หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่รักในเสียงเพลง เสียงดนตรี และอยากที่จะซื้อชุด
เครื่องเสียงดี ๆ สักชุดหนึ่งเอามาใช้งาน แต่เลือกซื้อไม่เป็นไม่รู้ว่าต้องเลือกยังไง ต้องเลือกแบบไหนถึงจะดีและเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุดแล้วล่ะก็ เชิญมารวมกันทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาบอกถึงเทคนิคในการเลือกซื้อชุด
เครื่องเสียงที่ดีให้เองว่าต้องเริ่มจากอะไร เลือกแบบไหนและดูจากอะไรบ้างก่อนซื้อ เพื่อให้ชุด
เครื่องเสียงที่ได้คุ้มค่าคุ้มราคา พร้อมแล้วก็มาดูกันเลยจ้า
เทคนิคการเลือกซื้อชุด
เครื่องเสียงให้คุ้มค่าและเหมาะสมกับการใช้งานที่สุด
1.เลือกให้เหมาะกับลักษณะของงาน
ลักษณะของงานที่ต้องการนำไปใช้ คือเหตุผลแรกที่จะต้องคำนึงและนึกถึง เช่น ต้องการนำไปใช้งานตามงานอีเว้นท์ทั่วไป อาจจะต้องเลือกใช้ชุด
เครื่องเสียงที่เน้นความสะดวกสบายในการขนย้าย และติดตั้งง่าย
หากต้องการใช้งานเพื่อบรรยาย เน้นการเรียนการสอนนอกสถานที่ อาจจะใช้ชุดลำโพงมีแอมป์ในตัวและมีแบตเตอร์รี่และมีไมค์ในตัว ขนาดที่เหมาะสม เพื่อการใช้งานที่ง่าย และขนย้ายสะดวก หรือหากใช้เพื่องานแสดงคอนเสิร์ต อาจะต้องใช้ชุด
เครื่องเสียงที่มีคุณภาพสูง ให้ความดังที่ครอบคลุมพื้นที่และให้คุณภาพเสียงที่ดี หรือหากใช้ในร้านกาแฟ บาร์น้ำ หรือร้านอาหารขนาดเล็ก แค่เพียงเราใช้ชุด
เครื่องเสียงที่มีลำโพงขนาดเล็ก เพื่อเปิดเพลงเป็นแบล็คกราวด์มิวสิคเบา ๆ เพื่อให้ได้บรรยากาศที่ดี เท่านี้ก็เพียงพอ เป็นต้น เพราะฉะนั้นเราจึงควรเลือกชุด
เครื่องเสียงให้เหมาะกับลักษณะของงาน ที่เราต้องการใช้งานให้ได้มากที่สุด
2.เลือกให้เหมาะกับขนาดพื้นที่ และจำนวนคน
ขนาดพื้นที่เล็ก ๆ หรือจำกัด อาจจะใช้ชุด
เครื่องเสียงขนาดเล็ก หากเป็นขนาดพื้นที่ใหญ่หรือกว้าง ก็ต้องใช้ชุด
เครื่องเสียงมีขนาดที่พอเหมาะหรือใหญ่ขึ้นหรือจำนวนของลำโพงที่มีจำนวนมากพอ เพื่อให้เสียงที่ครอบคลุมพื้นที่ เพื่อการได้ยินอย่างชัดเจนอย่างทั่วถึง ก่อนเลือกซื้อ ให้เราตรวจสอบขนาดพื้นที่ใช้งาน และจำนวนคนเสียก่อน ว่ามีพื้นที่ขนาดเท่าไหร่ จำนวนคนประมาณเท่าใด
3.ดูงบประมาณในกระเป๋าตังค์ หรือในงบประมาณที่จำกัด
ปฎิเสธไม่ได้ว่า…ชุด
เครื่องสียงที่มีคุณภาพดี ย่อมมีราคาที่สมเหตุสมผลกับคุณภาพ แล้วเราจะเลือกอย่างไรให้อยู่ในงบที่จำกัดหล่ะ วิธีง่าย ๆ แต่ได้ผลนั่นคือ “การเลือกแล้วเปรียบเทียบ” เราอาจจะดูชุด
เครื่องเสียงเบื้องต้นที่ตรงใจเรา และอยู่ในงบที่เราจ่ายไหว ไว้ซัก 2- 3 ชุดหรือ 2-3 ยี่ห้อ หรือมากกว่า แล้วนำมาเปรียบเทียบคุณภาพ ทั้งเรื่องคุณภาพเสียง ฟังก์ชั่นการใช้งาน หรือแม้กระทั่งวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต ว่ามีความตรงใจ และตอบโจทย์ต่อการใช้งานมากน้อยเพียงใด เพื่อให้ได้ชุดที่ถูกใจที่สุด
4. ปรึกษาผู้รู้ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ที่ไว้ใจได้
เราต้องปรึกษาหาข้อมูลจากทีมขายที่มีประสบการณ์ ผู้มีความชำนาญ เชี่ยวชาญในด้าน “ระบบเสียง” (Sound Systems) โดยตรง จากร้านค้า บริษัท และทีมงานที่มีคุณภาพ ที่เชื่อถือได้ และมีผลงานเป็นที่ยอมรับ มีการให้คำแนะนำที่ดี ทั้งเรื่องการออกแบบ การติดตั้ง และเทคนิคการใช้งานได้อย่างถูกต้อง ให้เหมาะกับลักษณะของงานที่เราต้องการใช้งาน โดยไม่มุ่งเน้นเพียงต้องการขายสินค้าเพียงอย่างเดียว
แหละทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคการเลือกซื้อชุด
เครื่องเสียงง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถนำเอาไปใช้ได้ และสุดท้ายสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ที่อย่ามองข้ามเลยก็คือการเลือกซื้อของแท้ ที่มีประกัน เพราะสินค้าของแท้กับของเทียม ทั้งคุณภาพและราคาแตกต่างกันมาก สินค้าของแท้ย่อมแพงกว่าของเทียมหลายเท่าตัว คุณภาพก็ดีกว่าหลายเท่าตัวเช่นกัน หากเราเห็นแก่ของถูก คุณภาพงานของคุณก็จะถูกตามไปด้วย แถมหากเกิดข้อผิดพลาด ไฟรั่ว ไฟช๊อต บอร์ดพัง ควันโขมงขึ้นมา ก็เอาไปเปลี่ยนไม่ได้ต้องเสียงเงินซื้อใหม่ และการที่ต้องซื้อใหม่บ่อย ๆ เมื่อบวกราคารวมกันแล้วอาจจะแพงกว่าของแท้ก็ได้นะคะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมสนับสนุนการใช้ของแท้กันด้วยนะคะ รับรองว่าจะไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
#เครื่องเสียง