
ผู้หญิงมีความจำเป็นต้องรักษาโรคที่เกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ โดยเฉพาะอวัยวะที่อยู่ข้างในและจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดโดยมีทางเลือกระหว่าง การผ่าตัดแบบเดิมที่ใช้การเปิดหน้าท้อง แม้จะเป็นการผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน แต่ก็มีข้อเสียคือจะมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ และต้องใช้เวลาในการรักษาตัวนานกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการ
ผ่าตัดมดลูกแบบส่องกล้องซึ่งดูจะน่ากลัวน้อยกว่า มีแผลเล็กกว่า ฟื้นตัวได้ไว และกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติเร็ว ทั้งยังลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้อีกด้วย จึงเป็นทางเลือกในการรักษาที่คนส่วนใหญ่นิยมกัน และถึงแม้ว่าการเลือก
ผ่าตัดมดลูกแบบส่องกล้องจะดีกว่าการผ่าตัดแบบเดิมหลายอย่างก็จริง แต่มันก็แอบมีข้อเสียอยู่บ้างเล็กน้อยที่ควรทราบว่าแต่จะมีข้อเสียในด้านไหนบ้างนั้นตามมาดูกันเลยค่ะ
ข้อเสียของการ
ผ่าตัดมดลูกแบบส่องกล้อง1. ไม่สามารถใช้การผ่าตัดชนิดนี้ได้กับผู้ป่วยทุกราย เช่น ผู้ป่วยที่มีเนื้องอกขนาดใหญ่มากเกิน 15 เซนติเมตรขึ้นไป อาจจะไม่สามารถใช้วิธีการผ่าตัดผ่านกล้องได้
2. ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น กระบังลมรั่ว โรคปอดหรือโรคหัวใจไม่สามารถใช้การผ่าตัดผ่านกล้องได้
3. ผู้ป่วยที่มีพังผืดในช่องท้องหรืออุ้งเชิงกรานมากเกินไป เช่นผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคติดเชื้อในช่องท้องหรืออุ้งเชิงกรานมาก่อน ผู้ป่วยที่เคยรับการผ่าตัดช่องท้องมาหลายครั้ง เป็นต้น
4. ประการสำคัญที่สุดคือ แพทย์ที่ทำผ่าตัดผ่านกล้องต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผ่าตัดผ่านกล้องที่ได้รับการอบรมและฝึกฝนมาอย่างดีเท่านั้น จึงสามารถทำผ่าตัดผ่านกล้องได้
สำหรับการ
ผ่าตัดมดลูกแบบส่องกล้องเมื่อผ่าแล้วจะไม่กลับมาเป็นอีก แต่ถ้าผ่าตัดเอาแค่เนื้องอกออก (เก็บมดลูกไว้) มีการศึกษาพบว่าภายใน 5 ปี มีโอกาสกลับมาเป็นอีกได้ 30% และผู้ที่มีเนื้องอกหลาย ๆ ก้อนมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำมากกว่าผู้ที่พบเพียงก้อนเดียว แต่ผู้ที่กลับมาเป็นซ้ำแล้วต้องมาผ่าตัดมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
#ผ่าตัดมดลูกแบบส่องกล้อง