งช่วงงานอีเว้นต์เบ่งบานเมื่อหลายปีก่อนนั้น เคนได้มีโอกาสรู้จักกับ พี่กุ๊กกี้-ทินกร อัศวรักษ์ ออกาไนเซอร์มือทองที่รับจัดงานสังคม
ทำให้เคนมีโอกาสจัดดอกไม้ให้กับทุกอีเว้นต์ของพี่กุ๊กกี้ด้วย เรียกว่าในช่วงนั้นงานดี เงินดี เดือนหนึ่ง ๆ มีงานจัดดอกไม้ไม่ต่ำกว่า 7 - 10 งาน ขณะที่ช่างจัดดอกไม้มืออาชีพจริง ๆ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
แล้ววันหนึ่งเคนก็มาถึงจุดอิ่มตัวเมื่อพบกับอารมณ์ เบื่อ
ช่วงหลัง ๆ จัดดอกไม้ตามงานอีเว้นต์แล้วเงินไม่ค่อยดีเหมือนเมื่อก่อน เพราะมีเด็กใหม่เข้ามาวงการเยอะ พอมาเรียนรู้กับเราไม่นานก็ออกไปรับงานเอง แล้วก็ตัดราคากันจนแทบไม่ได้กำไร เบื่อที่จะต้องมานั่งตบตีกัน
แต่เหมือนพรหมลิขิตขีดเส้นให้เคนจะต้องก้าวเดินไปในเส้นทางที่ดีกว่านี้ เพราะวันหนึ่งเขารู้ข่าวว่า Florist Manager ของโรงแรมโอเรียนเต็ลกำลังจะเกษียณอายุลง จึงตัดสินใจเข้ามาสมัครงาน
ในชีวิตไม่เคยไปสมัครงานเลย อยู่มาจนอายุ 39 ปีจึงตัดสินใจไปสมัครที่โรงแรมโอเรียนเต็ล ต้องลุกขึ้นมาทำโปร์ไฟล์ของตัวเอง รวบรวมผลงานในพอร์ตแล้วก็เดินไปสมัครงานกับพี่วีณา
บททดสอบของโอเรียนเต็ลครั้งแรกคือ ให้เคนจัดบูเก้ 32 โต๊ะสำหรับงานจัดเลี้ยงที่จะมีขึ้นในคืนนั้น หลังจากพูดคุยและทดสอบทักษะการจัดดอกไม้จนพอใจแล้ว
ในที่สุด วีณา พานิช ก็ยอมมอบตำแหน่ง Florist Manager ที่เธอทำมากว่ายี่สิบปีให้กับเด็กหนุ่มที่มีวุฒิแต่ ม.6 แถมไม่มีเส้นสายอะไรเลยอย่างเคน
จากคนที่ทำงานแบบฟรีแลนซ์ ที่ทำงานแบบไม่เป็นเวลา พอต้องเข้ามาอยู่ในระบบบริษัท เคนจะต้องปรับตัวเองแบบ 360 องศาทีเดียว แต่ถึงวันนี้เขาก็ทำได้เพราะอยู่มาได้ถึง 4 ปีแล้วอย่างมีความสุข
ตอนแรกคิดว่าตัวเองทำไม่ได้แน่ เพราะเป็นคนไม่มีระเบียบเลย คือตื่นนอนตอนเที่ยง กว่าจะนอนอีกที่ต้องตีสาม แต่ชีวิตแบบนั้นเริ่มไม่สนุกแล้ว มาคิดว่าน่าจะพอกับชีวิตเที่ยวเตร่ ใช้เงินเยอะเพราะหาเงินได้คล่อง
พอมาอยู่ที่นี่ต้องเลิกหมดเลยทั้งเลิกเหล้า เลิกบุหรี่เพราะกลัวจะสุขภาพไม่ดีแล้วทำงานใหม่ไม่ไหว แล้วก็เปลี่ยนมาตื่นเช้า
ในตำแหน่งนี้เคนต้องเข้ามาทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า สิ่งแรกที่ทำคือเดินดูดอกไม้ทุกดอกทุกช่อ ที่ใช้ประดับภายในโรงแรมทั้งหมด หลังจากนั้นจึงเข้าไปนนั่งโต๊ะเพื่อทำงานเอกสารต่อไป
ในช่วงแรกที่เคนเข้ามาทำงานใหม่ ๆ ทางโรงแรมโอเรียนเต็ลเริ่มนโยบายจัดแต่งดอกไม้ภายในล็อบบี้ในโครงการ Flower Show ซึ่งต้องดอกไม้เพื่อออกแบบตกแต่งล็อบบี้ของโรงแรม ให้สวยงามโดยเปลี่ยนดอกไม้ทุก ๆ 3 เดือน
ซึ่งทางผู้บริหารอนุมัติงบจำนวนมาก เพื่อหวังจะเนรมิตให้ห้องล็อบบี้อันเป็นหนึ่งในตำนานของโรงแรมแห่งนี้สวยงามสดชื่น เพื่อเป็นของขวัญตอบแทนให้กับลูกค้าทุกคนที่มาเยือน
แต่หลังจากให้นักจัดดอกไม้ข้างนอกจัดมาได้สักพักหนึ่ง ทางผู้บริหารจึงตัดสินใจมอบหน้าที่นี้ให้แก่เคนเป็นผู้สานต่อ
เป็นความฝันที่อยากจะจัดดอกไม้ในล็อบบี้ของโรงแรมโอเรียนเต็ลมานานแล้ว เมื่อฝันของเคนเป็นจริง เขาจึงทุ่มเทความสามารถทั้งหมดให้กับงานรังสรรค์งานดอกไม้ในรูปแบบและสีสันต่าง ๆ
เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับห้องล็อบบี้แห่งนี้ ซึ่งผลตอบรับก็เป็นที่น่าพอใจ เพราะสังเกตจากแขกที่มาพักเป็นจำนวนมากที่มีความสุขกับการเดินชมความสวยงามของดอกไม้ พร้อมทั้งบันทึกภาพเป็นไว้เป็นความทรงจำ
ขนาดที่ว่าแขกฝรั่งเคยเขียนการ์ดมาชมว่า ขอบคุณที่ทำดอกไม้สวย ๆ มาสร้างความสุขให้กับฉัน
ผลงานการจัดล็อบบี้ของเคนที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการ คือช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา เคนสั่งให้โครงการหลวงปลูกดอกดาเลียสีแดงสดล่วงหน้าเป็นปี สำหรับกิจกรรมครั้งนี้
โดยเขาวาดหวังว่าห้องล็อบบี้ รวมทั้งทุกพื้นที่ของโรงแรมจะต้องสดใสไปด้วยสีแดงของดอกดาเลีย หน้าวัวสลับกับสีเขียวและทอง เพื่อสร้างกลิ่นอายของบรรยากาศคริสต์มาส
งานนี้เหนื่อยมาก เพราะเกิดปิ๊งไอเดียไปออกแบบให้มีดอกไม้ประดับอยู่ตามผนังกระจกใสของห้องล็อบบี้ เลยต้องใช้เครนและนั่งร้านเพื่อปีนขึ้นไปจัดดอกไม้บนที่สูง แถมยังต้องยกน้ำถังใหญ่ ๆ ขึ้นไปด้วย
เบื้องหลังการทำงานนั้นพวกเราจะต้องเข้าพื้นที่กันตอนเที่ยงคืน ซึ่งเป็นช่วงที่แขกเดินน้อยที่สุด แล้วก็ต้องเร่งทำทุกอย่างให้เสร็จก่อน 6 โมงเช้า เพื่อให้ฝ่ายแม่บ้านมายกเฟอร์นิเจอร์กลับเข้าที่พร้อมกับทำความสะอาดให้เรียบร้อย
เขาต้องทำการเปลี่ยนดอกไม้อย่างนี้ถึง 3 วันต่อครั้ง แม้จะเหนื่อยและยุ่งยากเพียงใด แต่ผลงานที่ออกมาสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าขนาดที่เรียกว่าลูกค้าแห่กันมาดูดอกไม้จนแน่นล็อบบี้
แถมในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ผ่านมา ลูกค้ายังแห่มาอุดหนุน Afternoon Tea ที่ห้องออเธอร์ เล้าจน์จนแน่นไปหมด ทุกคนมาเพื่อเพื่อหวังจะมาจิบชาตอนบ่าย ท่ามกลางดอกไม้สวย ๆ จนกลายเป็น talk of the town
ไม่เพียงแค่นั้นเคนยังมีโอกาสฝากผลงานการจัดดอกไม้ ในงานแต่งงานระดับอลังการที่มาจัดในโรงแรมมาแล้วหลายงาน อาทิ งานแต่งของจอย-วราลักษณ์ วานิชย์กุล กับ เอริค เลอวีน ที่ทุมงบในการจัดดอกไม้สูงถึงล้านกว่าบาท
งานแต่งของ วลัยทิพย์ จรณะจิตต์ ลูกชายของ นิจพร เจ้าของโรงแรมฯ และที่ประทับใจอีกงานคืองานหมั้นของ วรวรรธน์ มาลีนนท์ ลูกชายของ เจ้าสัวประวิทย์ เจ้าของสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 ที่ทุ่มทุนหลายล้าน
กับงานจัดดอกไม้โดยเชิญ แดเนียล ออสท์ นักจัดดอกไม้ชื่อก้องโลกมาจัดดอกไม้ให้กับงานแต่งครั้งนี้ ซึ่งเคนก็มีโอกาสร่วมงานพร้อมทั้งบอกถึงความประทับใจ ที่ได้ร่วมงานกับนักจัดดอกไม้ระดับโลกคนนี้ว่า
แดเนียล ออสเป็นคนมีฝีมือมาก เขาเกิดมาจากคนรักดอกไม้จริง ๆ เพราะเวลาจับดอกไม้ จะทนุถนอมเหมือนอุ้มลูกเลย และงานทุกอย่างต้องสะอาด ละเมียดประณีต งานเนี๊ยบกริ๊บจริง ๆ
ถึงตอนนี้ไม่เพียงแต่เคนเท่านั้นที่ภาคภูมิใจในผลงานของเขา ทางโรงแรมเองก็พอใจเพราะตั้งแต่เคนมานั่งในตำแหน่งนี้ ลูกค้าที่มาจัดงานแต่งงานในโรงแรม ต่างยินดีเพิ่มงบประมาณเพื่อจ้างโรงแรมมาช่วยเนรมิตให้งานแต่งงานของพวกเขาสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น นั่นหมายถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นของโรงแรมด้วย
ในชีวิตของช่างจัดดอกไม้คนนี้ ล้วนทำเรื่งราวเกี่ยวกับดอกไม้มาเกือบทุกอย่างแล้ว คงเหลือสิ่งหนึ่งที่เขายังอยากจะฝากฝังไว้ให้กับช่างจัดดอกไม้รุ่นหลังคือ
อยากทำหนังสือที่เกี่ยวกับดอกไม้สำหรับไหว้พระ เพราะจุดเริ่มต้นของดอกไม้คือการนำมาบูชาพระ เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ได้เรื่องวิธีการจัดดอกไม้แบบสากล ไม่ใช่แบบครูพักลักจำเหมือนตอนนี้
สุดท้ายเคนฝากถึงนักจัดดอกไม้รุ่นน้องที่กำลังจะเดินเข้าสู่วิชาชีพนี้ว่า
ช่างจัดดอกไม้คือการทำงานเพื่อสร้างฝันของคน ๆ หนึ่งให้เป็นจริง ดังนั้นหน้าที่เราคือต้องทำให้เต็มที่ ต้องซื่อสัตย์ อดทน และรักในงานของเรา
Text by ปาณี ชีวาภาคย์
Photo by ศิวกร เสนสอน
ขอบคุณ
ผู้จัดการออนไลน์
คุณปาณี ชีวาภาคย์
คุณศิวกร เสนสอน
สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ