แนะแนวโครงการจีนศึกษา วิทยาลัยนานาชาติ ปรีดี พนมยงค์ (PBIC Chinese Studies TU) แนะแนวโครงการจีนศึกษา วิทยาลัยนานาชาติ ปรีดี พนมยงค์ (PBIC Chinese Studies TU) หลังจากที่ได้แนะนำโครงการ อาเซียน –จีนศึกษาแล้ว มาในคราวนี้เราจะมาแนะแนวโครงการอีกโครงการหนึ่ง ซึ่งก็คือโครงการจีนศึกษา โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรในวิทยาลัยนานาชาติ ปรีดี พนมยงค์ โดยโครงการ Chinese Studies หรือ PBIC จีน ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2552 ซึ่งตัวหลักสูตรที่เปิดนั้นเป็นหลักสูตรปริญญาตรี แบบ(นานาชาติ) ที่มีการใช้ภาษาจีนและภาษาอังกฤษในการเรียนการสอนทั้งหมด โดยโครงการดังกล่าวมีการจัดสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีนักเรียนเฉลี่ยรับต่อปี ประมาณ100คน และรับนักศึกษาทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ผ่านการเรียนการสอนในระบบทวิภาคแบบเต็มเวลา โดยแบ่งเวลาศึกษาในปีหนึ่งๆ เป็นสองภาคการศึกษาปกติ ซึ่งภาคการศึกษาที่บังคับ คือ ภาคการศึกษาที่หนึ่ง(เดือนสิงหาคม-เดือนธันวาคม) และที่สอง(เดือนมกราคม-เดือนพฤษภาคม) ภาคการศึกษาหนึ่งๆ มีระยะเวลา 16 สัปดาห์ และอาจเปิดภาคฤดูร้อน(เดือนพฤษภาคม) ได้โดยใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 6 สัปดาห์ และนักศึกษาของโครงการดังกล่าวนั้นจะต้องศึกษาวิชาภาษาจีนเร่งรัดเป็นเวลา 180 ชั่วโมงก่อนลงทะเบียนเรียนวิชา ยกเว้นเสียแต่ว่านักศึกษาที่ผ่านการสอบHSK 3 ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้ โดยจะได้รับยกเว้นไม่ต้องเรียนวิชาภาษาจีนเร่งรัด ด้วยการเรียนที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ และจีนที่จะทำให้นักศึกษาได้ฝึกฝนทักษะด้านภาษาฝึกฝนอย่างเต็มที่ตลอดหลักสูตรแล้ว ผู้เรียนยังจะได้รับองค์ความรู้ในรายวิชาพื้นฐานต่างๆ ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น รวมไปถึงมารยาทในการทำธุรกิจกับคนจีน ซึ่งสามารถทำให้เราเข้าใจลักษณะของคนจีนในทุกๆด้าน ส่งผลให้โอกาสในการร่วมงานกับชาวจีนมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ทางหลักสูตรเองได้มีการทำสัญญากับมหาวิยาลัยคู่สัญญาชั้นนำในประเทศจีนเพื่อส่งนักศึกษาของทางคณะไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศจีนในชั้นปีที่3 เป็นเวลา1เทอม มหาวิทยาลัยคู่สัญญาก็คือมหาวิทยาลัยปักกิ่ง (Peking University) และ มหาวิทยาลัยฟู่ตัน (Fudan University) แต่ยิ่งไปกว่านั้นทางโครงการจีนศึกษายังจะได้เจาะลึกศาสตร์ ศิลป์ โดยวิทยาการต่างๆ ที่มาสอนล้วนแล้วแต่มีความรู้เกี่ยวข้องกับประเทศจีนอย่างถึงแก่น ทั้งจากอาจารย์ชาวจีน และอาจารย์ชาวไทยผู้ที่ผ่านหลักสูตรการเรียนในประเทศจีน และมีองค์ความรู้เกี่ยวกับจีนเป็นอย่างดี จึงกล่าวได้ว่า Chinese Studies เป็นหนึ่งในผู้นำด้านจีนศึกษาในระดับประเทศเลยก็ว่าได้ค่ะ หลักสูตรPbic จีนศึกษา มธเป็นอย่างไร และเรียนอะไรบ้าง ซึ่งหลักสูตรนั้นได้มีการพัฒนาผ่านสองปัจจัยหลักๆ 1.สถานการณ์หรือการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการใช้นโยบายเปิดประเทศ ส่งผลให้จีนกลายเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจทั้งในภูมิภาคเอเชียและเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลก เพราะฉะนั้น หลักสูตรสาขาวิชาจีนศึกษาซึ่งมีลักษณะของ “สหวิทยาการ” และการใช้ทักษะทางภาษาอังกฤษและภาษาจีนเป็นสื่อการเรียนการสอน จึงสามารถผลิตบัณฑิตที่มีความรู้รอบด้านจีนศึกษาและภาษาอังกฤษ เพื่อตอบสนองตลาดแรงงานและการศึกษาต่อไป 2 สถานการณ์หรือการพัฒนาทางสังคมและวัฒนธรรม โดยการพัฒนาทางสังคมและวัฒนธรรมนั้นจำเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความหลากหลายทางภาษา สภาพทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม เพื่อให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างชนชาติต่างๆ การพัฒนาเนื้อหาวิชาและรูปแบบหลักสูตรจึงต้องบูรณาการความรู้และทักษะสังคมเข้าด้วยกัน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์เปรียบเทียบสถานการณ์ทางสังคมและวัฒนธรรมด้วย ซึ่งหน่วยกิตทางการเรียนของโครงการจีนศึกษานั้นมีอยู่ 135 หน่วยกิตแบ่งออกเป็น 1) วิชาศึกษาทั่วไป 30 หน่วยกิต แบ่งเป็น 2ส่วน ส่วนแรกเป็นวิชาทั่วไป 21 หน่วยกิต หมวดมนุษยศาสตร์ บังคับ 1 วิชา 2 หน่วยกิต หมวดสังคมศาสตร์ บังคับ 2 วิชา 5 หน่วยกิต หมวดวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ แบ่งเป็น: วิทยาศาสตร์ บังคับ 1 วิชา 2 หน่วยกิต : คณิตศาสตร์หรือคอมพิวเตอร์ บังคับเลือก 1 วิชา 3 หน่วยกิต จากวิชาต่อไปนี้ หมวดภาษา รวม 3 วิชา ภาษาไทย (บังคับ 1 วิชา 3 หน่วยกิต) หรือ ศึกษาวิชาภาษาต่างประเทศอื่นที่มิใช่ภาษาอังกฤษ หรือ หรือเลือกศึกษาวิชาในกลุ่มสังคมศาสตร์ที่เปิดสอนในวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ หลักสูตรโทไทยศึกษา (หลักสูตรนานาชาติ) จำนวน 1 วิชา 3 หน่วยกิต ภาษาต่างประเทศ บังคับ 2 วิชา 6 หน่วยกิต ภาษาต่างประเทศ บังคับ 2 วิชา 6 หน่วยกิต ส่วนที่2:วิชาเลือกบังคับ9หน่วยกิต 3 รายวิชา 2) วิชาเฉพาะ 99 หน่วยกิต แบ่งออกเป็น 2.1 วิชาบังคับ 66 หน่วยกิต 2.2 วิชาเลือก 33 หน่วยกิต แบ่งออกเป็นหมวดวิชาภาษาจีน 18 หน่วยกิต หมวดวิชาจีนศึกษา 15 หน่วยกิต 3) วิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกิต 4) การศึกษาในประเทศจีน จบมาแล้วเป็นอะไรได้บ้าง เฉกเช่นเดียวกับคณะทางด้านสังคมศาสตร์ส่วนใหญ่ที่คณะนี้ก็สามารถจบไปและประกอบอาชีพได้หลากหลายแขนงวิชาเนื่องด้วยการเรียนแบบสหวิทยาการของหลักสูตรจีนศึกษา ผนวกกับการเรียนในหลักสูตรสองภาษาอังกฤษ-จีนการประกอบอาชีพจึงมีตั้งแต่งานราชการ เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานและองค์กรที่ใช้ภาษาจีนเช่นสถานทูตและองค์กรระหว่างประเทศ ,อาจารย์,นักวิจัยด้านจีนศึกษา, บรรณาธิการ, นักเขียน, นักวิจารณ์, นักข่าว ผู้สื่อข่าว และผู้รายงานข่าว รวมไปถึงงานด้านการท่องเที่ยว อย่างล่าม ,มัคคุเทศก์ เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยฯลฯส่วนในงานเอกชนนั้นสามารถเป็นพนักงานสายการบินพนักงานบริษัทขนส่งทางอากาศพนักงานบริษัทขนส่งทางเรือ,เจ้าหน้าที่สนามบิน,เจ้าหน้าโรงแรม เจ้าหน้าที่-ร้านอาหารสำหรับชาวต่างประเทศ,เจ้าหน้าที่ประจำสถานที่ท่องเที่ยว ,นักแปล, เจ้าหน้าที่บริษัทการค้าระหว่างประเทศ, เจ้าหน้าที่บริษัทท่องเที่ยว ฯลฯ เรียนโครงการจีนศึกษา ใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายตกอยู่ประมาณ 50000บาท สำหรับนักศึกษาไทย และราวๆ60000บาทสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ถ้าอยากเข้าโครงการอาเซียน – จีนศึกษา มธต้องทำอย่างไร เกณฑ์ในการสอบเข้าคณะ(อย่างคร่าวๆ)ก็มีดังนี้ 1. ต้องสำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ( สำหรับนักเรียนในประเทศไทย ) หรือเทียบเท่า หากเป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ ต้องมีใบเทียบวุฒิของกระทรวงศึกษาธิการ 2. ต้องมีผลสอบอย่างใดอย่างหนึ่งต่อปนี้ และผลสอบต้องมีอายุไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา IELT ( Academic ) 4.0 ขึ้นไป หรือ TOEFL : CBT = 97 ขึ้นไป หรือ PBT = 400 ขึ้นไป หรือ IBT = 32 ขึ้นไป หรือ TU - GET 400 (* เกณฑ์ขั้นต่ำข้างต้นนี้มีสิทธิสมัครสอบได้ แต่หากได้รับเลือก จะต้องเรียนปรับพื้นฐานทางภาษาอังกฤษที่วิทยาลัยฯ จัดสอน และจะต้องสอบผ่านวิชาดังกล่าวก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 มิเช่นนั้นจะถือว่าไม่มีสิทธิในการเข้าศึกษาในหลักสูตรนี้ ** ในกรณีที่มีคะแนน IELTS > 6.0 หรือ TOEFL(pBT) > 500 หรือ TU-GET > 500 ไม่ต้องเรียนปรับพื้นฐานทางภาษาข้างต้น) 3. สอบการเขียนเรียงความเป็นภาษาอังกฤษเกี่ยวกับจีนศึกษา 50% เนื้อหาทั้งด้านการเมืองการปกครอง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ รากฐานความเป็นอยู่ และองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ หรือความร่วมมือต่างๆ ของประเทศจีนง่ายๆก็คือต้องคอยติดตามข่าวสารเกี่ยวกับประเทศจีนอยู่เรื่อยๆ 4. สอบภาษาจีน 40% (ในกรณีที่มีผลสอบ HSK (ระบบสอบใหม่) level 4 จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้าสอบภาษาจีนที่วิทยาลัยจัดสอบ ส่วนข้อสอบภาษาจีนก็จะเป็นกากบาท ส่วนใหญ่จะเป็นแกรมม่ากับความรู้เรื่องภาษาจีนทั่วไปถ้ามีพื้นฐานก็ไม่น่ายาก 5 . สอบสัมภาษณ์ 10% ส่วนนี้จะมีทั้งสัมภาษณ์แบบภาษาอังกฤษและภาษาจีน โครงการPBIC-จีน เปิดรับสมัครช่วงไหน ส่วนมากโครงการนี้จะ เปิดรับสมัครช่วง ต้นธันวาคม – ปลายมกราคม โดยต้องยื่นผลคะแนนการทดสอบภาษาอังกฤษหรือ จีน ตัวจริงด้วย และเริ่มสอบข้อเขียน กับเริ่มสัมภาษณ์ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ และจะประกาศผลช่วงต้นเดือน มีนาคม สามารถปรึกษาเรื่องการแนะแนวการศึกษาต่อในหลักสูตรอินเตอร์ได้ที่ แนะแนวเรื่องการศึกษาต่อ และged by pure https://1ab.in/PC2 |
บทความทั้งหมด
|