ไปขึ้นสวรรค์ในท้องช้างที่...พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
เมื่อวันที่มีจัดงานขายแพคเกจท่องเที่ยวที่ศูนย์สิริกิติ์
แมวน้ำซื้อบัตรเข้าชม พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณกับเมืองโบราณมา เพราะเค้าลดราคาพิเศษ
วันนี้สบโอกาสแต่เวลาน้อย เลยขอไปที่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณกันก่อน

หลังจากไปให้อาหารกลางวันแมวน้ำกันที่ร้านอ่าวบางปูซะอิ่มหนำอ้วนท้วนกันแล้ว
ก็เดินทางมาต่อกันที่ "พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ" กันเลย
พอมาถึงก็เห็นช้างสามเศียรสูงตระหง่านเห็นแต่ไกลเลย



พอไปถึงก็ได้รอบเพื่อจะเข้าไปชมภายในตัวช้างพอดี
ราคาค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก (อายุ 6-15) 50 บาท
ส่วนแมวน้ำ 100 บาท หมีขาว 100 บาท เพราะว่าเราซื้อบัตรลดมานั่นเอง อิอิ
อย่ามัวอ้อยอิ่งรีบเดินไปตรงชั้นใต้ดิน มีพี่ไกด์และผู้ดข้าชมยืนรออยู่
อย่าลืมติดบัตรผู้เข้าชมด้วยนะ เดี๋ยวเข้าหาว่าไม่จ่ายค่าเข้าชม

ภายในพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ แบ่งเป็น 3 ส่วน
ส่วนที่ 1 คือ ชั้นใต้ดินหรือบาดาล (นาคพิภพ)
เป็นส่วนที่จัดแสดงนิทรรศการความเป็นมาและการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
จัดแสดงวัตถุโบราณต่างๆ ขออภัยด้วยนะง๊าบ ชั้นนี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ
ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรในบาดาลเชิญไปรับชมกันเอาเองนะง๊าบ หงืดๆๆ


ต่อกันที่ส่วนที่ 2 คือ ภายในอาคารทรงโดมหรือโลกมนุษย์



ในชั้นนี้แสดงโบราณวัตถุทั้งจากตะวันตกและตะวันออก การตกแต่งภายในเป็นการผสานศิลปะหลากหลายรูปแบบ
อย่างเช่น เพดานกระจกสีรูปแผนที่โลกและจักรราศีซึ่งเป็นศิลปแบบตะวันตก



รวมถึงงานปูนปั้นฝีมือช่างเพชรบุรีบริเวณบันได้และซุ้มพระเกตุ






จากนั้นก็เดินขึ้นบันได้ด้านซ้ายที่เป็นสีขาวขึ้นไปก่อน เป็นบันได้เงินถือเคล็ดว่าเก็บเงินไปก่อนแล้วขากลับให้ลงบันไดสีชมพูเพื่อเก็บทอง
เค้าว่าไงก็ว่าตามกันไป เดินขึ้นไปด้านบนกัน

วันนี้ลิฟท์เสียเราต้องเดินขึ้นบันไดวนขึ้นไปเพื่อไปสู่จุดชมวิวในท้องช้าง



ไงหล่ะ สูงมากมาย เราสามารถขึ้นมาได้แค่ส่วนท้องช้างเท่านั้นไปถึงตรงเศียรช้างไม่ได้
เพราะว่าส่วนนั้นเป็นโครงเฉยๆ เกรงว่าจะรับน้ำหนักไม่พอ

แล้วตามตำนานแล้ว ช้างเอราวัณนั้น มีถึง 33 เศียร แต่ที่นำมาสร้างนี้ขอแค่สามเศียรพอ
ถ้าสร้างครบ 33 เศียร คงจะมหึมาอลังการงานช้างสมชื่อกว่านี้แน่ๆ

เดินขึ้นไปต่อชั้นที่สาม คือ ภายในท้องช้างหรือ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
สวยงามอลังการมากง๊าบ เหมือนสวรรค์จริงๆ




ชั้นนี้ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปสมัยต่างๆ
ส่วนผนังและเพดานตกแต่งด้วยภาพเขียนสีฝุ่นรูปสุริยจักรวาล



สวยงามจริงๆ เงียบสงบเยือกเย็น





ขอชักภาพเป็นที่ระลึกสักรูปว่าครั้งนึงแมวน้ำได้เคยมาเยือนสววรค์ชั้นดาวดึงส์แล้ว



ได้เวลากลับสู่โลกมนุษย์แล้วล่ะ พอลงชั้นล่างก็ออกมาจุดธูปเทียนสักการะบูชา
พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงด้วยเพื่อเป็นสิริมงคล



จากนั้นก็ไปลอยดอกบัวกันต่อ



ลอย ลอย ดอก บัว... บุญจะส่งให้แมวน้ำสุขใจ



เที่ยวชมจนทั่ว จริงๆก็ยังไม่ทั่วมาก แต่เวลาน้อยต้องรีบกลับ
ต้องเผื่อเวลาหลงด้วย โชเฟอร์หมีขาวจอมหลงตลอด อิอิ

ในบริเวณรอบพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณยังมีส่วนที่เป็นอุทยานพรรณไม้ในวรรณคดี
และมีการประดับประดาด้วยงานประติมากรรมลอยตัวรูปสัตว์หิมพานต์ด้วย

น่าชื่นชมผู้สร้างที่แห่งนี้ เพราะได้รวมเอาศิลปะหลายๆแขนงทั้งไทย พุทธศาสนา พราหมณ์
และศิลปะตะวันตก มารวมอยู่ในที่เดียวกันอย่างลงตัว

ใครอยากมาชมก็ได้ ที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้ง 8.00-17.00 น. นะง๊าบ

ไงแมวน้ำกลับบ้านก่อนนะง๊าบ แล้วกลับทางไหนล่ะเนี่ย หลงแน่ๆ หงืดๆๆ




Create Date : 09 ตุลาคม 2552
Last Update : 10 ตุลาคม 2552 10:14:54 น.
Counter : 5205 Pageviews.

4 comments
มหาสงกรานต์ '67 (รักโดรนมาก) สมาชิกหมายเลข 7777777
(17 เม.ย. 2567 18:18:19 น.)
봄 처녀(Virgin spring) by 홍난파(NanPa Hong) ปรศุราม
(17 เม.ย. 2567 10:09:12 น.)
Bangsaen 21 The Finest Running Event Ever 2023 บางแสน แมวเซาผู้น่าสงสาร
(12 เม.ย. 2567 10:20:55 น.)
แชร์ประสบการณ์... ตามรอยสแลมดังก์ ที่คามาคุระ-โตเกียว imuya
(10 เม.ย. 2567 00:13:46 น.)
  
โอ้ว ภาพแต่ละภาพมุมได้ใจมากครับ
โดย: นายหัว (nindhua ) วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:23:22:55 น.
  
ไว้งานหน้าจะพาไปเมืองโบราณนะครับ
โดย: หมีขาว IP: 124.121.33.165 วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:23:27:06 น.
  
อยากบอกว่านั่งรถผ่านบ่อยค่ะ เพราะจะต้องไปไว้คุณตาที่โรงเจที่ปากน้ำ

ขอบอกว่า เห็นช้างสามเศียรแล้วขนลุกอะค่ะ โดยเฉพาะเวลากลางคืน
โดย: Tukta21 วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:0:03:15 น.
  
น่าสนไจ
โดย: นู๋ฟ้า IP: 58.9.93.114 วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:16:41:16 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Vassaire.BlogGang.com

Seally-Go-Round
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]

บทความทั้งหมด