การสร้างบ้านถือเป็นอีกอย่างหนึ่งที่สามารถวัดคุณภาพชีวิตได้เลยทีเดียวเพราะบ้านเปรียบเสมือนหน้าตาของผู้ที่เป็นเจ้าของและที่สำคัญการที่จะสร้างบ้านได้ในแต่ละครั้งนั้นต้องใช้จำนวนเงินค่อนข้างเยอะทำให้ผู้ที่คิดจะสร้างบ้านต้องคิดไตร่ตรองอย่างละเอียด โดยเฉพาะการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านหรือผู้รับเหมาที่ยิ่งรู้ข้อมูลเยอะยิ่งดีเพราะเมื่อเกิดปัญหาในการก่อสร้างจะได้มีคนรับผิดชอบ แต่กลับกันถ้าเราเลือกบริษัทรับสร้างบ้านได้ไม่ดีตั้งแต่แรกไม่มีความน่าเชื่อถือเป็นองค์กรเล็กๆ หากเกิดปัญหาเขาอาจจะชิ่งหนีเราก็เป็นไปได้ ทำให้เกิดความเสียหายตามเรื่องเอามาดำเนินการได้ยากสำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากการเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ยังไงเริ่มจากตรงไหนก่อนวันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านมาบอกทุกคนค่ะมาดูกันเลย
เคล็ดลับในการเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน
1.เลือกจากความเชี่ยวชาญที่ตรงกับความต้องการของเรา สิ่งแรกที่ต้องคำนึงในการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านก็คือความเชี่ยวชาญในการสร้างบ้านของบริษัทนั้นตรงกับแบบบ้านที่คุณต้องการสร้างหรือไม่เพราะระบบการสร้างบ้านในปัจจุบันมีหลายแบบ ทั้งระบบก่ออิฐฉาบปูน ระบบกึ่งสำเร็จรูประบบสำเร็จรูปซึ่งแบบบ้านที่เลือกจะเป็นตัวบอกว่าจะใช้ระบบไหนในการก่อสร้างจึงจะเหมาะสม
เมื่อได้แบบบ้านแล้ว จากนั้นก็ต้องมาเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในระบบนั้นที่น่าสนใจออกมาสัก8-10 บริษัทเพื่อศึกษาข้อมูล ผลงาน ความน่าเชื่อถือเบื้องต้นอาจจะโทรไปสอบถามพูดคุยเพื่อขอข้อมูลเพื่อประเมินวิธีให้บริการและคำแนะนำก่อนยิ่งดีเพื่อใช้เป็นข้อมูลตัดสินใจ
2. น่าเชื่อถือ มีหน่วยงานรับรอง
การเลือกบริษัทรับสร้างบ้านก็คือการดูว่าบริษัทนั้นเป็นสมาชิกอยู่ในสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านหรือไม่เพราะการที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯได้นั้นต้องเป็นบริษัทที่มีมาตรฐานการทำงานรวมถึงผลงานคุณภาพซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เลือกบริษัทได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้นเพราะอย่างน้อยบริษัทเหล่านั้นก็ผ่านการตรวจสอบและดูแลมาตรฐานการทำงานของสมาคมฯเรียบร้อยแล้ว
3. ดูจากรายละเอียดของงานและฝีมือ
แม้ว่างบประมาณจะมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจสร้างบ้านแต่สิ่งสำคัญที่คุณเองต้องไม่ลืมพิจารณาก็คือ รายละเอียดต่างๆ ในการทำงานของบริษัทรับสร้างบ้านเช่น วัสดุต่างๆ ที่เลือกใช้ การบริการที่ครอบคลุมครบถ้วน
4. มีสัญญาการทำงานที่ชัดเจน
หลังตกลงสร้างบ้านทุกการเจรจาควรมีข้อตกลงเป็นเอกสาร มีลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นตัวเลขงบประมาณ ระยะเวลาในการสร้างทั้งหมด การแบ่งงวดจ่ายเงินการตรวจรับแต่ละงวด จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายและป้องกันไม่ให้บริษัททิ้งงานหากเกิดปัญหาขึ้น
5. ทีมแน่นปึ้กหรือไม่
เจ้าของบ้านมีสิทธิ์รับรู้ถึงศักยภาพในการสร้างบ้านของแต่ละบริษัทควรสอบถามถึงทีมในการสร้างบ้านประสบการณ์ที่เคยทำงานมาก่อนหากขนาดของบ้านที่คุณต้องการสร้างมีขนาดใหญ่ก็ควรเลือกบริษัทที่เคยรับงานขนาดใหญ่มาก่อน เพราะจะมีประสบกาณ์ในการทำงาน มีระบบรวมถึงมีทีมงานที่เพียงพอเพื่อไม่ให้งานติดขัดและมั่นใจว่าทุกขั้นตอนมีผู้เชี่ยวชาญอยู่ทุกจุด
6. มีแผนงานชัดเจน
สัญญาในการสร้างบ้านเป็นสิ่งที่ต้องเก็บไว้ให้ดีอยู่เสมอเมื่อมีแนวโน้มว่างานช้ากว่ากำหนด หรือติดขัดปัญหาในบางช่วง แผนงานที่ชัดเจนจะเป็นตัวช่วยเตือนให้บริษัทรีบดำเนินแก้ไขปัญหาให้ทันท่วงทีไม่ปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังจนงานหลุดจากแผนไป
7. ประสบการณ์จริงคือคำยืนยันที่ดี
แม้ภาพลักษณ์ของบริษัทที่อยากเลือกใหมาสร้างบ้านให้จะดูดีและผ่านทุกข้อที่ว่ามาแล้วก็ตาม แต่ชื่อเสียงและการรับรองเป็นเรื่องสำคัญหากมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่เคยใช้บริการแล้วบอกต่อหรือแนะนำจะช่วยสร้างความมั่นใจได้อีกระดับหนึ่งว่าตัดสินใจเลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านได้ถูกต้องแล้วแต่ถ้าไม่มีคุณอาจจะลองหาโอกาสไปดูผลงานที่กำลังก่อสร้างของบริษัทที่สนใจเพื่อไปสังเกตการทำงานไม่แน่คุณอาจจะได้ข้อมูลดี ๆจากคนที่ใช้บริการตัวจริงเพื่อจะได้มาใช้ในการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้
เราหวังว่าเคล็ดลับที่เรานำเสนอมาจะเป็นแนวทางในการนำไปใช้ในการคิดการตัดสินใจในการเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ได้ไม่มากก็น้อยนะคะหากเลือกตามสเต็ปที่เราแนะนำมารับรองค่ะ ว่าคุณจะได้บริษัทรับสร้างบ้านที่ถูกใจแน่นอนและเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของผู้ที่จะสร้างบ้านก็ควรหาข้อมูลในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมเข้าไปด้วยก็จะดีมากเลยค่ะ
#บริษัทรับสร้างบ้าน