ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปวิถีการใช้ชีวิตของผู้คนก็เปลี่ยนไปด้วย โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จากทีวี ธรรมดาที่แสดงผลอย่างเดียว เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นก็ไม่ได้ แทบจะไม่ค่อยมีลูกเล่นอะไรเลย ก็ถูกพัฒนาจนกลายเป็น
สมาร์ททีวี ซึ่งเป็นการผสมระหว่างทีวีกับคอมพิวเตอร์ สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและเนื้อหาสาระบันเทิงต่าง ๆ เพิ่มเติมมาใช้งาน เช่นเดียวกับที่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ซึ่งเทคโนโลยีของ
สมาร์ททีวีช่วยให้คุณจัดสรรเวลาในการรับชมรายการต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ หรือเลือกสรรเวลาในการรับชมรายการนั้น ๆ ได้เอง เพียงแค่ใช้ฟังก์ชั่นการบันทึกรายการของ
สมาร์ททีวี เพียงเท่านี้ก็จะไม่ทำให้คุณพลาดทุกรายการโปรดของคุณไปได้เลย แถมไม่ต้องมานั่งเสียเวลาดูในสิ่งที่คุณไม่อยากดูอีกด้วย เพราะคุณสามารถควบคุมทุกอย่างได้หมด เมื่อมีตัวเลือกมากขึ้นความสนุกในการดูก็มากขึ้นเช่นกัน เรียกได้ว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ก็ยังมีคุณสมบัติเจ๋ง ๆ อย่างอื่นอีกเพียบที่น่าสนใจและเป็นผลดีต่อผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลยค่ะ
คุณสมบัติที่น่าสนใจของ
สมาร์ททีวี1.เทคโนโลยีจอภาพของ
สมาร์ททีวี มีให้เลือกกันหลากหลาย โดยที่นิยมมากที่สุดในตลาดขณะนี้คือ LED ที่ถูกพัฒนาต่อจากเทคโนโลยีแบบเดิมคือ LCD ทำให้คุณสมบัติที่ดีขึ้น เช่น ทำให้มีคุณสมบัติกินไฟน้อยลง แสดงสีสันได้ชัดเจนและสว่างขึ้น แสดงสีดำสนิทมากขึ้น และตอบสนองเร็วขึ้น นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยี Plasma และ OLE อีก แต่ยังมีราคาแพงกว่า จึงยังไม่ได้รับความนิยมแพร่หลายเท่าเทคโนโลยี LED
2.ความละเอียดภาพหรือ Resolution มีให้หลายระดับ ยิ่งคมชัดราคาก็จะยิ่งสูงตาม สามารถแบ่งออกเป็นชนิดใหญ่ ๆ คือ High Defination (HD) มีความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล, Full High Defination (Full HD) มีความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล และ Ultra High Defination (UHD หรือ 4K) มีความละเอียด 3840 x 2160 พิเซล
3.หลังจากที่ประเทศไทยเปลี่ยนระบบแพร่ภาพโทรทัศพ์จากระบบอนาล็อกไปเป็นระบบดิจิตอล DVB-T2 ทำให้ช่องทีวีเพิ่มขึ้นหลายเท่า ภาพและเสียงคมชัดขึ้นทั้งในแบบ Standard Defination (SD) และ High Defination (HD) ทำให้ทีวีดิจิตอลและรวมถึง
สมาร์ททีวี ที่ขายในท้องตลาดที่ผลิตออกมาล็อตใหม่ ๆ มีระบบรองรับแพร่ภาพดิจิตอลแบบ DVB-T2 มาในตัวเลย โดยไม่ต้องใช้กล่อง Set-top Box อีกต่อไป
4.หน้าจอของ
สมาร์ททีวีในท้องตลาดมีให้เลือกหลากหลายขนาด ตั้งแต่ 32, 43, 48, 55, 65, 70, 78, 80, 85 นิ้ว ไปจนถึงหน้าจอใหญ่มากถึงขนาด 105 นิ้ว เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามในการเลือกซื้อนั้น ต้องคำนึงถึงขนาดพื้นที่หรือห้องที่เราจะนำทีวีไปวางด้วย หากระยะจากหน้าจอถึงคนดูใกล้กันเกินไปอาจทำให้สีสันและความคมชัดผิดเพี้ยนไปได้
5.สิ่งที่ทำให้ควบคุมและทำให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งงาน
สมาร์ททีวีได้ คือ ระบบปฏิบัติการ (OS) ซึ่งถือเป็นหัวใจหรือมันสมองเลยก็ว่าได้ ผู้ผลิตแต่ละแบรนด์ได้เลือกใช้ระบบปฏิบัติการแตกต่างกัน เช่น แบรนด์ Samsung เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen, แบรนด์ LG เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ webOS,แบรนด์ TCL เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Roku OS, แบรนด์ Panasonic เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Firfox OS เป็นต้น นอกจากนั้นยังมียักษ์ใหม่อย่าง Google ได้ทำระบบปฏิบัติการสำหรับทีวีขึ้นด้วย เรียกว่า Android TV ซึ่งแบรนด์ที่นำไปใช้ก็คือ Sony
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการดูอย่างไร้ขีดจำกัด ก็ไม่ต้องลังเลเลยค่ะ รีบจัด
สมาร์ททีวี มาสักเครื่องเลยดีกว่า ขอบอกว่าเดี๋ยวนี้ราคาของ
สมาร์ททีวีก็ไม่แพงมาก แถมมีหลายแบบให้เลือกซื้อเลือกใช้ตามกำลังทรัพย์อีกด้วย แหละที่สำคัญรูปทรงดีไซน์ของ
สมาร์ททีวีก็ดูมีความล้ำสมัยสามารถช่วยให้ห้องธรรมดา ๆ ของคุณดูดีขึ้นมาเลยทีเดียว
#สมาร์ททีวี